บทที่ 8 : พบตงจื่ออีกครั้ง
ซ่งตงที่กำลังจะกรีดร้องถูกปิดปากในทันที เป็มือของลั่วถูนั่นเองที่ปิดปากของเขาไว้ เพียงแต่ในเวลานี้มือข้างนี้ช่างเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็ง หลังจากนั้นลั่วถูได้ลากเขาไปยังแม่น้ำฝั่งตรงข้าม ซ่งตงไม่ขัดขืนเลยสักนิด ซ้ำยังรู้สึกร่างกายอ่อนแรงเหลือเกิน เขาเห็นหมาป่าปีศาจชักอยู่บนกองหินที่ริมแม่น้ำ ไม่ไกลนักยังมีศพหมาป่าหลายตัว และบนศพของหมาป่า มีเงาบางอย่างยาวเกือบสองจั้ง รูปร่างคล้ายกับท่อนซุงกำลังกินร่างขนาดเท่าลูกวัวของหมาป่า หัวที่ใหญ่โตเงยหน้าขึ้น ปากอ้ากว้าง ราวกับมีเสียงเคี้ยวกระดูกกรุบกรับดังออกมาด้วย
บนโลกชั้นล่างเรียกอสูรร้ายพวกนี้ว่าั แต่แท้จริงแล้วซ่งตงและลั่วถูทราบดีว่านี่คือจระเข้กลายพันธุ์ตัวหนึ่ง ความยาวขนาดสองจั้งยังนับว่าอยู่ในวัยกำลังโต ยังไม่เป็จระเข้โตเต็มวัย แต่รูปร่างที่น่ากลัวนั้นราวกับเป็เงามืดของปีศาจูเาชั่วร้ายใต้แสงจันทร์
เ้าหัวันั่นต้องได้ยินเสียงตกน้ำของพวกเขาสองคนแน่ แต่ยังโชคดีตอนที่โดดลงมามีหมาป่าปีศาจสองตัวตกลงมาจากกิ่งไม้ด้วย และหมาป่าปีศาจสองตัวนี้ก็ร่วงลงมาแม่นยำอย่างกับจับวางเพราะพวกมันตกใส่หัวของัประหลาด ตอนแรกัประหลาดกินหมาป่าที่ตกลงมาตัวแรกไปแล้ว ตอนที่ได้ยินเสียงพวกเขาตกลงแม่น้ำ ก็เตรียมลงน้ำล่าเหยื่อ ทว่าหมาป่าสองตัวนั้นตกลงมาโดนหัวที่มันแสนภาคภูมิใจ ทำเอาเ้าัประหลาดโกรธมากจึงหันไปฉีกร่างของศัตรูที่กล้ามาแตะต้องหัวของมันเสียก่อน
กับแค่หมาป่าปีศาจสองตัว เ้าัประหลาดไม่ต้องใช้เวลากับมันมากสักเท่าไรนัก ดังนั้น ลั่วถูจึงรีบลากซ่งตงข้ามแม่น้ำไปฝั่งตรงข้ามอย่างเร่งด่วน ทีแรกพวกเขาคิดว่าการว่ายตามกระแสน้ำน่าจะเป็ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ใครจะไปรู้ว่าแม่น้ำสายนี้ยังมีัประหลาดที่ไม่เหมือนใครอยู่ด้วย เขาจะหนีจากการตามล่าของัประหลาดในน้ำได้อย่างไร มีแต่ต้องขึ้นฝั่งเท่านั้นถึงจะหนีพ้น
โชคดีที่ร่างของเหล่าหมาป่าปีศาจทำให้ัประหลาดต้องใช้เวลากลืนมันลงท้องสักพัก สมองของัประหลาดไม่ค่อยฉลาดเท่าไร และด้วยสัญชาตญาณการกินทำให้มันสนใจอาหารที่อยู่ข้างกาย โดยเฉพาะเืสดๆ ของหมาป่าปีศาจยิ่งทวีความบ้าคลั่งของมันขึ้นไปอีก ลั่วถูลากซ่งตงขึ้นฝั่งตรงข้าม และหนีไปตามทิศของกระแสน้ำโดยไม่หยุดพัก และใช้เงาของต้นไม้บังร่างให้ได้มากที่สุด อย่างไรเสียริมแม่น้ำก็มีแสงจันทร์สว่างไสว