หลินต้าหลางยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นว่าเื่นี้ตนได้เปรียบ ทางที่ดีคือให้ท่านปู่ที่เข้าข้างเขาเสมอตัดสินเป็ดีที่สุด
หลินฟู่อินเห็นดวงตาอีกฝ่ายฉายประกายร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ ก็คิดว่าหลินต้าหลางคนนี้นี่ได้เชื้อบ้านเดิมสกุลหลินมาดีจริงๆ เหมือนจ้าวซื่อเสียไม่มี
หลินต้าหลางมองหน้าปู่หลิน “ท่านปู่ ข้าอ่อนแอมาโดยตลอด เมื่อน้องฟู่อินรักษาได้ข้าก็เชื่อนาง คิดว่านางดูแลก็ดี ยังไงเดือนเก้าปีนี้ข้าก็มีสอบถงเซิง [1] แล้ว”
คำพูดของหลินต้าหลางทำให้ปู่หลินไขว้เขวได้จริงๆ
การสอบถงเซิงของต้าเว่ยจัดขึ้นในเดือนเก้าของทุกปี ตอนนี้เดือนเจ็ดแล้ว อีกเพียงสองเดือนหลินต้าหลางก็ต้องเข้าสอบ
ในเมื่อหลินฟู่อินรักษาร่างกายของเขาได้ ให้หลินต้าหลางอยู่บ้านนาง คอยบำรุงร่างกายให้ดีน่าจะดีกว่า
“ฟู่อิน ต้าหลางพี่ชายเ้าพูดถูก เขาต้องสอบถงเซิงในเดือนเก้า อยู่บ้านเ้าสองเดือนเพื่อบำรุงร่างกาย เื่นี้ข้าเองก็เห็นด้วย” สายตาที่ปู่หลินมองหลินฟู่อินเต็มไปด้วยความกดข่ม
“ท่านปู่จะสับสนไม่ได้! หลินต้าหลางตอนนี้เป็ลูกชายบ้านอื่นไปแล้ว นับเป็บุรุษแปลกหน้าเ้าค่ะ” หลินฟู่อินเห็นปู่หลินเข้าข้างอีกฝ่ายอย่างหน้ามืดตามัว ในใจนางก็โกรธขึ้นมา ทว่าบนใบหน้ากลับไม่แสดงอาการแม้แต่น้อย
นางมองปู่หลินด้วยสายตาแน่วแน่ อีกฝ่ายพอถูกจ้องเช่นนี้ก็ปรากฏร่องรอยรำคาญใจ “ต่อให้ถูกรับเลี้ยง ผู้ที่รับไปก็ยังเป็สกุลหลิน คนยังคงเป็พี่เ้า! หากได้ดีแล้วจะลืมพวกเ้าพี่น้องได้ยังไง?”
หยวนซื่อหรี่ตาลง ขอเพียงได้อยู่บ้านหลินฟู่อินนางก็พอใจแล้ว นางกระแอมหนักๆ แล้วกล่าวด้วยท่าทางเกินจริง “ฟู่อิน ที่เ้าพูดก็จริงอยู่ ต้าหลางได้บ้านเรารับเลี้ยง แต่ยังไงก็ยังใช้สกุลหลิน พ่อต้าหลางกับข้าเราสองคนไม่มีลูกมาทั้งชีวิต จึงได้รับเลี้ยงต้าหลางเพื่อที่จะได้มีใครสักคนจุดธูปให้ในยามจากไป เมื่อต้าหลางสอบผ่านไม่ว่ายังไงก็ยังเป็หลานคนโตของสกุลหลินไม่ใช่หรือ?”
