“ทำไมล่ะ? คนสวยทำอย่างนี้ก็หมดสนุกสิ นี่เพิ่งดื่มไปแค่แก้วเดียวก็จะไม่ดื่มแล้ว เธอเป็เพื่อนของเสี่ยวลี่ และก็เป็เพื่อนของพวกเรา ทุกคนก็สนุกกันมาก ผมว่าคุณดื่มเถอะ”
แล้วก็เป็เถ้าแก่หนิวคนนั้นที่ปริปากพูดก่อนแล้วคนอื่นๆ ก็พูดตาม
“เดิมทีหว่านหรูก็ดื่มไม่ค่อยเป็ แค่ดื่มเหล้าจะกลัวอะไร มา ฉันดื่มแทนเธอเอง”
ทางด้านเจียงไป๋ยังไม่ทันได้ปริปากพูด หม่าซูเยี่ยนก็ยืนขึ้นแล้วดื่มไปจนหมดแก้ว พอดื่มหมดแล้วก็แลบลิ้น และไม่รู้สึกใดๆ
เธอทำอย่างนี้ก็ทำให้คนอื่นๆ ไม่กล้าพูดอะไรมาก
อย่างไรหากเด็กสาวสองสามคนจะวุ่นวายเพราะเื่นี้ ก็คงจะขายหน้าอยู่บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีจุดประสงค์ที่พวกเขามาก็สกปรก และไม่จำเป็ต้องมาขัดแย้งกันที่นี่
แต่เื่นี้ก็ไม่ควรปล่อยผ่านไปเสียอย่างนี้!
ลูกตาของโจวฮั่นชำเลืองมองไป และก็หันมากระซิบที่ข้างๆ หูของหลิวลี่
ทางด้านหลิวลี่ก็ปริปากพูดว่า “หว่านหรูดื่มไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าพาคนมาด้วยหรือ? แบบนั้นพี่ชายพี่ก็ช่วยหว่านหรูดื่มนะ แต่อย่าดื่มไวน์ล่ะ ต้องดื่มเหล้าขาว!”
เธอพูดจบก็เทเหล้าขาวแก้วใหญ่หนึ่งแก้วเดินมาตรงหน้าเจียงไป๋ ทั้งเดินทั้งพูดว่า “นี่ก็คือพี่ชายที่เป็คู่กันมาั้แ่เด็กๆ ของดาวมหาวิทยาลัยของพวกเรา อืม แถมยังเป็บรรณารักษ์ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยพวกเราด้วย เป็หนุ่มหล่อมากความสามารถเสียด้วยนะ อิๆ”
สีหน้าของหลินหว่านหรูแย่ลง เธอว่าเจียงไป๋ได้ แต่คนอื่นว่าไม่ได้ น้ำเสียงของหลิวลี่ไม่ดีและเธอก็ไม่ใช่ว่าฟังไม่ออก
“หลิวลี่ เป็บรรณารักษ์ห้องสมุดแล้วจะทำไม ฉันรู้สึกว่างานที่พี่ชายทำก็ดีมาก โดยเฉพาะทุกวันล้วนได้เรียนรู้ ตอนนี้พี่ชายเป็บรรณารักษ์คนหนึ่ง แต่เขายังหนุ่ม อนาคตก็ไม่แน่ว่าจะเป็อย่างไร!”
ทางด้านหม่าซูเยี่ยนก็อารมณ์ร้อน หลินหว่านหรูยังไม่ทันเริ่มปริปาก เธอก็พูดก่อนแล้ว และไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ความโกรธมีอยู่มาก
“อิๆ อย่าโมโหเลย ซูเยี่ยน ฉันก็ไม่ได้หมายความอย่างอื่น ก็แค่พูดกับทุกคนเท่านั้น ทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ล้วนเป็เถ้าแก่กันทั้งนั้น ต่อไปในอนาคตหากพี่ชายอยากจะเปลี่ยนงาน ทุกคนก็ล้วนช่วยได้ แค่บรรณารักษ์ห้องสมุดคนหนึ่งจะมีอนาคตอะไรได้”
หลิวลี่หัวเราะและก็ไม่ถกเถียงกับหม่าซูเยี่ยน เธอรู้ว่านิสัยของหม่าซูเยี่ยนเป็อย่างไร หากครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเรียกหลินหว่านหรูออกมา เธอก็คงจะไม่พาหม่าซูเยี่ยนมาด้วย
“ใช่ ใช่ … น้องชาย นายชื่ออะไร? ฉันลืมไปแล้ว ขอโทษด้วย นายพูดอีกที หาก้า ฉันก็ช่วยได้ เป็ลูกผู้ชายจะไปเป็บรรณารักษ์ห้องสมุดทำไม อยู่แต่ที่แบบนั้นทั้งชาติก็ไม่มีอนาคตหรอก? นายมานี่ มาทำกับฉัน! บริษัทการค้าต่างประเทศของฉันขาดคนอยู่พอดี ฐานเงินเดือนอยู่ที่สี่พันกว่า หากนายตั้งใจทำงานก็มีงานมีเงินตอบแทน บริษัทของฉันมีพนักงานสองคนรายรับเดือนละเจ็ดแปดหมื่น นี่ต่างหากเป็เื่ที่ลูกผู้ชายควรจะทำ!”
