ซูเฟยยิ้มเ็าขณะมองถ้วยน้ำแกงในมือเต๋อเฟย นางยกยิ้มมุมปากพร้อมกับเอ่ยเยาะเย้ย “น้องสาวก็นำน้ำแกงมาถวายฝ่าาเหมือนกันหรือ แต่เมื่อครู่ฝ่าาเพิ่งตรัสกับพี่ว่า พระองค์เสวยแล้ว ให้พี่เก็บไว้ทานเอง”
เต๋อเฟยกำลังจะวางถ้วยน้ำแกงลงบนโต๊ะตรงหน้าฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน พอได้ยินประโยคนี้ถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะวางดีหรือไม่วางดี จึงได้แต่หันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้แก่ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินมีหรือจะไม่รู้เื่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันของเหล่าบรรดานางสนมในวังหลังของตัวเอง หากแต่แกล้งทำเป็ไม่รู้ เพราะี้เีจะไปสนใจ เขาจึงทำได้แค่ส่งยิ้มให้แก่พระสนมทั้งสอง “สนมรัก น้ำแกงนี้มีสรรพคุณช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น เช่นนั้นอีกเดี๋ยวสนมรักทั้งสองก็ทานพร้อมกันเถิด”
เต๋อเฟยพยักหน้าก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้แก่ซูเฟย “พี่สาว อีกเดี๋ยวข้าคงต้องรบกวนพี่สาวแล้ว เพราะน้ำแกงที่ข้านำมา ข้านำมาเยอะมากเกินไป”
ซูเฟยมองเต๋อเฟยอย่างแค้นใจ ก่อนจะเบนสายตาไปยังฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน เดินตรงเข้าไปหา ยกมือนวดไหล่ให้อย่างเอาใจ “ฝ่าาเพคะ นานแล้วที่หม่อมฉันไม่ได้นวดให้ฝ่าา วันนี้ให้หม่อมฉันได้ปรนนิบัติฝ่าานะเพคะ”
เต๋อเฟยได้ยินเช่นนั้นก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินบ้าง คุกเข่านั่งลง ใช้มือนวดขาให้อย่างเอาใจ ไม่ยอมให้น้อยหน้าซูเฟยแม้แต่น้อย “พี่สาว ไม่ต้องเป็ห่วงหรอกเพคะ เมื่อวานข้าเพิ่งจะนวดให้ฝ่าาไป”
สีหน้าของซูเฟยเปลี่ยนเป็ดูไม่ดีนัก ทันใดนั้นเองฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินดึงพระสนมทั้งสองขึ้นมา แล้วกอดเอาไว้ในอ้อมกอด “สนมรักทั้งสอง การที่เรามีพวกเ้าอยู่ ถือเป็โชคดีของเรายิ่งนัก ่นี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว เดี๋ยวเราให้เตาอุ่นพวกเ้าคนละอันดีหรือไม่”
“ขอบพระทัยฝ่าาเพคะ” พระสนมทั้งสองยอบกายคำนับขอบคุณออกมาพร้อมกัน ส่งผลให้ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินมีความสุขจนต้องยกมือลูบเคราของตัวเอง
เต๋อเฟยก้มมองขนมเปี๊ยะร้อยบุปผาซึ่งวางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน ก่อนจะแกล้งทำเป็อุทานอย่างใ “ฝ่าาเพคะ นี่คือขนมเปี๊ยะร้อยบุปผาใช่หรือไม่เพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินพยักหน้า เต๋อเฟยเห็นเช่นนั้นก็ดีใจยิ่งนัก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เมื่อครู่ พวกนางกำนัลก็เอามาให้หม่อมฉันชิม หม่อมฉันชิมแล้วตะลึงยิ่งนัก ฝีมือการทำอาหารของแม่นางหนิงนับวันจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ นะเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินหัวเราะออกมาเมื่อได้ฟัง โดยไม่ทันได้มองซูเฟยซึ่งยืนอยู่ด้านข้างที่มีสีหน้าดูไม่ดีนัก เวลานี้เองซูเฟยเอ่ยออกมาว่า “ฝ่าาเพคะ หม่อมฉันเลื่อมใสในฝีมือการทำอาหารของแม่นางหนิงมานานแล้ว อยากจะให้นางช่วยสอนหม่อมฉันปรุงอาหารสักสองสามอย่าง ไม่ทราบว่าฝ่าาจะประทานอนุญาตให้นางพักอยู่ในวังคืนนี้สักคืนได้หรือไม่เพคะ”