คำพูดของหยวนซื่อทรงพลังยิ่งนัก สำหรับหมู่บ้านหูลู่ที่ไม่มีซิ่วไฉมาหลายทศวรรษ หากมีบ้านไหนผลิตซิ่วไฉออกมาได้ก็เรียกว่าเป็เกียรติแก่วงศ์ตระกูลแล้ว แค่บอกว่าเป็ญาติพี่น้องของซิ่วไฉก็สามารถหาคู่แต่งงานดีๆ ได้แน่นอน
หยวนซื่อยอมให้ลูกบุญธรรมกลับมาช่วยดูแลบ้านเดิม ก็ไม่แปลกที่ปู่หลินจะอยากให้หลานชายประสบความสำเร็จ
ในฐานะคนสกุลหลิน อีกหน่อยหลินฟู่อินก็จะได้หน้าไปด้วย ตอนนี้จึงสมควรต้องช่วยเหลือ
เหลียงซื่อกับป้าต้ายามองหน้ากันด้วยความอิจฉา เื่นี้เป็เื่ส่วนตัวของผู้อื่นแล้ว พวกนางจึงไม่เข้าไปขัด
หลินฟู่อินเห็นสีหน้าแต่ละคนแล้ว ก็รู้ว่าวันนี้เื่ไม่ง่ายแน่ หากปู่หลินยังร่วมมือกับหยวนซื่ออยู่เช่นนี้
แต่นางรู้ดีถึงความโลภภายในใจหยวนซื่อและหลินต้าหลาง ดังนั้นไม่ว่าวันนี้จะลำบากอย่างไร นางก็จะไม่ยอมให้สองแม่ลูกลวงโลกคู่นี้ได้ในสิ่งที่้าแน่
“ท่านปู่ หากท่านปู่้าให้ข้าช่วยพี่ต้าหลางเื่ดูแลร่างกาย ข้าก็จะช่วย แต่ให้มาอยู่บ้านข้าเช่นนี้ข้าไม่เต็มใจ หากเกรงว่าการไปกลับบ้านนู้นจะไกลเกินไป เช่นนั้นพี่ต้าหลางก็มาอยู่บ้านเดิมสกุลหลินก่อนเถอะ ท่านค่อยให้คนมารับยาที่บ้านข้าทุกวัน” หลินฟู่อินไหวพริบดี น้ำเสียงของนางสุภาพจนผู้อื่นััถึงความจริงใจ
ในหมู่ชาวบ้านยังมีหลายคนที่รู้สึกว่าการจะให้หลินต้าหลางอยู่บ้านหลินฟู่อินอย่างไรก็ไม่ถูกต้อง เมื่อเด็กสาวพูดวิธีนี้ออกมาจึงพยักหน้า คิดว่าวิธีนี้ดีมากๆ
แม้ปู่หลินจะไม่พอใจ แต่สิ่งที่หลินฟู่อินพูดมาก็ไม่มีอะไรผิด การรับมือกับสถานการณ์ก็ดีมาก หากเขายังพูดอะไรต่อก็จะดูไม่ดีแล้ว จึงไม่พูดอะไรอีก
แน่นอนว่าหยวนซื่อไม่้าเช่นนั้นจึงขยิบตาให้จ้าวซื่อทันที จ้าวซื่อเข้าใจจึงพูดออกมา “ท่านพ่อ บ้านเราทั้งคนแน่นทั้งชื้น จะเหมาะให้ต้าหลางอยู่รักษาร่างกายหรือเ้าคะ? ยิ่งอยู่ไม่ใช่จะยิ่งแย่หรือ?”
สีหน้าของปู่หลินแข็งค้างไป กำลังอ้าปากจะตอบ
“ท่านป้าใหญ่ ข้าจำได้ว่าบ้านเดิมมีห้องหนึ่งแดดดียิ่งนัก เหมาะให้พี่ต้าหลางไปพักอย่างยิ่ง” หลินฟู่อินเอ่ยขัดทันที
ห้องที่ดีที่สุดในบ้านหลินเป็ของคู่สามีภรรยาผู้เฒ่า อีกห้องที่ดียิ่งกว่าเป็ของลูกสาวเพียงคนเดียวของปู่หลินและอู๋ซื่อ ป้าของหลินฟู่อิน นามว่าหลินชิ่งฮวา
พอหลินชิ่งฮวาย้ายออกไป นางก็มอบห้องนี้ให้หลินเสี่ยวเถาและหลินเสี่ยวเหอ ลูกสาวสองคนของจ้าวซื่อ
จ้าวซื่อเห็นหลินฟู่อินพูดถึงห้องของลูกสาวทั้งสองของตนก็ไม่พอใจทันที “ห้องนั้นป้าเ้ามอบให้พี่สาวทั้งสองของเ้า หากต้าหลางไปอยู่แล้วพี่สาวเ้าจะอยู่ที่ไหนเล่า?”
หลินฟู่อินหัวเราะคิก ยิ้มกว้างแล้วพูดอย่างสุภาพ “ท่านป้า ข้าเชื่อว่าพี่สาวทั้งสองต้องเห็นแก่พี่ชายแท้ๆ แล้วยอมมอบห้องให้แน่นอนเ้าค่ะ อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าบ้านป้าสองเพิ่งจะย้ายออกจากบ้านเดิมหรือเ้าคะ? พอดีเลย ตอนนี้ก็มีห้องว่างสองห้องพอดีนี่?”
