แต่เดิมหลินฟู่อินก็ตั้งใจจะช่วยพวกเขาอยู่แล้ว แต่นางไม่ชอบวิธีการใช้ศีลธรรมมากดดันเพื่อรับความช่วยเหลือของเฝิงซื่อเลย
พี่น้องทั้งสองได้ยินแล้วจึงยิ้มกว้างก่อนส่งสายตาอย่างมีนัยยะหากัน แล้วก้มหัวขอบคุณหลินฟู่อิน
หลังจากนั้นพักหนึ่ง อาฝางจึงกล่าว
“น้องฟู่อิน ท่าพ่อและท่านแม่บอกข้าว่าท่านปู่และย่ามิอยากแยกกับพวกเรา” สีหน้าของอาฝางดูมืดหม่น หยาดน้ำตาไหลริน
สายตาของหลินฟู่อินมืดครึ้มลง
ยายหลี่ถอยหายใจอีกครั้ง ก่อนจะมองนางด้วยท่าทีจริงใจ “เื่การแบ่งบ้านนี่ ที่เ้าต้องทำมีเพียงการกล่อมย่าของเ้าเท่านั้น นั่นเป็วิธีเดียวที่จะแบ่งบ้านแต่โดยดีได้ เพราะหากพวกเขาไม่เห็นด้วยแล้ว หากแยกตัวออกมาเองก็มีแต่จะถูกนินทาลับหลังเท่านั้น”
หลินฟู่อินนั้นคิดว่า หากนางตั้งใจจะทำแล้ว นางก็มิคิดสนว่าคนรอบข้างจะคิดอย่างไร แต่นางก็รู้ดีว่าลุงและป้าสะใภ้สองต่างก็มีความมั่นใจในตัวเองต่ำกันมาก เนื่องจากมิเคยให้กำเนิดบุตรชาย พวกเขาจึงค่อนข้างคิดมากกับความเห็นของคนรอบตัว
“ข้าเห็นด้วยกับการแยกบ้าน!”
อาเฝิงโพล่งขึ้น นางกัดฟันแน่น สายตาแน่วแน่ “ไม่ว่าพวกท่านปู่จะวางเงื่อนไขอะไรมา อย่างไรพวกเราก็ต้องแยกบ้านให้ได้! อาฝาง เ้าอยู่ดูแลท่านแม่ที่บ้านน้องฟู่อินเสีย ข้าจะไปคุยที่บ้านใหญ่เอง!”
หลินฟู่อินมองอาเฝิงอย่างนับถือ
หากมีอาเฝิงอยู่เช่นนี้ บ้านสองก็คงปลอดภัยแน่
“ข้าจะไปด้วย” หลินฟู่อินตัดสินใจ
“ไม่ได้เ้าค่ะ!” อาเฝิงยืนกรานพลางมองหลินฟู่อิน “พวกคนที่บ้านเก่าไม่ชอบท่านเป็ทุนอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องไปทนรับสายตาของพวกนั้นหรอก”
หลินฟู่อินพยักหน้าแล้วจึงกล่าว“เช่นนั้นก็ให้ลุงสองไปกับเ้าเสีย”
“ไม่จำเป็เ้าค่ะ ท่านพ่อของข้าฟังคำของพวกนั้นได้เดี๋ยวเดียวก็คงกลัวแล้ว” อาเฝิงกล่าวพลางเดินออกไป
หลินฟู่อินขยิบตาให้อาฝาง “เ้าแอบตามไป ถ้าท่าไม่ดีก็ให้กลับมาเรียกพวกข้า”
อาฝางกำลังจะพยักหน้ารับ แต่เป็ตอนนั้นเองที่มีเสียงดุดันดังเข้ามา
“หลินฟู่อิน เป็เ้ารึที่บอกให้อาฝางและอาเฝิงไปเรียกหลี่เจิ้งมาจัดการปัญหาให้น่ะ?” อู๋ซื่อะโเสียงดังพลางดึงแขนอาเฝิงมาด้วยมือข้างเดียว
อาเฝิงนั้นยังเล็กและอ่อนแอ ไม่ว่านางจะดิ้นรนเพียงใด นางก็มิอาจดิ้นหลุดจากอู๋ซื่อที่ตัวใหญ่กว่าและจับนางไว้ราวกับกำลังจับไก่ได้
หลินฟู่อินแค่นจมูก ตอนแรกได้ยาจากนาง ตอนนี้กลับมาหาเื่นาง ช่างเป็ท่านย่าที่ดีเสียจริง!
