การที่สามารถทำตัว ‘หน้าหนาไร้ยางอาย’ ได้อย่างภาคภูมิใจ กระทั่งออกลวดลายได้สมบทบาทขนาดนี้ ในหมู่คนที่หวังเค่อรู้จักเห็นทีจะมีแต่จางเจิ้งเต้าผู้นี้นี่แหละที่ทำได้!
“พี่หวัง ตอนนี้ข้ามีงานใหญ่มาให้ท่าน เห็นแก่มิตรภาพตลอดหลายปีของพวกเรา ข้าเลยมาที่นี่เพื่อให้พวกเราได้ร่ำรวยอู้ฟู่ไปด้วยกัน!” จางเจิ้งเต้าจ้องหวังเค่อด้วยแววตาคาดหวัง
หวังเค่อหรี่ตาพินิจพิเคราะห์จางเจิ้งเต้า ตอนนี้แผนการลงทุนเพื่อชะล้างเมืองจูเซียนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็ทางการ จำต้องรอให้ตนเข้ากำกับดูแลสถานการณ์โดยรวม แล้วจะมีเวลาไปหาลู่ทางทำเงินอื่นได้อย่างไร?
“งานสำคัญ? งานสำคัญที่ว่าคืนกำไรให้ข้าได้เท่าไหร่? ไหนลองว่ามา!” หวังเค่อพลันเปิดปาก
“เงินรึ? ไม่ได้หรอก!” จางเจิ้งเต้าโบกมือโดยไม่ต้องคิด
“ไม่ได้? แต่เ้าก็ยังมาหาข้าเนี่ยนะ?” หวังเค่อจ้องอีกฝ่ายราวกับจะกินเืกินเนื้อ
“ท่านก็รู้นี่ว่าข้ามีเท่าไหร่ก็ใช้ไปเท่านั้น แล้วข้าจะมีเงินเหลือได้ยังไงกัน!” จางเจิ้งเต้าตอบรับทันควัน
หวังเค่อหน้าแข็งกระด้าง “ค่อยๆ กลับล่ะ ไม่ขอส่ง!”
“อย่าเพิ่งๆๆ! ท่านฟังข้าก่อน แม้ว่าข้าจะไม่มีเงิน แต่เื่ที่ท่านครุ่นคิดถวิลหามาโดยตลอด เื่นั้นน่ะกำลังจะกลายเป็จริงแล้ว!” จางเจิ้งเต้ารีบเอ่ย
“เื่ที่ข้าครุ่นคิดถวิลหา?” หวังเค่อเอ่ยด้วยความกังขา
“ไม่ใช่ว่าท่านกำลังตามหาั์ใหญ่มาหนุนหลังอยู่หรอกหรือ ก็ที่ท่านเคยพูดถึงเมื่อครั้งก่อน...นั่นน่ะ...!” จางเจิ้งเต้าพูดพลางชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า
หวังเค่อรูม่านตาหดวูบในบัดดล แล้วจู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นพลางส่งยิ้มกว้าง “พี่จาง มาๆๆ นั่งก่อน นั่งก่อน! ฮ่าๆ วันนี้เป็วันดี ไหนท่านลองบอกข้ามาซิว่าเื่มันเป็มายังไงกันแน่!”
