ทั้งคู่ยังคงนั่งที่โต๊ะหลังจากทานอาหารเสร็จ ห่าวเหรินลุกขึ้นและกล่าวว่า "เดี๋ยวผมไปชงชามาให้ มันจะช่วยให้คุณย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น"
ฮั่น หลิงซือส่ายหัวและพูดว่า "ฉันรู้สึกเหมือนจะะเิแล้ว"
ห่าวเหรินยิ้มให้เธอและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นคุณนั่งอยู่ที่นี่ ผมจะจัดการทำความสะอาดเอง"
หลังจากนั้นเขาก็ทำความสะอาดโต๊ะและล้างจานไปด้วยในขณะที่ฮัมเพลงเบา ๆ อยู่ ทันใดนั้น เขาก็เห็นฮั่น หลิงซือยืนอยู่ข้าง ๆ และกำลังเช็ดจานที่เปียกด้วยผ้า
เขารู้สึกประหลาดใจและถามว่า "คุณกำลังทำอะไรอยู่?"
ฮั่น หลิงซือถามกลับว่า "ฉันทำอะไรผิดหรือ?"
ห่าวเหรินส่ายหัวและถามว่า "มิสฮั่น ทำไมคุณถึงมาเช็ดจาน?"
ฮั่น หลิงซือตอบว่า "ฉันแค่คิดว่าปล่อยให้คุณทำงานคนเดียวมันไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่น้อยที่สุดที่ฉันสามารถทำได้"
ชายหนุ่มยิ้มและส่ายหัว เขาไม่ได้พูดอะไรเพราะถึงแม้ภายนอกเขาจะดูเขินอาย แต่ในใจกลับรู้สึกปลื้มปิติ ฮั่น หลิงซือเป็ผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เขาเคยเห็นในชีวิต
เธอสวยขนาดที่แม้แต่ดาราที่แต่งตัวเต็มยศก็ไม่สามารถเทียบกับเธอได้ หลังจากล้างจานเสร็จ เวลาก็ล่วงเข้าสู่สองทุ่มแล้ว
ฮั่น หลิงซือพูดว่า "ห่าวเหริน นี่เป็อาหารที่อร่อยที่สุดที่ฉันเคยทาน"
ห่าวเหรินยิ้มตอบกลับโดยไม่พูดอะไรมาก ฮั่น หลิงซือตรวจดูนาฬิกาบนข้อมือของเธอแล้วพูดว่า "ฉันควรจะกลับแล้ว มันค่อนข้างดึกแล้ว"
ชายหนุ่มถามว่า "บ้านของคุณอยู่ไกลจากที่นี่แค่ไหน?"
ฮั่น หลิงซือตอบว่า "ไม่ไกลมาก แค่ไม่กี่กิโลเมตรเอง ฉันมาที่นี่ด้วยรถยนต์ของฉันเอง ดังนั้นมันไม่ใช่เื่ลำบาก"
ห่าวเหรินพยักหน้าและพูดว่า "ให้ผมไปส่งคุณนะครับ"
ฮั่น หลิงซือพยักหน้าและหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมา ทั้งคู่เข้าไปในลิฟต์และหญิงสาวถามว่า "คุณเรียนทำอาหารมาจากที่ไหน?"
ห่าวเหรินตอบคำถามด้วยคำถามว่า "คุณจะเชื่อไหมถ้าผมบอกว่าวันนี้เป็ครั้งแรกที่ผมทำอาหารอร่อยขนาดนี้?"
คำพูดของเขาดูจริงใจแต่ดวงตาของเขากลับมีความขี้เล่น ฮั่น หลิงซือคิดว่าเขาไม่อยากเปิดเผยและกรอกตา จากนั้นเธอก็นึกถึงบางอย่างและถอนหายใจ
ห่าวเหรินถามว่า "มิสฮั่น มีอะไรหรือเปล่าครับ?"
