เย่เฟิงอุ้มสาวน้อยไปโรงแรมม่านรูดอย่างรวดเร็ว
พนักงานต้อนรับหญิงของโรงแรมเห็นวัยรุ่นที่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมปลายอุ้มเด็กสาวที่ไม่รู้ว่าเมาหรืออะไร เมื่อชายหนุ่มถามหาห้องพัก พนักงานก็มองเขาด้วยสายตาดูถูก แต่ก็ยังเปิดห้องให้พวกเขาและยื่นคีย์การ์ดให้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นอะไรแบบนี้มามาก แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็รู้สึกเหมือนโลกแย่ลงทุกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าเย่เฟิงไม่มีเวลาสนใจพวกพนักงานต้อนรับ เขาอุ้มสาวน้อยไปที่ห้อง เมื่อเข้าไปก็วางหญิงสาวบนโซฟา
เมื่อครู่ เขาไม่ได้บอกโอวบีว่าสาวน่ารักคนนี้ได้รับาเ็ ยิ่งกว่านั้นยังมีผงติดตามตัวตามร่างกาย ชัดเจนว่ามีคนไล่ล่าเอาชีวิตเธออยู่
ขณะคุยเื่ไร้สาระกับโอวบี เย่เฟิงใช้พลังชี่ขจัดผงติดตามตัวที่อยู่บนร่างกายของเธอแล้ว และพบสาเหตุที่แหวนกระบี่ัโบราณร้อนขึ้นมาตลอดทางแล้วเช่นกัน สาเหตุมาจากบางอย่างที่อยู่ในหน้าอกของสาวน้อย
เมื่อเทียบกับสาวน้อยที่าเ็อยู่ เย่เฟิงสนใจสิ่งที่อยู่ในหน้าอกของเธอมากกว่า เขาลังเลครู่หนึ่งและสอดมือเข้าไปในคอเสื้อของเธอ เพราะอยากรู้ว่ามันคืออะไร
เป็ไปตามคาด มือของเขาััสิ่งอวบอิ่มและนุ่มนิ่มจากในนั้น ทำให้ชายหนุ่มประหม่ามาก นี่เหมือนเขากำลังฉวยโอกาสทำมิดีมิร้ายคนที่หมดสติ การกระทำเช่นนี้ไม่เป็สุภาพบุรุษเอาเสียเลย
อย่างไรก็ตาม สาวน้อยคนนี้มีหน้าอกอวบอิ่ม อ่อนนุ่มกว่าที่เห็นเสียอีก อีกทั้งให้ความรู้สึกยืดหยุ่นและเต่งตึงสู้มืออีกต่างหาก… แค่ก โชคดีที่กระบวนการนี้ใช้เวลาไม่นาน ชายหนุ่มรีบหยิบของในเสื้อของเธอออกมาอย่างรวดเร็ว มันคือสมุนไพรสามต้น แต่ละต้นมีใบห้าแฉกและมีสีทองแต้มอยู่ตรงกลางราก
เมื่อเห็นสมุนไพรทั้งสามต้น เย่เฟิงก็อดดีใจไม่ได้ สิ่งนี้คือหญ้าจินเย่งั้นหรือ? ฟ้ามีตาจริงๆ สมุนไพรพวกนี้มาหาเขาได้ถูกเวลาเหลือเกิน!
