เพียงไม่นานรอยยิ้มของเจียงไป๋ก็แข็งทื่อแล้ว เพราะตรงหน้าได้เผยให้เห็นโฉมหน้าที่งดงามเป็อย่างยิ่ง
เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามีผิวพรรณที่ขาวใส ใบหน้าที่ใสสะอาดราวกับสายน้ำ จมูกสันเป็คมและริมฝีปากที่เซ็กซี่ ใบหน้ากลมมน ดวงตากลมโต ขนตางอน ทุกอย่างล้วนงดงาม พอนำมารวมกันแล้วก็งามจนทำให้ใจเต้น
อีกสิ่งหนึ่งคือระหว่างที่เด็กสาวขยับตัวทุกย่างก้าวก็มีกลิ่นหอมสดชื่นลอยมา ยิ่งทำให้ใจเต้นมากขึ้น และในเวลานี้น้ำตายังคงติดอยู่บนใบหน้าสะสวย จึงทำให้เจียงไป๋เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ดูแล้วก็น่าเป็ห่วงเป็ใย
แวบแรกที่เห็นเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า คิดไม่ถึงว่าเจียงไป๋จะรู้สึกใจเต้น
ผู้หญิงที่เขาเคยพบเห็นมาถึงจะมีไม่มากแต่ก็ไม่ได้น้อย เหยาหลาน ซูเหมย หลินหว่านหรู คนไหนบ้างที่ไม่สวยจนใจเต้นแรง? แต่เมื่อเทียบกับเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว ทั้งสามคนก็แอบสวยน้อยกว่า ถึงจะไม่ชัดเจน แต่ก็ยังคงมีความต่างนิดหน่อย
หากรูปโฉมของคนสามารถคิดเป็คะแนนได้ เหยาหลาน ซูเหมย มากสุดก็เก้าสิบคะแนน หลินหว่านหรูเก้าสิบแปด แต่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านี้ถึงหนึ่งร้อยคะแนนอย่างแน่นอน งามล่มบ้านล่มเมืองจริงๆ คำนี้ช่างเหมาะกับเธอมาก
สิ่งที่ยิ่งสำคัญก็คือ เจียงไป๋แอบพบว่าบนหน้าผากของเด็กสาวเหมือนจะมีกลิ่นไอที่พิเศษอย่างหนึ่ง ทำให้เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะคิดไม่ซื่อ ถึงเจียงไป๋จะนิ่งอย่างนี้ แต่ก็ล้วนอยากจะทำเื่ที่ไม่ดีบางอย่าง
ถึงแม้เจียงไป๋จะเป็ปรมาจารย์วูซูจีนที่มีจิตใจมั่นคงราวกับเหล็กกล้า แต่เขาก็อดคิดไม่ซื่อไม่ได้ ปกติพวกผู้ชายแค่คิดก็รู้ๆ กัน
“สวยั้แ่เกิด”
ไม่รู้ว่าทำไม ในหัวของเจียงไป๋จึงได้คิดแบบนี้
แล้วเขาก็สังเกตรูปโฉมของอีกฝ่ายอีกครั้ง บนหน้าผากมีเสน่ห์ไม่จางหาย ทุกท่วงท่าที่ขยับทำให้จิตใจหวั่นไหว ถึงอีกฝ่ายจะไม่มีเจตนา แต่ก็พอที่จะทำให้เป็บ้าได้ อย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าเป็ผู้หญิงที่สวยั้แ่เกิด?
เมื่อก่อนก็แค่คิดว่าในตำราพูดเพ้อเจ้อ คิดไม่ถึงว่าบนโลกใบนี้จะมีคนอย่างนี้อยู่จริงๆ!
หากรู้ว่าผู้หญิงอย่างนี้มีความงามมาแต่กำเนิด แทบจะคบผู้ชายไม่ได้
ตามบันทึกโบราณ “สวยั้แ่เกิด” ในร้อยปียากที่จะพบเห็นได้สักคน ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่ามีน้อยมากๆ เช่น ซูต๋าจี่ เปาซื่อ และสนมเซียวที่แต่งงานกับฮ่องเต้หกคนด้วยกัน
คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอที่นี่หนึ่งคนโดยบังเอิญ?