ระหว่างที่คุยกันหวังเค่อก็ส่งถ้วยชาที่ลูกน้องเพิ่งยื่นให้ส่งต่อกับจางเจิ้งเต้า
จางเจิ้งเต้าเองก็รับถ้วยชาที่เหลือแต่เศษใบชาติดก้นถ้วยมาอย่างนอบน้อม
“ท่านเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘รางวัลนำจับพรรคอีกาทองคำ’ มาบ้างหรือไม่?” จางเจิ้งเต้าถาม
“รางวัลนำจับที่ ‘พรรคอีกาทองคำ’ เป็ผู้ออก ระบุว่าใครก็ตามที่จับตัวองค์หญิงโยวเยว่มาได้มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมเป็ศิษย์พรรคอีกาทองคำเป็จำนวนถึงห้าคนด้วยกัน” หวังเค่อว่า
“ใช่ รางวัลนำจับที่พรรคอีกาทองคำเป็ผู้ออกนี่แหละ! ที่ว่างห้าตำแหน่งที่จะได้ฝากตัวเป็ศิษย์เชียวนะ! พรรคอีกาทองคำเป็ถึงพรรคระดับแถวหน้าของสิบหมื่นมหาบรรพต นี่คือรางวัลนำจับของพรรคชั้นนำ! แถมตอนนี้ทุกที่ทางตลอดสิบหมื่นมหาบรรพตต่างก็เดือดระอุกันไปทั่ว ท่านไม่ทราบเลยรึ? ท่านไม่เคยคิดจะไปจับตัวองค์หญิงโยวเยว่เพื่อขึ้นรางวัลบ้างหรือไร?” จางเจิ้งเต้าจับจ้องหวังเค่อขณะถาม
สีหน้าของหวังเค่อหม่นลง “คนที่พรรคอีกาทองคำจับไม่ได้ เ้าจะให้ข้าไปจับเนี่ยนะ? เ้ารู้หรือไม่ว่าวันหนึ่งข้าทำเงินได้มากน้อยขนาดไหน? ข้าไหนเลยจะมีเวลามาทำเื่เสียเปล่าได้? อีกอย่าง ข้างกายองค์หญิงโยวเยว่นั่นจะมียอดฝีมือคอยคุ้มกันอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ ไหนจะองครักษ์อีก เ้าสืบข้อมูลมาดีแล้วรึยัง? สิบหมื่นมหาบรรพตกว้างใหญ่ไพศาลเพียงไหน นี่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร เต็มไปด้วยเื่ไม่แน่นอนทั้งนั้น! ถ้าหากว่านี่คืองานใหญ่ที่เ้าพูดถึงล่ะก็ งั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรกันต่อแล้ว! ศึกวิวาทของเทพเซียน ข้าไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งด้วยหรอก!”
“ไม่เอาน่า! ข้าไม่ได้จะให้ท่านไปจับตัวองค์หญิงโยวเยว่เสียหน่อย แต่ข้าจะให้ท่านไปช่วยนางต่างหาก!” จางเจิ้งเต้ารีบกล่าวอย่างกระตือรือร้น
หวังเค่อมองจางเจิ้งเต้าเหมือนมองคนเสียสติ เ้าบ้าไปแล้วรึ? จะให้ข้าไปเป็ศัตรูกับสำนักเซียน? แถมยังเป็สำนักเซียนที่แข็งแกร่งอย่างพรรคอีกาทองคำอีก?
“อันที่จริง เมื่อวานนี้องค์หญิงโยวเยว่ถูกคนจับตัวไปแล้ว!” จางเจิ้งเต้าอธิบาย
“ถูกจับไปแล้ว?” หวังเค่ออุทานอย่างคาดไม่ถึง
“ใช่ ประมุขตระกูลเนี่ยแห่งเมืองจูเซียนที่ท่านกำลังพำนักอยู่เป็คนจับนางได้ ตอนนี้นางก็คงจะถูกขังอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในตระกูลเนี่ยนั่นแหละ ตระกูลเนี่ยได้ส่งคนไปรายงานต่อพรรคอีกาทองคำเพื่อเตรียมตัวรับรางวัลแล้ว คาดว่าอีกแค่ครึ่งเดือนพรรคอีกาทองคำก็คงจะมารับตัวองค์หญิงโยวเยว่ไป! และก็เพราะเื่นี้ข้าถึงได้มาที่เมืองจูเซียน ไปๆ มาๆ ก็ได้รู้ว่าท่านอาศัยอยู่ที่นี่เข้าโดยบังเอิญ นับว่าเป็เื่ดีจริงๆ! พี่หวัง ครั้งนี้ท่านจะต้องช่วยข้าช่วยองค์หญิงโยวเยว่ให้ได้! เพ้ย! ไม่สิ เราสองคนต้องทำเื่นี้ไปด้วยกัน!” จางเจิ้งเต้าทำสายตาคาดหวัง
หวังเค่อหรี่ตามองจางเจิ้งเต้า “จางเจิ้งเต้า เ้าคงคิดช่วยองค์หญิงโยวเยว่ให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยฉุดข้าลงน้ำคลำล่ะสิท่า?”
