หลินฟู่อินอยากให้ต้ายานำคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่กลับไปบอกที่บ้าน นางยังโกรธเื่คราวก่อนที่พวกจูซื่อกับสะใภ้ใหญ่ของนางเบี้ยวไม่ให้นมเด็กทั้งๆ ที่รับเงินไปแล้ว เพราะเข้าใจว่านางถูกไฟคลอกตาย
ต้ายาแลบลิ้นแล้วตบบ่าหลินฟู่อิน พลางกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ “เ้ายังโกรธพี่สะใภ้รองอยู่อีกหรือ? นางเองก็กลัวมาก เพราะเหตุการณ์ในตอนนั้นมันน่าหวาดกลัวมากจริงๆ แต่แม่ของข้าได้บอกไว้แล้วว่า ตราบใดที่เ้ายังขอให้พี่สะใภ้รองให้นมเด็กๆ ทั้งสองอยู่ นางก็จะอนุญาตให้พี่สะใภ้รองกับพี่สะใภ้ใหญ่ให้นมเพื่อถือเป็การชดใช้!”
หลินฟู่อินเองก็ไม่ได้ชอบการถูกหาเื่ใส่มากนัก นางจึงถอยห่างจากต้ายาอย่างสงบ
แม้ว่าบ้านของต้ายาจะไม่ใช่คนไม่ดี แต่มันก็ยังมีความคิดเื่ผลประโยชน์แฝงอยู่เื้ัเสมอ นางจึงไม่เคยคิดจะขอให้บ้านต้ายาช่วยนางมากนัก
นี่ก็เป็หนึ่งในสาเหตุที่นางดึงตัวบ้านหลินต้าเหอออกมาจากบ้านหลักด้วย
ในตอนที่ฉู่ซื่อยังมีชีวิตอยู่นั้น นางค่อนข้างเป็มิตรกับเหล่าคนข้างบ้าน ทั้งยังคอยแบ่งหมูป่า ไก่ป่า และกระต่ายที่หลินต้าเหอล่ามาได้ให้บ้านข้างๆ เป็ครั้งคราว
แต่ในตอนที่นางเกือบจะถูกไฟคลอกจนตาย คนที่มาช่วยดูแลเด็กๆ กลับมีเพียงป้ารอง ไอ้พวกที่เหลือไม่มีใครแม้แต่จะคิดเข้ามาพูดให้กำลังใจ
แต่นั่นไม่ใช่เื่สำคัญแล้ว
เื่สำคัญที่สุดคือ หลังจากนี้นางควรจะทำอะไรบ้างมากกว่า
แต่ต้ายาก็อยู่ที่นั่นในวันที่ฉู่ซื่อตาย แล้วยังวิ่งมาจับนางพร้อมบอก “แม่ของเ้าถูกฆ่า ข้าเห็นหมดเลย…” และ “จงระวังตัวไว้” แต่มันก็เป็คำพูดที่หลินฟู่อินต้องพักไว้เป็เวลานาน
เพราะต้ายาที่มักจะถูกขังไว้ในบ้านมาด้วยตัวคนเดียวเช่นวันนี้ จึงเป็โอกาสที่จะถามนางได้
“หลินฟู่อิน งั้นก็ถือว่าตกลงแล้วนะ ข้ากลับก่อนละ” เมื่อต้ายาเห็นว่าหลินฟู่อินไม่ได้พูดอะไรพักใหญ่ นางจึงกล่าวแล้วเตรียมกลับด้วยรอยยิ้ม
“จะรีบไปไหนกัน? เ้าไม่ได้มาเล่นกับข้านานแล้วนะ นี่กลัวว่าข้าจะเป็ดาวหายนะมากขนาดนั้นเลยหรือไงกัน?” หลินฟู่อินมองต้ายาตรงๆ ต้ายาจึงโบกไม้โบกมือทันที “หากเ้าเป็ดาวหายนะจริงๆ เ้าคงฆ่าคนในหมู่บ้านหูลู่จนหมดั้แ่ตอนที่เ้าเกิดแล้ว แม้แต่ปู่ย่าของเ้าเองก็ยังรอดอยู่เลยไม่ใช่หรือ?”