“ข้าอยู่นี่” หลินฟู่อินคลี่ยิ้ม มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยพลางมองอู๋ซื่อ “ท่านย่า ท่านรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือ? ดูท่ายาที่ข้าจ่ายให้จะได้ผลดีมากนะเ้าค่ะ!”
อู๋ซื่อมองนางอย่างเดือดดาล
“ฟู่อิน บิดาของเ้ายังไม่กลับมา เ้าไม่มีสิทธิ์มาตัดสินเื่ของตระกูลหลินเรา!” อู๋ซื่อเปิดปากคำราม น้ำลายกระเซ็น
หลินฟู่อินเข้าใจเื่ที่นางจะสื่อ นางไม่ชอบใจที่ฟู่อินเข้าไปยุ่งกับเื่ของบ้านสอง
“ท่านย่า ท่านป้าสะใภ้สองถูกท่านป้าสะใภ้ใหญ่ใช้จอบทุบจนสลบด้วยใบหน้าโชกเื ขนาดนี้แล้วยังมิควรเรียกหลี่เจิงอีกหรือ? หากมีคนตายขึ้นมาล่ะ?”
น้ำเสียงของหลินฟู่อินนั้นสงบนิ่ง และยังเรียบเรียงคำพูดไว้อย่างดี
จ้าวซื่อรีบออกตัวทันที “ข้าถือว่ามีน้ำใจแล้ว ข้าไม่ได้ทุบนางจนตายด้วยซ้ำ และต่อให้นางตายก็ถือว่านางสมควรแล้วมิใช่รึ สำหรับคนจองหองที่กล้าต่อต้านผู้าุโ?”
“ตายไปก็สมควรแล้ว!” อู๋ซื่อนึกถึงตอนที่เฝิงซื่อคลั่งแล้วตีนาง แล้วจึงตะคอกออกมาอย่างดุเดือด
หลินฟู่อินขยิบตาให้อาเฝิง นางมิอยากยุ่งเกี่ยวกับอู๋ซื่อกับจ้าวซื่ออีกต่อไป การรีบจบประเด็นเื่การแบ่งบ้านสองนี่จึงเป็การดีที่สุด
ในที่สุดอาเฝิงก็คิดได้ นางจึงดิ้นหลุดจากอู๋ซื่อได้ในตอนที่นางเผลอ เด็กน้อยมองจ้าวซื่ออย่างห้าวหาญก่อนจะกล่าว “ท่านป้า ท่านก็รู้ว่าแตงที่แข็งกระด้างย่อมไม่หวาน แล้วทำไมท่านกับท่านย่าถึงพยายามขวางบ้านสองของพวกข้าไม่ให้แยกตัวออกไปกัน?”
“เ้าพวกปรสิตดูดเงิน เรียนมาจากนังหลินฟู่อินรึถึงกล้ามาเถียงข้าเช่นนี้?” อู๋ซื่อเล็งตบหน้าอาเฝิง
อาเฝิงหลบ ลูกตบของอู๋ซื่อจึงคว้าได้เพียงอากาศ
จ้าวซื่อแค่นจมูก “เรียนรู้แต่เื่แย่ๆ มาจากนังฟู่อิน อาเฝิงมิเคยกล้าหลบมาก่อน แต่ตอนนี้มันกลับกล้าหลบแม้แต่ตบของย่าของมันแล้ว!”
และยิ่งนางมองหลินฟู่อินมากเท่าใด นางก็ยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้นางอยากจะสาดน้ำโคลนใส่ฟู่อินเสียเหลือเกิน
แต่ที่นางพูดมาก็ถูก อาเฝิงและอาฝางในอดีตนั้นช่างว่าง่ายยิ่งนัก และไม่เคยหือหรือว่าร้ายคืนใส่อู๋ซื่อและจ้าวซื่อเลย
หลินฟู่อินก็คิดเช่นเดียวกัน แต่กับสตรีน่ารำคาญเช่นจ้าวซื่อและอู๋ซื่อนี้แล้วก็คงจะดีกว่าหากปล่อยให้่เวลาเ่าั้กลายเป็แค่อดีตไปเสีย
แค่ได้พบพวกนางก็นับได้ว่าเป็ความโชคร้ายแล้ว!