ทำให้ถึงแม้จะไม่มีลั่วถูซ่งตงก็มองเห็นทางได้ชัดเจน เพียงแต่กระแสน้ำเองก็ไหลเร็วขึ้นทุกที ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็ได้ยินเสียงคล้ายฟ้าผ่าดังขึ้น ริมแม่น้ำไม่มีทางให้เดินแล้ว มีแต่ต้องเดินเข้าไปในป่าเขาที่เต็มไปด้วยน้ำ ทั้งสองคนไม่ค่อยกล้าไปเท่าไรนัก และเมื่อเดินไปข้างหน้าอีกไม่ไกลก็รู้สึกได้ว่ามีละอองน้ำกระเด็นใส่หน้าเข้า บ่งบอกได้ว่าข้างหน้ามีน้ำตกนั่นเอง เมื่อมาถึงตรงนี้ ลั่วถูและซ่งตงผ่อนลมหายใจ คิดว่าคงหนีจากการตามล่าพ้นแล้ว อย่างไรเสียที่นี่ก็อยู่ห่างจากป้อมมู่สือหลายสิบลี้ ทหารที่ตามล่าจากเผ่ามารและเผ่าปีศาจทั้งสองเผ่าอาจตามมาถึงที่นี่ได้ แต่คงไม่มีการซุ่มโจมตีในพื้นที่แสนแปลกประหลาดแบบนี้แล้ว
ลั่วถูทราบดี ว่าไม่ได้มีแค่พวกเขาหนีที่ออกมาได้ ตอนที่หนีอยู่ริมแม่น้ำ เขาเห็นทิวไม้ไกลๆ มีเงาคนลอบเคลื่อนไหวอยู่ด้วย ในป่ามีเงาคนกระจัดกระจายเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว คนเ่าั้คือทหารพ่ายที่หลบหนีของจริง พวกเขาทั้งหมดมีพลังระดับศิษย์า แต่ลั่วถูก็ไม่คิดจะผูกมิตรกับคนพวกนั้นแต่อย่างใด ในความมืดมิดเช่นนี้ ถ้าเขาเปิดเผยว่าตนมองเห็นในที่มืดได้ เช่นนั้นเกรงว่าอาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
“พวกเราไปทางนั้นกัน....” เมื่อไปถึงใต้น้ำตก ลั่วถูชี้ไปที่น้ำตกภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องแสงงดงามราวเข็มขัดหยกด้วยความดีใจ
น้ำตกสายนี้สูงเพียงยี่สิบกว่าจั้ง แต่น้ำกลับไหลเชี่ยว ภายใต้เงามืดลั่วถูเห็นหินก้อนหนึ่งยื่นออกมาจากบรรดาสายน้ำตกที่หลั่งไหล เมื่อน้ำกระแทกลงบนหินก็กระเซ็นไปทั่ว ดูราวว่าสายน้ำกำลังไหลเข้าไปในสระน้ำ
“พวกเราเข้าไปในนี้ได้ไหม?” ซ่งตงแทบพูดไม่ออก ลั่วถูถึงขนาดจะพุ่งทะลวงน้ำตก แรงปะทะที่รุนแรงขนาดนั้นเกรงว่าคงผลักพวกเขาตกบ่อน้ำด้านล่างได้แน่ ดีไม่ดีอาจจะกระดูกหักเอา
“ใต้หินก้อนนั่นต้องเป็ถ้ำแน่นอน ตอนนี้ในป่าอันตรายมาก พวกเราหนีมาถึงที่นี่ได้นับว่าโชคดีมากแล้ว ถ้าหากยังไปต่อ ไม่รู้ว่าจะพบกับอสูรร้ายแบบไหน สู้ไปหลบข้างล่างรอให้ฟ้าสางค่อยว่ากัน!” ลั่วถูกล่าวอย่างเด็ดขาด