“อ๋า? จะเป็เช่นนั้นไปได้ยังไง!” จางเจิ้งเต้าละล่ำละลัก
“ที่เ้ากำลังจะทำคือการถอนเขี้ยวพยัคฆ์ ตอแยพรรคอีกาทองคำ! แต่ข้านั้นไม่กล้า ข้ายังต้องอยู่ที่สิบหมื่นมหาบรรพตนี้ไปอีกนาน หากล่วงเกินพรรคอีกาทองคำขึ้นมา ข้าอย่าหวังจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบเลย!” หวังเค่อส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน
“ไม่เอาน่า พี่หวัง ไม่ใช่ว่าท่านอยากฝากตัวเข้าเป็ศิษย์กับพรรคเทพหมาป่า์มาโดยตลอดหรอกหรือ? พรรคเทพหมาป่า์เองก็เป็สำนักเซียนชั้นแนวหน้าของสิบหมื่นมหาบรรพตไม่ต่างกัน! ขอเพียงท่านช่วยองค์หญิงโยวเยว่และพานางไปที่พรรคเทพหมาป่า์ได้ พรรคเทพหมาป่า์จะต้องรับท่านเข้าเป็ศิษย์อย่างแน่นอน! ข้ารับรองได้! เช่นนี้ท่านเองก็จะได้สมดั่งใจปรารถนา!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างกระตือรือร้น
หวังเค่อทำหน้าไม่เชื่อถือ
“พรรคเทพหมาป่า์จะซาบซึ้งที่ข้านำตัวองค์หญิงโยวเยว่ไปให้ จากนั้นก็จะรับข้าเข้าเป็ศิษย์เนี่ยนะ?” หวังเค่อถามจางเจิ้งเต้า
“มิผิด มิผิด!” จางเจิ้งเต้าพยักหน้าระรัว
“ถุ้ย!” หวังเค่อถ่มน้ำลายอย่างดูถูก
“อะไรกัน? ท่านไม่เชื่อข้า?”
“เหลวไหล หากพรรคเทพหมาป่า์ให้ความสำคัญกับองค์หญิงโยวเยว่ผู้นี้จริง แล้วทำไมถึงปล่อยให้พรรคอีกาทองคำออกรางวัลนำจับนางได้? เ้ากำลังดูถูกสติปัญญาของข้าอยู่รึยังไง?” หวังเค่อถามอย่างดูแคลน
“นี่เป็ความจริง ที่จริงแล้วองค์หญิงโยวเยว่ยังมีอีกฐานะหนึ่ง ทุกวันนี้ยังคงไม่มีใครทราบ มีแต่ข้าเท่านั้นที่รู้! รอจนช่วยคุ้มครององค์หญิงโยวเยว่พานางกลับไปถึงพรรคเทพหมาป่า์ได้ก็จะสามารถยืนยันอีกหนึ่งฐานะของนางได้ ต่อจากนั้นพรรคเทพหมาป่า์ก็จะคุ้มครองนางเอง แต่ตอนนี้เวลาไม่คอยท่า ต่อให้ข้าไปขอกำลังเสริมมาจากพรรคเทพหมาป่า์ก็จะสายเกินไป มีแต่ต้องรบกวนท่านเท่านั้น!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยด้วยความร้อนใจ
แม้ภายนอกหวังเค่อจะไม่อยากเชื่อ แต่ภายในใจกลับหวั่นไหวอย่างแรง เพราะพรรคเทพหมาป่า์มีของที่มัน้าเป็การด่วนอยู่ และหวังเค่อเองก็อยากฝากตัวเข้าเป็ศิษย์กับพรรคเทพหมาป่า์ด้วยเช่นกัน เมื่อจางเจิ้งเต้าเอ่ยถึงความเป็ไปได้นี้ขึ้นมา แล้วจะให้หวังเค่อนิ่งเฉยได้อย่างไร? ชายหนุ่มเพียงแค่กังวลว่าจางเจิ้งเต้าใช่กำลังล่อหลอกตนอยู่หรือไม่เท่านั้น
