หยวนเป่าน้อยยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะค่อยๆ หยิบกระดาษกับพู่กันออกจากถุงผ้าด้านหลังและยื่นให้เจียงจื่อเฮ่า
มองที่กระดาษกับพู่กันที่อยู่ตรงหน้าของตนเอง ใบหน้าของเจียงจื่อเฮ่าหมองเศร้าราวกับคนอกหัก เด็กคนนี้เติบโตด้วยท่าทีไร้เดียงสาแต่ใจกลับดำทมิฬ นี่แม้กระทั่งกระดาษกับพู่กันที่เอาไว้ลงประทับตราก็เตรียมพร้อมไว้เสร็จสรรพ ทองสองหมื่นตำลึงของเขากำลังจะหายไปในพริบตาหรือ?
เจียงจื่อเฮ่ารู้สึกว่าในใจเขามีเืไหลหยดซึม
หลังจากที่กัดฟันอย่างเคียดแค้นลงลายมือประทับตราในสัญญาแล้ว เขาก็ใช้มือและขาปีนขึ้นเกวียนลาและเข้าไปในเกวียน สักคำก็ไม่ยอมพูดออกมา เพียงออกมาหายา ทั้งเงินเขาทั้งคลังสมบัติน้อยๆ ของเขาล้วนขาดทุนมากเกินไปแล้วจริงๆ รอจนกระทั่งกลับไป จะต้องสืบนามของคนผู้นี้ที่ทำให้เขาต้องเสียเงินให้ถึงสองหมื่นตำลึงให้ได้
“พวกเ้าสองคนแม่ลูก เหตุใดถึงหลอกลวงเช่นนี้ ไม่กลัวว่าหลังจากกลับไปเมืองหลวงแล้ว แล้วข้าจะไม่คิดบัญชีคืนหรือ? ”
เจียงจื่อเฮ่าพิงอยู่บนเกวียน เขาฟื้นฟูพลังได้บางส่วนแล้ว สายตาจ้องมองไปยังสตรีที่อยู่ตรงหน้าเขา
เกวียนลาคันนี้ เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นว่าตู้เกวียนไม่ใหญ่มาก แต่ภายในราวกับวิมานก็ไม่ปาน ผนังโครงสร้างด้านในเกวียนนั้นดีมาก ทำจากไม้แท้ทั้งหมด ปูด้วยเสื่อเย็นไม้ไผ่ ตรงกลางวางโต๊ะเล็กไว้หนึ่งตัว บนโต๊ะมีของหวานและผลไม้อยู่หลายอย่าง และใต้โต๊ะยังวางอ่างน้ำแข็งเอาไว้ ด้านนอกอ่างน้ำแข็งมีสัตว์เลี้ยงสีขาวตัวหนึ่ง เผยให้เห็นรูปร่างสั้นเตี้ยอ้วนปุย เดาว่าน่าจะเป็สุนัขสีขาว
“เฮอะๆ...”
เมื่อเจียงจื่อเฮ่าพูดจบ เขาก็ได้ยินฮวาเหยียนหัวเราะสองครั้ง ชายหนุ่มหรี่ตามองสตรีที่อยู่ตรงหน้า ความงดงามของนางคือที่สุดจริงๆ ท่วงท่ายกมือเคลื่อนไหวล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์ เขาเองที่เกิดในเมืองหลวง แม้จะได้พบกับหญิงงามมานับไม่ถ้วน แต่กลับไม่มีผู้หญิงคนไหนที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลได้เท่านี้ แม้แต่ฉู่หลิวซวงสาวงามอันดับหนึ่งแห่งต้าโจวก็ยังยากที่จะเปรียบได้ เพราะยังขาดคุณสมบัติไปถึงสามส่วน
“ยิ้มกระไร? ”
เขาถาม ก่อนจะละสายตาออกและไม่มองฮวาเหยียนที่อยู่ตรงหน้า เพราะรู้สึกว่าอาจตกอยู่ในภวังค์ลุ่มหลงของนาง
“เราสองฝ่ายได้เจรจาค้าขายสมบูรณ์แล้ว นี่เป็วิธีการค้าขายที่ยุติธรรมที่สุด ฉะนั้นการที่ข้าได้ช่วยชีวิตเ้าไว้ก็คือบุญคุณอันยิ่งใหญ่ เพื่อจะตอบแทนบุญคุณที่ยิ่งใหญ่นี้เ้าพร้อมจะมอบทั้งกายใจให้ข้าหรือ? เ้าไม่ใช่แบบที่ข้าชอบด้วย...”
