เขาพรากเอาความบริสุทธิ์ของนางมาด้วยการบีบบังคับ ความงดงามและความบอบบางของนางราวกับดอกบัวในสระน้ำที่ถูกพายุฝนโหมกระหน่ำ ท่าทีอันน่าสงสารทำให้เขารู้สึกผิด
ทว่าท่าทางน่าสงสารที่นางแสดงให้เขาเห็น กลับทำให้บุรุษอยากย่ำยีนางมากยิ่งขึ้นไม่ใช่หรือ?
เปลวไฟลุกโชนขึ้นที่ร่างกายส่วนล่างของโม่ซี แท่งหยกก็ค่อยๆ ชูชันขึ้น
เขากัดริมฝีปาก แก้มแดงขึ้นเล็กน้อย กดเสียงต่ำเพื่อปกปิดความปรารถนาและกล่าวกับนางว่า "...เจ็บตรงไหนล่ะ? ให้ข้านวดให้เ้าดีไหม?"
ไร้ยางอาย!
คราวนี้ฉีซีไม่ได้ก่นด่าออกมา เพียงพูดว่า "ไม่ ข้าจะอดทนจนกว่ามันจะผ่านไป" จากนั้นจึงพลิกตัวลุกขึ้น
โม่ซีไม่ได้ห้ามนาง ทว่าฉีซีเพิ่งสังเกตเห็นว่านางไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้ แผลจากแส้บนแขนก็เ็ป การร่วมรักของโม่ซีทำให้ร่างกายนางอ่อนแรง อยากจะหนีห่างจากเขา ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรง พยายามฝืนตัวเองหลายครั้ง ทว่าก็ล้มกลับลงบนเตียง
ฉีซีทำได้เพียงคว้าผ้าห่มผ้าและกวาดสายตาไปโดยรอบเพื่อหาเสื้อผ้าที่โม่ซีฉีกทิ้ง เมื่อเห็นผ้าไหม์ตกอยู่หน้ากระจกทองแดง จึงทำได้เพียงใช้ผ้าห่มห่อร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ
เมื่อผ้าห่มถูกดึงออกไป นางก็ตระหนักว่าขาของโม่ซีกำลังทับผ้าห่มอยู่ และร่างกายเปลือยเปล่าก็ปรากฏอยู่บนเตียง
ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่แท่งปรารถนาสีแดงก่ำผงาดขึ้นฟ้าอีกครั้ง ตั้งตระหง่านอย่างภาคภูมิใจ ทำให้นางนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนจมอยู่ในกามารมณ์ โอบกอดเขาและร้องครวญคราง ซึ่งทำให้นางรู้สึกอับอาย
สิ่งที่แย่กว่านั้นคือโม่ซีนอนหนุนแขนข้างหนึ่ง เลิกคิ้วและส่งยิ้มจางให้นาง เขาเมินเฉยต่อความสิ้นหวังของนาง และเฝ้าดูด้วยความสนใจว่านางจะทำอย่างไรต่อ
นางอยากลุกจากเตียง จึงวางผ้าห่มลงแล้วปีนข้ามตัวเขาไป ไม่เช่นนั้นนางจะต้องนอนบนเตียงขององค์หญิงกับเขาต่อไป!
ใช่แล้ว เตียงขององค์หญิง เขาไม่ได้เปลี่ยนมัน!
ช่างน่ารังเกียจเสียจริง เขาย้ายเข้ามาอยู่ในตำหนักองค์หญิงของนาง ถอดป้ายออกแล้วเปลี่ยนเป็จวนซีอ๋อง เขาไม่คิดจะปรับปรุงและเปลี่ยนการตกแต่งเลยหรืออย่างไร? เขาไม่สนใจเลยว่าองค์หญิงหลิวเฟิงสิ้นพระชนม์แล้ว และการตกแต่งในห้องบรรทมก็ยังคงเหมือนเดิม!
เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าบุรุษผู้นี้นอนบนเตียงของนางมานานกว่าสามเดือน และไม่รู้ว่าได้ทำเื่อนาจารและเื่สกปรกกับสตรีอื่นไปมากมายเท่าใด นางก็อยากจะบีบคอเขาให้ตาย!
