“น้องสาว ไม่ต้องกลัวนะพี่จะพาน้องกลับบ้านเอง” เด็กชายร่างผอมบางอุ้มน้องสาวเดินท่ามกลางลมหนาวและท้องฟ้าที่มืดมิด
ริมฝีปากของเด็กชายร่างผอมบางเปลี่ยนเป็สีขาวซีดจากความหนาวเย็น
ถังเยี่ยนลืมตาอย่างช้าๆ ในความพร่ามัว เธอเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ใบหน้าที่เธอจำอยู่ในใจไม่เคยลืมจนกระทั่งก่อนวันที่เธอจะเสียชีวิต ใบหน้านี้เป็ใบหน้าของพี่ชายเธอ ตอนอายุประมาณสิบขวบ เขากำลังอุ้มเธอวิ่งไปข้างหน้าในเวลานี้
“พี่ชาย...” เสียงเอ่ยนั้นราวกับเสียงลูกแมวแรกเกิด
“พี่...พี่...”
“น้องสาวอดทนหน่อยนะ เดี๋ยวพวกเราก็ถึงบ้านแล้ว” เด็กชายกอดน้องสาวแน่น และพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ท่ามกลางลมหนาว เสื้อผ้าบนตัวของเขาบางมากเพราะเสื้อคลุมที่มีอยู่ก็ถอดไปห่อตัวให้น้องสาวแล้วทำให้บนตัวเขาตอนนี้มีเพียงเสื้อผ้าบางๆ เท่านั้น
ถังเยี่ยนที่ตอนนี้เหมือนจะได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว เธอรับรู้ได้ถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นและอ้อมกอดที่คุ้นเคยของพี่ชาย เป็พี่ชายของเธอ แต่พี่ชายของเธอเสียชีวิตไปแล้วตอนอายุสิบสองขวบ
ถังเยี่ยนจำได้ว่าในปีนั้นเมื่อเธอล้มป่วย แม่เลี้ยงใจร้ายของเธอโยนเธอออกจากบ้านท่ามกลางอากาศหนาวเย็น เพราะมองว่าเธอเป็ตัวซวยของบ้าน มีเพียงพี่ชายเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างเธอ คอยช่วยเหลือเธอ
ถังเยี่ยนพยายามอยากจะลืมตาเพื่อมองให้ชัดขึ้น แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของเธอทนไม่ไหวจึงได้หมดสติไป
“เสี่ยวเยี่ยนน้องต้องอดทนไว้นะ”
ถังหยวนมองใบหน้าเล็กเรียวขาวซีดของน้องสาว ก็รู้สึกว่าน้องสาวในอ้อมแขนของเขาดูเหมือนจะไม่เคลื่อนไหว เขาใกลัวจึงกัดฟันบังคับตนเองให้วิ่งเร็วที่สุด
พอกลับมาถึงบ้าน เขารีบอุ้มน้องสาวไปที่เตาไฟที่จุดไว้เพื่อให้ความอบอุ่นภายในบ้าน เขาพยายามเอาร่างของน้องสาวเข้าไปให้ใกล้เตาไฟที่สุดเพื่อให้น้องสาวได้รับความอบอุ่น แล้วยังเอานิ้วไปััที่จมูกน้องสาว เมื่อรับรู้ถึงลมหายใจของน้องสาว น้ำตาที่อัดอั้นอยู่นั้นก็ไหลออกมา
แม้เขาจะพยายามทำตัวอดทน และทำตัวเข้มแข็งแค่ไหนแต่เขาก็ยังเป็เพียงเด็กอายุสิบขวบ ภายในใจยังมีแต่เื่กลัวเต็มไปหมด กลัวว่าหากน้องสาวไม่ฟื้นแล้วเขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร เมื่อนึกถึงคำสั่งเสียของผู้เป็แม่ก่อนตายน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาอย่างน่าสงสาร
ถังหยวนวางน้องสาวร่างไว้ข้างเตาไฟ ส่วนตัวเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องครัวแล้วเปิดหม้อดูว่ามีอะไรให้น้องสาวกินไหม เมื่อเปิดหม้อดูก็พบกับซุปกระดูกหมู กลิ่นหอมของซุปนั้นทำให้เขาต้องน้ำลายไหลทันที แต่เขาจะไม่กินเพราะเขาจะนำซุปนี้ไปให้น้องสาว ถังหยวนตักซุปร้อนๆ ใส่ถ้วยเสร็จแล้ว ขณะกำลังเดินออกจากห้องครัวก็พบเข้ากับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เธอมีผิวขาวและอวบอ้วนต่างจากน้องสาวของเขามาก เด็กหญิงตัวเล็กๆ เมื่อเห็นถ้วยซุปร้อนๆ ในมือของถังหยวน