แค่กแค่ก
เจียงจื่อเฮ่าคิดไม่ถึงว่าสตรีที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะกล่าววาจาเช่นนี้ออกมา
มอบร่างกายและความรัก? เขาหรือ?
ผู้หญิงคนนี้จะหลงตัวเองมากเกินไปแล้ว! เขาเพียงชื่นชมนางแค่สามส่วนเท่านั้น อย่างไรเสียนางก็คือหญิงที่แต่งงานออกไปแล้ว
ซ้ำตัวเองยังไม่ใช่แบบที่นางชอบ? นี่เขาถูกรังเกียจหรือ?
“แม่นาง เ้าคิดมากเกินไปแล้ว”
เจียงจื่อเฮ่าเบือนหน้าหนีแล้วเอามือกุมที่หน้าอก เขาหอบหายใจแรง ท่าทีนั้นราวกับะเืใจยิ่ง
“นั่นก็ไม่แน่เสมอไป ท้ายที่สุดแล้วมีผู้หญิงที่ทำให้พระจันทร์ต้องซ่อนตัวและทำให้ดอกไม้ต้องอับอาย [1] ปลาจมและห่านตก [2] ได้เช่นข้านั้นมีไม่มากนัก”
เจียงจื่อเฮ่า “…”
แท้จริงแล้วนางเป็สตรีประเภทใดกัน? ถึงหลงตัวเองได้ขนาดนี้
“ท่านแม่ นั่งลงเถิดขอรับ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว”
ในยามนั้น หยวนเป่าที่นั่งอยู่นอกเกวียนลาพลันส่งเสียงดังเข้ามา
ฮวาเหยียนนั่งตัวตรงแล้วตอบอย่างเกียจคร้าน “อืม”
ได้ยินเพียงเสียงหยวนเป่าสั่งให้เ้าลาออกเดินทาง ลาน้อยพลันวิ่งทะยานออกตัว มุ่งไปทางเมืองหลวงแห่งอาณาจักรต้าโจว
เจียงจื่อเฮ่านั่งบนเกวียนลาโดยที่ม่านถูกเปิดขึ้น มองเห็นร่างผอมบางอ่อนแอของหยวนเป่าที่กำลังขี่เ้าลาตัวน้อย เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ พวกเขาที่เป็ผู้ใหญ่สองคนนั่งอยู่บนเกวียนทำท่าราวกับจะไปพักร้อนและปล่อยให้เด็กตัวเล็กขี่เกวียน? ในใจหงุดหงิดเล็กน้อย สายตาทอดมองที่ฮวาเหยียนอย่างพินิจพิจารณา
“ลูกของเ้ายังเล็กนัก ทว่ากลับให้เขาขี่เกวียน ส่วนเ้านั่งเสพสุขอยู่ข้างใน เ้าคงเป็แม่เลี้ยงกระมัง”
เขาถาม
ฮวาเหยียนหลับตาทำท่าจะงีบ เมื่อได้ยินคำพูดของเขาก็ลืมตาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น เด็กหนุ่มผู้นี้เดาถูกจริงๆ แล้วนางไม่ใช่แม่เลี้ยงหรือ?
