เจียงไป๋ไม่ได้พูด แต่พยักหน้า เพื่อแสดงว่าให้อู๋เทียนพูดต่อ
อู๋เทียนเพิ่งจะยิ้มอย่างเคอะเขิน หลังจากนั้นพูดว่า “เ้าพ่อเจียง พวกลู่ลู่คุณก็น่าจะรู้จัก พูดตรงๆ ่นี้พวกเธอถ่ายละครที่บริษัทของพวกเราลงทุนอยู่เื่หนึ่ง ตอนนี้ดังมาก บริษัทของพวกเราทำกลุ่มให้พวกเธอแล้ว หลังจากนี้เตรียมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่คนคนนี้ก็ดังมาก ่นี้พวกเธอถูกผู้ทรงอิทธิพลในที่ที่หนึ่งของทางเหนือจับจ้อง และเื่เดือดร้อนก็มาเยือนแล้ว”
“ความหมายของคุณคือ ให้ผมช่วยพวกคุณจัดการ? ผมไม่เข้าใจนิดหน่อย คุณอู๋เทียนไม่ต้องพูดถึง แต่พื้นเพของอู๋จงผมก็รู้ คุณอู๋จงในเทียนตูก็ถือว่าเป็บุคคลหมายเลขหนึ่งที่เรียกลมเรียกฝนได้ พื้นเพก็ไม่สะอาด จัดการเื่เล็กน้อยก็ไม่น่าจะยากสำหรับคุณใช่ไหม” เจียงไป๋ขมวดคิ้ว พลางถามอย่างแปลกใจ
พูดจริงๆ หากเป็กฎกติกาซ่อนเร้น เื่เล็กน้อยแค่นี้สองคนนี้ก็มาหาเขา จะเป็การทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่ไปไหม?
และจะเป็ใคร้าก็เหมือนกันทั้งนั้น
ตอนนี้ส่งตัวลู่ลู่มา หรือว่าแค่ให้มาดื่มเหล้าเป็เพื่อนเขาหรือ? เป็ไปไม่ได้ …
ในเมื่อเป็เช่นนี้ ทำไมเขาถึงมองข้ามคนใกล้ตัวไปล่ะ?
โดยเฉพาะเจียงไป๋เข้าใจถึงเบื้องลึกของอู๋จง เ้าหมอนี่ลงมือโหด ลูกน้องกลุ่มนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะแหย่ได้ง่ายๆ
อู๋เทียนเป็น้องแท้ๆ ของเขา เื่ของอู๋เทียน เขาจะไม่ยุ่งได้หรือ?
“เื่นี้ … พูดตรงๆ คนของผมเคยไปแล้ว เสียดายที่เสียเปรียบไปไม่น้อย ตอนนี้ถูกคนจับไว้สิบกว่าคนแล้ว ทางอีกฝ่ายก็พูดมาแล้วว่า จะให้พวกเราพี่น้องได้เห็นดี ่เวลานี้ก็สู้กันสองสามครั้ง ตอนนี้ทางผมก็มีคนตายไปแล้วยี่สิบกว่าคน อีกฝ่ายก็ดีหน่อย แต่ก็ดีกว่ากันไปไม่เท่าไร สู้กันจนบอบช้ำทั้งสองฝ่าย”
ในที่สุดอู๋จงก็ปริปากพูด และพูดอย่างอึดอัดอยู่บ้าง
ปกติเขาจะหยิ่งผยอง ตอนนี้พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เขาลงมือแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่รอช้า คิดไม่ถึงว่าจะสู้กันพอฟัดพอเหวี่ยง ตอนนี้ดูท่าแล้วน่าจะทนไม่ไหว
เจียงไป๋มองลู่ลู่ที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง เขาถามว่า “ผมพูดจริงๆ ในเมื่อคุณอู๋เทียนทำธุรกิจแล้ว ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเื่อย่างนี้ ทำไมครั้งนี้ถึงได้วุ่นวายจนตกลงกันไม่ได้ล่ะ เมื่อก่อนคุณจัดการอย่างไร?”
จริงๆ แล้วความหมายของเจียงไป๋ก็ชัดเจนมาก คุณส่งผู้หญิงคนนี้มาที่นี่ให้ฉันใช้กฎกติกาซ่อนเร้นได้ ในเมื่อเป็เช่นนี้ ตอนนี้ทำไมไม่ส่งคนไปล่ะ?
บอกว่าถูกใจเข้าแล้วไม่ใช่หรือ?
แบบนั้นเื่ราวก็ไม่ใช่ว่าจัดการได้ง่ายมากหรือ?