“แกมันไอ้หัวขโมย แกกล้าดียังไงถึงมาขโมยซุปที่แม่ทำเอาไว้ให้ฉัน”
ถังหยวนรู้สึกแย่มากเมื่อได้ยินคนพูดว่าตนเองเป็หัวขโมย
ที่นี่คือบ้านของเขา บ้านของเขา ในตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถกินอะไรก็ได้ในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าเขากับน้องสาวจะกินอะไรมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่เคยถูกใครต่อว่า แต่หลังจากที่แม่เขาเสียชีวิตจากไปพ่อของเขาแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ อาหารเสื้อผ้า และของในบ้านนี้ที่เคยเป็ของเขากับน้องสาว มันก็ไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่กินของในบ้านของตนเองยังถูกหาว่าเป็หัวขโมย
เขาสัญญากับแม่ของเขาว่าเขาจะดูแลน้องสาวของเขาอย่างดี เลี้ยงดูเธอ และไม่ปล่อยให้ใครรังแกเธอ แต่เขาไม่มีประโยชน์เลย ทั้งเขาและเธอก็ต้องทำงานในบ้าน เริ่มซักเสื้อผ้า ทำอาหาร เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู แล้วก็ต้องไปทำไร่ตามที่ผู้ใหญ่สั่งทั้งๆ ที่น้องสาวของเขาอายุเพียงแค่เจ็ดขวบเท่านั้น เป็วัยที่ควรจะได้ไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ ลูกๆ ของแม่เลี้ยงสองคนได้ไปโรงเรียนได้กินเนื้อ ส่วนเขากับน้องแม้แต่เศษอาหารของคนในบ้านยังไม่ได้กิน
ถังหยวนกัดฟันตั้งสติ เขาจะมายืนสนใจเด็กหญิงตรงหน้าไม่ได้เพราะน้องสาวของเขากำลังรอซุปถ้วยนี้อยู่
“มาเถอะ เสี่ยวเยี่ยน ดื่มซุปสักหน่อย แล้วน้องจะหายป่วย” เขาใช้ช้อนตักซุปใส่ปากน้องสาวอย่างระมัดระวัง
ถังเยี่ยนที่อยู่ในอาการงุนงงสติพร่ามัวลืมตาไม่ขึ้น ทันใดนั้น กลิ่นหอมบางอย่างก็เข้ามาในจมูก และก็มีน้ำซุปร้อนๆ ถูกตักเข้าปาก ถังหยวนให้น้องสาวกินน้ำซุปทีละคำ ถังเยี่ยนเองก็อ้าปากกินซุปนั้นอย่างหิวโหย
ถังหยวนรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นน้องสาวของเขาดื่มซุปที่เขาตักมาจนหมด
เขาวางมือบนหน้าผากของน้องสาวอย่างระมัดระวัง เมื่อร่างกายของน้องสาวได้รับไออุ่นจากเตาไฟ ตอนนี้ร่างกายของน้องสาวของเขาก็อุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว
ถังหยวนที่บนตัวตอนนี้ก็เหลือเพียง เสื้อผ้าตัวบางๆ เท่านั้นเขาจึงขยับร่างกายของตนเองเข้าไปใกล้ เตาไฟอีกเล็กน้อยเพื่อรับเอาไออุ่น และก็มองน้องสาวที่ตอนนี้นอนหลับอยู่ข้างเตาไฟ
ถังเยี่ยนที่ตอนนี้ได้นอนข้างเตาไฟอุ่นๆ และยังได้กินน้ำซุปที่พี่ชายเอามาให้จนอิ่ม ทำให้ตอนนี้เธอสามารถนอนหลับได้อย่างสบาย
“แม่ นั่นเขาเอง เขาเป็คนขโมยซุปที่แม่ทำให้หนู”
เสียงแหลมสูงทำให้ถังเยี่ยนที่ได้ยินเสียงนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่สบายใจ