ฮั่น หลิงซือมองเขาและพูดว่า "คุณสามารถกินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้ทุกวันได้ ถ้าฉันกินอะไรแบบนี้บ่อย ๆ ฉันคงอ้วนแน่ ๆ"
ห่าวเหรินหัวเราะและพูดว่า "ไม่ต้องห่วงครับ คุณจะไม่อ้วนถ้าคุณกินอาหารที่ผมทำ"
ลิฟต์เปิดออกและฮั่น หลิงซือถามว่า "ถ้าฉันยังอ้วนขึ้นมาล่ะ? คุณจะพูดว่ายังไง?"
ชายหนุ่มเดินตามเธอออกจากลิฟต์และพูดว่า "ถ้าคุณอ้วนขึ้น ผมจะยิ่งมีความสุข"
คำพูดของเขาอาจฟังดูไม่สุภาพ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็การจีบแบบแฝงที่เขาตั้งใจมุ่งตรงไปที่เธอ เขา้าจะบอกว่า ถ้าคุณอ้วนขึ้น ไม่มีใครอยากได้คุณ และผมก็จะได้คุณเป็ของผมคนเดียว แต่เมื่อพูดออกมา เขาคิดว่ามันเป็คำพูดที่แย่เกินไป จึงเปลี่ยนคำพูดแทน
เขาไม่ทันสังเกตว่ามือของฮั่น หลิงซือที่จับกระเป๋าอยู่นั้นแน่นขึ้นกว่าปกติ และแก้มของเธอก็มีสีแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย พวกเขามาถึงหน้าประตูของตึกที่รถของเธอจอดรออยู่แล้ว
ห่าวเหรินก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเธอเปิดประตู ฮั่น หลิงซือยืนใกล้เขาและถามว่า "ความต่างของอายุระหว่างเรามันไม่เคยรบกวนใจคุณเลยเหรอ?"
ห่าวเหรินส่ายหัวและตอบว่า "ห่างกันแค่หกปีไม่ใช่เื่ใหญ่เลยครับ มิสฮั่น และผมรู้สึกว่าคุณอายุใกล้เคียงกับผมมากกว่าคนอื่น ๆ ที่อายุเท่าผมเสียอีก"
ฮั่น หลิงซือประหลาดใจและถามว่า "ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น?"
ห่าวเหรินกำลังจะตอบเธอเมื่อมีลมพัดผ่านพวกเขาทั้งคู่ ทำให้ผมของฮั่น หลิงซือปลิวมาที่ใบหน้า เขายื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณและจัดผมที่หล่นลงมานั้นให้เข้าที่หลังใบหูของเธอขณะที่เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้และพูดว่า "แค่ความรู้สึกครับ"
ฮั่น หลิงซือตกตะลึง เธอไม่คาดคิดว่าห่าวเหรินจะทำอะไรแบบนี้ คนมากมายเคยพยายามจีบเธอ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้เธอเลย ขณะที่เธอใ ห่าวเหรินก็ก้าวถอยหลังและพูดว่า "มิสฮั่น คุณโอเคไหมครับ?"
หญิงสาวหลุดจากภวังค์และพยักหน้าก่อนจะเข้าไปในรถ ห่าวเหรินยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งรถขับออกไปจนลับตา จากนั้นเขาก็เดินกลับบ้านไปนอนพักในคืนนั้น
การย้ายของจากอพาร์ตเมนต์เช่าเก่าของเขาสามารถรอได้ถึงวันพรุ่งนี้ งานใหญ่ที่สุดในรายการของเขาคือการทำเงินและที่สำคัญกว่านั้นคือเขาต้องหางานทำ
...
เช้าวันถัดมา ฮั่น หลิงซือมาที่สำนักงานพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตา เธอนอนไม่หลับเพราะทันทีที่เธอปิดตา ห่าวเหรินก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเธอขณะจัดผมให้เธอ
เธอไม่รู้ว่าทำไมมันถึงรบกวนจิตใจเธอมากขนาดนี้ แต่อาจเป็เพราะเธอยอมรับว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามีค่าควรแก่การพัฒนา
ตลอดชีวิตของเธอ เธอไม่เคยรู้สึกสงบและกระวนกระวายใจในเวลาเดียวกันเช่นนี้มาก่อน เธอใช้เวลา่เช้าทำงานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง จนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวัน แล้วเธอก็ได้รับสายโทรศัพท์
ฮั่น หลิงซือมองดูหมายเลขโทรเข้าและยิ้มก่อนจะรับสาย "ห่าวเหริน คุณ้าอะไรหรือเปล่า?"