ซึ่งนี่ก็ทำให้เจียงไป๋ตกตะลึงอยู่บ้าง
เด็กสาวมองเจียงไป๋แล้วพบว่าอีกฝ่ายเหมือนจะไม่มีเจตนาไม่ดี ที่สำคัญคือั์ตาของเจียงไป๋ไม่มีแววตาที่้าจะกลืนกินเธอ เด็กสาวเพิ่งจะค่อยๆ วางใจ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตากลมโตที่ใสแวววาวนั้นอีก “ฮือ ฮือ ฮือ … พวกเขารังแก … ทั้งหมดรังแกฉัน!”
น้ำเสียงของเธอยิ่งดังขึ้นทุกที แค่แวบเดียวน้ำตาก็อาบเต็มหน้า
ทำให้เจียงไป๋มือไม้อ่อนไปหมด จะยุ่งก็ไม่ได้ จะไม่ยุ่งก็ไม่ได้ ้ายื่นมือออกไปปลอบใจเธอ แต่กลับกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิดอีก เขาทำได้แค่ยืนมองเฉยๆ อยู่ตรงนั้น
สักพักเธอก็หยุดร้อง เจียงไป๋หยิบกระดาษทิชชูออกมาหนึ่งแผ่นแล้วส่งให้เธอ “เช็ดน้ำตาก่อน หากเธอเชื่อฉัน ก็ลองบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าเื่เป็มาอย่างไร บางทีฉันอาจจะช่วยเธอได้? ถึงไม่ได้ แบบนั้น … อย่างน้อยแค่ได้พูดออกมา ก็คงจะสบายใจขึ้นมาบ้าง”
“พวกเขาต่างก็รังแกฉัน … ผู้กำกับรังแกฉัน สตาฟฟ์กองถ่ายรังแกฉัน นักแสดงชายรังแกฉัน แม้ แม้แต่ … ตากล้องก็อยากจะรังแกฉัน!” เด็กสาวตรงหน้าถูกเจียงไป๋สะกิดถึงเื่เสียใจขึ้นมาอีก เดิมทีก็หยุดร้องไห้แล้ว แต่ก็กลับร้องออกมาอีก
เพียงคำเดียวก็ทำให้เจียงไป๋อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ และอยากจะถามเธอจริงๆ ว่า “เธอเป็กล่องรองรับอารมณ์หรือ? ทำไมทั้งโลกถึงอยากจะรังแกเธอ”
แต่เขาก็เข้าใจได้ว่า ในสังคมนี้มีผู้ชายคนไหนบ้างไม่ลามก ยิ่งเป็คนในวงการบันเทิงพวกนั้นแล้ว มีใครบ้างไม่เคยใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาและปล่อยแก่เต็มที่? สาวน้อยน่ารักที่สวยั้แ่เกิดอย่างเธอ หากไม่มีชายใดหวั่นไหวก็บ้าแล้ว!
