“จะออกไปข้างนอกหรือ?” จ้าวต้านเห็นว่านางกำลังแบกตะกร้าอยู่ด้านหลัง จึงโยนขวานผ่าฟืนให้ปักลงบนพื้น
“จะไปเก็บสมุนไพรน่ะ” เวินซีพูดพลางมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ
เขาเป็เพียงนักล่าสัตว์จริงๆ หรือ? เพียงแค่รังสีที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา ก็ดูมิใช่คนธรรมดา
เพียงแต่เวินซีไม่อยากมากความ ในเมื่อเขาไม่อยากพูด นางก็จะไม่ถามเซ้าซี้
......
เมื่อเวินซีกลับมาจากการเก็บสมุนไพร ในตอนที่มาถึงประตูบ้านก็เห็นรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่
ยียีเดินอยู่แถวนั้น เมื่อได้เห็นเวินซี สีหน้าของเขาก็ตื่นตระหนก “ท่านพี่ มีคนมาหาท่านขอรับ เขาบอกว่าเขาชื่อพ่อค้าสวี่ขอรับ!”
“อื้ม” เวินซียกมุมปาก มาเร็วกว่าที่คิดไว้อีกนะ
พ่อค้าขายเครื่องหอมรายใหญ่ในตลาด นอกจากตระกูลเวินแล้วก็มีตระกูลสวี่ที่อยู่ทางด้านตะวันตกอีกรายที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
ตระกูลสวี่นั้นทำเครื่องแป้ง ในตอนที่เวินอี๋เหนียงยังมีชีวิตอยู่ นางไม่เคยเข้าไปแทรกแซงโดยการทำสินค้าเครื่องแป้งแข่ง จึงทำให้ตระกูลสวี่มีที่ยืนในเมืองได้ แต่ตอนนี้ เวินอวิ๋นโปกลับทำเครื่องแป้งเพิ่มเพราะเห็นแก่เงิน เขาจึงแย่งลูกค้าไปจากตระกูลสวี่
เวลานี้ตระกูลสวี่น่าจะเกลียดตระกูลเวินเข้ากระดูกดำ
ตอนที่เวินซีเข้าไปในบ้าน ที่ลานบ้านนั้นมีของกำนัลวางอยู่ไม่น้อย
ตรงกลางนั้น มีบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งสวมใส่เครื่องประดับเพชรพลอยนั่งอยู่ โดยมีคนรับใช้หลายคนยืนอยู่ข้างหลัง
“พี่สะใภ้~” เอ้อเอ้อร์วิ่งเข้ามา เวินซีจึงยิ้มให้ ก่อนที่สายตาของนางจะจับจ้องไปที่สวี่ซีเหอที่นั่งตัวตรงอยู่
สวี่ซีเหอก็มองมาที่เวินซีด้วยเช่นกัน
เมื่อเขาเห็นว่าผู้ที่เดินมานั้นเป็สตรีแรกรุ่น จึงเอ่ยปากขึ้นพร้อมกับท่าทีที่ไม่พอใจนัก “นี่คือพี่สะใภ้ของเ้าหรือ?”
“ข้าเองเ้าค่ะ” เวินซีเม้มปาก ก่อนจะเดินเข้าไป “เถ้าแก่สวี่ ข้าเป็คนที่เขียนจดหมายฉบับนั้นถึงท่านเอง”
เถ้าแก่สวี่ร้อนใจอยู่แล้วเพราะเื่ธุรกิจ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็ผุดลุกขึ้นยืนทันที
“ข้าคิดอยู่แล้ว จะมีผู้ใดขายสูตรลับง่ายๆ กัน ที่แท้ก็เป็นักต้มตุ๋น พวกเรา กลับ!”
เมื่อวานเขาได้รับจดหมายที่ขอทานส่งมาให้ ตอนนั้นตนเองก็ไม่อยากเชื่อ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากยอมแพ้ให้ตระกูลเวิน จึงคิดจะลองมาเสี่ยงที่นี่ดูสักครั้ง สุดท้ายแล้วกลับพบว่าทุกอย่างเป็เื่โกหก
“เถ้าแก่สวี่ หยุดก่อนเ้าค่ะ”
“หยุดหรือ? เ้าหลอกข้า ข้าไม่คิดบัญชีกับเ้าก็ถือว่าบุญแล้ว เ้ายังจะพูดอันใดอีก?” ใบหน้าของสวี่ซีเหอเข้มขึ้นทันใด
“เหตุใดถึงบอกว่าข้าหลอกท่านกัน?”