เมื่อได้ยินคำด่าเช่นนั้นจากจ้าวซื่อแล้ว อู๋ซื่อจึงมองหน้าหลินฟู่อินแล้วคำรามต่อ “เพราะมีแกอยู่ บ้านเราถึงได้แตกแยกเช่นนี้!”
“พี่หลินฟู่อินไม่ใช่ผู้ที่ทำให้บ้านแตกนะ!” อาฝางส่งเสียง
“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ต่างหากที่เป็คนทำบ้านแตก! ถ้าพี่หลินฟู่อินไม่ได้มาช่วยท่านแม่ไม่ให้โดนป้าสะใภ้ใหญ่ฆ่า ป่านนี้ท่านแม่ของข้าก็ไม่รู้จะเป็อย่างไรไปแล้ว!” อาเฝิงกัดฟันกล่าว
เสียงของสองพี่น้องแฝงไปด้วยน้ำเสียงสะอื้น
จ้าวซื่อตั้งท่าจะเข้าไปททุบตีทั้งสองพี่น้องทันที แต่หลินฟู่อินเข้ามาขวางนางไว้
“พูดตามตรง มันถึงเวลาที่พวกท่านควรจะแบ่งบ้านได้แล้ว” เมื่อหลินฟู่อินหยุดจ้าวซื่อแล้ว นางจึงเลิกคิ้วแล้วมองอู๋ซื่อ “พวกท่านไม่อยากให้บ้านสองแยกตัวออกไปเพื่อที่บ้านหนึ่งจะได้มีคนทำงานแทนให้เหมือนวัวเพียงเท่านั้นใช่หรือไม่?”
“เ้าหมายความว่าอย่างไร เ้าจะบอกว่าคนบ้านหนึ่งมีแต่พวกนอนกินงั้นรึ?” จ้าวซื่อสะดุ้งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำของหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินเริ่มรำคาญพวกนางแล้ว จึงถามอู๋ซื่ออย่างเ็า “ท่านย่า ท่านว่าเงื่อนไขของท่านมาเลย พวกข้าต้องทำอะไรเพื่อที่จะให้ท่านยอมรับเื่การแบ่งบ้านสอง?”
ใจของอู๋ซื่อสะท้านขึ้นมาทันที จ้าวซื่อก็เช่นกัน
แม่ยายและสะใภ้ต่างมองหน้ากัน จ้าวซื่อจึงแสยะยิ้มออกมาทันทีด้วยริมฝีปากอันน่าชัง “ไม่ใช่ว่าพวกข้าอยากห้ามมิให้แบ่งบ้าน พวกข้าแค่กลัวว่าบ้านสองจะทิ้งผู้าุโไปโดยไม่สนไม่ดูแลหลังจากแยกออกไปแล้วเพียงเท่านั้น”
“ไม่เลย แม้จะแบ่งบ้านไปแล้ว แต่พวกข้าก็จะส่งเงินให้พวกท่านทุกเดือนเช่นเดียวกับบ้านสาม” อาเฝิงตอบกลับทันทีที่เห็นจ้าวซื่ออ้าปาก
แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าจ้าวซื่อจะกลับถอนหายใจแล้วตะคอกนางกลับ “เ้าพวกปรสิตดูดเงิน พวกเ้าทำบัญชีเป็หรืออย่างไรถึงกล้าพูดว่าจะแบ่งเงิน อีกทั้งเทียบกับลุงสามของพวกเ้าที่แยกตัวออกไปแต่เนิ่นๆ ทว่าก็มิเคยร้องขอที่นาจากที่บ้านเลยแม้แต่ผืนเดียวได้หรือ”
“เื่นั้น… พวกข้าก็ไม่้า!” อาฝางรวบรวมความกล้า นางแอบปรายตามองหลินฟู่อิน เมื่อได้เห็นสีหน้าที่ให้กำลังใจนางอย่างเต็มที่นั้นแล้ว นางจึงกล่าวออกมาว่า….
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้