เต๋อเฟยชะงักเมื่อได้ฟัง ก่อนจะเอ่ยกับซูเฟย “พี่สาว ไม่กี่วันก่อนหน้านี้นางหนูหนิงเพิ่งจะไม่สบายเพราะต้องลมหนาว ทำเช่นนี้ไม่น่าเหมาะนะเพคะ หากนางเอาอาการป่วยมาติดพี่สาวจะทำอย่างไร”
เต๋อเฟยมีแผนในใจ หนิงมู่ฉือคือคนของนาง จะปล่อยให้ไปตกอยู่ในมือของซูเฟยไม่ได้เด็ดขาด นางไม่คิดเลยว่า ซูเฟยจะทำเื่ไม่ดีโดยที่ไม่รู้สึกผิดเช่นนี้
ซูเฟยลุกขึ้น เสื้อผ้าที่สวยสดงดงามทำให้นางยิ่งดูสูงส่ง นางเอ่ยด้วยเสียงนุ่มหวานกับฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ฝ่าาเพคะ หม่อมฉันไม่กลัวติดโรค หม่อมฉันแค่อยากให้แม่นางหนิงสอนหม่อมฉันปรุงอาหารสักสามสี่อย่าง หม่อมฉันเพียงเท่านี้เพคะ”
เต๋อเฟยถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ย “พี่สาว ท่านทำให้ข้าลำบากใจเหลือเกิน หม่อมฉันเป็คนดูแลนางหนูหนิง ทั้งท่านอ๋องยังบอกอีกว่า อยากจะให้นางหนูหนิงกลับไปนอนที่ตำหนักทุกวัน หม่อมฉันจึงไม่อาจให้นางพักอยู่ในวังได้”
ซูเฟยส่งยิ้มให้แก่เต๋อเฟย “น้องสาว เ้าก็ยึดมั่นในกฎเกณฑ์เกินไป ข้าแค่เห็นว่าฝ่าาอยากเสวยอาหารเช้าฝีมือแม่นางหนิงทุกวัน จึงถือโอกาสนี้ให้นางเข้ามาพักอยู่ในวังสักคืน ข้าว่าเ้าไปช่วยพูดกล่อมท่านอ๋องจะดีกว่า”
เต๋อเฟยมีสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหันไปหาฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินอย่างอยากให้ช่วยตัดสินใจ ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินหัวเราะออกมา เอ่ยกับสนมทั้งสอง “สนมรักทั้งสองต่างพูดจามีเหตุผลด้วยกันคู่ ในใจเราก็อยากให้นางหนูหนิงพักอยู่ในวังสักคืนเช่นกัน เช่นนั้นก็เรียกตัวนางหนูหนิงมาถามความคิดเห็นดีหรือไม่”
หนิงมู่ฉือในเวลานี้กำลังตั้งใจทำของหวาน ทันใดนั้นเองมีขันทีน้อยผู้หนึ่งเดินมาตรงหน้านาง “แม่นางหนิง ฝ่าามีรับสั่งให้เข้าเฝ้าขอรับ”
นางรู้สึกสงสัยยิ่ง เหตุใดฮ่องเต้ถึงอยากจะพบนาง นางเกิดความรู้สึกระแวงขึ้นมา กลัวว่าขันทีน้อยผู้นี้จะหลอกนาง นางเอามือสอดเข้าไปในอกเสื้อ กำพงพริกไทยและผงพริกเอาไว้แน่นตลอดทางที่เดินไปยังตำหนักเจินหลง
ครั้นมาถึงตำหนักเจินหลง นางเห็นเทพเ้าแห่งความชั่วร้ายพระสนมซูเฟย ตัวนางสั่นเทาขณะเดินเข้าไปคุกเข่าถวายความเคารพฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “บ่าวถวายบังคมฝ่าา พระสนมซูเฟย พระสนมเต๋อเฟยเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินลูบเคราของตัวเองไปด้วยขณะจ้องมองหนิงมู่ฉือ มุมปากยกขึ้นเป็รอยยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นเถิด”