ผู้ที่มุงอยู่ต่างก็พยักหน้า
บ้านเดิมมีที่ให้อยู่ หลินต้าหลางย่อมต้องอยู่บ้านเดิมจึงจะเหมาะสมที่สุด อย่างไรคนก็เป็ลูกของบ้านใหญ่ การไปอยู่บ้านเดิมเช่นนี้ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม
ใบหน้าเ้าซื่อตอนนี้แดงก่ำราวกับตับหมู นางขยับปากอยู่หลายครั้งทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ปู่หลินเห็นเื่ไม่ค่อยดี จึงมองหน้าหลานชาย “ต้าหลาง เื่ก็ลงตัวแล้ว กลับไปกับปู่เถอะ!”
“ไม่ได้เด็ดขาด!” หยวนซื่อดึงหลินต้าหลางเอาไว้ มองหน้าปู่หลิน “ท่านไม่ใส่ใจหลานก็เื่หนึ่ง แต่ข้าเป็แม่เขา ข้าย่อมใส่ใจ! บ้านเดิมสกุลหลินไม่เหมาะกับสุขภาพของต้าหลาง ข้าดูแล้วที่นี่เหมาะสมที่สุด ลูกชายข้าอยู่ที่นี่ผ่อนคลายได้มากกว่า อ่านหนังสือได้ดีกว่า บ้านเดิมนั่นมีคนมากเกินไป!”
หยวนซื่อใจไม่อยากไปอยู่บ้านเดิม ย่อมต้องเค้นสมองหาข้ออ้างอื่นออกมาจนได้
ปู่หลินลำบากใจ เมื่อเป็เช่นนี้จึงได้แต่มองหน้าหลินฟู่อินอีกครั้ง
ในใจหวังว่าหลินฟู่อินจะยอมประนีประนอม
แต่หลินฟู่อินแกล้งทำเป็มองไม่เห็นสายตาของอีกฝ่าย นางจงใจมองหยวนซื่อ แล้วกล่าว “ท่านป้าหยวน หากใส่ใจพี่ต้าหลางจริงๆ ก็ควรรีบไปเถอะเ้าค่ะ อย่ามาก่อปัญหาในบ้านข้าอีก ชื่อเสียงบัณฑิตมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด ท่านคงไม่อยากให้ผู้อื่นกล่าวว่าพี่ต้าหลางไม่รู้มารยาท ไม่รู้ผิดถูก ไม่รู้ยางอายคิดจะยึดบ้านอาสามของตัวเองจนไม่ยอมไปไหนกระมัง”
หมึกดำถูกสาดออกไปแล้ว คำพูดของหลินฟู่อินครั้งนี้ทรงพลังมากทีเดียว เมื่อพูดออกไป สีหน้าของทั้งปู่หลินและหลินต้าหลางก็ซีดขาวทันที
หลินฟู่อินจงใจเน้นย้ำประโยคสุดท้าย เดิมทีหลินต้าหลางเป็หลานของพ่อ นางจึงอยากไว้หน้าอีกฝ่ายบ้าง แต่ผู้อื่นกลับหัวทึบเกินไป เื่นี้จะนับเป็ความผิดนางไม่ได้
“ฟู่อิน อย่าพูดจาไร้สาระ!” ปู่หลินจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ เอ่ยเตือน “ต้าหลางพี่เ้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ยามนี้เป็ลูกบุญธรรมคนอื่นแล้วยิ่งไม่มีความคิดเช่นนั้นในใจ อย่าคิดไร้สาระหาเื่ทำลายชื่อเสียงตระกูลตัวเอง!”
ครั้งนี้ปู่หลินโมโหมากจริงๆ เสียงดังจนชาวบ้านที่แอบซุบซิบกันก่อนหน้าไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่มองหน้ากันไปมา
--------------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] ถงเซิง หมายถึง นักศึกษาเด็ก การสอบถงเซิงเหมือนกับการสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในปัจจุบัน เป็การสอบระดับท้องถิ่น การสอบท้องถิ่นแบ่งออกเป็ 3 ระดับ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และการสอบย่วนซื่อ โดยการสอบระดับอำเภอสำคัญที่สุด หากสอบผ่านจะได้รับเลือกเป็เซิงหยวน หรือที่มักเรียกกันว่าซิ่วไฉ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้