น้ำตาล เกลือ กระดาษไข กล่องกระดาษ ถังหยวนมองของจำนวนมากที่กองอยู่บนเตียง เห็นของพวกนี้แล้วก็ไม่เข้าใจเลยว่าน้องสาวจะทำอะไรขาย
“พี่ชาย พี่ว่าฉันจะเอาของพวกนี้ไปซ่อนไว้ตรงไหนดี” ถังเยี่ยนมองของจำนวนมากที่ซื้อมา กองอยู่บนเตียง ห้องของพวกเธอสองพี่น้องไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แค่เตียงก็กินพื้นที่ไปสามส่วนสี่ของห้องแล้ว ถ้าวางของไว้บนเตียงแบบนี้ ก็คงไม่ดีเพราะเพียงแค่เปิดประตูเข้ามาก็เห็นแล้ว ถึงแม้เย่เหยาหรือคนอื่นๆ จะไม่เปิดประตูเข้ามาห้องพวกเธอ แต่ถ้าหากมีเื่บังเอิญขึ้นมา แผนที่วางไว้อย่างดีก็คงจะพังลง
“ในใต้เตียงมีช่องว่างที่พี่ทำขึ้นเอาไว้นานแล้วเอาของไปซ่อนไว้ตรงนั้นก็ได้” ถังหยวนเปิดช่องใต้เตียงให้น้องสาวดู
ถังเยี่ยนถึงกับเบิกตากว้างเพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าใต้เตียงจะมีช่องว่างที่ใหญ่ขนาดนี้ เธอไม่รู้ว่าพี่ชายของเธอแอบทำตอนไหนโดยที่เธอไม่รู้เลย
สองพี่น้องช่วยกันนำของทั้งหมดซ่อนไว้ในใต้เตียง เมื่อจัดของทุกอย่างเสร็จแล้วก็ถึงเวลาต้องเข้านอน เพราะพรุ่งนี้มีเื่ให้ต้องทำอีกหลายอย่าง
ถังเยี่ยนวันนี้เธอตั้งใจตื่นขึ้นมาั้แ่เช้ามืด เธอตื่นก่อนทุกคนในบ้านเพื่อนลุกขึ้นมาเตรียมอาหารและทำงานในบ้าน เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาว่าง ถังหยวนที่เห็นน้องสาวตื่นั้แ่เช้ามืดเพื่อลุกมาทำงาน เขาเองก็ตั้งใจตื่นมาช่วยน้องสาวด้วยเช่นกัน
ถังเยี่ยนก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้พี่ชายช่วยเธอ เธอให้พี่ชายช่วยสับฟืนส่วนเธอก็ไปทำอาหาร สองพี่น้องช่วยกันทำงานที่มีอยู่ไม่นานก็เสร็จ เมื่อเตรียมอาหารเสร็จแล้วแต่ทุกคนในบ้านยังไม่ตื่น ถังเยี่ยนจึงรีบไปซักผ้าที่มีอยู่ของวันนี้ให้เสร็จ หลังจากซักผ้าตากผ้าเสร็จแล้วเธอก็รีบไปกวาดทำความสะอาดลานหน้าบ้าน
เย่เหยาตื่นขึ้นเธอก็เดินเข้าไปในครัวแต่เมื่อไม่เห็นลูกเลี้ยงทำงานในครัวเหมือนทุกวัน ก็รู้สึกโกรธ
แต่เมื่อเดินออกมาที่ลานบ้าน ก็เห็นถังเยี่ยนกำลังกวาดลานบ้านอยู่
“ยัยเด็กเหลือขอแกทำอาหารเสร็จแล้วหรอ” เย่เหยาไม่ได้ดูในครัวให้แน่ชัดเพียงแค่เปิดประตูเข้าไป แต่ไม่เห็นลูกเลี้ยงทำงานเหมือนทุกวันก็รู้สึกโกรธ เลยไม่รู้ว่าถังเยี่ยน ทำอาหารเสร็จหมดแล้ว
“วันนี้ฉันตื่นเช้าฉันเลยทำอาหารเสร็จแล้ว แม่มีอะไรหรือเปล่าฉันกวาดลานบ้านอยู่” ถังเยี่ยนมองหน้าแม่เลี้ยงของเธอที่ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร จะด่าเธอแต่ก็ไม่มีข้ออ้างที่จะใช้ด่า เลยได้แต่สะบัดหน้าเดินจากไป
ถังเยี่ยนเองก็ไม่ได้สนใจ เธอกวาดลานบ้านของเธอต่อไป ในบ้านของเธอมีต้นแปะก๊วยอยู่หนึ่งต้น และก็มีต้นพุทรา กับต้นทับทิมอย่างละต้นด้วยเช่นกันทำให้ในแต่ละปีจะได้กินทับทิมกับพุทราจำนวนมาก
ทำให้ในแต่ละวันมีใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นเป็จำนวนมาก
ถังเยี่ยนเมื่อกวาดบ้านเสร็จแล้วเธอก็เตรียมจัดอาหารให้ทุกคนในบ้านกินก่อนออกไปทำงาน