หญ้าจินเย่เป็สมุนไพรชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในโลกเทวะ พวกมันมีสรรพคุณหลากหลาย เช่นสามต้นที่อยู่ในมือเย่เฟิงนั้นมีอายุห้าปี หากนำหนึ่งต้นมาซึมซับโดยตรง พลังฟ้าดินที่อยู่ข้างในจะช่วยเพิ่มระดับการบ่มเพาะของผู้ฝึกวิถีเซียนเท่ากับระยะฝึกถึงห้าเดือน แต่จะมีผลเฉพาะครั้งแรกที่ใช้เท่านั้น
นอกจากนี้เย่เฟิงยังรู้สูตรที่ใช้หญ้าจินเย่ทำยาพิษซึ่งใช้รับมือกับสถานการณ์ที่ต้องเจอเเก๊งอสรพิษ์ได้ หากทำสำเร็จ ไม่เพียงข่มขู่หรือควบคุมคนธรรมดา แม้แต่หัวหน้าของแก๊งอสรพิษ์ก็ต้องเชื่อฟังเขา เด็กสาวคนนี้ซ่อนหญ้าจินเย่ไว้ที่หน้าอกของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเธอก็มองมันเป็สมบัติ
“ดีล่ะ งั้นใช้ต้นหนึ่งเพิ่มพลัง อีกต้นใช้ปรุงยาพิษ ส่วนต้นสุดท้ายใช้…” เย่เฟิงเหลือบมองสาวน้อยที่หมดสติบนโซฟาพร้อมลังเลเล็กน้อย
การกระทำของเขาเป็การซ้ำเติมคนล้มอย่างไม่ต้องสังสัย แต่ชายหนุ่มไม่มีทางเลือก เพราะหญ้าจินเย่สำคัญต่อเขาในเวลานี้มาก จึงไม่สามารถคืนให้เธอได้ งั้นใช้ต้นสุดท้ายช่วยเธอแล้วกัน เท่านี้เราก็ไม่ติดค้างกันแล้วเนอะ? หากเขาไม่ช่วยเธอ บางทีเธออาจถูกกลุ่มคนที่ไล่ล่าจับตัวหรือฆ่าไปแล้วก็ได้
เขาหยิบหญ้าจินเย่ยัดเข้าปากที่ปิดสนิทของเด็กสาวแล้วจับข้อมือบางก่อนส่งพลังชี่เข้าร่างของเธอพร้อมชักนำให้เธอกลืนหญ้าจินเย่ลงไป การกลืนทั้งต้นไม่ใช่เื่ง่ายเลย ดีที่มีเย่เฟิงช่วย หญิงสาวไอสองสามครั้งก่อนกลืนมันลงไปในที่สุด
เย่เฟิงจับข้อมือบอบบางขาวราวหิมะของคนหมดสติ ค่อยๆ ใส่พลังชี่เข้าไปในร่างของเธอและเริ่มใช้พลังฟ้าดินในหญ้าจินเย่รักษาอาการาเ็ของเธอ การทำแบบนี้ไม่ใช่เื่ง่ายเลย!
เย่เฟิงประหลาดใจทันทีเพราะรู้สึกว่าจุดลมปราณในร่างกายของสาวน้อยกำลังเปิดออกและมีพลังที่ไม่คุ้นเคยกำลังโคจรช้าๆ เหมือนการฝึกบางอย่าง
"เป็ไปไม่ได้ เธอไม่มีจุดก่อกำเนิดในจุดตันเถียน จะฝึกฝนได้ยังไง"
ทันใดนั้นเย่เฟิงก็จำสิ่งที่เขาเพิ่งคุยเล่นกับโอวบี ใช่เเล้ว... ในโลกนี้ไม่ใช่มีตำนานปรมาจารย์ด้านวรยุทธ์อยู่หรอกเหรอ หรือสาวน้อยคนนี้จะเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์?
พลังที่ไม่คุ้นเคยในร่างของเด็กสาวไม่ใช่พลังชี่ที่เย่เฟิงคุ้นเคย เห็นได้ชัดว่ามันไม่ทรงพลังเท่าพลังชี่ หากมองในแง่ปริมาณ สาวน้อยคนนี้มีพื้นฐานการฝึกแปดปี แต่เย่เฟิงมั่นใจว่าเขาฝึกเพียงสี่ปีก็สามารถต่อสู้กับผู้หญิงคนนี้ได้
พละกำลังของพลังชี่สูงกว่าพลังประหลาดนี้สองเท่า
ชายหนุ่มพยายามระงับความประหลาดใจและใช้พลังชี่ตรวจสอบอาการของอีกฝ่าย พบว่าเธอได้รับาเ็จากแรงภายนอก เส้นลมปราณเสียหายหลายเส้นทำให้หมดสติ โชคดีที่ผลของหญ้าจินเย่เกินความคาดหมายร่วมกับเทคนิคการควบคุมพลังชี่ของเย่เฟิง าแเล็กแค่นี้ยังพอรับมือได้ ใช้เวลาไม่นาน เย่เฟิงก็สามารถรักษาเส้นลมปราณที่ฉีกขาดทั้งหมดของเธอ จึงปล่อยมือจากข้อมืออีกฝ่าย