ฮวาเหยียนยังไม่เอ่ยปาก หยวนเป่าที่ขี่รถลาก็หันศีรษะกลับมา เขาจ้องไปที่เจียงจื่อเฮ่า “ท่านลุงผู้นี้ เหตุใดถึงพูดมากนัก? ท่านแม่คือแม่แท้ๆ ของหยวนเป่า มิใช่แม่เลี้ยงขอรับ”
เจียงจื่อเฮ่าถูกหยวนเป่าเกลียดเข้าแล้ว ทำให้เขาถึงกับสำลัก
หา? เขาเข้าไปยุ่งเื่คนอื่นมากเกินไปแล้ว นี่ข้าไม่สามารถทำให้ผู้ใดพอใจได้เลยหรือ?
"ข้ามิได้สงสารเ้าหรอกนะ”
เจียงจื่อเฮ่าจ้องมองไปที่หลังของหยวนเป่า ก่อนจะกล่าวออกมา
หยวนเป่าเหลือบมองเขา ส่ายหัวไปมา เขาไม่อยากจะกล่าวคำใดออกมาแล้ว สุดท้ายจึงทำเพียงแค่หันไปทางมารดาของตนและพูดว่า “ท่านแม่ อยู่ห่างจากท่านลุงคนนั้นสักหน่อยนะขอรับ ประเดี๋ยวความโง่จะกระเด็นใส่”
เจียงจื่อเฮ่า “…”
ฮวาเหยียนพยักหน้ายิ้มตายิบหยี “ลูกแม่ แม่รู้แล้ว อากาศร้อนมาก กินผิงกั่ว [3] หน่อยเถิด”
ขณะพูดก็หยิบผิงกั่วลูกหนึ่งจากโต๊ะด้านหน้าส่งให้กับหยวนเป่า เด็กน้อยรับมาพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ เขากัดเข้าไปคำนึง หวานจนดวงตายิบหยี
อึก
เจียงจื่อเฮ่าน้ำลายท่วมปาก กะพริบตามองไปที่โต๊ะเล็กด้านหน้า “แม่นาง ขอเอาผิงกั่วให้ข้าสักลูกได้หรือไม่? ”
ฮวาเหยียนเงยหน้าขึ้นอย่างเ็า “ไม่ได้ ผิงกั่วนี้มีอีกนามว่าผลไม้ฉลาด ไม่เหมาะให้คนโง่กิน”
เจียงจื่อเฮ่าโกรธจนแทบจะล้มพับ แม่ลูกคู่นี้ด่าเขาได้เข้ากันเป็ปี่เป็ขลุ่ย มันสนุกนักหรือ? ยามนั้นเกิดเสียงถอนหายใจเ็าขึ้นมา ก็แค่ผิงกั่วหนึ่งลูกไม่ใช่หรือ? ไม่กินก็ไม่กิน แต่ข้างหูกลับได้ยินเสียงกัดผิงกั่ว นั่นทำให้เขาทั้งรำคาญใจทั้งยังกระหายน้ำ แต่เขาจะไม่ยอมก้มหัวเพื่อขอผิงกั่วแน่
เมื่อมองไปที่เม็ดเหงื่อที่ผุดซึมบนศีรษะของหยวนเป่า เขาก็เบะปากกล่าวว่า “นี่ เด็กน้อย อากาศร้อนขนาดนี้ มารดาของเ้านั่งอยู่ในตู้เกวียนกินผิงกั่ว เ้ากลับนั่งข้างนอกขี่เกวียน ในใจไม่รู้สึกแย่บ้างหรือ? ”
เมื่อได้ยินคำของเจียงจื่อเฮ่า ฮวาเหยียนก็เงยหน้าขึ้นมา เ้าคนแซ่เจียงนี่ยังจะยุแยงตะแคงรั่วอยู่อีก
แต่เขาเล่นผิดคนแล้ว
พอสิ้นคำ ก็ได้ยินเสียงเล็กๆ ที่นุ่มนวลของหยวนเป่าดังขึ้น “ท่านลุง มองผิวเผินท่านดูโง่เล็กน้อย แต่แท้จริงแล้วท่านกลับโง่ยิ่งนัก คำพูดพวกนี้ท่านพูดออกมาได้อย่างไร ไม่แปลกที่จะถูกลอบโจมตี แม้แต่พิษที่ด้อยกว่าพิษห้าประการก็สามารถจัดการท่านได้
หากท่านไม่ได้รู้ความจริงของเื่ราวก็อย่าเที่ยวพูดจามั่วซั่วไร้สาระเลยขอรับ”