หลินฟู่อินทึ่งกับเด็กคนนี้มาก กล่าวได้แค่ว่าพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านหูลู่แห่งนี้ยังสู้เด็กคนเดียวไม่ได้
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้ามีแบะแซ [1] ที่เ้าชอบเหลืออยู่นิดหน่อยพอดี” ฟู่อินกล่าวพลางมองนาง
ต้ายาซูดปาก แต่สีหน้าเอียงอาย “ฟู่อิน จะดีหรือ? เ้าเองก็ชอบกินเหมือนกันนี่…”
หลินฟู่อินย่นคิ้วเล็กน้อย ที่จริงแล้วนางไม่ได้ชอบทานน้ำตาลมากนัก เพราะอย่างนั้นแบะแซในโถน้ำตาลนั่นคงละลายไปเปล่าๆ
แต่จะพูดแบบนั้นไม่ได้
“ข้ารอกินด้วยกันกับเ้าน่ะ และมันก็ใกล้ละลายแล้วด้วย” หลินฟู่อินกล่าวเนิบๆ
ต้ายาจึงตามนางเข้าไปในบ้าน
ในระหว่างที่ต้ายากำลังทานของหวานอยู่ “จะว่าไป วันนั้นเ้าบอกว่าเ้าเห็นแม่ข้าโดนฆ่าไม่ใช่หรือ? เื่มันเป็ยังไงน่ะ?”
“ฮะ?” ต้ายาแทบสำลักแบะแซ “แค่ก”
เพราะนางสำลักแรงมากจนน้ำตาเล็ด ฟู่อินจึงนำถ้วยใส่น้ำมาให้นาง
“ฟู่อิน… นั่น ข้าโกหกน่ะ… เอ่อ” ต้ายาส่ายหน้าเล็กน้อย ท่าทีดูวิตก
หลินฟู่อินย่นคิ้ว น้ำเสียงเฉียบคมขึ้น “โกหกหรือ? ตอนนั้นเ้าจะโกหกข้าไปทำไม?”
ต้ายาสะดุ้ง หลินฟู่อินเคยคุยเล่นกับนางมามาก นางเป็คนอัธยาศัยดีและอ่อนโยน คำพูดคำจาอ่อนนุ่ม ไม่เคยใช้คำดุดันกับนางเช่นนี้มาก่อน
“ฟะ… ฟู่อิน ข้าไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเ้านะ เ้าสบายใจได้…” ต้ายาลอบมองฟู่อินเป็ระยะ สมองทำงานเต็มสูบเพื่อเค้นหาคำพูดที่คนผู้นั้นบอกนางมา
เมื่อฟู่อินเห็นสายตาของต้ายากลอกไปกลอกมาอยู่ไม่สุข นางก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ แต่นางก็ไม่อาจทิ้งโอกาสที่จะได้เงื่อนงำตรงหน้านี้ไปได้
นางจึงเงยหน้าเล็กๆ นั่นขึ้น แล้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะโกหกข้า แล้วเ้า้าอะไรถึงทำเช่นนั้น?”
ต้ายาจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลง สมองปลอดโปร่งขึ้น ใบหน้าแดงสุก มองหลินฟู่อินอย่างจริงจังก่อนกล่าว “ฟู่อิน… ข้ารู้ดีว่าแม่ของเ้าเคยดูแลเ้าไว้ดีเพียงใด เ้าจำเื่ที่เคยบอกข้าได้หรือไม่”
“เื่ไหน?” หลินฟู่อินงุนงง
นางไม่รู้ตัวว่าอาการกระวนกระวายของต้ายาสงบลงแล้ว
แต่มันยังมีบางสิ่งแปลกๆ
นางมองต้ายาอย่างระแวง
ต้ายามองนางด้วยสีหน้าน่าสมเพช “เ้าเคยบอกข้าว่า หากไม่มีแม่ของเ้าแล้ว เ้าคงไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง”
หลินฟู่อินไม่รู้เื่นี้…
ความคิดมากมายไหลผ่านในสมองด้วยความเร็วสูง
“ฟู่อิน ปกติแล้วเ้าชอบเล่นกับข้ามากที่สุด ไม่ว่าเ้าจะชอบทานอะไร ทั้งให้เสื้อตัวโตๆ กับข้า… ข้าไม่อยากให้เ้าตามแม่ของเ้าไป”
ในใจของฟู่อินครุ่นคิด สรุปแล้วต้ายาพูดเช่นนั้นเพราะกลัวว่านางจะวิ่งเข้าไปตายตามผู้เป็แม่ เช่นนั้นหรือ?