ซ่งตงรู้ว่าที่ลั่วถูพูดนั้นไม่ผิด ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วถูมองเห็นในยามกลางคืนละก็ เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ต่อให้ไม่ถูกเผ่ามารและเผ่าปีศาจสองเผ่านี้สังหาร ก็อาจถูกฝังในท้องหมาป่าหรือไม่ก็ถูกัประหลาดกิน ยิ่งเข้าไปในป่าลึก สัตว์อสูรที่ดุร้ายก็ยิ่งชุกชุม ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ กำลังรบของพวกเขาสองคนช่างไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ บางทีอาจมีแต่ตายสถานเดียว หากใต้น้ำตกสามารถซ่อนตัวได้ บางทีอาจเป็วิธีที่ดีกว่าก็เป็ได้
เป็อย่างที่ลั่วถูคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด ก้อนหินที่ยื่นออกมาช่วยบังกระแสน้ำตก ทำให้ข้างใต้มีพื้นราบกว้างประมาณหนึ่งจั้งกว่า ถึงแม้พื้นราบจะเปียกชื้น แต่ก็เพียงพอสำหรับคนสองคน ยิ่งตอนนี้เป็ฤดูร้อน พวกเขายิ่งไม่สนใจความชื้นพวกนี้ กลับรู้สึกเย็นสบายเอาเสียด้วยซ้ำ
ตอนที่พุ่งผ่านน้ำตก ร่างกายก็เปียกชุ่มไปหมด แต่ยังดีหลังจากน้ำตกไหลลงมากระทบหินใหญ่ที่ยื่นออกไป สายน้ำกลายเป็เหมือนม่านน้ำตกปิดกั้นพวกเขาจากโลกภายนอก แม้จะเป็กลางวัน หากไม่ค้นหาอย่างละเอียด คงไม่มีทางรู้ว่าหลังม่านน้ำตกนี้จะมีคนซ่อนอยู่ ยิ่งเป็ยามวิกาลด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางหาเจอ ช่างเป็สถานที่พักผ่อนชั้นเลิศในเวลาแบบนี้จริงๆ
“พวกเราพักอยู่ที่นี่สักเดี๋ยวเถอะ พอฟ้าสว่างแล้วค่อยดูสถานการณ์อีกที!” ลั่วถูถอดเสื้อที่เปียกโชกออกมาบิดให้แห้ง อย่างไรเสียหลังม่านน้ำก็ไม่มีใครมอง การใส่เสื้อเปียกโชกเช่นนี้ชวนให้รู้สึกทรมานไม่น้อยเลย
“เช่นนั้นเ้าพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าเฝ้ายามให้เอง” ซ่งตงครุ่นคิด หากจะออกไปจากป่าแห่งนี้ต้องใช้พลังกายอย่างเต็มเปี่ยม ตอนนี้พวกเขาสองคนหนีมาหลายชั่วยาม เหนื่อยมามากแล้ว เมื่อถึงตอนเช้าถ้าพลังกายพวกเขายังไม่ได้ฟื้นกลับคืน การจะออกจากป่าเขาแห่งนี้ได้หรือไม่นั้นก็สุดแท้แต่จะคาดเดา
“ตกลง...” ลั่วถูไม่เกรงใจ ถึงแม้การที่จะถูกคนค้นพบที่ซ่อนหลังน้ำตกนี้จะเป็ไปได้ยาก แต่ถ้าเกิดในน้ำมีสัตว์อสูรปีนขึ้นมา เช่นนั้นก็ยุ่งยากแน่ ดังนั้น หากมีคนหนึ่งคอยเฝ้ายามคงปลอดภัยมากขึ้น
……
ภายใต้เสียงที่ดังสนั่นของน้ำตก ลั่วถูถูกซ่งตงเขย่าตัวปลุก เขาเหนื่อยล้าเหลือเกิน ตอนเช้าเกือบตายเพราะพิษมาร ถึงจะโชคดีได้กินยาต้านมารขั้นสูงไป แต่พลังปราณของเขายังมีความเสียหายหลงเหลืออยู่บ้าง และในระหว่างการหลบหนียามค่ำคืน พลังประหลาดในดวงตาของเขายิ่งใช้ก็ยิ่งน้อยลง จนกระทั่งต่อมาสายตาของเขาเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เกรงว่าตัวเขาคง้าการพักผ่อนอย่างจริงจังทีเดียว ขณะที่หลับไปอย่างไม่รู้ตัว ถ้าไม่ใช่ซ่งตงปลุกขึ้นมา เป็ไปได้มากว่าเขาจะหลับไปจนถึงเช้า เพียงแต่ซ่งตงที่ปลุกเขาให้ตื่นกลับใช้มือปิดปากเขาไว้แน่น และชี้ออกไปนอกน้ำตกอย่างตื่นตระหนก