เถ้าแก่หนิวที่อยู่ข้างๆ ช่วยเสริมทันที พลางพูดด้วยใบหน้าที่สบายใจ
คำพูดนี้ทำให้นักศึกษาหญิงที่อยู่ข้างๆ สองสามคนใไปตามๆ กัน
เดือนละเจ็ดแปดหมื่นหรือ?
ถึงแม้พวกเธอต่างก็เป็นักศึกษาเกียรตินิยมของมหาวิทยาลัยเทียนตู แต่คนที่เรียนจบในทุกๆ ปีของมหาวิทยาลัยเทียนตูก็มีมากมาย นอกจากอัจฉริยะส่วนน้อยแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ล้วนทำงานที่ได้เงินเดือนละไม่กี่พันหยวน เป็แค่พนักงานออฟฟิศเท่านั้น
เจ็ดแปดหมื่นคืออะไร?
ไม่ใช่ว่าแค่สองสามปีก็สามารถซื้อบ้านสักหลังในเทียนตูได้แล้ว?
ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาหรอก แม้แต่เด็กผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างๆ ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ และสายตายังลุกวาว ราวกับว่าหากเจียงไป๋ไม่ตกลง พวกเขาก็อยากจะลองดูว่าจะไปทำงานที่บริษัทของเถ้าแก่หนิวได้ไหม
เห็นท่าทางอย่างนี้แล้วเจียงไป๋ก็แอบส่ายหน้า เด็กน้อยที่น่าสงสารสองคนนี้ยังไม่รู้อีกว่าคนกลุ่มนี้จับจ้องผู้หญิงของพวกเขาอยู่ และยังจะฝันกลางวันกันอีก?
หากไปทำงานกับเขาจริงๆ เกรงว่าจะต้องยกแฟนของตนให้เสียแล้ว
“งานนี้ของผมถึงแม้เงินเดือนจะน้อย แต่ก็ถือว่าสบายๆ ผมชอบมาก โดยเฉพาะผมก็ไม่ได้คิดที่จะทำนานนัก สำหรับอนาคต ผมคิดว่าผมก็พอไปได้ คงไม่ต้องรบกวนเถ้าแก่หนิว” เจียงไป๋ฉีกยิ้มเล็กน้อยและยังคงตอบกลับอย่างสงบ
ระหว่างที่พูดหลิวลี่ก็เดินมาที่ข้างกายของเจียงไป๋แล้ว แก้วไวน์หนึ่งแก้วถูกเธอเทเหล้าขาวใส่จนเต็ม กลิ่นฉุนเตะจมูก เธอยกให้เจียงไป๋พลางพูดและหัวเราะว่า “พี่ชาย เื่งานค่อยว่ากันอีกที วันนี้ดื่มเหล้าก่อน หว่านหรูไม่ดื่มเหล้า พี่ก็น่าจะดื่มนะ แค่แก้วเดียวไม่มาก พี่ชายคงจะไม่ปฏิเสธใช่ไหม?”