“ฟู่อิน เ้ายังเคยบอกข้าว่าหากมีใครทำร้ายแม่ของเ้า เ้าคงไม่ให้อภัยมันผู้นั้นแน่… ในวันนั้น ข้าเองก็กลัวมาก ข้าจึงไม่ฟังแม่ข้า แล้วตามพี่สะใภ้รองไปหาเ้า” ต้ายามองเข้าไปในั์ตาของหลินฟู่อิน น้ำเสียงเบาลงเรื่อยๆ
“ฟู่อิน ข้ากลัวว่าเ้าจะตามแม่ของเ้าไป! หากข้าไม่พูดเช่นนั้น หากข้าไม่ให้เหตุผลในการมีชีวิตกับเ้า ข้าก็ไม่รู้ว่าเ้าจะทำยังไงต่อ…”
น้ำเสียงของต้ายาเต็มไปด้วยความกังวล ความรู้สึกที่ว่าต้ายาไม่อยากให้นางตายจริงๆ สื่อมาถึงได้อย่างชัดเจน
หลินฟู่อินโบกมือแล้วสูดหายใจลึก “ต้ายา ข้าไม่ฆ่าตัวตายหรอก!”
“ฟู่อิน เ้ายังมีน้องๆ ของเ้าอยู่ เพราะอย่างนั้นเ้าไม่คิดตายแน่ วันนี้ข้าได้รับรู้เื่นั้นแล้ว…” ต้ายามองตรงไปในสายตาของนางด้วยความรู้สึกหวาดกลัวระคนกังวล “เ้าไม่ว่าข้าใช่หรือไม่?”
“ไม่หรอก ต้องขอบคุณเ้าด้วยซ้ำ” หลินฟู่อินปรับอารมณ์ใหม่แล้วมองนางด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าต้ายาจะเพี้ยนหรือไม่ก็ตาม แต่เพราะนางพูดต่อหน้าขนาดนี้แล้ว หลินฟู่อินก็คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ไปอีกสักพัก
เช่นนี้แล้วก็คงต้องยอมปล่อยไปก่อน
น่าเศร้านักที่เ้าของเดิมของร่างนี้เป็อย่างที่ว่าจริงๆ หากไม่มีแม่แล้ว นางคงได้โดดตามเข้ากองเพลิงไปจริงๆ
ต้ายาไม่มีเงื่อนงำอะไรให้ก็จริง แต่ยังมีนักทำนายจ้าวเหลืออยู่
นางไม่ได้ร้อนรน ไม่ได้ร้อนรนเลย!
หลินฟู่อินลอบกำหมัดแน่น หากการตายของแม่นางไม่ใช่อุบัติเหตุจริงๆ ไม่ช้าหรือเร็วนางก็จะได้รู้เอง!
“ฟู่อิน เ้าเล่นกับข้าบ่อยที่สุดในหมู่บ้าน ข้าไม่อยากให้เ้าเป็อะไรไปจริงๆ ข้าบอกแบบเดียวกันกับย่าและแม่ข้าแล้วด้วยว่าเ้าไม่ใช่ตัวหายนะแน่ๆ” ต้ายากล่าวเกร็งๆ “อย่าได้เลิกเป็เพื่อนที่ดีของข้าเลยนะ”
------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] แบะแซ หมายถึง Glucose Syrup เป็สารให้ความหวาน เกิดจากการย่อยแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันสำปะหลังจนได้น้ำตาล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้