ลั่วถูเข้าใจในทันที บ่อน้ำนอกน้ำตกมีศัตรูปรากฏตัวขึ้น และดูเหมือนจำนวนไม่น้อยเสียด้วย เพราะลั่วถูเองก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ ภายใต้เสียงน้ำตกที่ดังสนั่น ราวกับมีเสียงะเิของน้ำดังขึ้นเป็ระยะ ตอนนี้ลั่วถูเริ่มตื่นตระหนกเข้าเสียแล้ว สถานการณ์แบบนี้ย่อมหมายความว่ายอดฝีมืออยู่นอกน้ำตกนั่นเอง
ลั่วถูสะกดอารมณ์ตระหนกในใจ นอกน้ำตกไม่มีแสงไฟ แต่แสงดาวที่ส่องลอดผ่านน้ำตกที่มืดมัวช่วยให้มองเห็นเงาคนเป็จุดๆ ได้ เวลานี้ลั่วถูััได้ว่าพลังงานประหลาดในดวงตาดูจะฟื้นกลับคืนกลับมาไม่น้อย ท่าทางการพักผ่อนเมื่อครู่จะทำให้พลังงานในดวงตาของเขาได้รับการฟื้นฟูนั่นเอง นี่ทำให้ใจเขายินดีไม่น้อยเลย น่าจะเป็เพราะการหมุนเวียนพลังของภาพเต่าลึกลับแบกหิน ถึงทำให้ร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้
“เป็อย่างไรบ้าง?” ซ่งตงถามขึ้นอย่างกระวนกระวาย
“พวกใต้เท้าตงจื่อ...” ลั่วถูหน้าถอดสี เมื่อมองลอดผ่านม่านน้ำตกออกไป เขาพบว่ากลุ่มคนที่เข้าปะทะกันอยู่ คือพวกของใต้เท้าตงจื่อและบรรดายอดฝีมือศิษย์าที่เขาพามา แต่ตอนนี้ไม่ว่าตงจื่อจะแข็งแกร่งเพียงไร ก็ดูจะหนีไม่พ้นอยู่ดี พวกที่ประมือกับเขาไม่ได้มีเพียงกลุ่มศิษย์มาร ซ้ำร้ายยังมีกลุ่มศิษย์ปีศาจอีกด้วย ทั้งสองฝั่งร่วมมือกันห้ำหั่นกับตงจื่อ ไม่ปล่อยให้เขาสบโอกาสหนีแต่อย่างใด
ยอดฝีมือข้างกายตงจื่อมีพลังรบแข็งแกร่งมาก ทว่าจำนวนนักรบเผ่ามารและเผ่าปีศาจมีมากกว่าพวกเขาหลายเท่าตัว ภายใต้สถานการณ์นี้ แม้ศิษย์าเผ่ามนุษย์เป็ฝ่ายเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่ถึงจะเป็เช่นนั้น นักรบเผ่ามารและเผ่าปีศาจกลับสูญเสียหนักกว่ามาก
“หรือว่าเ้าจะทายถูก...” ใบหน้าของซ่งตงในตอนนี้ช่างบิดเบี้ยวจนแทบดูไม่ได้
……
ตงจื่อหดหู่อย่างมาก ที่จริงเขาหนีไปอย่างราบรื่นได้แท้ๆ เพียงแต่เมื่อเขาคิดจะหนีไปตามแม่น้ำกลับพบกับเ้าัประหลาดสมควรตาย เขาแข็งแกร่งมากก็จริงแต่เ้าัประหลาดก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน แม้เขาจะทะลวงขึ้นสู่ระดับศิษย์าขั้นสี่แล้ว แต่ก็ยังยากที่จะต่อกรกับมันอยู่ดี