บทที่ 28 พบสาวงามบนสนามรบ
ลั่วถูเพิ่งจะนอนลงในหลุมได้ไม่ทันไร กลับรู้สึกว่าข้างกายของเขามีเสียงฝีเท้าก้าวเข้าหาอย่างเร่งรีบดังขึ้น ในใจของเขาตื่นตระหนกทันที ทหารม้าสองกองนั้นไม่น่ามาถึงหุบเขานี้เร็วขนาดนี้กระมัง ในใจยังคงคิดไม่ตก แรงกดทับบนร่างพลันเบาลง ศพที่ทับอยู่บนร่างของเขาถูกดึงออกไป
“ไอ้เวร...” ลั่วถูสบถในใจออกมาคำหนึ่ง หน้าไม้แข็งแกร่งในมือยกขึ้นเล็งขึ้นฟ้าอย่างช่วยไม่ได้ จังหวะนั้นเองที่ราวกับทั้งหุบเขาเงียบกริบในทันที
ลั่วถูมองเห็นใบหน้าแดงก่ำของคนผู้หนึ่ง หรือจะเรียกว่าเต็มไปด้วยเืก็ไม่ผิดนัก สายตาที่ลึกซึ้งคู่หนึ่งแฝงไว้ซึ่งความตื่นกลัวและความประหม่า ลั่วถูไม่ได้ยิงลูกศรในมือออกไป เพราะเขารู้สึกว่าคนที่เขามองอยู่ตรงหน้านี้ยังเยาว์วัยต่างจากเขาไม่มากและไม่ได้มีเจตนาร้าย
“เ้าเป็ใคร...” ลั่วถูถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“จะ... เจียงิ่!” ในเสียงอ่อนเยาว์นั้นเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง ดูคล้ายกลัวว่าหน้าไม้ในมือของลั่วถูอาจยิงใส่ หรือเพราะบนหน้าไม้มีลูกศรที่เย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งกำลังจ่ออกเขาอยู่ ทำให้หายใจไม่คล่องเท่าไรนัก
“เ้าคิดจะทำอะไร?” ลั่วถูแปลกใจเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนเยาว์นั้นแฝงไปด้วยความอ่อนหวานอยู่หลายส่วน เขาไม่ชอบผู้ชายเช่นนี้เลย ดูคล้ายกับสตรีเกินไป
“ขะข้าแค่หาที่กะ...แกล้ง...แกล้งตาย! ขะข้าไม่ได้ตั้งใจจะลากเขาออกไป พะเพียงแต่คิดว่าแกล้งตายตรงนี้ค่อนข้างลับตาคน คนพวกนั้นคงหาไม่เจอ... ” เจียงิ่ตอบกลับไปอย่างอับอาย ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมลั่วถูถึงมานอนอยู่ตรงนี้ ความรู้สึกที่มีคนมาแกล้งตายก่อนเขาก้าวหนึ่ง แต่ตัวเขากลับลากเครื่องอำพรางกายของอีกฝ่ายออก ไม่แปลกที่ฝ่ายตรงข้ามจะเกือบยิงเขาตาย
ลั่วถูรู้สึกอึดอัดในทันที นี่มันเื่อะไรกัน ถึงกับมีคนคิดจะแกล้งตายเหมือนกัน แถมยังมีสายตาที่เหมือนกันอีกด้วย แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว เสียงม้าเข้าใกล้ขึ้นทุกที เกรงว่าอีกไม่นานคงเข้าสู่หุบเขาแห่งนี้แน่ เขาได้แต่กล่าวอย่างไม่ชอบใจนักและไร้ทางเลือก “เ้าฟังข้าให้ดีล่ะ รีบหมอบลงเร็วเข้า