“จริงๆ แล้วเธอควรจะคิดอย่างนี้สิ พวกเขาคิดไม่ซื่อกับเธอ ก็อาจจะเป็เพราะเธอสวยเหลือเกิน ใครๆ เขาก็รักสวยรักงามกันทั้งนั้น เพียงแค่วิธีการที่พวกเขาใช้มันไม่ถูกต้องเท่านั้น แต่อีกด้านหนึ่ง ไม่ใช่เป็การยืนยันว่าเธอสวยมากจริงๆ และมีเสน่ห์หรือ? วงการบันเทิงก็คือถังย้อมขนาดใหญ่ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเธอถึงเข้ามา หากรู้ว่าสำหรับตัวเธอแล้วก็อาจจะไม่ใช่เื่ดีนัก”
เจียงไป๋ยิ้มพลางพูดกับเด็กสาวตรงหน้า สักพักสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ตอนนี้เป็แค่พวกบทบาทเล็กๆ สนใจเธอเข้าเท่านั้น เธอยังจะมานั่งร้องไห้ ยังจะหนี และยังจะปฏิเสธหรือ แต่อนาคตหากเธอดังขึ้นมาจริงๆ คนที่รู้จักเธอก็จะมากขึ้น และก็ต้องมี่ที่เธอปฏิเสธไม่ได้
มีบางคนที่เธอไม่มีทางปฏิเสธได้จริงๆ
“ฉัน ฉันสวยหรือ?” เมื่อเด็กสาวตรงหน้าได้ยินคำพูดของเจียงไป๋ก็เงยหน้ามองเขาทันที
“สวย สวยมากจริงๆ เด็กสาวที่ฉันรู้จักก็ถือว่ามีไม่น้อย แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ไม่มีใครเทียบเธอได้สักคน ฉันมั่นใจว่าตนเองนิ่งกว่าคนอื่น เมื่อครู่ที่เห็นก็แทบอดใจไว้ไม่อยู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย” เจียงไป๋พูดอย่างจริงจัง
“แบบนั้น ฉันควรจะทำอย่างไร?”
สาวน้อยใช้สายตาที่ใสแวววาวมองเจียงไป๋อย่างน่าสงสาร ทำให้หัวใจใครหลายๆ คนแทบละลาย
“ง่ายมาก ก็อย่าเดินทางนี้สิ ไม่เช่นนั้นก็ยอมเขาซะ … ” เมื่อเจียงไป๋ได้ยินคำถามแล้วก็ให้คำตอบไปอย่างนี้
หากเด็กสาวอยากจะเดินทางนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายคนปกติก็ยังไม่มีทางรับได้ ดูท่าทางเธอแล้วก็คงรับไม่ได้แน่นอน
“ให้อะไรคนอื่น? ลูบคลำมือหรือ? ฉันไม่ทำหรอก ผู้กำกับ้าลูบคลำมือฉัน ฉันก็ตบเขาแล้ว! ยังมีสตาฟฟ์กองถ่ายกับคนเขียนบทที่สมควรตายพวกนั้นอีกที่อยากจะลูบคลำมือฉัน ฉันไม่ยอมหรอก!”
เมื่อเด็กสาวได้ยินคำพูดนี้แล้ว ราวกับได้รับการกระตุ้นอะไรบางอย่าง เธอใจนพูดเสียงดัง และส่ายหัวไปมาอย่างกับป๋องแป๋ง
“ลูบคลำมือเธอ? ลูบมือเธอ เมื่อครู่ที่เธอร้องไห้แทบเป็แทบตาย!”
เจียงไป๋ทนไม่ไหวกลอกตาใส่เธอ และพูดอย่างอารมณ์เสีย
ไม่รู้จริงๆ ว่าเด็กสาวคนนี้มีชีวิตอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร? เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตอยู่ในป่าในเขาหรือ?
“แบบนั้น … จะทำไม … หรือว่าต้อง … ”
หน้าของเด็กสาวแดงอย่างกับแอปเปิ้ล และพูดอย่างเขินอายอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่าเป็เพราะเจียงไป๋ หรือว่าเพราะอายที่ถูกคนอื่นจับมือจริงๆ เมื่อพูดถึงท้ายสุด ราวกับคิดเื่น่ากลัวอะไรออกแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้างมาก!
“คุณผู้หญิง คุณบอกผมหน่อยได้ไหม ทำไมคุณอยู่มาจนโตขนาดนี้ได้? เธออยู่ในวงการบันเทิง หรือว่าเธอไม่เคยได้ยินกฎซ่อนเร้นหรือ? อย่าบอกฉันนะว่า คนพวกนั้นคิดแค่จะลูบคลำมือเธอ?”
เจียงไป๋นั่งลงมองเด็กสาวตรงหน้า และกลอกตาใส่พลางถาม
“เื่นั้น ฉันเพิ่งจะมากูซู เมื่อก่อน … เมื่อก่อนฉันไม่เคยเจอเื่อย่างนี้ … ”
เด็กสาวพูดเสียงต่ำอย่างน่าเอ็นดู และบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้