ตัณหาจัด! สำส่อน!
โม่ซีเฝ้ามองสีหน้าของฉีซีเปลี่ยนไปมาอย่างสบายใจ กระดากอาย คับข้องใจ โกรธแค้น และกลับมาคับข้องใจ อับอายและโกรธเกรี้ยว วนเวียนไม่รู้จบ บางทีนางอาจจะก่นด่าเขาอยู่ในใจใช่ไหม?
ทว่าเขากลับรู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของฉีซีกำลังปลุกเร้าเขา และรู้สึกว่านางค่อนข้าง──น่ารัก?
เมื่อเห็นว่าตะเกียงในตำหนักกระพริบ บ่งบอกว่าน้ำมันกำลังจะหมด ถ้ารอช้ากว่านี้คงต้องคลำหาเสื้อผ้าในความมืด ไม่เช่นนั้นก็ต้องค้างคืนที่นี่
ถึงตอนนั้น ไม่รู้ว่าบุรุษผู้นี้จะทำพฤติกรรมลามกแบบไหนที่ทำให้นางอับอายมากยิ่งขึ้นไปอีก!
ฉีซีเม้มริมฝีปากและกัดฟันพยายามสงบอารมณ์ ขณะที่กำลังจะเอ่ยคำพูดด้วยท่าทีอ่อนหวาน กลับเห็นว่าใบหน้าของเขาแจ่มใส และโน้มตัวมาจูบนางอย่างแ่เบา
จูบของเขาอ่อนโยนดุจผีเสื้อกระพือปีก แนบบนริมฝีปากของนางอย่างแ่เบา คล้ายมีคล้ายไม่มี กลิ่นหอมของดอกบัวที่เป็เอกลักษณ์ของเขาโชยมาแตะปลายจมูกของนาง
ลมหายใจแ่เบาของเขารินรดใบหน้าอย่างอบอุ่นชวนให้รู้สึกจั๊กจี้ แพขนตายาวที่ปิดสนิทของเขาราวกับผ้าไหมสีเข้ม ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ทว่ากลับเร้าอารมณ์อย่างยิ่ง
โม่ซีโอบเอวบางของฉีซีแน่นจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง กระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย้ายวนใจว่า "พรุ่งนี้ที่การประชุมราชสำนัก กูจะไปหาซูซือถูเพื่อหารือเื่แต่งงาน และแต่งตั้งเ้าเป็นางสนมของกูดีไหม?"
ฉีซีตะลึงงัน เหตุใดบุรุษผู้นี้จึงยอมซื้อนางั้แ่แรกพบ ผ่านมาเพียงสองวันก็พรากพรหมจรรย์ของนางไป และตอนนี้เขายังเสนอเื่การแต่งงานกับนางอย่างง่ายดาย เพียงเพราะ้ารับนางเป็นางสนมเท่านั้นหรือ?
นางคือองค์หญิงแห่งหยวนฉี ในหยวนฉีนางมีสถานะสูงส่งอย่างยิ่ง นางจะตอบรับโม่ซีและยอมเป็นางสนมของเขาได้อย่างไร?
ช่างเป็ตำแหน่งที่รับไม่ได้เสียจริง!
เมื่อเทียบกับคำมั่นสัญญาของเฝิงซื่อหลางที่จะตบแต่งกับนางในฐานะฮูหยินของอัครเสนาบดี และยินยอมกลายเป็บุตรเขยของฮ่องเต้ โม่ซีทำให้นางรู้สึกขุ่นเคืองจริงๆ เขาทำลายความฝันของนางให้พังทลายลง และยังจะทำให้นางอับอายขายหน้าเช่นนี้อีกหรือ?!
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็เป็หนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ต้าจิ้งผู้ทำลายล้างอาณาจักรของนาง ความแค้นนี้ฝังลึกจนยากจะลืมเลือน แล้วนางจะกลายเป็หนึ่งเดียวกับเขาได้อย่างไร?!
"ข้าไม่้า!"