อีกเดี๋ยวห้ามขยับตัวนะ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายกันหมด!” ลั่วถูดึงเจียงิ่มานอนในหลุมด้วยกัน หลังจากนั้นดึงศพหลายศพมาบังร่างของทั้งสองคนอีกรอบ การทำเช่นนี้ทำให้พื้นที่ที่มีแคบลงไปอีก เมื่อคิดว่าต้องมานอนเบียดกับคนแปลกหน้า ลั่วถูก็รู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว ทว่าในเวลานี้เขาก็ไม่กล้าปล่อยเจียงิ่ไป หากอีกฝ่ายเปิดเผยที่ซ่อนของเขา ก็มีแต่ตายสถานเดียว หรือต้องสังหารอีกฝ่ายเสีย ถึงจะเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่เขากลับรู้สึกไม่อยากลงมือ เพียงแค่เพราะเจียงิ่กับมีความคิดเหมือนกันกับเขา ก็เกิดความรู้สึกคล้ายวีรบุรุษเสียดายวีรบุรุษ แน่นอนว่าเป็วีรบุรุษแห่งการแกล้งตาย แสร้งว่ามีประสบการณ์จนได้เป็วีรบุรุษ
เจียงิ่เบียดอยู่กับลั่วถู ร่างกายสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม ไม่รู้ว่าเป็เพราะหน้าไม้ของลั่วถูกำลังเล็งมาที่เขาหรือเปล่า หรือกลัวจนสั่น หรือว่าเพราะสาเหตุอื่นกันแน่
“บัดซบ เ้าจะสั่นอะไรนักหนา ถ้าเ้ายังเอาแต่สั่นแบบนี้แล้วขาพลั้งมือยิงเ้าตายไป เ้าก็ตายเปล่าแล้วกัน” ลั่วถูขมวดคิ้วพลางด่าเสียงต่ำ ในเวลานี้เขาได้ยินเสียงใกล้เข้ามาแล้ว ทำให้เขาไม่กล้าเอ็ดเสียงดังนัก
“จะ เ้าเอามันออกไปไม่ได้หรือ? ถ้าหากพลั้งมือขึ้นมา... ”
“ถ้าข้าเอาออกแล้วเ้าทำแผนข้าพังละ เช่นนั้นข้าไม่ตายหรือ... ใครจะไปรู้ว่าเ้าอาจเป็พวกเดียวกับพวกนั้นก็ได้...” ลั่วถูกล่าวอย่างโมโห จะแกล้งตายดีๆ ยังมีคนมาแข่งอีก นี่มันอะไรกันนักหนา...
“ขะ... ข้าไม่ใช่พวกเดียวกับพวกนั้น ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็ใคร เพียงแต่ได้ยินว่าไม่กี่วันก่อนที่นี่มีการา เลยตั้งใจมาหาสมบัติ แต่สุดท้ายกลับมีคนเยอะขนาดนี้ เลยคิดจะหลบสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าเ้าจะมาก่อนแล้ว... ” เจียงิ่กล่าวอย่างหดหู่
ตอนนี้ลั่วถูเริ่มลังเลแล้ว มองฝ่ายตรงข้ามที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับตน อีกทั้งลมปราณก็สู้ไม่แข็งแกร่งนัก น่าจะยังเปิดิญญาไม่สำเร็จ แน่นอนว่าไม่ใช่นักรบ คิดไปคิดมาจึงกล่าวอย่างโเี้ว่า “ข้าขอเตือนเ้าไว้อย่าง ข้าเก็บหน้าไม้ก็ได้ แต่ถ้าเ้ากล้าขยับตัวมั่วซั่ว ข้ามีร้อยวิธีสังหารเ้าทิ้งเสีย ก่อนที่ข้าจะถูกคนพวกนั้นสังหาร!”