ปลายสายคือห่าวเหริน ชายหนุ่มตอบว่า "ไม่มีอะไรหรอกครับ มิสฮั่น ผมแค่้าขอโทษคุณสำหรับการกระทำของผมเมื่อคืนนี้"
ฮั่น หลิงซือส่ายหัวและพูดว่า "ไม่ ๆ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลย"
แม้เธอจะพูดแบบนั้นในขณะที่ยิ้ม แต่ในใจเธอกลับกำลังดุห่าวเหรินที่พูดถึงสถานการณ์ที่น่าอายเมื่อคืนนี้ เธอไม่ทันรู้ตัวเลยว่าใบหน้าของเธอกำลังแดงขึ้น
ห่าวเหรินพูดต่อ "ไม่หรอกครับ ผมทำให้คุณไม่สบายใจ ดังนั้นผมควรจะขอโทษ ผมส่งอาหารกลางวันให้คุณที่เคาน์เตอร์ต้อนรับแล้วครับ โปรดรับประทานอาหารและยอมรับคำขอโทษของผม"
ฮั่น หลิงซือประหลาดใจ แต่แล้วเธอกล่าวว่า "ฉันยอมรับค่ะ!"
ทันทีที่เธอพูด เธอก็หยุดนิ่ง เสียงของเธอดูจะตื่นเต้นเกินไป ห่าวเหรินหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "คุณรู้ไหม มิสฮั่น คุณน่ารักมาก ผมชอบคุณที่เป็แบบนี้"
ฮั่น หลิงซือตระหนักว่าการตอบสนองที่น่ารักของเธอทำให้ห่าวเหรินคิดว่าเธอน่ารัก ดังนั้นเธอจึงสูดหายใจเข้าลึกและพูดว่า "ไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็อาหารของคุณต่างหาก"
ชายหนุ่มตอบกลับ "ถ้าคุณชอบอาหารที่ผมทำขนาดนั้น ผมก็จะทำให้คุณทานตลอดไป"
บูม!
คำว่า "ตลอดไป" เป็คำที่มีน้ำหนักมาก และมันทำให้ฮั่น หลิงซือแทบจะปล่อยไอน้ำออกมาจากหู เธอคิดว่าห่าวเหรินอาจจะเป็คนรุ่นใหม่ที่พูดแบบนี้ได้ง่าย ๆ เธอสะบัดความคิดนั้นออกไปและพูดว่า "คุณเคยบอกแบบนี้กับคนอื่นกี่คนแล้ว?"
ห่าวเหรินหัวเราะและตอบว่า "คนจนและคนธรรมดาไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับคนอื่นมากมายหรอกครับ คุณเป็คนแรกและเป็คนเดียวที่ผมจะพูดแบบนี้ด้วย ตอนนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมมีอะไรต้องทำ"
ฮั่น หลิงซือพยักหน้าและตอบว่า "ก็ได้ ขอให้คุณมีวันที่ดีนะ ห่าวเหริน แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้"
สายถูกตัดไป และฮั่น หลิงซือก็โทรหาแผนกต้อนรับ และแน่นอนว่ากล่องของขวัญถูกส่งถึงเธอจากห่าวเหริน เธอยิ้มอย่างสดใสเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะได้ทานอาหารอร่อย ๆ
...
ห่าวเหรินกำลังเดินอยู่บนทางเท้า เมื่อระบบประกาศขึ้นว่า ติง: โฮสต์ได้ทำภารกิจส่งอาหารกลางวันให้ภรรยาเสร็จสิ้นแล้วตามหน้าที่ของสามีที่ดี กำลังออกของรางวัล...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้