“ถังหยวนเ้าเด็กเลว แกกล้าดียังไงถึงได้มาขโมยซุปที่ฉันทำเอาไว้ แกมันเด็กสารเลวหัดขโมยั้แ่เด็ก สมกับเป็เด็กที่ไม่มีแม่สั่งสอนจริงๆ ”
ถังหยวนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างเตาไฟเมื่อได้ยินเสียงด่าทอนั้นตัวเขาก็สั่นด้วยความกลัว
“นี่แกกล้าดียังไงถึงได้เอานางเด็กตัวซวยนี้กลับมาที่บ้าน หากมันตายในบ้านหลังนี้แกอยากให้ทุกคนในบ้านนี้ซวยไปพร้อมกับมันหรอ”
“แม่ครับ น้องสาวผมยังมีชีวิตอยู่”
“แกรีบพาน้องสาวตัวซวยของแกออกจากบ้านฉันไปไม่อย่างนั้นฉันจะเป็คนโยนมันออกไปเอง” ขณะที่เธอพูดแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับผ้าห่มที่ห่อตัวของถังเยี่ยนเอาไว้ เพราะตั้งใจจะหยิบทั้งผ้าห่มและตัวเธอโยนออกไปนอกบ้าน
ถังหยวนเห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปอุ้มน้องสาวเอาไว้ และกอดน้องไว้แน่นในอ้อมแขนของเขา
“แม่ผม ขอร้องล่ะ น้องสาวยังมีชีวิตอยู่ เธอยังมีชีวิตอยู่ ต่อไปนี้ฉันกับน้องสาวจะกินข้าวมื้อเดียว ฉันจะทำงานหนักในทุ่งนา ได้โปรดแม่อย่าโยนน้องสาวผมออกจากบ้านเลยนะ”
ถังหยวนกอดน้องสาวเอาไว้และซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง ไม่ว่าแม่เลี้ยงจะหยิกและทุบตีเขาแรงแค่ไหนเขาก็ไม่ยอมปล่อย และใช้ร่างกายเล็กๆ ของตนเองปกป้องน้องสาวเอาไว้
“ทำอะไรกันอยู่ทุกคนไปไหนกันหมด” ในเวลานี้ มีเสียงะโมาจากข้างนอก แม่เลี้ยงเมื่อได้ยินเสียงนั้นก็หยุดมือจากการตีถังหยวน และเดินออกจากห้องนี้ไป
“สามีคุณกลับมาแล้วฉันทำซุปกระดูกหมูพร้อมแล้ว ทุกคนในบ้านรอคุณกลับมาเพื่อกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน”
“อะไรกันเด็กคนนี้ป่วยอยู่ไม่ใช่หรอ แกเอาเธอกลับมาทำไม แกไม่กลัวเธอจะเอาเชื้อมาแพร่ให้คนในบ้านหรือไง? ”
ถังฉีเดินเข้ามาในห้องที่จุดเตาเอาไว้ เพื่อให้ความอบอุ่นในบ้าน แต่เมื่อเข้ามากับเห็นลูกชายกอดเด็กผู้หญิงเอาไว้ ซึ่งก็คือลูกสาวของเขาเองเขาไม่ชอบลูกสาวคนนี้เลย หลังจากแม่ของเด็กทั้งสองตายจากไปเขาก็แต่งงานกับภรรยาคนใหม่และมีลูกติดภรรยาอีกสองคนที่พูดจาเอาใจเขา ทำให้เขารักเด็กทั้งสองคนนั้นมาก เพราะเด็กทั้งสองทั้งฉลาดและพูดจาเอาใจเก่ง ส่วนในสายตาของเขาลูกๆ ทั้งสองของตัวเองทั้งขี้ขลาดและโง่เขลา ทำให้เขาไม่ได้สนใจลูกทั้งสองคนนี้ั้แ่แต่งงานกับภรรยาคนใหม่
“พ่อ อาการป่วยของน้องสาวฉันดีขึ้นแล้ว ดูสิ พ่อ น้องสาวไม่มีไข้แล้ว เธอยังมีชีวิตอยู่ ให้น้องกลับมาอยู่ในบ้านกับเราเถอะนะครับ” ถังหยวนยืนขึ้นโดยมีถังเยี่ยนอยู่ในอ้อมแขนของเขา
บนตัวของถังหยวนมีทั้งโคลนและสิ่งสกปรก มีรอยหยิกและรอยขีดข่วนมากมายบนใบหน้าของเขา และมีถังเยี่ยนะที่นอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าเล็กๆ ของเธอมีขนาดเท่าฝ่ามือ ใบหน้าขาวซีดเซียวอย่างน่าสงสาร
ถังฉีไม่แม้แต่เหลือบมองไปที่เด็กทั้งสองที่อยู่มุมห้อง