สวี่ซีเหอรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของนางยังคงสงบนิ่ง จึงยิ่งมั่นใจว่านางมิใช่บุตรสาวของเวินอี๋เหนียง
“เ้าเด็กนี่ คิดจะหลอกผู้ใดไม่ได้ศึกษามาบ้างเลยหรือ ทุกคนต่างก็รู้กันว่าบุตรสาวของเวินอี๋เหนียงนั้นอ้วนท้วน หน้าตาอัปลักษณ์ แต่เ้ากลับ... หากวันนี้ข้าไม่มีเื่ด่วน ข้าไม่ปล่อยเ้าไปแน่!”
หลังจากที่เถ้าแก่สวี่พูดจบก็รีบออกไป
เมื่อเขาเดินไปถึงประตู ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นหอมแปลกๆ
กลิ่นหอมนี้ให้ความรู้สึกสง่างาม ยามที่สูดดมครั้งแรก มันให้ความรู้สึกสงบ ทว่าหลังจากที่สูดดมเข้าไปลึกๆ ทั้งร่างกายและจิตใจจะบังเกิดความปีติเบิกบาน อารมณ์ที่หงุดหงิดก็พลันสงบลงด้วยกลิ่นหอมที่เข้ามาปลอบประโลม
สวี่ซีเหอหยุดฝีเท้า
เขาทำเครื่องหอมมาหลายปีแล้ว ทันทีที่ได้กลิ่นก็รู้ว่านี่คือสูตรลับเฉพาะของเวินอี๋เหนียง อานเสินเซียง!
ใช่ แต่ก็มิใช่ทั้งหมด
ดูเหมือนว่าจะมีการเพิ่มส่วนผสมบางอย่างในกลิ่นอานเสินเซียงด้วย และให้ความรู้สึกที่พิเศษกว่ากลิ่นที่มีขายอยู่ในท้องตลาด
ในเวลานั้นเอง ความตื่นตระหนกในั่นทำให้เขาขยับตัวมิได้
เมื่อหันกลับไปก็เห็นเวินซีถือขวดกระเบื้องเล็กๆ อยู่ ฉับพลันเขาก็มีสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะถามด้วยความประหลาดใจว่า “นั่น... คือสิ่งใดกัน?”
เวินซีฉีกยิ้มบางเบา “อานเสินเซียงที่ขายในท้องตลาดเป็กลิ่นที่ท่านแม่ของข้าจงใจปรับแต่ง นี่ต่างหากที่เป็กลิ่นอานเสินเซียงที่แท้จริง”
“เ้าเป็บุตรสาวของตระกูลเวินจริงหรือ?”
เถ้าแก่สวี่เดินกลับมาอย่างรวดเร็ว และยังคงไม่เชื่อในสายตาตนเอง “เหตุใดเ้าถึงได้เปลี่ยนไปเป็คนละคน?”
“เมื่อก่อนข้าป่วย แต่ตอนนี้รักษาหายแล้วเ้าค่ะ” เวินซียิ้มให้อย่างเฉยเมย “เถ้าแก่สวี่ยังจะกลับไปอีกหรือไม่เ้าคะ?”
กลับไปหรือ?
กลับไปอันใดกัน! หากกลับไปเขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่
“สูตรของ 'เนี่ยนเซียงอวิ๋น' สิบตำลึง ท่านคิดเห็นเช่นไร?” เวินซียื่นข้อเสนอ
สิบตำลึง
เพียงแค่สิบตำลึงเองหรือ?
เถ้าแก่สวี่นึกว่านางจะโก่งราคาสูงกว่านี้ เพราะเขาเคยเสาะหาสูตรลับนี้มาเนิ่นนาน แต่ไม่ว่าจะใช้เงินมากมายเพียงใดก็มิอาจจะซื้อหามาได้ แต่ตอนนี้เวินซีกลับคิดราคาเพียงแค่สิบตำลึง ทำเอาเขาตื่นเต้นจนสองมือสั่นเทา
ราวกับว่าตนกำลังล่องลอยอยู่ในความฝันก็ไม่ปาน
“แน่ใจหรือว่าจะขายเพียงสิบตำลึง?”
