บทที่ 7 : ผจญหมาป่าปีศาจ
ซ่งตงไม่พูด ลั่วถูเองก็ไม่ส่งเสียง ยามนี้ป่าไม้แห่งนี้ไม่มีผิดมีถูกแล้ว ไม่ว่าจะเผ่ามาร เผ่าปีศาจหรือทหารพ่ายศึก ล้วนไม่ใช่ศัตรูที่คนขนศพตัวเล็กจ้อยแบบพวกเขาจะไปแตะต้องได้ พวกเขาสองคนเป็เพียงคนธรรมดาที่ยังไม่เปิดิญญาด้วยซ้ำ ถึงพวกเขาจะอยากตัดหูศัตรูไปแลกผลงานทางทหารหรือคะแนนความสำเร็จเพียงไร ทว่าทั้งที่โอกาสอยู่ตรงหน้า แต่เมื่อครู่นี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะไปตัดหูฝ่ายตรงข้ามที่ล้มลงไปแล้วด้วยซ้ำ ต่อหน้าความเป็ตายอะไรก็ไม่สำคัญเท่าชีวิต ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเลือกหลบหนีไว้ก่อน
ร่างของศิษย์มารตนหนึ่งทำเงินได้หลายเหรียญซิงเหินฟ้า ถ้าเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะใต้เท้าตงจื่อบังเอิญผ่านมา เขาคงมีโอกาสได้สังหารศิษย์มารพวกนั้น และคงตัดหูสักสองสามข้างไปแลกเงินเหรียญซิงเหินสีฟ้าก็ได้แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับทำได้แค่หลบหนีอย่างเงียบๆ ครั้งนี้นับได้ว่าขาดทุนเข้าให้แล้ว ผงสลายศพที่เตรียมไว้อย่างยากลำบากก็ใช้ไปเสียหมดเกลี้ยง แม้แต่ลูกศรที่อาบยาพิษร้ายถึงตายไว้ก็กลับไปเก็บไม่ทัน
“ลั่วอูฐ...” ตอนที่ลั่วถูกำลังหนีอย่างรีบร้อนอยู่นั้นเอง อยู่ดีๆ ซ่งตงก็ดึงเขาไว้ ในน้ำเสียงปรากฏความหวาดกลัวไม่น้อย
“หมาป่าปีศาจ...” ลั่วถูกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ต้องให้ซ่งตงบอก เขาก็เห็นดวงตาที่ขยับวูบไหวอยู่ตรงหน้าเหมือนลูกไฟผีอยู่แล้ว
ซ่งตงเห็นเพียงดวงตาที่เหมือนไฟผีคู่นั้น แต่ลั่วถูกลับมองเห็นถึงลวดลายบนขนของมันได้ชัดเจนเต็มสองตา ในป่าเขาแบบนี้ พวกมันต่างหากที่เป็าาแห่งความมืดที่แท้จริง
“ปีนต้นไม้...” ลั่วถูไม่คิดอะไรเลย ในเวลาแบบนี้สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือปีนต้นไม้ ซ่งตงไม่ลังเลแม้แต่น้อย ปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่คล่องแคล่วรวดเร็วดั่งวานร ฝูงหมาป่าแข็งแกร่งมาก แต่กลับปีนต้นไม้ไม่ได้ ทว่าต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ที่มีกิ่งก้านเป็แนวนอนในป่าผืนนี้ แม้หมาป่าปีศาจจะปีนขึ้นมาไม่ได้ แต่ก็ยังะโพุ่งใส่กิ่งไม้ได้อยู่ดี ดังนั้นต่อให้ลั่วถูและซ่งตงปีนขึ้นต้นไม้ได้สำเร็จ แต่ก็ไม่กล้าประมาท ยังดีที่ในมือพวกเขามีหน้าไม้และดาบ ถึงพวกหมาป่าจะะโถึงกิ่งไม้ได้ แต่กลับไม่เหมือนการโจมตีเป็ฝูงบนพื้น นี่ทำให้พวกเขากังวลน้อยลง
“อาวู้ว...” เสียงหอนของหมาป่าดังขึ้นใต้ต้นไม้ หมาป่าปีศาจมากมายกระโจนใส่กิ่งไม้ แต่ยากที่จะโจมตีโดน ไม่ว่าจะอาการหมอบคำรามใส่กิ่งไม้หรือวิ่งวนใต้ต้นไม้ก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าพวกมันมองสองเด็กหนุ่มแสนโอชะตรงหน้านี้เป็อาหารของมัน เพียงแต่อาหารมื้อนี้อาจจะกินลำบากไปเสียหน่อย
