นี่ก็ทำให้เถ้าแก่หวางที่กำเริบเสิบสานตะลึงงัน หลังจากนั้นเขาสังเกตเจียงไป๋ั้แ่หัวจดเท้า เขาชี้เจียงไป๋พลางตะคอกใส่อย่างเมามายว่า “ไอ้หนูแกทำอะไร? ขวางฉันแล้ว แกรู้ไหม? ไปให้พ้น! เร็ว! ไม่อย่างนั้นฉันจะซัดแกด้วย”
เสียดายสิ่งที่เขาได้รับกลับไม่ใช่คำขอโทษของเจียงไป๋ และยิ่งไม่ใช่รอยยิ้มที่เอาอกเอาใจ แต่กลับถูกถีบอย่างรุนแรง
สำหรับคนอย่างนี้ เจียงไป๋จะไม่เกรงใจ และถีบอีกฝ่ายปลิวออกไปไกลสี่ห้าเมตร เขาซัดชายวัยกลางคนอีกสองคนที่ตามมาด้านหลังล้มลงไปกับพื้น เขาเพิ่งจะหันหลังมาลากจู้ซินซินเพื่อเตรียมที่จะออกไป
จริงๆ แล้วด้วยพลังของเจียงไป๋ การถีบเมื่อครู่หากออกแรงก็จะถีบอีกฝ่ายจนเละได้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจียงไป๋้า
ไม่ใช่ว่าไม่กล้า แต่ไม่มีความจำเป็ อีกฝ่ายก็แค่ใช้วาจาเอาเปรียบ จู้ซินซินก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไรจริงๆ ไม่จำเป็ต้องฆ่าคนเพราะเื่แค่นี้ เจียงไป๋ก็ไม่ใช่พวกคลั่งฆ่าคน หรือวันไหนไม่เห็นเืก็จะอยู่ไม่ได้ เป็ธรรมดาที่จะไม่ทำอย่างนั้น
“พวกนายยืนงงอะไรกัน? เข้าไปสิ!”
เถ้าแก่หวางที่ตัวกลม พุงพลุ้ย เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติของชายวัยกลางคน หลังจากที่ถูกเจียงไป๋ถีบจนกระอักเืได้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วตะคอกใส่คนหนุ่มที่อยู่ด้านหลังอีกเจ็ดแปดคนอย่างดุร้าย
เขาเพิ่งพูดไป คนหนุ่มที่เมื่อครู่ยังงงงันอยู่บ้างก็ทยอยกันลงมือทันที และพุ่งออกมาทีละคน หนึ่งในนั้นพุ่งเข้ามา พอเข้ามาใกล้ๆ ก็ะโถีบมาที่หน้าของเจียงไป๋
“โอ๊ย” และต่อมาก็มีเสียงร้องอย่างน่าอนาถ
แต่กลับไม่ได้เป็อย่างที่ทุกคนคิด เขากุมหน้าและร้องหมอบอยู่ที่พื้น ชายหนุ่มชุดดำคนนั้นถูกเตะปลิวออกไปแล้ว ตัวเขากอดท้องกลิ้งอยู่บนพื้น
เสี่ยวเทียนมาปรากฏตัวั้แ่เมื่อไรไม่รู้ ่เวลาที่อีกฝ่ายะโขึ้นมา เขาก็มาขวางอยู่ตรงหน้าเจียงไป๋และยกขาถีบไปทีหนึ่ง ส่วนขายกขึ้นมาที่หัว และถีบอีกฝ่ายปลิวออกไป
วินาทีต่อมา หมัดที่ต่อยมาทางเสี่ยวเทียวก็ถูกเขาหลบได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นมือทั้งคู่ก็ออกแรง “แควก” แขนของคนที่ต่อยถูกเสี่ยวเทียนหักแล้ว
เสี่ยวเทียนลงมืออย่างรวดเร็วราวกับเสือดาวที่ว่องไว ในทางเดินที่ทั้งแคบทั้งเล็กอีกฝ่ายเจ็ดแปดคนสู้เสี่ยวเทียนคนเดียวไม่ได้ ประมาณหนึ่งนาทีก็ทยอยกันร้องอย่างน่าอนาถ
ทำให้ชายหญิงที่เมื่อครู่เมามายอยู่กลางเสียงดนตรีตรงห้องโถงด้านนอกใจนกรีดร้อง
มีคนถูกซัดออกไปที่ห้องโถงตรงด้านนอกทางเดินสองสามคน และนอนร้องอยู่บนพื้น
ส่วนเถ้าแก่หวางที่เมื่อครู่ยังกำเริบอยู่เวลานี้สีหน้ากลับขาวซีด
สำหรับพนักงานที่ก่อนหน้านี้ถูกตีเพราะช่วยจู้ซินซินออกหน้า เวลานี้มองดูเสี่ยวเทียนที่เหมือนกับเทพาด้วยใบหน้าที่งุนงง
“พี่เสี่ยวเทียนเก่งมาก” จู้ซินซินอดชมไม่ได้
สำหรับเื่นี้ เจียงไป๋ฉีกยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร
“พวกนายทำอะไร? ทำไมถึงมาตีกันที่นี่? รนหาที่ตายใช่ไหม!”
