หืม?
เื่อันใดกัน!
ฝูงชนพากันจ้องมองฮวาเหยียน มิรู้ว่านางคิดจะทำสิ่งใด ครู่ต่อมาจึงได้ยินนางกล่าวว่า “เื่การถอนหมั้นเมื่อสี่ปีก่อน ไม่ใช่ข้าถูกถอนหมั้น แต่เป็ข้าเองที่ไม่ประสงค์แต่งให้องค์รัชทายาท ขอให้ทุกท่านโปรดอย่าเข้าใจผิด”
หลังสิ้นคำ ฮวาเหยียนก็เดินออกจากโรงน้ำชาซินเยว่ทันที
เหลือทิ้งไว้เพียงเหล่าผู้ชมที่มองหน้ากันด้วยความใ
ขอถาม คำที่คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่เอ่ยออกมาเมื่อครู่ หมายความว่าอย่างไรหรือ?
นางพูดเื่อันใดกัน?
เื่การถอนหมั้นเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงคือนางเองที่มิประสงค์จะแต่งให้องค์รัชทายาทหรือ? มิได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่!
หลังฮวาเหยียนทิ้งคำพูดเอาไว้และเดินออกจากโรงน้ำชาซินเยว่ ชั่วครู่นั้นนางรู้สึกเพียงทั่วทั้งร่างปลอดโปร่ง หายใจได้สดชื่น ความอึดอัดหายใจไม่ออกที่บีบรัดหน้าอกของนางคล้ายว่ามลายหายไปไม่น้อย
ทุกคราที่นางได้ยินคนอื่นพูดคำสองคำที่ว่า ‘ถอนหมั้น’ โทสะของนางพลันพุ่งทะลุยอดนภา เป็องค์รัชทายาทสารเลวแสนเ็าผู้นั้นสามารถถอนหมั้นนางได้หรือ? เห็นได้ชัดว่าเป็นางเองที่มีคนในใจแล้ว และไม่ประสงค์จะแต่งให้เขา ดังนั้นคนทั่วไปก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริง
ฮวาเหยียนไม่ได้สะกิดใจแม้เพียงนิด ว่าขณะนี้นางสวมบทบาทของมู่อันเหยียนแห่งตระกูลมู่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
...
“น้องหญิง เมื่อครู่เ้าไม่ควรพูดเช่นนั้น หากเื่ถึงหูฮ่องเต้หรือองค์รัชทายาทคงไม่ดีนัก”
หลังออกจากโรงน้ำชา คิ้วที่ขมวดกันแน่นของมู่เสวียนเย่ยังคงไม่คลายออก น้องสาวของเขายิ่งโตยิ่งมิสนกฎเกณฑ์ใดๆ
“ไม่เป็ไรหรอกเ้าค่ะ”
ฮวาเหยียนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ในเมื่อนางตั้งใจจะเป็มู่อันเหยียนคนใหม่ ดังนั้นนางจะตรวจสอบเื่ราวที่ผ่านมาเมื่อสี่ปีก่อนให้ชัดเจนทีละน้อย ไม่ต้องกล่าวถึงว่าตอนที่อยู่ในจวนไท่จื่อ เจียงจื่อเฮ่าออกปากด้วยตนเองว่า แม้มู่อันเหยียนจะมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์รัชทายาท ทว่าที่แท้แล้วนางกลับมิได้มีใจให้เขาเลยสักนิด ดังนั้นก่อนที่จะเกิดเื่ถอนหมั้น นางจึงเขียนจดหมายถึงตี้หลิงหาน ขอให้เขายกเลิกการหมั้นหมายนี้
ในเมื่อปรากฏเื่นี้ขึ้นมาแล้ว ฝูงชนเองก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้เช่นกัน
กล้าดีอันใดให้นางเป็ผู้ถูกถอดทิ้ง
เห็นได้ชัดว่าตี้หลิงหานต่างหากที่ควรเป็คนที่ถูกดูิ่
“แต่...”
“พอเถิด พี่เย่ไม่จำเป็ต้องกล่าวอันใด ข้าเชื่อว่าในใจของน้องหญิงมู่ย่อมทราบดีเ้าค่ะ”
มู่เสวียนเย่้ากล่าวบางสิ่งต่อ ทว่ากลับถูกมู่เฉิงอินขัดจังหวะขึ้น น้ำเสียงที่นางใช้เปี่ยมด้วยการปกป้องและไว้วางใจ
ฮวาเหยียนประทับใจยิ่ง นี่เป็จุดดีของพี่หญิงมู่ เชื่อมั่นและสนับสนุนนางอย่างไม่มีเงื่อนไข
มู่เสวียนเย่เหลือบมองมู่เฉิงอินอย่างจนใจ สุดท้ายจึงไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาอีก
“พี่หญิงมู่ ท่านกับพี่ใหญ่ของข้า...”
