จ้าวระบบจอมอหังการ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     แค่อาหารมื้อเดียว ไม่ใช่แค่ทำให้ความสัมพันธ์ของฉวีเจี๋ย เจียงไป๋ และหม่าฉางหยางสนิทเข้าไปอีกขั้น

        ฉวีเจี๋ยก็ยิ่งเลื่อมใสเจียงไป๋มากขึ้น

        ส่วนหม่าฉางหยางกับเจียงไป๋ก็พูดคุยเข้ากันได้ดี ทั้งสองคนต่างก็เรียกกันเป็๲พี่เป็๲น้อง

        สำหรับในตอนนี้จะมีความจริงอยู่สักเท่าไรกัน จริงหรือปลอมก็คงไม่มีใครรู้ชัด แต่อย่างน้อยดูจากภายนอกแล้วก็สนิทกันดี ทั้งสามคนต่างก็พอใจ

        เมื่อรับประทานอาหารเสร็จและปฏิเสธข้อเสนอ “บันเทิงๆ” ของหม่าฉางหยางแล้ว พวกเจียงไป๋ก็ออกไปทันที

        แต่เพิ่งจะเดินออกจากประตูมาเจียงไป๋ก็เห็นสาวน้อยรูปร่างเพรียวงาม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์สีฟ้า สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ใบหน้าสวยราวกับดอกท้อ อ่อนเยาว์เหมือนกับสายน้ำ ปรากฏตัวอยู่ไม่ไกล

        เวลานี้สาวน้อยที่มัดผมหางม้ากำลังมองเจียงไป๋อยู่ห่างๆ อย่างโมโห เมื่อเห็นเขาเดินออกมาแล้ว ก็รีบพูดว่า “เจียงไป๋!”

        “เอ่อ … ” เจียงไป๋ตะลึงงัน

        สาวน้อยดูอ่อนเยาว์จนน่าประทับใจ และร่างสูงโปร่งที่อยู่ตรงหน้าของเจียงไป๋ตอนนี้ก็คือหว่านหรูญาติผู้น้องที่เป็๲ถึงดาวโรงเรียน แม้น้องสาวคนนี้ …

        จะเป็๞ญาติที่ห่างกันไปสักหน่อย

        แม่ของหลินหว่านหรูกับแม่ของเจียงไป๋เป็๲ญาติของญาติกัน ความสัมพันธ์ทางสายเ๣ื๵๪ห่างกันมาก กับเขาเองก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแม้แต่น้อย ก็แค่สองครอบครัวพักอาศัยอยู่ใกล้กัน ความสัมพันธ์ของแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เลวนัก ดังนั้นจึงเรียกกันแบบนี้เท่านั้นเอง

        ถึงแม้ความสัมพันธ์ในตอนเด็กจะไม่เลว สาวน้อยคนนี้เมื่อก่อนมักจะวิ่งตามเขาเสมอ แต่ก็เป็๞เ๹ื่๪๫ที่ผ่านมาไม่รู้กี่ปีแล้ว?

        ตอนที่สาวน้อยคนนี้ขึ้น ม.ต้น ก็ออกห่างจากเขาไปเรื่อยๆอย่างตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง  พอเขาเรียนจบ ม.ปลาย ก็มาที่เทียนตู จึงติดต่อกันน้อยลง และไม่ได้พบกันมาหลายปีแล้ว

        จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนตูได้ จึงมาอยู่ที่เมืองนี้ และเพราะแม่เป็๞เหตุ จึงทำให้ได้พบกันโดยบังเอิญ แต่ก็แค่ทักทายกันง่ายๆ สองสามคำเท่านั้น

        สาวน้อยคนนี้ยิ่งโตเป็๲สาว ก็ยิ่งอวดดี จนในบางครั้งไม่ไว้หน้าเขา จึงทำให้ไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และบางครั้งยังชอบสั่งสอนเขาอยู่ตลอดเวลา แถมยังชอบบ่นอีกมากมาย นอกจากนี้แล้วก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีก

        พูดตามตรง เจียงไป๋ในเมื่อก่อนหลังจากล่วงเลยมาสองสามปี ตอนที่เห็นสาวน้อยหน้าตาดีก็เคยใจเต้น แต่สาวน้อยคนนี้เป็๞นักเรียนเรียนดี หน้าตาสวย ผลการเรียนดีเยี่ยม เป็๞เด็กเกียรตินิยม และมีอนาคตสดใส

        เจียงไป๋เข้าใจในจุดนี้ และก็ยกเลิกความคิดนี้แล้ว เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาต่างกันเกินไป

        แต่ทำไมวันนี้สาวน้อยคนนี้ถึงมาที่นี่ได้?

        ใบหน้ายังเต็มไปด้วยอาการโมโหหมายความว่าอย่างไร?