“ลั่วอูฐมันจบแล้ว เ้าพวกนี้กินพวกเราแน่ มันไม่ยอมไปไหนเลย” ซ่งตงมองฝูงหมาป่าที่วนเวียนไปมาเหมือนอยากจะร้องไห้ อย่างไรเสียเขาเป็แค่เด็กอายุสิบสามปี เด็กกว่าลั่วถูอยู่หลายเดือนเสียด้วยซ้ำ
“ดูท่าทางจะถึงคราวซวยเข้าแล้วสิ ตรงนั้นมีศพอ้วนๆ ตั้งเยอะแยะพวกมันก็ไม่กิน จะมากินคนน่าสงสารอย่างพวกเราสองคนไปทำไมกัน...” ลั่วถูเองก็หดหู่ไม่แพ้กัน การหนีออกมาจากที่อันตรายแบบนี้มันช่างไม่ง่ายเลย ถ้าหากไปได้ไกลกว่านี้ ก็ไม่ต้องกังวลว่าเผ่ามารกับเผ่าปีศาจจะตามไล่ล่า แต่ตอนที่กำลังหนีออกมา ก็ดันถูกฝูงหมาป่าล้อมเอาไว้เสียได้ แบบนี้จะให้เขาไม่หดหู่ได้อย่างไร
“หนีจากบนต้นไม้กันเถอะ ต้นไม้ที่นี่ขึ้นกันแน่นขนัดใช้ได้ เพียงต้องระวังกันสักหน่อย ยิ่งถ้ามีเถาวัลย์ด้วยก็เยี่ยมไปเลย...” ลั่วถูรู้ว่าจะมานอนตายตรงนี้ไม่ได้ หากถูกถ่วงเวลาไว้ที่นี่นานกว่านี้ พวกที่ตามล่าทหารจะต้องตามมาถึงที่นี่ในไม่ช้าแน่นอน ถึงเวลานั้นต่อให้เขาจะอยู่บนต้นไม้ก็มีแต่ตายไม่ต่างกัน
...
สำหรับลั่วถูแล้ว เดินทางบนต้นไม้ที่ในป่าทึบแสนแน่นขนัดพวกนี้ไม่ใช่เื่ลำบากเท่าไรนัก เพียงใช้ประโยชน์จากกิ่งไม้ที่ใหญ่โต ะโจากที่สูงไปที่ต่ำ เมื่อตกถึงต้นไม้ต้นหนึ่งก็ปีนขึ้นที่สูงอีกครั้ง ะโไปต้นไม้ใหญ่ที่ไกลออกไปอีกต้น ถึงแบบนี้จะช้ากว่ามาก แต่ก็เคลื่อนที่ย้ายตำแหน่งของตนได้ตลอดเวลา ทำให้ฝูงหมาป่าได้แค่เห่าหอน แต่ทำอะไรเขาที่อยู่บนต้นไม้ไม่ได้ ทว่ากับซ่งตงนั้นลำบากไม่เบา ถ้าไม่ได้ลั่วถูใช้เถาวัลย์ดึงช่วยไว้ ตอนะโมาคงตกพื้นไปหลายครั้งแล้ว หากตกพื้นเมื่อไรคงไม่แคล้วถูกฝูงหมาป่าฉีกเป็ชิ้นๆ แต่ในเวลาแบบนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ตอนที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ เขาเห็นแสงไฟจากที่ไกลๆ กำลังรุดหน้ามาทางเขาอย่างรวดเร็ว นั่นต้องเป็ทหารของเผ่ามารและเผ่าปีศาจที่ตามมาแน่ ถ้าเป็พวกทหารหนีทัพคงไม่กล้าจุดไฟสว่างไสวราวกับแห่เรือัแบบนี้แน่
“ทำอย่างไรดี ความเร็วของพวกเราตอนนี้หนีการไล่ล่าของพวกเขาไม่พ้นแน่ เอาอย่างนี้เ้านำไปก่อนเถอะ ข้าจะอยู่รั้งหมาป่าพวกนั้นให้เอง” ซ่งตงกล่าวอย่างจนปัญญา