“เ้าวางใจได้ ข้ารับปากจะไม่ขยับ... ” เจียงิ่ตอบกลับอย่างมั่นใจ ลั่วถูเก็บหน้าไม้ไปอย่างระมัดระวัง แต่ในมือของเขากลับมีมีดสั้นเล่มหนึ่งเข้ามาแทนที่ ขอแค่เจียงิ่ขยับตัวแม้แต่ปลายนิ้ว มีดสั้นของเขาต้องแทงไปที่หัวใจของอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด ปัญหาความปลอดภัยของตัวเขาเอง ลั่วถูไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเขาจะใช้เพลิงนรกต้นกำเนิดก็ได้ เผาเ้าเด็กตรงหน้าให้เป็เถ้าถ่านเสีย แต่นั่นเป็เพียงตัวเลือกสุดท้ายเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าหน้าไม้ถูกเอาออกไปแล้ว เจียงิ่ก็รู้สึกดีขึ้นมาก เพียงแต่ร่างกายกลับคุดคู้อย่างไม่เป็ธรรมชาติ
“ทำอะไร ข้าบอกว่าอย่าขยับ... ”
“คัน... ”
“คันก็ไม่ตายหรอก! ทนหน่อย... ไม่อย่างนั้นข้าแทงเ้าตายอย่ามาโทษข้านะ... ”
“เ้าอ่อนโยนกว่านี้ไม่ได้หรือ?”
“ถุย... คุณชายเช่นข้าอ่อนโยนมากเกินพอแล้ว อย่าทำให้ข้าโกรธ ไม่เช่นนั้นข้าจะโหดร้ายให้เ้าดู... เป็บุรุษแท้ๆ แต่กลับอยากให้ข้าอ่อนโยน ฟังแล้วขยะแขยง เ้าคิดว่าเ้าเป็พวกสตรีหรือ... ”
“ขะ ข้า เ้าก็คิดเสียว่าข้าเป็สตรีไม่ได้หรือ...”
“ไอ้บัดซบ นี่เ้ายังน่าขยะแขยงกว่านี้ได้อีกหรือ? เป็สตรีมารดาเ้าเถอะ เดี๋ยวข้าจะตัดท่อนล่างของเ้าสะ... ”
“อ๊ะ... ”
“ชู่ว... ” ลั่วถูอับอายสุดชีวิต แต่ยังคงเอามือปิดปากของเจียงิ่ไว้ เหงื่อแตกพลั่กเต็มศีรษะ
“จะ... เ้า อันธพาล... ”
“นะนี่ข้าไม่ได้ตั้งใจ... ขะข้านึกว่าเ้าเป็บุรุษ คะ... ใครจะไปรู้ว่า จะ... เ้าจะไม่มีไอ้นั่น... ” ลั่วถูอยากทุบความวู่วามของตัวเองเสียเหลือเกิน เมื่อครู่เขาทำบ้าอะไรลงไป ทำไมถึงเอามือไปจับส่วนนั้นแล้วยังจะดึงอีก แต่นี่มันใช่ความผิดเขาฝ่ายเดียวหรือ? ใครจะไปคิดว่าเ้าหมอนี่จะแกล้งแต่งตัวเป็ผู้ชายกัน ตัวเขาเพียงขยะแขยงเสียจนคิดจะขู่เจียงิ่ ด้วยการตัดส่วนนั้นทิ้ง ทำให้เขาเป็สตรีจริงๆ อย่างที่พูดเสีย ทว่ามีฟ้าเท่านั้นที่รู้ เ้านี่กลับไม่มีสิ่งนั้น...