“โชคร้ายจริงๆ ที่มีแกสองคนอยู่ในบ้านของฉัน แกน่าจะตายๆ ตามแม่แกไปซะ” เขาตะคอกและก็เดินออกจากห้องนี้ไป
“ดีแล้วในเมื่อแกกับน้องยังมีชีวิตอยู่ก็จะได้มีคนมาใช้แรงงานในบ้านหลังนี้ หากไม่มีแกสองพี่น้องก็คงไม่มีใครทำงานบ้านพวกนี้ ฉันคงไม่ยอมให้ลูกสาวกับลูกชายของฉันทำงานแบบนี้ แกจงขอบคุณฉันที่ยังให้แกกับน้องสาวมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ได้”
แม่เลี้ยงใจร้ายพูดจบจากนั้นเธอก็ ทะลึงตามองไปที่ถังหยวนด้วยความไม่พอใจ และก็เดิมตามถังฉีออกจากห้องนี้ไป
เมื่อได้ฟังคำพูดของพ่อแท้ๆ กับแม่เลี้ยงพูดแบบนั้นภายในใจก็รู้สึกเ็ป จึงได้กอดน้องสาวร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ถังเยี่ยนที่นอนหลับอยู่แต่เธอกลับสามารถรับรู้ถึงคำพูดของพ่อและพี่ชายรวมถึงคำพูดของแม่เลี้ยงด้วย แต่เธอกลับไม่สามารถลืมตาได้
“แม่ชุดนี้ของหนูมันเปื้อนแล้วหนูอยากได้ชุดใหม่”
ถังลี่จูเมื่อเห็นแม่เดินออกมาจากห้องนั้นก็รีบ เอารอยเปื้อนบนชุดของตนเองให้แม่ดู
“ไม่เป็ไรลูกเดี๋ยววันพรุ่งนี้แม่จะพาลูกเข้าไปในอำเภอแล้วให้ลูกเลือกเอาชุดที่ลูกอยากได้เลยดีไหม” เย่เหยาพูดและกอดลูกสาวของเธอด้วยความรัก เมื่อมองใบหน้าน่ารักของลูกสาว บนใบหน้าของผู้เป็แม่อย่างเย่เหยาก็มีแต่รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ ลูกสาวที่เธอให้กำเนิดทั้งน่ารักและฉลาดเอาอกเอาใจเก่ง
เย่เหยาพาลูกสาวของเธอออกไปทานอาหารเย็น บนโต๊ะอาหารมีสี่คนกินข้าวอย่างอบอุ่น โต๊ะอาหารมีทั้งหมูตุ๋นชิ้นโตๆ ซุปกระดูกหมูกลิ่นหอม บนโต๊ะอาหารมีทั้งเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม
ถังหยวนแม้จะเศร้าเสียใจแค่ไหนแต่ก็ต้องกัดฟันสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป หากเขาเป็อะไรไปน้องสาวจะอยู่อย่างไร ถังหยวนที่เ็ปตัวไปหมดแม้เพียงขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บ แต่เด็กชายก็พยายามยืนขึ้นและเดินไปที่ตู้ไม้เก่าๆ ที่มีอยู่ในบ้าน
ถังหยวนพยายามเปิดตู้ไม้นั้นอย่างทุลักทุเลเพื่อไม่ให้มีเสียงดังจนคนข้างนอกได้ยิน เมื่อเปิดตู้ได้แล้วถังหยวนก็หยิบหมั่นโถที่เขาเก็บซ่อนเอาไว้
“เสี่ยวเยี่ยนตื่นขึ้นมากินอะไรหน่อยนะ แล้วค่อยนอนต่อ” ถังหยวนปลุกน้องสาว
ถังเยี่ยนที่ถูกปลุกก็ลืมตาอย่างงัวเงีย เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้าที่มีแต่รอยแดง และมีรอยเืเล็กน้อยบนใบหน้าของพี่ชาย
“เสี่ยวเยี่ยนน้องกินนี่ก่อนนะกินแล้วค่อยนอนต่อ หมั่นโถนี้พี่ไปทำงานแลกมาน้องลุกขึ้นมารีบกินเถอะ” ถังหยวนยื่นหมั่นโถสีกระดำกระด่างให้น้องสาว
ถังเยี่ยนยื่นมือเล็ก ๆ ออกมารับหมั่นโถจากนั้นก็แบ่งครึ่งเป็สองชิ้นและก็ยื่นให้พี่ชาย
“พี่ชายก็กินด้วยสิ” ถังเยี่ยนเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“น้องกินเถอะพี่ไม่หิวหรอก” ถังหยวนส่ายหัวถึงแม้ท้องจะหิว แต่ก็ต้องให้น้องสาวกินก่อน น้องสาวยังป่วยอยู่ส่วนเขาไม่เป็ไร