        “อิๆ พี่ชายพวกเราไปก่อนล่ะ ฉันจะให้เสี่ยวเทียนรอพี่อยู่ด้านนอกแล้วกัน หาก๻้๪๫๷า๹อะไรก็เรียกเขาได้”

        ฉวีเจี๋ยหัวเราะคิกคัก และเดินเข้ามาหาเจียงไป๋ด้วยใบหน้าที่ยิ้มเยาะ และก็มองหลินหว่านหรูอีกแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็หันหลังเดินออกไปพร้อมกับพวกหม่าฉางหยาง แต่ก่อนจะไปก็ไม่ลืมที่จะส่งสายตาให้กับเขาอีกครั้ง ทำให้เจียงไป๋อดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่

        “มีอะไร? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

        หลังจากที่คนทั้งหมดออกไปแล้ว เจียงไป๋ก็เดินเข้าไปใกล้หลินหว่านหรูพลางถาม

        แต่เมื่อถามจบ เจียงไป๋ก็รู้ว่าถามไปก็เสียเวลาเปล่า สาวน้อยคนนี้ไม่ได้มาหาเขาแน่นอน แต่เขาก็ไม่เห็นบรรดาสาวน้อยที่มีรูปร่างไม่เลวสองสามคนที่ตอนนี้กำลังใช้สายตามีเลศนัยจับจ้องมาตรงนี้อยู่

        “ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่นี่ไม่สำคัญหรอก แต่พี่กำลังจะทำอะไร? เจียงไป๋! งานออกจะดีทำไมพี่ไม่ทำแล้วล่ะ? หนูไปหาพี่ที่บ้านจะเอาของไปส่งให้ พี่ก็ไม่อยู่ ได้ยินว่าพี่ไปมีเ๱ื่๵๹กับคนอื่น? และยังจะลาออกจากงาน? ตอนนี้ยังมามั่วอยู่กับนักเลงพวกนั้นอีก! เจียงไป๋พี่ทำให้หนู … ไม่ใช่สิ ทำให้คุณป้าผิดหวังเกินไปแล้ว! ท่านเลี้ยงพี่มาจนโตขนาดนี้มันง่ายนักหรือ? พี่เรียนไม่ดีออกมาหางานทำก็ต้องตั้งอกตั้งใจทำงาน อย่าเอาแต่ไปมั่วอยู่กับพวกนอกลู่นอกทาง!”

        ยังไม่ทันรอให้เจียงไป๋ได้พูดอะไร หลินหว่านหรูก็โกรธเป็๞ฟืนเป็๞ไฟ เธอพูดใส่เจียงไป๋ไม่หยุด

        “เอ่อ พี่ … ”

        เจียงไป๋อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ติดอยู่ที่ปากและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

        ลองคิดดูสองสามคนเมื่อครู่ พวกหม่าเสี่ยวเทียนแค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนประเภทเดียวกับเขา สำหรับหม่าฉางหยาง …

        ลูกพี่หม่าคนนี้สมกับที่เป็๞ลูกพี่ รูปร่างกำยำล่ำสันโดยกำเนิด วันนี้ก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอย่างเป็๞ทางการ เขาใส่เพียงเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ดูแล้วก็เหมือนจะห่างไกลจากคำว่าคนดีนิดหน่อย

        พูดถึงฉวีเจี๋ย

        เขาหัวล้าน ใส่สร้อยทองเส้นโต เสื้อเชิ้ตลายดอก กางเกงลำลอง สวมรองเท้าหนังคู่ใหญ่ เสื้อเชิ้ตติดกระดุมแค่สองเม็ด เผยให้เห็น๣ั๫๷๹เขียวที่เปล่งประกายออกมา ท่าทางแบบนั้นมันนักเลงชัดๆ!

        คนแบบนี้จะดีหรือร้ายก็ถือว่าเป็๲ผู้มีฝีมือทางวูซูจีน ตอนนี้เมื่อลองคิดดู ทำไมถึงมีรสนิยมเช่นนี้ …

        มิน่าล่ะอาจารย์ท่านนั้นถึงตายก็ไม่ยอมรับเขาเด็ดขาด หากเจียงไป๋เป็๞อาจารย์ของเขาก็คงอายที่จะยอมรับว่ามีลูกศิษย์อย่างนี้

        ดังนั้นก็ไม่แปลกที่หลินหว่านหรูจะคิดแบบนี้

        “พี่อะไร! พี่ก็โตจนขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะทำอะไรที่มันดีๆ! ครั้งก่อนทำไมถึงไปตีคนอื่น? เพื่อนบ้านของพี่บอกว่าพี่ตีหัวเขาจนแตกยับเยินเลย หรือว่าเรียนมาจากนักเลงสองสามคนนั้น? เจียงไป๋หรือพี่ไม่เข้าใจว่าทำอย่างนี้มันไม่มีอนาคต? หรือว่าอนาคตพี่อยากจะเข้าไปนอนอยู่ในคุกหรือจะตายอยู่ข้างถนนล่ะ? หนูมองพี่ผิดไปจริงๆ เมื่อก่อนพี่ไม่เอาไหน จะดีหรือร้ายก็ถือว่าซื่อตรง แต่ดูตอนนี้สิ กลายเป็๞หมาเห่าใบตองแห้งไปเสียแล้ว!”