“ใช่ แต่ข้ามีอีกเงื่อนไข”
เวินซียิ้มพรายพร้อมสายตาเ็า “ข้า้าให้ท่านแย่งชิงธุรกิจของตระกูลเวิน ให้พวกเขาล่มจมจนมิเหลือสักแดง”
“ได้ๆๆ”
เื่นี้แม้เวินซีจะไม่พูด เขาก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้ว
เถ้าแก่สวี่หยิบเงินสิบตำลึงออกมาวางไว้ตรงหน้าเวินซีทันที ตอนที่รับสูตรลับไป แววตาของเขาทอไปด้วยประกายพร่างพราว
เด็กทั้งสามคนไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน พวกเขาล้อมรอบโต๊ะและมองดูเงินกันอย่างตั้งใจ
“แค่สิบตำลึง ไม่คิดว่าขาดทุนหรือ?” จ้าวต้านเดาออกว่านางจะทำอันใดต่อ ผลประโยชน์ที่ได้จากเนี่ยนเซียงอวิ๋นไม่ได้มีเพียงเท่านั้น
เวินซีหยิบเงินขึ้นมาเล่น “ไม่ขาดทุน”
การทำให้ตระกูลเวินเสียหายได้ ไม่ถือว่าขาดทุนหรอก
ยิ่งไปกว่านั้น เนี่ยนเซียงอวิ๋นยังไม่ใช่เครื่องหอมลำดับต้นๆ ที่เวินอี๋เหนียงมีในบรรดาสูตรเครื่องหอมมากมายด้วย
เวลานี้นางมีเงินแล้ว เวินซีจึงนำไปจ่ายค่าเล่าเรียนให้ยียีพร้อมทั้งซื้อพู่กันและหนังสือ
หลังจากที่ยียีรู้ เขาก็โขกศีรษะคำนับอย่างมุ่งมั่นสามครั้งให้เวินซี สายตาเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณ “พี่สะใภ้ ท่านกับท่านพี่เป็ครอบครัวของยียี ต่อไปยียีจะกตัญญูกับพวกท่านขอรับ”
เวินซียื่นมือไปช่วยพยุงเขาขึ้นมา นางไม่้าการตอบแทนใดๆ เพียงแค่ไม่อยากให้เด็กๆ ที่อยู่ข้างกายไม่รู้หนังสือก็เท่านั้น
จ้าวต้านมิได้สงบนิ่งเหมือนนาง เขาวางฝ่ามือลงบนไหล่ของยียีแล้วเอ่ย “จำสัญญาของเ้าไว้ล่ะ”
ยียีพยักหน้าอย่างจริงจัง
เอ้อเอ้อร์กับซันซานก็พยักหน้าไม่หยุด และยิ้มอย่างมีความสุขไม่แพ้กัน
“จ้าวต้าน ข้าเตรียมยาอาบไว้ให้เ้าแล้ว อย่าลืมล่ะ” ตอนที่นางเข้าไปในเมืองก็ได้ซื้อยามา บวกกับสมุนไพรที่เก็บมาก่อนหน้านี้ น่าจะใช้ระงับเนี่ยนหานกู่ในร่างของเขาได้่หนึ่ง
จ้าวต้านไม่พูดอันใด แววตาคู่นั้นหลุบลง
“แม้จะกำจัดหนอนกู่มิได้ แต่ก็ช่วยยับยั้งได้ หากเ้าเป็บ้าทุกคืนจะรบกวนการนอนของข้า ข้ายังมีเื่ที่ต้องทำ ขอตัวก่อนล่ะ” หลังจากพูดจบ เวินซีก็ลุกขึ้นและจากไป
เมื่อมองแผ่นหลังของนางที่ค่อยๆ ไกลออกไป จ้าวต้านพลันรู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย
เนี่ยนหานกู่ในร่างกายของเขา เซียนหมอทุกคนในใต้หล้าล้วนหมดปัญญาที่จะรักษา เขาทรมานมากทุกครั้งที่อาการกำเริบ ทั้งยังทำให้เขาออกอาละวาดอย่างดุร้ายและกระหายเื
ยาของเวินซีจะสามารถยับยั้งมันได้จริงหรือ?