“ถ้าพี่ไม่กินฉันก็ไม่กิน” คราวนี้ถังเยี่ยนเอ่ยพูดด้วยความจริงจัง พร้อมกับจ้องตาพี่ชาย
“ก็ได้พี่กินก็ได้”
ถังหยวนรับหมั่นโถครึ่งหนึ่งจากมือของน้องสาวมา และก็กินพร้อมกับน้องสาว ถังหยวนเมื่อกินหมั่นโถครึ่งนั้นหมดแล้วก็ลูบหัวน้องสาวด้วยความรัก
“เดี๋ยวพี่ไปตักน้ำมาให้นะน้องรอก่อน” พูดจบเด็กชายร่างผอมบางก็รีบวิ่งออกจากห้องไป
ถังเยี่ยนมองตามหลังพี่ชายน้ำตาก็ไหลออกมา เธอมองไปรอบๆ ห้องที่คุ้นเคย และมองดูมือเล็กๆ ของเธอด้วยความไม่เชื่อ บนมือเล็กๆ มีแต่รอยแผลจากการทำงานหนัก
ถังเยี่ยนจำได้ว่าเธอถูกโยนออกจากบ้านตอนอายุเจ็ดขวบ ส่วนพี่ชายของเธอตอนนั้นก็อายุเพียงแค่สิบขวบ ตอนที่เธออายุเจ็ดขวบแม่เลี้ยงพึ่งแต่งงานกับพ่อได้ไม่นาน เธอที่ต้องทำงานอย่างหนักและมีอาการป่วยทำให้ถูกโยนออกจากบ้านเพราะกลัวจะมาตายในบ้านหลังนี้ แต่แล้วพี่ชายของเธอก็ไปช่วยเธอกลับมา แต่อีกสองปีต่อมาพี่ชายของเธอก็เสียชีวิตจากการช่วยเธออยู่ดี
ถังเยี่ยนรับรู้ถึงความเ็ปที่มีอยู่ในร่างกาย และรับรู้ถึงอากาศร้อนและอากาศหนาว น้ำตาเธอไหลออกมาไม่หยุด เพราะเธอรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันคือเื่จริง เธอย้อนกลับไปเมื่อเธออายุได้เจ็ดขวบ เทพบน์คงจะเห็นใจเธอที่ใช้ชีวิตยากลำบากเหลือเกินในชาติที่แล้ว จึงได้ให้โอกาสเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ถังเยี่ยนที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอจะต้องปกป้องพี่ชายเพื่อไม่ให้เขาเสียชีวิตไปั้แ่ยังเด็ก และเธอจะต้องทำให้พี่ชายของเธอมีชีวิตดีๆ เพื่อตอบแทน์ที่เมตตาเธอ
เธอต้องพาพี่ชายออกไปจากบ้านหลังนี้ เธอจะไม่ยอมเป็คนรับใช้ให้คนบ้านนี้อีกต่อไป ชาติที่แล้วเธอต้องรับใช้คนบ้านนี้จนตัวเองเสียชีวิต แม้แต่พ่อแท้ๆ ของเธอยังไม่เห็นค่าตัวเธอ
พี่ชายของเธอเสียชีวิตพ่อก็ไม่มีอาการเสียใจเลยแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่พี่ชายของเธอเป็ลูกทางสายเืของเขา แต่เขากลับเอาอกเอาใจลูกคนอื่นที่ไม่ใช่สายเืของตนเอง
เมื่อประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ถังเยี่ยนรับรู้ถึงลมหนาวที่พัดเข้ามาในห้อง และก็เห็นพี่ชายถือน้ำเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวน้ำจะหกระหว่างทางจนน้องสาวไม่ได้กิน
“น้องสาวกินน้ำหน่อยนะ” ถังหยวนพยุงร่างน้องสาวขึ้นจากนั้นก็ค่อยๆ ป้อนน้ำให้เธออย่างช้าๆ
ถังเยี่ยนมองรอยแผลทั้งรอยเก่าและรอยใหม่บนใบหน้าของพี่ชาย มีทั้งรอยเล็บและรอยหยิก ถังเยี่ยนก็คงมีรอยแผลไม่ต่างจากพี่ชายเช่นกัน เย่เหยาทุบตีสองคนพี่น้องอย่างกับไม่ใช่คน
“พี่ชาย มันเจ็บหรือเปล่า? ” เธอยื่นมือเล็กๆ ที่มีไออุ่นออกไปจับที่ใบหน้า เย็นเฉียบของพี่ชาย
“ไม่เจ็บ ไม่เจ็บ พี่ชินแล้ว” ถังหยวนส่ายหัวพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องสาว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้