“พี่หวัง นี่ท่านยังไม่เชื่ออีกรึ? เอาเป็ว่าข้ายอมสาบานสาปแช่งตัวเองเลยเป็ไง?” จางเจิ้งเต้ายังคงร้อนใจไม่หาย
“ไม่จำเป็ ข้าไม่เคยเชื่อในคำสาบาน! ถ้าเกิดว่าคำสาบานมีผลจริง กากเดนพวกนั้นก็คงถูกฟ้าผ่าตายไปไม่รู้กี่ครั้งไปตั้งนานแล้ว!” หวังเค่อส่ายหน้า
“งั้นข้าต้องทำยังไงท่านถึงจะยอมเชื่อ?” จางเจิ้งเต้าถาม
“ก็แค่เอาของรักของหวงที่สุดของเ้ามาให้ข้า ถ้าเกิดว่าเ้าหลอกข้าละก็! ข้าจะได้ทำลายมันซะ!” หวังเค่อเอ่ยเสียงเหี้ยม
“หวังเค่อ เ้าต้องทำตัวโเี้ขนาดนี้ด้วยรึ? ข้าคือทายาทเพียงคนเดียวตลอดเก้าชั่วโคตร ทั้งยังไม่เคยได้มีทายาทเอาไว้ให้สืบสกุล แต่เ้ากลับคิดอยากทำลายตระกูลข้า?” จางเจิ้งเต้าพูดแล้วก็ใช้มือปิดอวัยวะส่วนล่างพลางกระถดหนีด้วยความผวา
หวังเค่อ “…”
“พัดในมือเ้าไม่ใช่ของรักของหวงของเ้ารึ? ครั้งก่อนเพื่อที่จะได้พัดอันนี้มา แม้แต่ชีวิตตัวเองเ้าก็ไม่สน เ้าเป็คนพูดเองไม่ใช่หรือว่าพัดอันนี้คือของรักของหวงน่ะ!” หวังเค่อกล่าวด้วยใบหน้ามืดทึม
“ท่านก็พูดแต่เนิ่นๆ ซี่! ทำเอาข้ากลัวแทบตาย! แต่ว่าพัดในมือข้า พัดของข้า...!” จางเจิ้งเต้ามองพัดสีดำในมืออย่างหวงแหน
พัดอันนี้เป็สีดำสนิท ต่อให้กางออกก็ยังถูกปกคลุมด้วยหมอกสีดำอยู่ชั้นหนึ่ง มองไม่ออกว่าเป็ของแบบไหนกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นจางเจิ้งเต้าก็ยังกำพัดเอาไว้ด้วยความอาลัยอาวรณ์
หวังเค่อแบมือรอ “หากเ้าไม่ได้หลอกข้า ถึงตอนนั้นข้าค่อยคืนให้!”
จางเจิ้งเต้ามองพัดในมืออย่างแสนอาลัย แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้า “ก็ได้ แต่ท่านอย่าทำหายเชียวล่ะ!”
“วางใจเถอะ!” หวังเค่อรับพัดมาก่อนที่จะเก็บมันไว้ในชายแขนเสื้อ
หวังเค่อในตอนนี้กำลังตื่นเต้นยินดีเป็อย่างยิ่ง ไม่ใช่เป็เพราะพัดอันนี้ แต่เป็เพราะคำพูดก่อนหน้าของจางเจิ้งเต้าต่างหาก ตราบใดที่มันช่วยองค์หญิงโยวเยว่ได้ก็จะสามารถเข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์ได้สินะ? นั่นคือความปรารถนาตลอดสิบปีของมันเชียว มีแต่การได้เข้าร่วมกับพรรคเทพหมาป่า์เท่านั้นมันถึงจะจัดการกับโชคร้ายที่เกาะติดอยู่ได้