จ้าวต้านกลับห้องไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อมองดูอ่างยาที่มีควันลอยออกมา เขาก็แช่ตัวลงไป ยาอุ่นๆ ทำให้เขาหลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อตื่นขึ้นก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความร้อนในร่างกายลดลง ใบหน้าที่สดใสของเวินซีพลันสว่างวาบขึ้นมาในใจของเขา ช่างน่าประหลาดใจนัก
นี่เขาจับพลัดจับผลูซื้อสตรีล้ำค่ามาได้จริงๆ หรือ?
หลังจากที่เขาอาบน้ำยานั้น เวินซีก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปได้หลายคืน
ในความเป็จริงแล้ว ยานั่นเป็เพียงแค่ตัวช่วย แต่สิ่งที่ยับยั้งเนี่ยนหานกู่ได้ก็คือการฝังเข็มที่นางทำตลอดคืน พร้อมกับเืของตน
......
ตระกูลเวินเปิดตัวเนี่ยนเซียงอวิ๋นและทำเงินได้มากมาย เพียงไม่กี่วันเนี่ยนเซียงอวิ๋นกล่องหนึ่งก็ซื้อขายกันในราคาที่สูงเสียดฟ้า
หลังจากนั้นไม่นาน ตระกูลสวี่ทางตะวันตกก็ได้เปิดตัวแป้งที่มีชื่อว่าเหวินเซียงไหล
ทั้งกลิ่นและคุณภาพของมันเหมือนกับเนี่ยนเซียงอวิ๋นทุกประการ แต่ราคากลับถูกกว่าถึงหนึ่งในสามของเนี่ยนเซียงอวิ๋น
ทันใดนั้นทุกคนก็รีบแห่กันไปซื้อ
การเงินของตระกูลเวินดำดิ่งลงทันใด
เพื่อที่จะแข่งขันกับตระกูลสวี่ ตระกูลเวินจึงปรับราคาลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสองเริ่มทำาราคากัน
“ต่ำกว่านี้มิได้แล้วขอรับนายท่าน นี่ก็เกือบจะราคาทุนแล้ว หากต่ำกว่านี้เราจะขาดทุนแล้วนะขอรับ” จ่างกุ้ยของหลายร้านยืนอยู่เบื้องหน้าของเวินอวิ๋นโป
“ข้ารู้!” เวินอวิ๋นโปตบโต๊ะด้วยสีหน้าไม่น่าดู
สูตรลับของเนี่ยนเซียงอวิ๋นรั่วไหลออกไป เมื่อตกไปอยู่ในมือของตระกูลสวี่แล้ว ทางนั้นจึงกัดตระกูลเวินไม่ปล่อย แม้ว่าเวินอวิ๋นโปจะไปเจรจากับสวี่ซีเหอด้วยตนเอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วยดี
“นายท่าน เราจะทำอย่างไรขอรับ?” จ่างกุ้ยหลายคนทำอันใดไม่ถูก
“ข้าสิต้องถามพวกเ้า เื่เท่านี้ยังจัดการมิได้ ข้าจะเลี้ยงพวกเ้าไว้ด้วยเหตุใดกัน!”
“หรือว่า...” จ่างกุ้ยลังเลและพูดว่า “เราก็หาซื้อสูตรลับด้วยสิขอรับ อาจจะเจอของดีก็ได้นะขอรับ”
นี่เป็ทางเลือกสุดท้ายแล้ว
เวินอวิ๋นโปทำได้เพียงพยักหน้าเห็นด้วย
จ่างกุ้ยพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลันออกจากห้องหนังสือ ขณะนั้นเวินซีที่แอบอยู่บนหลังคามองดูความเคลื่อนไหวด้านล่างด้วยสายตาเ็า
เมื่อเห็นเวินอวิ๋นโปกุมขมับปวดหัว มุมปากของนางก็แย้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน
แค่นี้ก็ร้อนรนแล้วหรือ?
ความสนุกที่แท้จริงมันต่อจากนี้ต่างหากเล่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้