“ทางอีกฝ่ายไม่มีเหตุผล ทุบทำลายกองถ่ายที่อยู่ทางเหนือของพวกเรา และให้พวกเราส่งตัวลู่ลู่กับคนอื่นๆ ไปสามเดือน … เ้าพ่อเจียง สามเดือน ใครจะรู้ว่าพวกลู่ลู่จะกลับมากันได้ไหม? และพวกลู่ลู่เป็ดาราที่ผมสนับสนุน เป็ธรรมดาที่ผมจะปกป้องพวกเธอ หากครั้งนี้ผมประนีประนอมให้ ต่อไปจะอยู่ได้อย่างไร? หรือว่าใครก็มาถามเอาคนจากผมได้หรือ? พูดจริงๆ ผมอู๋เทียนทำบริษัทบันเทิงมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยเจอเื่อย่างนี้เลย เื่นี้ผมยอมไม่ได้ ดังนั้นจึงให้คนของผมไปลงมือ … ” อู๋เทียนหน้าแดง และพูดอย่างโกรธเคือง
เห็นได้ชัดว่าการกระทำของอีกฝ่ายยั่วให้เขาโกรธ ดังนั้นจึงทนไม่ได้ที่จะลงมือ แต่ผลลัพธ์คือพอลงมือก็พบว่าอีกฝ่ายกล้าทำอย่างนี้แน่นอนว่าไม่ใช่คนดี ดังนั้นจึงเสียเปรียบ
“ตอนนี้ล่ะ พูดอย่างไร?” เจียงไป๋ถาม
มีคนตายมากมายขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เื่ที่ว่าแค่ส่งคนไปแล้วก็จบเื่
อู๋เทียนและอู๋จงต่างก็ถือไม่ได้ว่าเป็คนดีอะไร หากตอนนี้สละเด็กสาวแค่สองสามคนก็จัดการเื่ได้ เจียงไป๋รู้สึกว่าพวกเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ตกลง
“ตอนนี้ … อีกฝ่าย้าให้พวกลู่ลู่ไปอยู่เป็เพื่อนด้วยหนึ่งปี และปริปากจะเอาหุ้นบริษัทภาพยนตร์ชิงหุ้ยของผม ้าศิลปินในสังกัดของผม ต่อไปให้เขามาหยิบเอาตามอำเภอใจ ยิ่งไปกว่านั้นจะให้ผมกับพี่ชายผมไปขอโทษเขาถึงบ้าน คุณว่าพวกเราพี่น้องจะตกลงเื่นี้ได้อย่างไร? นี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทางแล้ว จึงมาขอร้องคุณ”
อู๋เทียนฝืนยิ้ม และมองเจียงไป๋อย่างน่าสงสารพลางพูด
“เ้าพ่อเจียง ขอร้องล่ะ ช่วยพวกเราด้วย … หากพวกเราไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ไหม คุณก็ช่วยพวกเราหน่อย … ฉันสัญญาต่อไปฉันจะตอบแทนคุณ”
ทางลู่ลู่ก็เข้ามาร่วมด้วย เธอกอดแขนเจียงไป๋ไว้แน่น และน้ำตาคลออย่างน่าสงสาร
“อ้อ ทางเหนือที่ไหน? พูดมาเถอะ หากช่วยได้ฉันก็จะช่วย หากช่วยไม่ได้ เธอก็อย่ามาตำหนิฉันล่ะ เธอต้องรู้ว่าทางเหนือฉันไม่มีคนรู้จัก เื่นี้เกรงว่ายังต้องให้ฉันไปหาเ้าพ่อจ้าวออกหน้าให้ น้ำใจนี้ค่อนข้างมาก ฉันไม่อยากจะติดค้างง่ายๆ ”
เจียงไป๋ถอนหายใจ คิดแล้วคิดอีก จึงถามอย่างนี้
“รู้จัก รู้จัก คุณรู้จัก! จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องรบกวนเ้าพ่อจ้าว”
เมื่อได้ยินชื่อของจ้าวอู๋จี๋แล้ว สองพี่น้องก็ใ
ล้อเล่นน่า เื่แค่นี้จะให้เ้าพ่อจ้าวออกหน้าหรือ?
น้ำใจนั้นก็ติดค้างกันมากจริงๆ!
พวกเขาสองพี่น้องตอบแทนไม่ไหวหรอก
ดังนั้นจึงมาหาเจียงไป๋ ก็เพราะพวกเขารู้ว่าเจียงไป๋สามารถจัดการได้
“แบบนั้นหรือ?”
คำนี้กลับทำให้เจียงไป๋ตะลึงงัน และมองสองพี่น้องที่อยู่ตรงหน้าอย่างแปลกใจ
ทางเหนือเขาก็ไม่รู้จักใครจริงๆ หรือว่าเป็ทางด้านอู่เทียนซีหรือ?