ฮวาเหยียนแย้มยิ้ม แววตาปรากฏความเ้าเล่ห์ และหัวข้อสนทนาครั้งใหม่นี้ทำให้มู่เฉิงอินหน้าแดงก่ำ
เมื่อครู่เป็เพราะการแทรกแซงของฉู่หลิวซวง ดังนั้นนางจึงยังไม่ได้แนะนำตัวอย่างจริงจัง ยามนี้มู่เฉิงอินเกิดความขัดเขินเล็กน้อย ทว่าก็ยังคงมีท่าทีสุภาพ นางแย้มยิ้มให้ฮวาเหยียนก่อนเอ่ยว่า “น้องหญิงมู่ ข้าคือมู่เฉิงอิน เป็คู่หมั้นของ...พี่ชายเ้า”
ดวงตาของฮวาเหยียนเป็ประกาย ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็พัฒนาความสัมพันธ์ได้ถึงระดับคู่หมั้นแล้วหรือ?
เยี่ยม เยี่ยมยอดนัก!
ไม่เลว ไม่เลวเลย!
ตอนนี้ในใจของฮวาเหยียนรู้สึกถึงความสำเร็จเป็พิเศษ นางรู้สึกว่านางทำได้ดียิ่งในการใช้ชื่อมู่เฉิงอินมานัดหมายกับพี่ใหญ่ของนาง
รอยยิ้มของนางถูกแขวนอยู่บนใบหน้า นางกำลังคิดหาโอกาสเปิดเผยตัวตนของนางกับพี่หญิงมู่ และหากหลีกเลี่ยงพี่ชายของนางได้ก็จะเป็การดีที่สุด มิฉะนั้นเขาต้องสั่งสอนบทเรียนกับนางแน่ ทว่าก่อนที่นางจะได้เปิดปาก จู่ๆ ก็มีเสียงหอบะโดังมาจากด้านหลังนาง
“คุณหนู คุณหนู รอหลิงหลงด้วยเ้าค่ะ ท่านลืมหลิงหลงแล้ว”
สาวใช้ตัวเล็กหอบหายใจเหนื่อย ใบหน้ากลมของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ ดูน่าสงสารนัก เมื่อวิ่งมาถึงนางก็ทำหน้ามุ่ยทันที “คุณหนู พอมีสามีแล้วก็ลืมหลิงหลงเลยหรือเ้าคะ จึงทิ้งบ่าวไว้เื้ัเยี่ยงนี้”
น้ำเสียงของหลิงหลงเสียใจเป็อย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้นางถูกฉู่รั่วหลานถีบ เอวของนางเจ็บจนยืนแทบไม่ขึ้น นางวิ่งหลบเข้าไปในห้องเพื่อนั่งพัก ต่อมาเห็นคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ปรากฏตัว ในใจนางก็ตื่นเต้นเป็อย่างยิ่ง แม่นางมู่เป็ผู้ที่คุณหนูของนางชื่นชมอย่างสุดหัวใจ นางจึงปลาบปลื้มยินดีเช่นกัน
ระหว่างนั้นเนื่องจากปวดท้อง นางจึงแวะไปเข้าห้องน้ำ ทว่าพอกลับมาก็ไม่พบคุณหนูแล้ว ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นคุณชายใหญ่และคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ด้วย หลังจากสอบถามจึงรู้ว่าคุณหนูของตนเพิ่งออกไปได้ไม่นาน และทิ้งนางไว้เื้ั
หลิงหลงอยากร้องไห้ทั้งที่ไม่มีน้ำตา นางรีบวิ่งตามออกมาทันที
“ไอ้หยา หลิงหลง ข้าขอโทษ ข้าลืมเ้าแล้วจริงๆ !”
มู่เฉิงอินรีบก้าวมาข้างหน้าเพื่อขอโทษอีกฝ่าย เพราะก่อนนี้มีเื่ให้ประหลาดใจมากเกินไป อย่างแรกคือพี่เย่ บุรุษที่นางหลงรักมีใจชอบนางเช่นกัน ต่อมาก็เห็นว่าสตรีที่เป็ดั่งแบบอย่างในใจของนางปรากฏตัว นางตื่นเต้นยินดีนักจนลืมเื่อื่นไปเสียสนิท
มู่เฉิงอินรู้สึกผิดเล็กน้อย หูของนางแดงก่ำ ไม่บ่อยที่นางจะทำผิดพลาดเช่นนี้ แต่วันนี้เพราะตื่นเต้นเกินไปจริงๆ
เมื่อเห็นท่าทีเขินอายของมู่เฉิงอิน มู่เสวียนเย่รู้ดีว่าเหตุใดนางถึงลืมสาวใช้ของตนเอง ดังนั้นเขาจึงหันศีรษะหนีเพื่อปกปิดรอยยิ้มในดวงตา
“ฮึ่ม...ช่างเถิดๆ หลิงหลงไม่โกรธท่านเ้าค่ะ ทว่าคุณหนูคงมิได้ลืมเื่หนึ่งไปใช่หรือไม่ พวกเรานัดเจอกับแม่นางเหยียนที่ห้องโบตั๋นของโรงน้ำชาซินเยว่ ท่านออกมากับคุณชายมู่เช่นนี้ หากแม่นางเหยียนมาถึงและหาพวกเราไม่พบ จะทำเช่นไรเล่าเ้าคะ?”