“เงียบน่า ข้างๆ นี้เป็หน้าผา ข้างล่างเป็แม่น้ำ ถ้าพวกเราะโไปตรงนั้น ข้าไม่เชื่อว่าหมาป่าปีศาจพวกนี้จะตามเราไปได้หรอก...” ลั่วถูกัดฟันพูด เขารู้อยู่แล้วว่าด้วยความเร็วของพวกเขาตอนนี้อย่างไรก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าสลัดหมาป่าปีศาจฝูงนี้ไม่หลุด พวกเขาก็ทำได้แค่พวกหนีเอาชีวิตรอดบนต้นไม้เท่านั้น อีกทั้งหมาป่าปีศาจพวกนี้ยังะโไล่ตามกิ่งไม้ที่พวกเขาอยู่ตลอดเวลา ถึงเขาจะยิงมันตายไปได้สองตัว แต่สัตว์ป่าพวกนี้ช่างฉลาดเหลือร้าย หลังจากถูกยิงตายไปสองตัว พวกมันกลับยิ่งทวีความระมัดระวังขึ้นไปอีก สิ่งที่ทำให้ลั่วถูใจสั่นระรัวคือ ลูกศรของพวกเขาที่ยิงโดนหมาป่าสีเงินภายใต้แสงจันทร์ กลับถูกดีดออกไปหมด หัวของาาหมาป่าปีศาจแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มากถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขาปีนขึ้นไปสูงมากพอ เกรงว่าาาหมาป่าคงตะครุบพวกเขาบนต้นไม้ไปแล้ว งานนี้คงต้องยอมเสี่ยงสักครั้ง เขาได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ไม่ไกล เห็นได้ชัดว่าดังมาจากใต้หน้าผา บริเวณนั้นต้องมีแม่น้ำไหลผ่านไม่ผิดแน่ พื้นที่แถวนี้ไม่นับว่าแปลกประหลาดนัก อีกทั้งในความมืดนี้เขายังคงมองเห็นทางแสงสีขาวอยู่ลิบๆ ต้องเป็แม่น้ำแน่นอน เพียงแต่น้ำจะลึกเท่าไรนั้น เขาก็ไม่รู้เช่นกัน ทว่าหากกะระยะความสูงดีๆ การะโลงไปน่าจะมีโอกาสรอดชีวิตบ้าง
ลั่วถูต้องขอบคุณต้นไม้ในป่าอันอุดมสมบูรณ์นี้ ถึงเมื่อครู่เขาจะเพิ่งเห็นเปลวไฟอยู่ห่างจากพวกเขาไปไม่กี่ลี้ แต่อย่างไรเสียตอนนี้เขากลับมาถึงขอบผาแล้ว อีกทั้งตรงริมผายังมีทิวต้นไม้ขึ้นขวางอยู่หลายต้น นี่ทำให้เขาสามารถะโจากต้นไม้ไปที่หน้าผาได้โดยตรง หมาป่าปีศาจหลายตัวคิดจะตะครุบเหยื่อ แต่เพราะตะครุบพลาดจึงตกหน้าผาลงไป สิ่งนี้เองที่ทำให้หมาป่าด้านหลังเกิดความลังเล และในเวลานี้ซ่งตงไม่สนใจอันตรายในความมืดพวกนั้นอีกต่อไป รีบไต่เถาวัลย์ที่อยู่บนต้นไม้ลงผาไปทันที เขาเชื่อว่าลั่วถูจะรับเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นคงทำได้เพียงพึ่งโชคเท่านั้น หวังว่าใต้ผาจะเป็แม่น้ำ ไม่ใช่กองหิน
ลั่วถูรับซ่งตงไว้ได้อย่างแม่นยำ แต่ตอนนี้มีหมาป่าปีศาจบางตัวเริ่มปีนขึ้นบนกิ่งไม้ได้แล้ว พวกมันเข้าใกล้ลั่วถูอย่างระมัดระวัง ชัดแล้วว่าไม่ยอมปล่อยเหยื่อทั้งสองไปง่ายๆ
“ฟิ้ว ฟิ้ว...” ในเวลานี้ลั่วถูไม่ลังเลแม้แต่น้อยและยิงลูกศรอาบยาพิษออกไปสองดอก หมาป่าที่โดนยิงร้องอย่างเ็ป ร่างกายที่สั่นสะท้านของพวกมันทำให้เกาะกิ่งไม้ไว้ไม่อยู่และตกลงไปในที่สุด เสียงที่ตกลงไปเป็เสียงกระแทกเบาๆ ไม่เหมือนกับตกลงน้ำ เหมือนที่ซ่งตงคิดไว้ไม่ผิด ใต้หน้าผานี้ไม่ได้เป็แม่น้ำทั้งหมด ยังมีกองหินอยู่ด้วย ถ้าเมื่อครู่นี้เผลอพลัดตกลงไป เกรงว่าตอนจบคงได้หัวแตกตาย
“ตามข้ามา...” ลั่วถูไม่เพียงไม่หยุดชะงัก แต่ยังก้าวไปบนก้านของต้นไม้อย่างแน่วแน่ ส่วนซ่งตงกลับระวังตัวอย่างมาก กิ่งก้านใต้ฝ่าเท้าบางลงทุกครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า สุดท้ายท่ามกลางสายลมเหนือหุบเขากิ้งไม้ที่เหลืออยู่มันช่างเล็กเสียจนเหมือนจะทำให้พวกเขาตกลงไปได้ตลอดเวลา จนต้องเกาะกิ่งไม้ไว้แน่นอย่างไม่คิดชีวิต