เจียงจื่อเฮ่าพูดกับสหายตัวน้อยหยวนเป่าแต่กลับถูกเยาะเย้ยแกมยังสั่งสอน พอได้ฟังคำของหยวนเป่า ใบหน้าของเจียงจื่อเฮ่าก็เปลี่ยนจากสีแดงเป็ส้ม ก่อนจะสลับเป็แดงและเขียวทันที เื่ที่เขาถูกพิษห้าประการเป็เื่ที่ช่างน่าอับอายเสียจริง และตอนนี้เขากำลังถูกเด็กห้าขวบเย้ยหยัน ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก
“เด็กน้อย เ้าจะรู้อะไร พิษห้าประการไร้ทั้งสีและกลิ่น สามารถล่องลอยไปกับสายลมได้ คนกลุ่มเมื่อครู่นั้นคือนักฆ่า จิตใจเลวทรามซ้ำยังหลอกลวง ลุงแค่ไม่ระวังจึงถูกพิษเข้า”
เจียงจื่อเฮ่าพูดเพื่อปกป้องตัวเอง
“ท่านลุง นามของมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็พิษห้าประการ เป็เพราะว่ามันประกอบด้วยพิษห้าชนิด กลิ่นคาว คุณสมบัติรุนแรง ละลายเมื่อเจอน้ำ เจอลมจะกระจายตัว ท่านถูกคนวางยาในอาหารใช่หรือไม่?”
หลังจากที่ได้ฟังหยวนเป่า เจียงจื่อเฮ่าก็ยืดตัวตรงทันที ตาของเขาลึกล้ำขึ้นมาทันใด สายตาทอดมองไปที่ร่างของหยวนเป่าและมองสำรวจอย่างลึกซึ้งพร้อมกับสังเกตอย่างละเอียด
ใช่ คนรับใช้ข้างกายของเขาถูกคนจับตัวไป ดังนั้นพิษห้าประการจึงถูกใส่ลงไปในน้ำดื่มที่เขาพกติดตัว แต่ว่าเ้าหนูน้อยนี่รู้ได้อย่างไร? คิดว่าเขาคงเคยได้ยินนักฆ่าะโมาก่อน มาถึงตอนนี้ทั้งคุณสมบัติของพิษห้าประการทั้งวิธีการวางยาล้วนถูกโพล่งออกมาอย่างง่ายดาย
เขามองไปที่ฮวาเหยียนทันที “เ้ารู้เื่พิษ? ”
ฮวาเหยียนสั่นหัว “ข้าไม่รู้ ข้าเป็เพียงผู้หญิงอ่อนแอและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ทั้งยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพิษห้าประการ”
แต่ตอนนี้เจียงจื่อเฮ่ากลับไม่เชื่อแล้ว สายตาที่มองไปทางฮวาเหยียนเป็สายตาระแวดระวัง ร่างกายอดไม่ได้ที่จะยืดตัวตั้งตรง รู้สึกเพียงแม่ลูกคู่นี้ดูอันตรายยิ่งนัก
สมองทำงานอย่างว่องไว ในที่ธุรกันดารเช่นนี้ สองแม่ลูกนี้มาปรากฏตัวได้อย่างไร?
เชิงอรรถ
[1] 闭月羞花 ทำให้พระจันทร์ต้องซ่อนตัวและทำให้ดอกไม้ต้องอับอาย เป็การอุปมาถึงสาวงาม
[2] 沉鱼落雁 หมายความว่าปลาและนกหลีกเลี่ยงความงามเมื่อเห็นมัน ต่อมาใช้เป็คำว่า "ปลาจมและห่านตก" เพื่ออธิบายความงามที่โดดเด่นของผู้หญิงคนนั้น มักใช้ร่วมกับ "จันทร์ซ่อน ดอกอาย"
[3] 苹果 ผิงกั่ว แอปเปิ้ล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้