“แม้ฉันจะช่วยชีวิตเธอ แต่ก็เอาของเธอไปเช่นกัน หากเธอตื่นขึ้นมา ด้วยระดับวรยุทธ์ของเราตอนนี้คงสู้เธอไม่ได้…” เย่เฟิงคิดว่าหนีออกจากที่นี่ตอนนี้น่าจะดีกว่า
เขาเหลือบมองรอบห้องและเห็นกระดาษกับปากกาบนตู้ด้านข้าง จึงเดินไปเขียนบางอย่างให้หญิงสาวที่หมดสติอยู่ อย่างน้อยก็บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้นและขอโทษที่ใช้สมุนไพรของเธอ แต่ขณะกำลังหยิบปากกา สาวน้อยก็ลืมตาตื่นและรีบยืนขึ้นทันที
“แกเป็ใคร!” เธอไม่มีอาการมึนงงแบบคนเพิ่งเป็ลม เด็กสาวฉลาดมาก เธอรู้ว่าตัวเองถูกไล่ล่าและตามฆ่า เมื่อเห็นเย่เฟิงครั้งแรกจึงระมัดระวังเป็พิเศษ
น้ำเสียงของเธออ่อนหวานและน่าฟังเหมือนเสียงร้องของนกขมิ้น ขณะเดียวกันก็แฝงจิตสังหารอยู่ในนั้น
“เอ่อ แม่นาง…” เย่เฟิงประหม่าเล็กน้อยและ้าอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อสาวน้อยเหลือบมองเขา และเห็นของที่อยู่ข้างเตียงก็หน้าเเดง มันคือของที่ทางโรงแรมจัดเตรียมให้ เป็กล่องถุงยางที่เขียนว่า ‘เอ็กซ์ หยางเสินลู่’ ส่วนกระดาษและปากกาตรงหน้าเย่เฟิง เธอกลับไม่สนใจ
คนคนนี้จะทำมิดีมิร้ายเธองั้นเหรอ? หรือว่าจะใช้ยา?
ไม่สิ!
เธอรีบตรวจดูของที่ซ่อนไว้ในหน้าอก พบว่าหญ้าจินเย่หายไป สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที เด็กสาวเงยหน้าจ้องเย่เฟิงอย่างโกรธแค้น
“เอาล่ะแม่นาง ในเมื่อคุณตื่นแล้ว ผมก็ไม่จำเป็ต้องเขียนอะไรทิ้งไว้เเล้ว” เมื่อเย่เฟิงเห็นใบหน้าเอาเื่ของเธอก็พูดด้วยใบหน้าจริงจัง “ผมเห็นคุณหมดสติอยู่บนถนนจึงนำคุณมาที่นี่ ในเมื่อตอนนี้คุณไม่เป็อะไรแล้ว ผมคงต้องขอตัวก่อน”
จากคำพูดของเย่เฟิง ดูเหมือนเขาเป็คนผ่านมาเจอเธอหมดสติอยู่ข้างถนน จึงยื่นมือช่วยเหลือ คุณคงไม่คิดว่าฉันไม่เป็คนไม่ดีนะ
สาวน้อยตกตะลึงเมื่อได้ยินฝ่ายตรงข้าม เธอไตร่ตรองอยู่ว่าคำพูดของอีกฝ่ายเป็จริงหรือเปล่า เธอสังเกตว่าอาการาเ็ในร่างกายตัวเองหายไปเเล้ว รวมถึงผงติดตามบนตัวเธอเช่นกัน ต้องมีคนช่วยเธอแน่ หรือจะเป็เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า?
สาวน้อยมองเย่เฟิงพลางคาดเดา แต่แม้อีกฝ่ายจะช่วยเธอไว้ หญ้าจินเย่ก็หายไป เธอาเ็และถูกตามล่าเพราะหญ้าสามต้นนี้ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว เพราะงั้นที่เธอทำมาทั้งหมดไม่เท่ากับเสียเปล่าเหรอ?
เย่เฟิงชำเลืองมองนอกระเบียง ฟ้าเริ่มมืด ถ้าเขาวิ่งออกไปตอนนี้ การหลบหนีก็ไม่น่ามีปัญหา
ขณะสาวน้อยเตรียมจับเย่เฟิง และเย่เฟิงก็เตรียมตัวหนี ก็มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเสียก่อน อยู่ๆ ประตูห้องพักก็ถูกคนเปิดออกพร้อมเสียงะโดังก้อง
“หยุด ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้