“ข้าเข้าใจเ้าค่ะ” หลินฟู่อินกล้ำกลืนความเศร้าลงไป “ข้าตั้งใจจะใช้เงินซื้อโลงดีๆ ให้ท่านแม่ ให้ท่านสวมเสื้อผ้าของตนเอง”
ในเมื่อครอบครัวมีเงินทอง นางก็ต้องส่งฉู่ซื่อให้จากไปอย่างสมเกียรติ
“น่าขันนัก!” เ้าหน้าที่หลี่ผุดลุกขึ้นมองหลินฟู่อินทันที “เป็คำของเด็กน้อยโดยแท้ ต่อเป็เป็โลงสำเร็จจากร้านในเมือง กว่าจะใช้เกวียนส่งมาถึงหมู่บ้านก็ต้องเสียเวลาไปมาก! แล้วจะฝังแม่เ้าในเสื้อผ้าของนางได้อย่างไร? เ้ายังต้องใช้เสื้อคลุมศพอีก!”
“ท่านแม่ของข้าเ้ากี้เ้าการเื่เสื้อผ้าและเครื่องประดับมาโดยตลอด ให้ท่านแม่ได้สวมเสื้อผ้าที่ชอบก็ไม่เป็ไรหรอกเ้าค่ะ” ฟู่อินยืนกราน
เสื้อผ้าของท่านแม่นางเป็สีกลางๆ ที่ทำเองกับมือ นางจึงเห็นว่าไม่เป็ไร
หลี่เจิ้งไม่รู้จะกล่าวอย่างไร เมื่อคิดว่าฉู่ซื่อต้องตายไปั้แ่ยังสาวเช่นนี้ก็ไม่คัดคาดเื่เสื้อคลุมศพอีก
“แล้วเื่โลงเล่า? รู้ว่าเ้าคิดจะซื้อ แต่จะซื้อจากที่ใดกัน?”
“ข้าคิดไว้แล้วเ้าค่ะ” หลินฟู่อินตอบ “ข้าคิดจะซื้อโลงสำเร็จจากผู้เฒ่าในหมู่บ้าน”
“ใครจะยอมขายกันเล่า?” หลี่เจิ้งมุ่นคิ้วแล้วถอนใจ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านต่างก็เตรียมโลงของตนเอาไว้แล้ว คนจะหมดลมหายใจเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วใครเล่าจะกล้าขายโลงของตัวเอง
แต่เมื่อคิดให้ดีก็เห็นว่าเป็ไปได้ ขอเพียงฟู่อินให้ราคาสูงหน่อยก็ต้องมีคนเฒ่าคนแก่ที่สุขภาพดียอมขายแน่นอน
ขึ้นกับฟู่อินจะรู้วิธีใช้เงินหรือไม่
“ท่านลุงหลี่ ท่านทราบหรือไม่เ้าคะว่าผู้เฒ่าคนใดในหมู่บ้านที่โลงศพดูดีงดงามที่สุด?” หลินฟู่อินถามขึ้น
“นี่…” หลี่เจิ้งลูบเคราแพะของตนไปมา “ยายหลี่ที่เป็แม่หม้าย อาศัยอยู่ทางเหนือของหมู่บ้านน่าจะมีโลงที่งดงามที่สุดแล้ว…”
สิ่งที่เขามิได้กล่าวต่อคือยายหลี่ผู้นี้แปลกประหลาดเอาแน่เอานอนไม่ได้ แทบไม่คุยกับผู้อื่น คนเช่นนี้จะยอมขายโลงให้หลินฟู่อินหรือ?