คุณหนูของนางหลงมัวเมาในความรัก ทว่านางหาได้มีไม่ นางจึงรีบร้อนกล่าวออกมา
เมื่อหลิงหลงกล่าวเช่นนี้ สมองของมู่เฉิงอินพลันสั่นไหว ยามนั้นจึงนึกขึ้นมาได้ นางตบหน้าผากตนเองด้วยความร้อนรน “์เอ๋ย ์ทรงโปรด! ข้าลืมเื่นี้ไปเสียสนิท เช่นนั้นข้าควรทำเช่นไรดี? ไม่รู้ว่าน้องหญิงเหยียนมาถึงหรือยัง ข้าต้องรีบกลับไปแล้ว”
มู่เฉิงอินลนลานเป็อย่างยิ่ง
ฮวาเหยียนเพียงเหลือบมอง เช่นนี้ไม่ถูกต้อง
นางคือน้องหญิงเหยียน น้องหญิงเหยียนคือนาง และนางก็ยืนอยู่ตรงหน้านี้
“คือว่า พี่หญิงมู่...”
“ไม่ต้องร้อนรนไป เดี๋ยวข้าพาเ้ากลับไปเอง”
ฮวาเหยียนเพิ่งเริ่มเอ่ย ไม่ทันไรก็เห็นฝ่ามือกว้างของพี่ใหญ่กดบนบ่าของมู่เฉิงอินเบาๆ เพื่อปลอบโยนนาง
“พี่เย่ ข้าลืมบอกท่าน แท้จริงแล้ววันนี้ตอนเช้าข้ามีนัดกับน้องหญิงเหยียนที่ห้องโบตั๋นของโรงน้ำชาซินเยว่ สุดท้ายกลับได้พบท่าน...ข้าจึงโยนเื่นี้ทิ้ง ลืมจนสิ้น ข้าต้องรีบกลับไปแล้วเ้าค่ะ”
มู่เฉิงอินกล่าวอย่างเร่งรีบ
แต่ทันทีที่สิ้นคำ มู่เสวียนเย่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ฮวาเหยียนลอบกรีดร้องในใจว่าซวยแล้ว
จบเห่แล้ว ความแตกแล้ว!
ในเวลาต่อมามู่เสวียนเย่ก็เปิดปากกล่าวว่า “อินอิน เมื่อเช้าเ้ามีนัดกับคนอื่นในห้องดอกโบตั๋นหรือ?”
“ใช่สิเ้าคะ นางเป็สหายที่ดีของข้าคนหนึ่ง นางทั้งเคยช่วยชีวิตข้าและช่วยเหลือข้าอยู่หลายครา พวกเรานัดเจอกันวันนี้เ้าค่ะ”
มู่เฉิงอินไม่ได้สังเกตเห็นความสงสัยในคำพูดของมู่เสวียนเย่ นางจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อนั้นสายตาของมู่เสวียนเย่จึงลอยหล่นลงบนร่างของฮวาเหยียน ฮวาเหยียนฉลาดเฉลียว นางยิ้มยิงฟันให้มู่เสวียนเย่ ก่อนมองซ้ายทีขวาทีเพื่อดูว่ามีทางหนีทีไล่หรือไม่ ยามนี้ควรหนีก่อนเป็ดี
พี่ชายคนโตของนางฉลาดเป็อย่างยิ่ง เขาต้องเดาออกแน่ว่าเกิดเื่อันใดขึ้น
“ไม่ต้องกลับไปแล้ว”
มู่เสวียนเย่กล่าว
“ไม่ได้เ้าค่ะ พี่เย่ พวกเรานัดกันไว้แล้ว ข้ามิอาจผิดนัดได้เ้าค่ะ”
มู่เฉิงอินพูด นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อว่า “หรือไม่เช่นนั้น พี่เย่ก็ไปกับข้าเถิด น้องหญิงเหยียนของข้ารู้เื่ระหว่างท่านกับข้า เราไปพบหน้านางครานี้ จะได้บอกนางว่าพวกเราสานสัมพันธ์กันแล้วเ้าค่ะ”
มู่เฉิงอินยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าความคิดนี้ดีนัก จึงปรากฏร่องรอยของความคาดหวังในดวงตานาง
ครู่ต่อมากลับเห็นมู่เสวียนเย่ส่ายหัว “ไม่จำเป็หรอก”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้