“เอาละ ข้ายอมเชื่อคำพูดเ้าแล้ว ทีนี้ก็บอกรายละเอียดสถานการณ์ขององค์หญิงโยวเยว่มาให้ข้า! เ้าไปหาข้อมูลพวกนี้มาจากไหน? แล้วก็ รางวัลนำจับที่พรรคอีกาทองคำเป็ผู้ออกมีภาพเหมือนของนางอยู่เสียที่ไหนกัน! แล้วตระกูลเนี่ยยืนยันตัวตนนางได้ยังไง” หวังเค่อจ้องตาจางเจิ้งเต้าขณะถาม
“ข้ารู้มาว่าองค์หญิงโยวเยว่หนีไปที่สิบหมื่นมหาบรรพต ข้าจึงไล่ตามไป ไม่กี่วันก่อนข้าพบร่องรอยการต่อสู้ครั้งล่าสุดบนหุบเขาแห่งหนึ่ง ข้าจึงตามรอยพวกนั้นมาจนถึงเมืองจูเซียน และก็จับตัวศิษย์ตระกูลเนี่ยที่กำลังมุ่งหน้าไปรายงานต่อพรรคอีกาทองคำได้พอดี จากปากคำของมันข้าจึงรู้ว่าเดิมทีตระกูลเนี่ยเองก็ไม่อาจยืนยันตัวตนขององค์หญิงได้ แต่เป็เพราะว่าหนึ่งในคนติดตามขององค์หญิงพลั้งเผลอหลุดปากออกมา ประมุขตระกูลเนี่ยเมื่อรู้ข่าวก็วางอุบายทันที ก่อนอื่นมันหลอกให้พวกองค์หญิงตายใจ จากนั้นค่อยวางยาพิษ ปิดท้ายด้วยการฆ่าคนรับใช้ขององค์หญิงไปสองคนจนสามารถจับกุมนางมาได้ในที่สุด! ตอนนี้พวกมันกำลังรอรับรางวัลจากพรรคอีกาทองคำกันอยู่! แม้ว่าข้าจะสกัดหนึ่งในศิษย์ตระกูลเนี่ยไว้ได้ก็จริง แต่ก็ยังมีศิษย์ตระกูลเนี่ยอีกสามคนที่มุ่งตรงไปยังพรรคอีกาทองคำจากอีกสามเส้นทางต่างกัน อย่างมากอีกเพียงครึ่งเดือนคนของพรรคอีกาทองคำก็จะมาถึงแล้ว!” น้ำเสียงของจางเจิ้งเต้าร้อนรนเป็กังวลยิ่ง
“ตระกูลเนี่ย? นั่นเป็ถึงตระกูลผู้ฝึกฌานลำดับหนึ่งของเมืองจูเซียนเลยนะ! ประมุขตระกูลเนี่ยเทียนป้าก็คือจิ้งจอกเฒ่าแสนเ้าเล่ห์! การจะชิงตัวองค์หญิงมาจากเงื้อมมือของมันเป็ไปไม่ได้เลยสักนิด!” หวังเค่อนิ่วหน้ากล่าว
“คนอื่นอาจทำไม่ได้ แต่ท่านต้องทำได้อย่างแน่นอน!” จางเจิ้งเต้ารีบเอ่ย
หวังเค่อหน้าดำ “แม้ว่าตระกูลหวังจะตั้งรกรากอยู่ที่เมืองจูเซียนมาได้สิบปี แต่ก็แค่วางรากฐานทางการค้าไว้เท่านั้น คนที่ต่อยตีเก่งที่สุดในตระกูลก็คือตัวข้าที่อยู่แค่ขอบเขตเซียนเทียนธรรมดาๆ เท่านั้น! แต่ตระกูลเนี่ยมีผู้บรรลุขอบเขตเซียนเทียนนับสิบ เมื่อสามสิบปีก่อนเนี่ยเทียนป้าเองก็บรรลุขอบเขตเซียนเทียนขั้นสูงสุดแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้จะยิ่งทรงพลังขนาดไหน! แต่เ้าจะให้ข้าไปชิงตัวคนมาจากมันเนี่ยนะ?”