หลินฟู่อินคิดๆ ดูก็น่าจะเป็ยายหลี่จริงๆ
ยายหลี่เป็คนที่ได้รับความเคารพสูงสุดในบรรดาหมู่บ้านแถบนี้ คู่หมั้นตายั้แ่ยังไม่ทันแต่งงาน พี่ชายและพี่สะใภ้ไม่ไยดี คนจึงได้ออกไปทำงานให้กับครอบครัวร่ำรวยแห่งหนึ่งก่อนจะกลับมาดูแลน้องสะใภ้จนอีกฝ่ายจากไป
ยายหลี่ไม่มีลูกหลาน จึงได้เตรียมทั้งโลงและชุดสวมศพของตนเองเอาไว้นานแล้ว
“โลงของยายหลี่ดีมาก แต่นางอาจไม่อยากขาย เ้าก็รู้เื่นางดี” หลี่เจิ้งเตือนด้วยความเป็ห่วง
“ท่านลุงหลี่ได้โปรดช่วยข้าสอบถามให้หน่อยนะเ้าคะ” หลินฟู่อินอ้อนวอน “ข้ายอมได้หมดขอเพียงส่งท่านแม่จากไปอย่างยิ่งใหญ่ เป็สิ่งสุดท้ายที่ลูกกตัญญูจะทำให้แม่ได้แล้วเ้าค่ะ”
มุมบางหลี่เจิ้งกระตุก ใบหน้าอ่อนลง…
“โอ๊ย! โลงของยายหลี่ทำจากไม้เซินมู่ที่ดีที่สุด รวมค่าช่างไม้ ค่าต่อโลงแล้วราคามากกว่ายี่สิบตำลึงเงิน เ้ามีเงินเท่าใดเชียวถึงจะซื้อโลงดีๆ เช่นนี้ให้แม่เ้า?”
จ้าวซื่อมาถึงตอนหลี่เจิ้งกับหลินฟู่อินคุยเื่โลงของฉู่ซื่อพอดี นางแอบฟังจนได้ยินว่าหลินฟู่อินคิดจะซื้อโลงของยายหลี่ก็ปวดใจขึ้นมา
เงินทั้งหมดของบ้านสามควรเป็ของนาง!
“แม่เ้าตายอย่างอัปมงคล แค่ใช้เสื่อห่อศพแล้วโยนเข้าสุสานรวมเสียก็พอแล้ว!” ดวงตาจ้าวซื่อทอประกายร้ายกาจ ทั้งยังใช้นิ้วทิ่มหน้าผากหลินฟู่อินอย่างรุนแรง “ต้องใช้เงินสกุลหลินให้หมดหรืออย่างไรจึงจะพอใจ?”
“ข้าจะใช้เงินจ่ายค่าโลงท่านแม่เท่าไหร่ก็เื่ของข้า มันเกี่ยวอะไรกับเ้าด้วย?” หลินฟู่อินไม่แม้จะคิดเรียกอีกฝ่ายว่าท่านป้าใหญ่อีกแล้ว
“มิใช่บอกว่าแม่เ้าสอนมาดีหรือ? การศึกษาหายไปไหนหมดเสียแล้วเล่า?” อู่ซื่อกลับดูร่าเริงยิ่งนัก “ยังจะ้าโลงดีๆ อีก แม่เ้าตายได้อัปมงคลนัก ล้วนไม่คู่ควรทั้งนั้น!”
ตอนเห็นท้องที่โดนกรีดของฉู่ซื่อนางก็หวาดกลัวจนหัวชาไปหมด ทนมองต่อไม่ได้จึงได้จากไปก่อน ไม่คิดว่าเ้าเด็กหลินฟู่อินนี่ยังจะ้าซื้อโลงของยายหลี่มาให้คนที่ตายสยองเช่นนี้อีก นางจะทนได้อย่างไร?
ตอนนั้นยายหลี่เคยเชิญคนทั้งหมู่บ้านมาร่วมเลี้ยงฉลองที่ต่อโลงเสร็จ ตัวโลงทำจากไม้เซินมู่ที่ดีที่สุด ซ้ำยังจ้างจิตรกรที่เก่งที่สุดมาทาสีแดงสดใสให้… ในตอนนั้นคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านหูลู่ตั้งเท่าไหร่ที่ริษยา?
นางเคยคุยเื่งานศพตนเองกับสามีอยู่หลายครั้ง สิ่งที่นางพูดถึงบ่อยที่สุดย่อมต้องเป็เื่ที่นางจะยินดีเพียงใดหากได้ใช้โลงเช่นยายหลี่
แต่ฉู่ซื่อที่ใช้ชีวิตเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่เคยช่วยทำไร่ ไม่รู้จักกตัญญู คนเช่นนั้นจะคู่ควรกับโลงดีๆ ได้อย่างไร?