“ซ่งตง ฟังข้านะ ปิดตาแล้วะโไปข้างหน้าให้สุดแรง แล้วพวกเราจะไม่เป็อะไร...” ลั่วถูหยุดก้าวเดิน กิ่งไม้ข้างหน้าทั้งบางทั้งสั่นไหวขึ้นทุกที ตอนนี้พวกเขาออกห่างจากริมผามาหลายสิบจั้ง แทบจะถึงปลายกิ่งแล้ว ถ้ายังเดินต่อไป ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันจะหักไหม ยังดีที่พวกเขาเป็เด็กสองคนที่อายุแค่สิบสามสิบสี่ปี ถึงจะนับว่าสูง แต่น้ำหนักไม่มากนัก ไม่อย่างนั้นคงเดินมาถึงตรงนี้ไม่ได้
“ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม พอนับสาม ก็ะโพร้อมกันนะ...” ลั่วถูสูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ดี งั้นเ้านับเลย...” ซ่งตงไม่ได้โง่ เขารู้ว่าถ้ามีใคระโลงไปคนหนึ่ง แรงะเืจะทำให้กิ่งไม้ที่พวกเขาเหยียบอยู่สั่นไปด้วย หรือกระทั่งแรงนั้นอาจทำให้มันหักในทันที ถ้าเป็แบบนั้นคนที่ยังไม่ะโได้ตกลงไปในกองหินแน่ มีเพียงโดดพร้อมกันเท่านั้นถึงจะพอมีโอกาสรอดด้วยกันทั้งคู่
“เ้าว่าวันนี้พวกเราจะตายอยู่ที่นี่ไหม” พอลั่วถูเริ่มนับ ซ่งตงก็อ้าปากออกถามขัดขึ้นมา ทำให้ลั่วถูต้องเริ่มนับใหม่อีกรอบ
“เื่นี้ให้์ตัดสินเถอะ พวกเรามีชีวิตรอดมาได้ถึงขนาดนี้แล้ว และจะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ไกลยิ่งกว่านี้… ตั้งใจฟังให้ดี ข้าจะเริ่มนับแล้ว หยุดขัดข้าก่อน!”
“หนึ่ง… สอง… สาม...!”
นับสามยังไม่ทันขาดคำ ร่างทั้งสองก็พุ่งไปข้างหน้าะโอย่างไม่ลังเล ทำเอาต้นไม้ด้านหลังสั่นะเืไปทั้งต้น หมาป่าปีศาจสองตัวที่อยู่บนกิ่งไม้พุ่งออกตามออกมาทันที ถึงจะพยายามใช้กรงเล็บหมาป่าเกาะกิ่งไม้ไว้ ก็ยังตกลงไปอยู่ดี กิ่งไม้ที่ลั่วถูกับซ่งตงอยู่จนถึงเมื่อครู่รับแรงะเืนี้ไม่ไหว หักลงในทันที
“ตูม… ตูม...” ซ่งตงรู้สึกได้ถึงความเย็นะเืกระทบใบหน้า การตกลงมาอย่างแรงทำให้ร่างของเขาจมลง ความรู้สึกมึนงงโถมซัดเข้าใส่พร้อมกับสายน้ำ แต่พอรู้ว่าเขาะโลงแม่น้ำจริงๆ แถมแม่น้ำสายนี้ไม่ใช่ตื้นๆ ก็รีบดีดตัวขึ้นสู่ผิวน้ำทันที
“ลั่วอูฐ… ลั่วอูฐ...” ซ่งตงที่มาถึงผิวน้ำะโเรียกทันทีทันใด
“อย่าโวยวายน่า ข้าอยู่นี่...” เสียงของลั่วถูทำให้ในใจซ่งตงรู้สึกปลอดภัยขึ้นทันที พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ในเงาที่มืดมิดเขาเห็นหมาป่าปีศาจสองตัวนอนชักอยู่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำ แสงจันทร์ที่กระทบแม่น้ำสว่างไสว ทว่าเมื่อได้เห็นเงาที่ฝั่งแม่น้ำอย่างชัดเจน ก็มีแต่ต้องหลุดกรีดร้องเสียงหลง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้