หนิงมู่ฉือลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปก้มหน้านิ่งอยู่ด้านข้าง นางรับรู้ได้ถึงสายตาดุร้ายของพระสนมซูเฟยที่มองมา และสายตาอ่อนโยนของพระสนมเต๋อเฟย ในใจนางรู้สึกเครียดยิ่งนัก มือจับชายแขนเสื้อเอาไว้แน่น
ซูเฟยตรงเข้ามาหานาง มุมปากยกขึ้นเป็รอยยิ้ม “แม่นางหนิงนี่มีหน้าตาสะสวยดีจริง ผิวก็นุ่ม ทั้งข้ายังได้ยินชื่อเสียงเื่ฝีมือการทำอาหารของเ้ามาเนิ่นนานแล้ว จึงอยากจะให้เ้าพักอยู่ในวังคืนนี้สักคืน”
นางได้ฟังถึงกับสะดุ้ง หันไปมองพระสนมเต๋อเฟยทันที ซึ่งเต๋อเฟยก็ส่ายหน้าเป็คำตอบมาให้ พร้อมทั้งแกล้งทำเป็ไอออกมา นางจึงคุกเข่าลงกับพื้น ก่อนจะเอ่ยตอบ “ขอพระสนมอภัยให้บ่าวด้วย ่นี้บ่าวไม่สบายเพราะต้องลมหนาว ยังไม่หายดี บ่าวกลัวจะเอาโรคไปติดพระสนมเพคะ”
ซูเฟยมองหนิงมู่ฉือด้วยแววตาคมกริบ พร้อมกับเอ่ยว่า “ข้าหาได้กลัวติดโรคจากเ้าไม่ ที่ตำหนักของข้าหยูกยาใดๆ ล้วนครบถ้วน ทั้งข้ายังสามารถรักษาอาการไม่สบายของเ้าได้ด้วย” ซูเฟยกัดฟันเอ่ยออกมา
หนิงมู่ฉือมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะหันไปมองพระสนมเต๋อเฟยอีกครา นางเห็นเพียงพระสนมเต๋อเฟยถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญหา นางจึงหันไปโขกศีรษะกับพื้นพร้อมกับกล่าวตอบ “พระสนม แต่ท่านอ๋องมีคำสั่งให้หม่อมฉันกลับไปที่ตำหนักทุกวันเพคะ”
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวข้าขออนุญาตให้เ้าเอง” ใบหน้าของซูเฟยมีแต่ความโเี้ ทำให้ใจของหนิงมู่ฉือเต้นรัวแรงไม่หยุด
ที่คาดไม่ถึงคือ ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินจะส่งเสียงหัวเราะอย่างน่าใออกมา “นางหนูหนิง พักอยู่ที่นี่สักคืนเถิด ถือว่าเห็นแก่ที่ซูเฟยมีใจอยากให้เ้าพักอยู่ที่นี่ ทั้งนางยังบอกกับเราอีกว่า อยากให้เ้าช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรุงอาหารให้แก่นาง”
หนิงมู่ฉือในตอนนี้มีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ทำได้แค่เอ่ยตอบออกไปไปว่า “เพคะ บ่าวน้อมรับพระบัญชาเพคะ”
ซูเฟยยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบรับ ทางด้านเต๋อเฟยกลับทำหน้าเป็ห่วงหนิงมู่ฉือ
ซูเฟยลุกขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะเอ่ย “ทูลฝ่าา เช่นนั้นหม่อมฉันพาตัวแม่นางหนิงไปนะเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินพยักหน้า ก่อนจะให้ขันทีน้อยยกถ้วยน้ำแกงเทาเที่ยให้ซูเฟย “สนมรัก เ้านำน้ำแกงถ้วยนี้ไปอุ่นร้อนเถิด ่นี้อากาศหนาว ดื่มแล้วร่างกายเ้าจะได้อุ่น”
ซูเฟยมีสีหน้ากระอักกระอ่วนยิ่งนักขณะรับถ้วยน้ำแกงมา นางส่งสายตาให้ชุนเถา ชุนเถาตั้งใจเดินเอาไหล่กระแทกหนิงมู่ฉืออย่างแรง ก่อนจะเดินนำหน้าออกไป ในมือหนิงมู่ฉือตอนนี้มีแต่เหงื่อ นางหันไปเหลือบมองพระสนมเต๋อเฟยผาดหนึ่ง ก่อนจะเดินตามหลังชุนเถาออกไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้