อู่ซื่อยิ่งคิดยิ่งแค้นเสียจนหน้ายาวยิ่งกว่าม้า
“ท่านลุงหลี่ไปบอกท่านยายหลี่ว่าข้ายินดีจ่ายแปดสิบตำลึง หากท่านยายหลี่ยอมขาย ข้าจะรับท่านยายหลี่เข้ามาดูแลหลังฝังท่านแม่เสร็จสิ้นเ้าค่ะ” ทันใดนั้นหลินฟู่อินก็กล่าวขึ้นมา
“เ้า…นังเด็กทรพี! โลกจบสิ้นกันแล้ว! คิดจะใช้เงินแปดสิบตำลึงซื้อโลงศพหรือ? ยังคิดจะดูแลคนแก่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอีก?” อู่ซื่อไม่รอให้จ้าวซื่อกล่าวอะไรก็สาวเท้ายกมือเข้าไปคิดจะตบตีหลินฟู่อินแล้ว ทว่าเด็กหญิงกลับขยับตัวเล็กน้อยทำให้หลบพ้น
อู่ซื่อตีวืดใส่อากาศจนแทบจะเอวเคล็ด
“ท่านแม่” จ้าวซื่อก็กังวลเช่นกัน “นั่นแปดสิบตำลังเงินนะ! นางเด็กไม่รู้ความนี่จะใช้เงินมากมายเพียงนี้เพื่อซื้อโลงให้แม่อายุสั้นโชคร้ายนั่นหรืออย่างไร?”
เงินทั้งหมดควรเป็ของนาง!
“เงินอยู่ในมือข้า ข้าจะจัดงานศพให้ท่านแม่อย่างยิ่งใหญ่ก็เป็เื่ของข้า หรือพวกเ้าคิดจะห้ามไม่ให้ข้ากตัญญูหรือ?” หลินฟู่อินถามเสียงเย็น จากนั้นจึงมองหลี่เจิ้ง “ท่านลุงเ้าหน้าที่หลี่ ช่วยให้ความเป็ธรรมด้วยเ้าค่ะ!”
เมื่อได้ยินหลินฟู่อินกล่าวถึงความกตัญญู ใบหน้าของหลี่เจิ้งก็มืดครึ้มลง ไม่ว่าใครก็ไม่ควรห้ามลูกมิให้กตัญญู! เช่นนี้ก็นับว่าทำลายคุณธรรมของโลกนี้แล้ว!”
“หากพวกเ้าไม่ยอมทำหน้าที่ก็รีบไปเสีย อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่!” หลี่เจิ้งกล่าวด้วยท่าทีเ็าไม่ปราณี สีหน้าหม่นครึ้ม
“เ้าหน้าที่หลี่ นี่เป็เื่ของสกุลหลิน อย่ามาขวาง!” อู่ซื่อคิดว่าตนเป็ผู้าุโย่อมไม่คิดจะ ‘ให้หน้า’ เ้าหน้าที่หลี่แม้แต่น้อย เพียงคิดว่าหลินฟู่อินไม่เพียงจะจ่ายเงินออกไปถึงแปดสิบตำลังให้ฉู่ซื่อ ทั้งยังคิดจะดูและยายหลี่อีก นางก็ปวดหัวขึ้นมาแล้ว
เห็นดังนี้หลี่เจิ้งก็กระทืบเท้าด้วยความโมโห ชี้หน้าอู่ซื่อแล้วร้อง “ชิ่วๆ”
สีหน้าอู่ซื่อน่าเกลียดขึ้นมา คนชี้หน้าหลินฟู่อินแล้วออกคำสั่ง “ข้าไม่สนว่าบ้านเ้ามีเงินเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดล้วนเป็ของสามีข้า ส่งมาเดี๋ยวนี้!”
หลี่เจิ้งเห็นอู่ซื่อสนแต่จะเอาเงินทั้งยังก่อปัญหามากกว่าเดิมก็อดมิได้ให้ยกมือขึ้นกุมหัวอย่างพูดไม่ออก หากข่าวภรรยาเฒ่าหลินกับจ้าวซื่อสร้างเื่ราวเช่นนี้แพร่ออกไปคงได้ขายหน้าไปทั่วหมู่บ้านหูลู่แน่…
ขมับเขากระตุกรุนแรง ก่อนจะตบโต๊ะด้วยความโมโห “คนตายสำคัญที่สุด พวกเ้าจะมาสร้างเื่อะไร?”
“ข้าได้ยินว่าหากข้าขายโลงให้ฟู่อิน นางจะรับข้าไปดูแล พูดถูกหรือไม่?”
ระหว่างที่อู่ซื่อจ้าวซื่อยังคงโวยวาย ทันใดนั้นน้ำเสียงทรงคุณธรรมและมีชีวิตชีวาของสตรีสูงวัยคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้