“ข้ากับเ้าต้องตายกันไปข้าง... ” เจียงิ่ราวกับโกรธขึ้นมาแล้ว ไม่สนใจว่าด้านนอกจะเป็ทหารม้าทัพใหญ่กำลังเปิดศึกอย่างเอาเป็เอาตาย ไม่สนใจมีดในมือของลั่วถู หมุนตัวมาคิดจะสู้กับลั่วถูให้รู้ผลกันไปข้าง
“ใจเย็นๆ ก่อน... ให้ตายเถอะ เ้าอยากตายนักหรือ... ” ลั่วถูเองก็ร้อนรน ถ้าจู่ๆ เจียงิ่เกิดขาดสติขึ้นมา นั่นไม่ใช่จะทำให้ตำแหน่งที่ซ่อนของพวกเขาถูกเปิดเผยหรอกหรือ ใครจะไปรู้ว่าพวกด้านนอกเป็ใคร ถึงเวลาเกิดพวกนั้นอยากฆ่ามดปลวกทิ้งสักตัวสองตัว เช่นนั้นพวกตนก็ตายเปล่าแล้ว
“โอ๊ย เ้ากัดข้า... นี่เ้าเป็หมาหรือ...” ลั่วถูใการตอบโต้ของเจียงิ่แทบตาย ขณะที่เจียงิ่พลิกตัวคิดจะสู้สุดชีวิตกับเขา ทันใดนั้นเขาก็กอดอีกฝ่ายไว้หวังจะทำให้นางสงบลง ทว่าพอกอดจนทำให้เจียงิ่ขยับไม่ได้ ที่ไหล่ของเขากลับถูกกัดอย่างโหดร้ายเข้าคำหนึ่ง กัดเสียจนเนื้อเขาแทบหลุด
“ข้า... ข้าจะกัดอันธพาลอย่างเ้า เ้าคนสารเลว... เ้าคนไร้ยางอาย... ” เจียงิ่สูดลมหายใจเฮือกใหญ่และกล่าวออกมาด้วยความโกรธ เพียงแต่ตอนนี้เสียงของนางไม่ดังมากนัก แม้ลั่วถูจะกอดนางอย่างโหดร้าย แต่นางยังคงตั้งสติได้และมีเหตุผลพอ เหนือหัวของพวกเขายังมีกลุ่มทหารปะทะกันอยู่ ถึงในใจของนางจะโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ ทว่านางยังไม่อยากตาย ดังนั้นถึงจะโกรธ แต่เสียงพูดกลับเบาลงมาก มีเพียงหน้าอกที่กระเพื่อมรุนแรงทำให้ลั่วถูรู้ว่าเจียงิ่โกรธถึงขีดสุดเข้าแล้ว ในเวลาแบบนี้เขาไม่กล้าหาเื่นางแล้ว ทว่าตอนนี้เขายังคงกอดอีกฝ่ายไว้แน่น เนินอกนุ่มนวลที่แนบชิดกายเขาทำให้เขาอับอายยิ่งกว่าเดิม...
คิ้วของเจียงิ่ทั้งขมวดมุ่นทั้งยกสูงขึ้นทุกทีด้วยความไม่พอใจ ลั่วถูััได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ สตรีผู้คนนี้กำลังจะะเิความโกรธ บางทีคงเป็เพราะรู้สึกได้ถึงการตอบสนองที่รุนแรงของเขา เขาได้แต่รีบพูดขึ้นอย่างจนปัญญา “อะ...เอาอย่างนี้ เ้าลงมากก่อนแล้วกัน พวกเราพักกันสักหน่อย... ”
ทันใดนั้นลั่วถูก็รู้สึกได้ว่าคำพูดของตัวเขาเองช่างไร้สาระสิ้นดี พักสักหน่อยอะไรกัน แต่คำพูดของเขากลับทำให้อารมณ์ที่กำลังจะปะทุของเจียงิ่สงบลงได้บ้าง นางลงจากร่างของลั่วถูหลบไปด้านอย่างไม่พอใจนัก แถมยังกัดลงแขนลั่วถูคำหนึ่งอีกต่างหาก แต่ครั้งนี้เจียงิ่กลับต้องเป็ฝ่ายร้องออกมา นางรู้สึกได้ว่าฟันของนางกัดลงไปโดนเหล็กชั้นสูงก้อนหนึ่ง ทำเอาฟันเกือบหักไปหลายซี่เสียแล้ว