“เช่นนั้นแล้วท่านช่วยข้าตามหาสถานที่ที่องค์หญิงโยวเยว่ถูกขังเอาไว้ได้หรือเปล่าล่ะ? ข้าจะขุดอุโมงค์แอบพานางออกมาเอง!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างหมายมาด
“ข้าก็บอกเ้าแล้วไงว่าเนี่ยเทียนป้าผู้นั้นเป็จิ้งจอกเฒ่ามากเล่ห์ ก่อนที่จะได้พบศิษย์จากพรรคอีกาทองคำมีหรือจะยอมแพร่งพรายพิกัดที่ซ่อนตัวขององค์หญิง? เื่ใหญ่ขนาดนี้ข้ากลับไม่เคยได้ยินผ่านหูมาเลยสักครั้ง เห็นได้ชัดว่าเนี่ยเทียนป้าเหยียบเื่นี้ไว้จนมิดชนิดที่ว่าไม่ได้บอกใครเลยสักคน! อีกฝ่ายตั้งใจจะรับรางวัลอย่างเงียบๆ!” หวังเค่อหรี่ตาคาดการณ์
“จริงแท้ คนที่ไปรายงานข่าวต่อพรรคอีกาทองคำที่ข้าจับตัวมาได้เรียกได้ว่าเป็คนสนิทของเนี่ยเทียนป้า แต่ถึงอย่างนั้นมันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าองค์หญิงโยวเยว่ถูกขังอยู่ที่ไหน!” หวังเค่อเอ่ยด้วยสีหน้าวิตก
“เนี่ยเทียนป้าจะต้องซ่อนตัวองค์หญิงโยวเยว่ไว้เป็อย่างดีแน่ มันเป็ผู้เชี่ยวชาญเื่ทำนองหากไม่เห็นกระต่าย ไม่ปล่อยเหยี่ยวอยู่แล้ว![1]คิดจะแย่งตัวองค์หญิงโยวเยว่มาจากเงื้อมมือมัน ยาก!” หวังเค่อหรี่ตากล่าว
“งั้นจะทำยังไงกันดี? ของรักของข้าก็ยกให้ท่านไปแล้ว ท่านจะทำเหมือนว่าเห็นคนตายแล้วไม่ยอมช่วยไม่ได้นะ! หากองค์หญิงโยวเยว่ตายไปละก็ เบื้องบนจะต้องเอาชีวิตข้าแน่! พี่หวัง เห็นแก่มิตรภาพที่เราร่วมขุดสุสานบรรพชนาาปีศาจมาด้วยกันกับผลประโยชน์ที่ท่านได้ไปมากมาย ท่านจะต้องช่วยข้านะ!” จางเจิ้งเต้าพุ่งตัวเข้ามากะทันหัน
แต่หวังเค่อก็หลบใบหน้าเปื้อนน้ำหูน้ำตาของจางเจิ้งเต้าได้ทันท่วงที
“ไม่ต้องแตกตื่นไป ขอเวลาข้าคิด ขอเวลาข้าคิดก่อน!” หวังเค่อขมวดคิ้วครุ่นคิด
จางเจิ้งเต้าที่อยู่ด้านข้างไม่กระดิกตัว รอให้หวังเค่อคิดหาทาง
จางเจิ้งเต้า้าช่วยองค์หญิงโยวเยว่ หวังเค่อในตอนนี้เองก็้าช่วยนางด้วยเช่นกัน เพราะว่านั่นคือหนทางเดียวที่จะทำให้มันได้เข้าร่วมกับพรรคเทพหมาป่า์
ภายในตำหนักใหญ่ หวังเค่อเดินไปเดินมาเป็หนูติดจั่น ขณะกำลังเค้นสมองขบคิดจู่ๆ ดวงตาของมันก็ลุกวาว
“พี่หวัง ท่านหาทางชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่มาจากมือเนี่ยเทียนป้าได้แล้วหรือ?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างมีหวัง
แต่หวังเค่อกลับส่ายหน้า “ชิงตัว? ชิงได้ที่ไหนกันเล่า! แต่ว่าข้ายังสามารถแปลงโฉมองค์หญิงโยวเยว่ได้อยู่ไม่ใช่รึไง!”
“แปลงโฉม? ท่านคงไม่ได้คิดหาคนมาเล่นละครเป็องค์หญิงโยวเยว่ จากนั้นก็หลอกพรรคเทพหมาป่า์ว่านี่คือนางหรอกกระมัง?” จางเจิ้งเต้าถามด้วยสีหน้าเหม่อลอย
“ในสายตาของเ้า เห็นข้าเป็จอมลวงโลกรึยังไง?” หวังเค่อถามด้วยใบหน้าดำทะมึน
จางเจิ้งเต้าที่ยังคงเหม่อลอยเริ่มมีความแน่วแน่สอดแทรกเข้ามา จากนั้นจึงพยักหน้าช้าๆ
หวังเค่อ “…”
[1] หมายถึง ลงมือเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจนเท่านั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้