โชคดีที่เขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ยังมีศิษย์าขั้นสูงอยู่กลุ่มหนึ่ง ภายใต้การร่วมมือกัน ท้ายที่สุดก็สังหารัประหลาดได้ แต่เพราะตอนที่สู้กับัประหลาดทำเอาเปลืองแรงไปไม่น้อย ทั้งยังเคลื่อนไหวมากเกินไป ทำให้กองทัพไล่ล่าพบตัวพวกเขาเข้าจนได้ พวกเขาต่อสู้กวาดล้างตลอดเส้นทางตามแนวแม่น้ำลงมา แต่กลับไม่มีอาจหยุดการปะทะกับเผ่ามารและเผ่าปีศาจได้เลย
ตงจื่อไม่เคยคิดอยากปะทะกับคนพวกนี้ เขาคิดเพียงรีบไปให้ถึงฐานทัพทหารเผ่ามนุษย์อีกแห่งให้เร็วที่สุด หรือไปที่เมืองเหรินสิ้น ทว่านักรบเผ่ามารและเผ่าปีศาจน่าจะรู้ความลับที่อยู่กับเขาแน่ชัดแล้ว พวกมันจึงไม่เปิดโอกาสให้เขาหลบหนีได้เลย
สถานการณ์ในสนามรบช่างน่าเวทนากว่าที่ตงจื่อคิดไว้มาก เหล่าคนข้างกายเขาลดน้อยลงทุกที แต่ชีวิตของทุกคนสามารถแลกกับหัวของศัตรูได้ถึงสองสามหัว แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตงจื่อหวังไว้เลย ถ้าเป็ไปได้ ต่อให้เอาชีวิตศิษย์มารนับสิบคนมาแลกกับคนของเขา เขาไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“ใต้เท้าโปรดล่วงหน้าไปก่อน...” เวลานี้ยอดฝีมือข้างกายตงจื่อเหลือเพียงไม่ถึงสิบคน บนร่างของทุกคนเต็มไปด้วยาแ พวกเขาสู้ศัตรูอย่างไม่คิดชีวิต ทุ่มทุกอย่างไปที่คู่ต่อสู้ที่ปิดล้อมตงจื่อไว้ เป้าหมายของพวกเขาแน่วแน่และชัดเจน ขอเพียงตงจื่อหนีไปได้ ต่อให้พวกเขาทุกคนต้องตายอยู่ที่นี่ก็นับเป็ชัยชนะ
“ฉั่วะ...” เสียงหนึ่งดังขึ้น ดาบของตงจื่อสะบั้นคอของศิษย์มารตนหนึ่ง ร่างร่วงไปทับศิษย์ปีศาจอีกตน ดาบดำหลายเล่มฟาดฟันลงบนร่างเขา ตัดเสื้อบนร่างเขา ความคมที่ฟันเข้าใส่ถูกเกราะบนร่างกายเขาดูดซับไป เขารู้ว่าตอนนี้ไม่อาจลังเลได้อีกต่อไป ถ้าเขาหนีไม่พ้น ศัตรูจะยิ่งเยอะขึ้น และพี่น้องเหล่านี้ของพวกเขาจะต้องตายเปล่า
“ข้าจะแก้แค้นให้พวกเ้า...” ว่าจบร่างของตงจื่อถอยหนีไปยังทางออกที่เขาตวัดดาบฟันเปิดทางไว้
“ตายซะ!” เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งะเิออกมา บนร่างศิษย์าเผ่ามนุษย์ปรากฏแสงประหลาดวาดผ่าน ราวกับทุ่งดอกไม้ไฟปะทุขึ้น จากนั้นกลายเป็อักขระอาคมนับไม่ถ้วนลอยละล่อง
“ตูม...” ร่างของศิษย์าคนนั้นะเิออกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ศิษย์มารที่ล้อมรอบเขาทั้งหลายกลับถูกะเิกระเด็นออกไป
ทำให้ทางออกข้างหน้าตงจื่อกว้างขึ้นในทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้