ประโยคนี้หลุดออกมาจากริมฝีปากด้วยความโกรธจัด จนไม่สามารถยั้งปากได้ทัน
โม่ซีตกตะลึงไปชั่วครู่
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้สถานะกับสตรีคนหนึ่ง แม้แต่หลี่อวิ๋นเจินก็ยังไม่ได้รับคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนเช่นนี้
เขาคิดว่าสำหรับการพรากพรหมจรรย์ของนาง นี่เป็วิธีที่ดีที่สุด ทว่านางกลับปฏิเสธทันควัน และสีหน้าของนางก็แตกต่างจากท่าทางอ่อนโยนและโศกเศร้าเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง ความโกรธที่ปรากฏชัดเจนในดวงตาของนางก่อให้เกิดความสงสัยในใจของโม่ซี เหตุใดนางถึงปฏิเสธข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจเช่นนี้
นางลืมไปหรือว่านางคือสตรีที่เขาซื้อมา?
นางต้องอย่าลืมว่านางคือสตรีจากหยวนฉี และเป็เพียงอดีตนางกำนัลจากราชวงศ์ก่อน ชะตากรรมของพ่อนางก็ยังไม่แน่ชัด!
การได้เป็นางสนมของซีอ๋อง ยังมีอะไรไม่พอใจอีก?
“ปล่อยข้านะ ข้าไม่อยากเป็นางสนมของท่าน!”
ฉีซีพยายามปฏิเสธอ้อมกอดของโม่ซี ้าหลบหนีจากเงื้อมมือของเขา
โม่ซีขมวดคิ้ว หรี่ตาลงแล้วกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า "ลองคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองเสีย ลองคิดดูว่าผู้ใดกันที่ขอร้องให้ข้าซื้อเ้ามา ผู้ใดที่สัญญาว่าจะรับใช้ข้าเพียงผู้เดียว แทนที่จะไปร่วมเคียงหมอนกับบุรุษนับพัน?"
ฉีซีโกรธจัด เมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายของเขา
ทว่าบรรยากาศเย็นะเืของเขากลับทำให้รู้สึกสงบลง
เมื่อมองหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมดวงตาของโม่ซี นางเม้มริมฝีปากแน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ข้าไม่สามารถเป็อนุภรรยาของผู้อื่นหรือเป็นางสนมของท่านได้ หากข้าต้องแต่งงานกับท่านในฐานะนางสนม นั่นจะเป็การดูิ่เกียรติของตระกูลซู นอกจากนี้ท่านคือซีอ๋องแห่งต้าจิ้ง สถานะของข้าไม่คู่ควรกับท่าน”
โม่ซีจ้องสตรีตรงหน้า รู้สึกว่าแม้นางจะดูบอบบาง ทว่าความจริงแล้วทั้งหยิ่งในศักดิ์ศรีและถือตัว
เมื่อเผชิญหน้ากับเขา นางจึงปิดบังตัวตนที่แท้จริงและความหวาดกลัวเพื่อแสวงหาหนทางรอด
เมื่อพิจารณาคำพูดของนางอย่างถี่ถ้วน จะพบว่าเื้ัคำพูดเ่าั้ล้วนมีความหมายแฝงอยู่ ล้วนแสดงออกถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะหนีไปจากเขา
เพียงเพื่อจิ้งจือ บุรุษที่อาศัยอยู่ในเขตเก้าทางใต้ผู้นั้นหรือ?
หรือมีเหตุผลอื่นที่เขาไม่รู้?
เขาดูเป็คนถูกหลอกง่ายอย่างนั้นหรือ?
ความภาคภูมิใจของนาง ภายใต้ความอ่อนแอที่แสร้งทำขึ้น แววตาที่แฝงด้วยความเย่อหยิ่งและดื้อดึง ทำให้เขารู้สึกสงสัยและรู้สึกว่าน่ารักไปพร้อมกัน
เขา้าทำลายความภาคภูมิใจในหยวนฉีที่เหลืออยู่ของนาง ้าเอาชนะนาง และอยากให้นางตกหลุมรักตน
โม่ซีหัวเราะเบาๆ "เื่นี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเ้า"
จูบอันละเอียดอ่อนประทับลงบนลำคอของฉีซีทันที มือคว้าอกนุ่มของนางแล้วเริ่มเคล้นคลึง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้