“ขอโทษด้วย ฉันดื่มไม่เป็”
น่าเสียดายที่เจียงไป๋ไม่คิดที่จะเห็นแก่หน้าหลิวลี่ เขานั่งเรียบร้อยอยู่ตรงนั้น ยิ้มอย่างมีมารยาท และพูดแบบนี้
“ลูกผู้ชาย พูดว่าไม่ดื่มเหล้าอะไรกัน ต่อไปจะมีอนาคตได้อย่างไร? อย่าหาว่าฉันว่าเธอนะ น้องชายท่านนี้ ผู้ชายดื่มเหล้าไม่เป็อนาคตก็ทำอะไรไม่สำเร็จหรอก นี่คือประสบการณ์ในหลายปีของฉัน คนธรรมดาทั่วไปฉันคงจะไม่พูด แต่ในเมื่อนั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกันแล้ว เช่นนั้นฉันก็จะอธิบายให้นายฟัง แม้แต่ดื่มเหล้านายก็ยังไม่เป็ มิน่าล่ะตอนนี้จึงเป็ได้แค่บรรณารักษ์ตำแหน่งเล็กๆ ของห้องสมุด ไม่ต้องพูดถึงบ้านหรือรถนายก็ล้วนไม่มีใช่ไหม ทำไมถึงไม่รู้จักแสวงหาความก้าวหน้าล่ะ? ฉันจะบอกนายให้ ฉันเหลาโจวมีวันนี้ได้ ครึ่งหนึ่งก็อาศัยความสามารถของฉัน อีกครึ่งหนึ่งเพราะฉันคอแข็ง อนาคตหากนายอายุเท่าฉัน ้าฐานะอย่างฉัน ตอนนี้ก็เริ่มดื่มเหล้าซะ”
โจวฮั่นกระตุกคิ้ว และพูดสะเปะสะปะกับเจียงไป๋
น่าเสียดายที่คำนี้พูดออกมา แต่กลับไม่น่าฟัง ราวกับผู้าุโสั่งสอนผู้น้อย และราวกับกำลังเยาะเย้ยเจียงไป๋ แต่อย่างไรก็ทำให้ฟังแล้วไม่ได้รู้สึกแย่มากนัก
“หาก้าทำการใหญ่ จะดื่มหรือไม่ดื่มเหล้าก็ล้วนทำได้ ในเมื่อคุณพูดอย่างนี้แล้ว แบบนั้นผมก็ขอพูดตรงๆ เหล้าน่ะ ถึงแม้ผมจะดื่มเป็ และเหมือนว่าจะคอแข็งอยู่บ้าง แต่วันนี้ผมไม่อยากดื่ม ดังนั้นผมก็จะไม่ดื่ม”
เจียงไป๋นั่งยิ้มระรื่นอยู่ตรงนั้นและยังคงไม่ขยับ พลางมองโจวฮั่นแวบหนึ่งแล้วพูด
“เพียะ!”
โจวฮั่นลุกขึ้นตบโต๊ะทันที จนทำให้เด็กผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เจียงไป๋สองคนตัวสั่นเทา เขาพูดอย่างเยือกเย็นว่า “น้องชายนี่จะไม่ไว้หน้าฉันแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ไว้หน้าอะไร ผมไม่อยากดื่มก็เป็การไม่ไว้หน้าคุณแล้วหรือ? พูดจริงๆ หากผมไม่อยากดื่ม ทั้งเทียนตูก็คงไม่มีใครบังคับผมได้!”
เจียงไป๋หรี่ตาพลางพูด
คนกลุ่มนี้มีจุดประสงค์ที่สกปรก หลิวลี่ถือโอกาสใช้วันเกิดเรียกให้พวกหลินหว่านหรูมา พูดให้น่าฟังหน่อยก็คือมาฉลองวันเกิด แต่จริงๆ แล้วก็ทำตัวเป็แม่เล้า
เรียกคนเหล่านี้ว่าเป็ “บุคคลประสบความสำเร็จ” อย่างอวดตัว จุดประสงค์ก็ไม่ใช่เพื่อนักศึกษาสาวๆ สวยๆ กลุ่มนี้หรือ?
โดยเฉพาะโจวฮั่นคนนี้ จริงๆ แล้วก็คือลูกค้าของแม่เล้า ช่างทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ แน่นอนว่าไม่มีความจำเป็ที่จะต้องแหกหน้าเขา
“ช่างกล้าพูดจริงๆ ฉันเหลาหนิวอยู่ในเทียนตูมาตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่เคยได้ยินว่ามีคนกล้าพูดอย่างนี้ นายก็แค่บรรณารักษ์ห้องสมุดเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่มีความสามารถ แต่ปากเก่ง!”
เถ้าแก่หนิวที่อยู่ข้างๆ ก็เริ่มปริปากพูด เขาจ้องเจียงไป๋ตาเขม็ง น้ำเสียงเยือกเย็นมาก
“ฮ่าๆ คนหนุ่มจะปากเก่งบ้างก็ไม่เป็ไร แต่คนหนุ่มหากปากเก่งอย่างนี้ ระวังจะเสียเปรียบเอาได้! ถึงเวลานั้นหากโดนดี ทั้งชีวิตนี้ของนายก็พลิกตัวกลับไม่ได้แล้ว!”
พวกโจวฮั่นทยอยกันพูดเสริม และเยาะเย้ยเจียงไป๋ไม่หยุด
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
เวลานี้เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ประตูเปิดออก คนหลายคนเดินเข้ามาในห้อง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้