หากเป็อย่างนี้ ก็ไม่ใช่ปัญหา โทรศัพท์ไปหาสักหน่อยเื่เล็กน้อยอย่างนี้อู่เทียนซีจะต้องเห็นแก่หน้าเขาแน่นอน
“เื่นี้ … คนเป็คนเมืองปิงเฉิง ผู้ทรงอิทธิพลหมายเลขหนึ่ง ใช่ ใช่ … คนของท่านชายน่าหลาน?”
ทางอู๋เทียนถูมือไปมา และพูดอย่างเคอะเขิน
“น่าหลานจงเต๋อ? ฉันไม่รู้จักเขาหรอก! ในเมื่อรู้ว่าเป็คนของเขา ทำไมคุณถึงไปแหย่เขาล่ะ?” สีหน้าของเจียงไป๋ไม่พอใจอยู่บ้าง
น่าหลานจงเต๋อคนนั้นแหย่ได้ง่ายๆ หรือ?
ถึงแม้เจียงไป๋ไม่กลัว แต่จะให้ไปแหย่ศัตรูตัวฉกาจอย่างนี้เพื่อพวกเขาสองพี่น้องอย่างไม่มีเหตุผลหรือ?
คุ้มค่าหรือ?
เจียงไป๋ก็ไม่ได้สนิทกับพวกเขาถึงขั้นนั้น!
หรือว่าเป็เพราะพวกเขาส่งผู้หญิงสวยมาหนึ่งคนหรือ?
ล้อเล่นน่า เจียงไป๋ก็ไม่ใช่คนลามก!
“นี่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าเป็คนของท่านชายน่าหลาน หากเป็คนของท่านจริงๆ ต่อให้ผมกล้าแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าไปแหย่หรอก! ก็แค่คนทางเมืองปิงเฉิงนั้นสนิทกับลูกน้องของท่านชายน่าหลาน ถือว่าเป็รอบนอก คุณก็รู้ว่าจริงๆ แล้วหัวเซี่ยก็ไม่มีของอย่างสังคมมืดอยู่ ไม่ว่าจะเป็เ้าพ่อจ้าว หรือว่าท่านชายน่าหลานก็ล้วนไม่ใช่พวกสังคมมืด เป็ธรรมดาที่จะไม่มีองค์กรอะไร พูดจริงๆ แล้วทุกคนต่างก็ต่อสู้กันเอง ก็เหมือนกับเ้าพ่อจ้าวอยู่ในเทียนตู ในทางตงเป่ย ใครๆ ก็ล้วนแอบอ้างความสัมพันธ์กับท่านชายน่าหลานเพื่อหากิน ดังนั้นคนที่ดีหน่อย ก็มีความสัมพันธ์กับท่านชายนิดหน่อย หากพูดว่าเป็คนของท่านชายก็จะเกินไปหน่อย”
ท่าทางของเจียงไป๋ทำให้อู๋จงใ และแอบด่าน้องชายตัวเองว่าพูดไม่เป็ และรีบเข้ามาพูดอธิบาย
นี่กลับทำให้เจียงไป๋พยักหน้า
ก็เป็อย่างที่อู๋จงพูด จ้าวอู๋จี๋ก็ดี น่าหลานจงเต๋อก็ดี อู่เทียนซีคนเหล่านี้ก็เป็เช่นนี้ เรียกขานว่าาาแห่งตงเป่ยอะไร วีรบุรุษแห่งเหอเป่ยอะไร จริงๆ แล้วก็เป็แค่การเรียกขาน และเป็ยอดพีระมิดในเขตนั้นๆ ทุกคนล้วนต้องยอมจำนนต่อพวกเขา เมื่อมีเื่จะสั่งใคร คนนั้นก็ต้องทำ
แต่พื้นที่ขนาดใหญ่นี้ ในเมืองที่มีทั้งดำและขาวนับไม่ถ้วน จะเป็คนของพวกเขาเสียหมดที่ไหนกัน?
ยังคงเป็ต่างคนต่างก็ต่อสู้กันเอง สู้กันไปมาจนอุตลุด ก็แค่ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของพวกเขา
พวกเขาอยู่ในจุดสูงสุด มีเงิน มีอำนาจ มีความสัมพันธ์ ดังนั้นจึงมีการเรียกขานอย่างนี้
หากพูดว่าทุกคนล้วนมีความสัมพันธ์กับพวกเขา และล้วนเป็คนของพวกเขา แบบนั้นก็ไร้สาระไปหน่อยแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้