หลังจากที่เสี่ยวเทียนจัดการศัตรูหมดแล้ว เสียงดนตรีที่ดังครึกโครมในห้องโถงนั้นก็หยุดลง ไกลออกไปมีเสียงเอะอะแว่วมา ชายร่างกำยำที่สวมเสื้อกั๊กดำมีกล้ามเป็มัดๆ ยี่สิบกว่าคนเดินออกมาจากสุดทางเดิน แต่ละคนในมือถือกระบองเหล็กและแท่งเหล็ก
พอมาถึงชายหัวล้านอายุสามสิบกว่าปีที่นำทีมก็ตะคอกขึ้นมาทันที
“พี่จ้าว เมื่อครู่พวกเถ้าแก่หวาง้าจะให้ซินซินอยู่เป็เพื่อนให้ได้ ผมก็เลยมาหยุดไว้ พวกเขายังต่อยผม คุณผู้ชายคนนี้จึงมาช่วย”
พนักงานที่สวมเสื้อกั๊กแดงคนนั้นเวลานี้ก็ลุกขึ้นมาแล้ว เขาเช็ดเืที่มุมปาก และพูดเสียงต่ำกับชายหัวล้านคนนั้น แถมยังช่วยเสี่ยวเทียนไกล่เกลี่ยอีกด้วย
“ฉันถามนายแล้วหรือ?”
น่าเสียดายที่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ และไม่มองเขาแม้แต่น้อย แล้วก็ถอนหายใจใส่อย่างเยือกเย็น ดวงตาที่ดุร้ายคู่หนึ่งจ้องมองเสี่ยวเทียน
“จ้าวฉี พวกเขาตีฉัน วันนี้นายต้องให้คำอธิบายแก่ฉัน ไม่อย่างนั้นวันนี้เื่นี้ก็ไม่จบแน่! พวกนายให้เขามา ให้เขามาดูฉันสักหน่อยว่าถูกตีจนเป็อย่างไรบ้าง?” เถ้าแก่หวางคลานขึ้นมาอย่างยากเย็น บนใบหน้ามีแต่ความโกรธ และตะคอกใส่ชายหัวล้านคนนั้น เขาไม่มีสีหน้าขาวซีดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าคนที่เพิ่งมาถึงก็คือมาช่วย และมาให้ความมั่นใจแก่เขา
“วางใจ … เถ้าแก่หวาง ผมจะต้องให้คำอธิบายกับคุณแน่”
สีหน้าของจ้าวฉีชายหัวล้านคนนั้นแปรเปลี่ยนไป เขาไม่มองเถ้าแก่หวาง แต่ยังคงจ้องเสี่ยวเทียนอยู่
“ทำไมอยากจะลงมือกับฉันหรือ?”
เสี่ยวเทียนยืดเส้นยืดสายแล้วพูดอย่างยิ้มแย้มและไม่กลัว
ถึงแม้คนของอีกฝ่ายจะมากันมาก แต่เขาก็มีความมั่นใจในตัวเองพอสมควร
สำหรับเจียงไป๋กับจู้ซินซินแล้ว เขาไม่เป็ห่วง ล้อเล่นน่า อย่างเจียงไป๋จะถึงคราวที่ต้องให้คนอื่นมาปกป้องที่ไหนกัน?
“เดิมทีเื่นี้ก็ไม่เกี่ยวกับนาย ทำไมนายถึงต้องเข้ามายุ่ง? ฉันดูออกว่านายฝีมือร้ายกาจมาก แต่ทางพวกเรามีกันอยู่ยี่สิบกว่าคน แต่ละคนล้วนมีอาวุธอยู่ในมือ ไม่ใช่ว่านายจะสู้พวกเราทั้งหมดได้!”