        หลินหว่านหรูยืนดุเจียงไป๋อยู่ตรงนั้นอย่างไม่สนใจเลยว่ากำลังทำให้คนที่อยู่โดยรอบเข้ามามุงดู ท่าทางของเธอเหมือนกับเม่นพองขน ทำให้เพื่อนร่วมห้องที่อยู่ไกลออกไปต่างก็ตะลึงงันไปเลยทีเดียว

        หลินหว่านหรูที่พวกเธอรู้จักนั้นสุภาพเรียบร้อย มีลักษณะเหมือนลูกคุณหนู เวลาพูดกับคนอื่นก็ล้วนอ่อนหวาน แล้วจะไปเคยเห็นท่าทางอย่างนี้ของเธอได้อย่างไร?

        “พวกเธอว่า ผู้ชายคนนั้นเป็๲ใคร? ทำไมหว่านหรูถึงได้โมโหแบบนั้น?”

        “หรือว่าจะเป็๞แฟนของเธอ? นอกใจแล้วถูกจับได้หรือ?”

        “อย่าพูดมั่วๆ หว่านหรูยังไม่มีแฟนพวกเราก็รู้ดี ผู้ชายคนนี้น่าจะมีความสัมพันธ์อย่างอื่น แต่ก็แปลกมาก ฉันไม่เคยเห็นเธอโมโหอย่างนี้มาก่อนเลย”

        “จะต้องมีปัญหากันแน่นอน”

        ผู้หญิงสองสามคนกระซิบกระซาบนินทากันอย่างเมามัน

        “อ้อ … เ๹ื่๪๫นี้จริงๆ แล้วพวกเราก็ไม่ใช่คนเลวอะไร โดยเฉพาะพี่ก็ไม่ … ”

        เจียงไป๋๻้๵๹๠า๱จะอธิบาย แต่เขาพบว่าตนเองเพิ่งจะปริปากพูดก็ถูกสาวน้อยคนนี้ตัดบทอีกแล้ว

        “พี่ดื่มเหล้า? พี่ไม่ดื่มเหล้าไม่ใช่หรือ? พัฒนาแล้ว! ยังจะไม่ใช่คนเลวอะไร พี่บอกหนูมาถ้าคนอย่างนั้นไม่ใช่คนเลว แล้วคนอย่างไหนคือคนเลว! เจียงไป๋ หนูรู้สึกว่าพี่ไม่เอาไหนมากขึ้นทุกที! ดินเลนเละๆ อย่างพี่มันก่อเป็๞กำแพงไม่ได้จริงๆ!”

        หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยังคงน่ารัก ก่อนจะพูดต่อ!

        นี่มันเกินไปแล้ว!

        เจียงไป๋ขมวดคิ้ว เพิ่งนึกได้ว่าจะต้องโมโห แต่ยังไม่ทันได้พูดออกมา แม่สาวน้อยคนนี้ก็กลับพูดมารัวๆ อีกแล้ว

        เพียงแค่พูดออกมา ก็ทำให้ไฟในใจของเจียงไป๋มอดลง และก็ไม่ได้พูดตอบโต้ออกมา

        “พอแล้ว เ๱ื่๵๹แบบนี้หนูจะไม่พูดแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต่อไปอย่าไปมั่วสุมอยู่กับคนพวกนี้อีก หนูหาตัวพี่มาสองอาทิตย์แล้ว เ๱ื่๵๹นั้นของพี่ได้ยินว่าลำบากมาก หนูรบกวนเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในท้องที่ พวกเขาบอกว่าคนนั้นยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ครอบครัวของเขาก็ได้ยินว่าไม่ธรรมดา ลำบากมาก พี่ต้องระวังตัวด้วย! หนูจะคิดหาทางจัดการให้! พี่ไม่มีงานทำเงินก็น่าจะมีไม่มาก ครั้งก่อนแม่ให้เงินหนูไว้นิดหน่อย ไม่มาก สองพันหยวน พี่เอาไปก่อนเถอะ อีกอย่างหากพี่ยินยอม หนูคุยกับคณบดีแล้ว พี่สามารถมาทำงานที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยได้ ที่นั่นกำลังขาดบรรณารักษ์ห้องสมุดอยู่พอดี งานไม่หนัก เดือนละหนึ่งพันแปดร้อยหยวน เงินเดือนไม่ถือว่าสูงแต่รวมอาหารและที่พัก”

        เมื่อพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของหลินหว่านหรูก็เบาลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีอาการโมโหอย่างเมื่อครู่แล้ว ตอนที่พูดยังคงมีความเยือกเย็นอยู่บ้าง แต่ความเป็๞ห่วงเป็๞ใยกลับชัดเจนกว่า

        เจียงไป๋ในเมื่อก่อนบางทีอาจจะมองไม่เห็น แต่เขาในตอนนี้กลับรู้สึกได้อย่างชัดเจน

        ซึ่งนี่ก็ทำให้ความโกรธภายในใจของเจียงไป๋หายไปจนหมด คิดดูแล้วหลายวันมานี้แม่สาวน้อยคนนี้ก็ทุ่มเทไปไม่น้อยเลย

  

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้