ลั่วถูเริ่มอึดอัดอีกครั้ง คนผู้นี้คงเกิดปีจอจริงๆ แต่ครั้งนี้คนเสียหายไม่ใช่เขา แต่เป็เจียงิ่ เพราะแขนของเขามีเกราะป้องกันสวมอยู่ ยังดีที่ครั้งนี้เจียงิ่ไม่ได้เอาจริง ถ้ากัดอย่างเอาเป็เอาตายละก็ ป่านนี้ฟันที่อยู่เต็มปากคงเหลือไม่กี่ซี่ แต่ตอนนี้ ก็แค่เจ็บฟันนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“ฮ่ะฮ่ะ...” ลั่วถูหัวเราะแห้งๆ ครั้งหนึ่ง และไม่ได้แสดงท่าทีอะไร
“เ้า... เ้าคนโรคจิต!” ในที่สุดเจียงิ่ก็โกรธจนต้องด่าออกมาคำหนึ่งจนได้
“เ้าบอกว่าเ้าเป็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมถึงมาบนสนามรบลำพังแบบนี้ แถมยังแต่งตัวเป็ผู้ชายอีก ใครจะไปรู้ว่าเ้าเป็สตรี ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ... ”
“เ้าไม่มีสิทธิ์พูด!” คิ้วของเจียงิ่เลิกสูงขึ้น ราวกับว่ากำลังจะะเิอารมณ์อีกรอบ
“ไม่พูดก็ไม่พูด จริงสิ แล้วเ้าเป็คนเผ่ามนุษย์หรือเผ่าไหน?” ลั่วถูคิดว่าพวกเขาสองคนที่นอนอยู่ในหลุมนี้ ด้านนอกมีแต่เสียงะโเสียงฆ่าฟัน อย่างกับว่ามีแต่ต้องรอไปทั้งอย่างนี้ แถมยังตื่นตระหนกขึ้นเรื่อยๆ จนอดไม่ได้ที่จะคิดหาบทสนทนาแก้ขัด
“ข้าเป็เผ่าิญญา... ” เจียงิ่คิดอยู่ชั่วครู่แต่แล้วก็ไม่ได้ปิดบัง ในความเป็จริงระหว่างเผ่ามนุษย์ เผ่าิญญาและเผ่าเร้นลับมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันมาก เพียงแต่เพราะสายเืทำให้คนเผ่าิญญามีรูปโฉมที่งดงามกว่า พร์ก็สูงส่งกว่า แน่นอนว่า จำนวนของเผ่าิญญาก็มีน้อยกว่าเช่นกัน พวกเขาส่วนมากมักรวมตัวกันอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแผ่นดินต้นกำเนิด ในป่าทะเลิญญา ติดกับชายแดนเผ่ามนุษย์ ดังนั้นจึงค่อนข้างให้ความร่วมมือกับมนุษย์ค่อนข้างดีทีเดียว
“เ้าชื่ออะไร... ”
“นี่เ้า... เ้าคงไม่ใช่คิดจะจำชื่อข้า แล้วมาแก้แค้นทีหลังหรอกนะ... ” ลั่วถูถามด้วยความกังวล
“เ้า... มันไร้ยางอาย... ” ใบหน้าของเจียงิ่กลายเป็สีแดงทันที ลมหายใจหอบถี่ ใจที่เคยสงบลงราวกับเริ่มปะทุขึ้นอีกแล้ว
“นี่ เ้าใจเย็นก่อน ข้าชื่อลั่วถู... เป็เผ่ามนุษย์ ถ้าเ้าจะแก้แค้นจริงๆ เช่นนั้นข้าก็ทำอะไรไม่ได้ ข้ายอมรับชะตากรรม...ก็ใครใช้ให้ข้ามือบอน... ”
“เ้า... เ้าหุบปากไปเลย ห้ามพูดอีก... ”
“ชู่ว... ” เจียงิ่พูดยังไม่ทันจบ ลั่วถูก็เอามือปิดปากนางแล้ว เจียงิ่ตัวสั่นเล็กน้อย และััได้ถึงเงาหลายร่างที่พุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นรู้สึกว่าพื้นที่บริเวณเหนือหัวกลับมืดลง ราวกับมีคนทับอยู่เหนือร่างพวกเขา ซ้ำยังยืมศพบนหัวพวกเขาทำเป็แนวป้องกันอย่างง่ายอีกต่างหาก...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้