จ้าวฉีหรี่ตา ภายใต้การจับจ้องของดวงตาหลายร้อยคู่ที่อยู่ในห้องโถง เขาพูดกับเสี่ยวเทียนอย่างเยือกเย็น
“ทำไมจะไม่เกี่ยวกับเขาล่ะ? เขามากับผม น้องสาวผมอยู่บ้านดีๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ออกมาทำงานที่นี่ และผมก็เห็นเข้าพอดี คนพวกนี้กล้าหยอกเย้าเธอ จะได้รับการสั่งสอนสักหน่อยก็สมควรแล้ว น้องสาวผมทำงานที่นี่ พวกคุณไม่ใช่ว่าควรจะปกป้องเธอหรือ? ทำไมแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ผมว่าผับนี้ของพวกคุณควรจะปิดกิจการไปซะ”
เสี่ยวเทียนไม่ตอบ ทางเจียงไป๋ก็จูงมือจู้ซินซินเดินออกมา เขาลูบหัวของเธอ และพูดกับจ้าวฉี
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของจ้าวฉีแปรเปลี่ยนไปมาก และไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี
เื่นี้ทางพวกเขาก็จัดการได้ไม่ค่อยดี จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าไม่เห็น แต่ทางเถ้าแก่หวางล่วงเกินไม่ได้ จึงไม่กล้ายุ่งสุ่มสี่สุ่มห้าเท่านั้น ตอนนี้เื่นี้กลับถูกเจียงไป๋เปิดโปงแล้ว จ้าวฉีกลับพบว่าตนเองไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี
ตรงนี้มีคนมองมากมายหรือว่าจะพูดว่า “พวกเราเห็นแล้ว แต่เถ้าแก่หวางพวกเราแหย่ไม่ได้ หากเขา้าผู้หญิงสักคน พวกเราก็ล้วนต้องทำเป็ไม่เห็น!?”
คำพูดนี้หากเขากล้าพูดออกมา ต่อไปที่นี่ใครยังจะกล้ามาทำงานอีก และใครยังจะกล้ามาเที่ยวอีก?
ไม่มีความรู้สึกปลอดภัยแม้แต่น้อย ใช่ไหม?
“ฉันจะจัดการนายเพราะอะไรหรือ? ที่นี่ฉันเปิดเพื่อทำการค้า สิ่งที่้าคือความปลอดภัย ไม่ว่าใครหากมาตีคนที่นี่ก็ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน ฉันก็อยากจะดูว่า นายมีสิทธิ์อะไรจะให้ผับของฉันเปิดต่อไปไม่ได้อีก!”
ตอนที่จ้าวฉีกำลังลังเลว่าควรจะตอบอย่างไรนั้น เสียงดังกังวานเสียงหนึ่งก็ดังแว่วมา ผู้ชายใส่แว่นตากรอบทอง อายุประมาณสามสิบห้าปีคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มคน และพูดกับเจียงไป๋อย่างเยือกเย็น
“เถ้าแก่”
พวกจ้าวฉีต่างก็ทักทายเขา
แต่คนคนนี้กลับเดินตรงมาที่ข้างกายของเถ้าแก่หวางอย่างไม่สนใจ พลางพูดด้วยใบหน้าที่เอาอกเอาใจว่า “เถ้าแก่หวางผมต้องขอโทษด้วย ขอโทษด้วย ทำให้คุณใแล้ว เื่วันนี้ ผมจะให้คำตอบที่พอใจแก่คุณแน่นอน”
เมื่อพูดจบเขาก็หันหน้าไปพูดกับทุกๆ คนว่า “ทุกท่าน วันนี้เป็เื่ส่วนตัวของพวกเรา หวังว่าทุกท่านอย่าได้ถือสา ให้เวลาผมห้านาทีจะจัดการเื่นี้ให้เสร็จ ทุกท่านสนุกกันต่อเถอะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างของวันนี้ฟรีหมด!”
“ยังไม่ลงมืออีกหรือ?”
เมื่อพูดจบ เขาก็พูดแบบนี้กับจ้าวฉีทันที
จ้าวฉีตะลึงงัน หลังจากนั้นั์ตาก็มีประกายความชั่วร้าย แล้วเตรียมจะลงมือทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้