เมื่อทุกคนออกจากบ้านหมดแล้วถังเยี่ยนก็ทำงานในส่วนของตนเองเสร็จหมดแล้ว เวลาว่างที่เหลือเธอก็ตั้งใจจะทำผลไม้แผ่นไปขายในอำเภอ
เธอจะต้องใช้เวลาว่างในที่่ทุกคนออกไปทำงานขึ้นไปเก็บผลไม้ป่าบนเขา ผลไม้ป่าบนเขามีจำนวนมากแต่ที่ทุกคนไม่เก็บกินเพราะมันมีรสชาติเปรี้ยวและไม่อร่อย แต่หากนำมากวนกับน้ำตาลและทำเป็ผลไม้แผ่นมันจะรสชาติดีมาก แล้วยังไม่ต้องเสียเงินไปซื้อผลไม้เพราะสามารถเก็บได้ตามูเา
ถังเยี่ยนแบกตะกร้าเท่าตัวเธอวิ่งขึ้นไปบนเขา แม้ร่างกายน้อยๆ นี้จะยังอ่อนแออยู่ แต่เื่พวกนี้เธอก็สามารถทำได้สบาย เธอเติบโตมาบนูเาลูกนี้ทำให้เธอรู้ว่าตรงไหนมีผลไม้ป่าจำนวนมาก ผลไม้ป่าที่เธอเลือกจะนำไปทำผลไม้กวน ทำเป็ผลไม้แผ่นก็มี สตอเบอรี่ป่า บลูเบอรี่ป่า และก็มีราสเบอรี่ป่า
ถังเยี่ยนที่ขึ้นมาบนเขาเธอเก็บผลไม้ได้ประมาณครึ่งตะกร้า แล้วเธอก็รู้สึกว่าตะกร้าบนหลังมันรู้สึกหนักมาก เธอจึงเก็บเพียงแค่ครึ่งตะกร้าเท่านั้นเพราะหากเก็บเต็มตะกร้าเธอก็กลัวจะแบกลงเขาไปไม่ไหว จึงตั้งใจจะนำผลไม้พวกนี้กลับไปเก็บที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับขึ้นมาเก็บอีกครั้ง
ถังเยี่ยนวิ่งขึ้นลงูเาเก็บผลไม้อยู่หลายรอบ จนใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันเธอจึงไม่ได้ขึ้นเขาไปอีก และรีบเตรียมอาหารกลางวันให้ทุกคนในบ้าน
เธอเปิดประตูเข้ามาในครัว จากนั้นก็รีบอุ่นอาหารที่เธอทำเอาไว้ในตอนเช้า อาหารสำหรับกลางวันเป็อาหารง่ายๆ มีเพียงแค่ผัดผักกุยช่ายป่า ไก่ต้มเกลือ มีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น
เมื่อเธออุ่นอาหารเสร็ตประตูบ้านก็ถูกเปิดเข้ามาพอดี คนที่ไปทำงานกับคนที่ไปโรงเรียนเดินกลับบ้านมาพร้อมกัน
ถังเยี่ยนที่รู้หน้าที่ของตนเองอยู่แล้วเธอก็ตักอาหารไปเตรียมไว้ที่โต๊ะ
“เสี่ยวเยี่ยนน้องเก็บผลไม้พวกนี้คนเดียวเลยหรอ” ถังหยวนมองกองผลไม้ที่น้องสาวกำลังคัดแยกอยู่
“ใช่ทั้งหมดนี้ฉันเก็บเองหมดเลย” ถังเยี่ยนเอ่ยตอบพี่ชายแต่มือกับคัดแยกผลไม้ทั้งสามชนิดไม่หยุด
“มาพี่ช่วย” ถังหยวนเห็นน้องสาวคัดแยกผลไม้อย่างตั้งใจ ก็ตั้งใจจะช่วย
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง พี่รีบไปกินข้าวเถอะแล้วพี่ยังต้องลงไปทำงานในไร่อีก ผลไม้แค่นี้ฉันทำคนเดียวไม่นานก็เสร็จ” ถังเยี่ยนเอ่ยห้ามเพราะเธอมีเวลาใน่บ่าย เพราะเธอทำงานเสร็จหมดแล้ว ต่างจากพี่ชายที่ต้องทำงานในไร่ และยังเป็งานที่ใช้กำลังหนักๆ
“ได้น้องไม่ต้องฝืนตนเองนะเหนื่อยก็พัก” ถังหยวนถึงแม้จะอยากช่วยแต่ก็เข้าใจน้องสาว เขาเป็ห่วงเธอเธอเองก็คงเป็ห่วงเขาเหมือนกัน
หลังจากคัดแยกผลไม้แต่ละชนิดเสร็จแล้วเธอก็เตรียมล้าง แต่ยังไม่ล้างตอนนี้เพราะเธอต้องออกไปเก็บโต๊ะอาหารเสียก่อน
“นังเด็กเหลือขอเย็นนี้ แกทำบะหมี่เนื้อนะไม่ต้องทำอาหารอย่างอื่น” ก่อนออกจากบ้านเย่เหยาก็ไม่ลืมสั่งงานถังเยี่ยน
“ได้แม่ฉันจะทำตามที่แม่สั่งทุกอย่าง” ถังเยี่ยนตอบรับ
เมื่อทุกคนในบ้านออกไปจนหมดเธอก็กลับมาล้างผลไม้ที่คัดแยกเอาไว้ต่อ ผลไม้บนเขาเป็ผลไม้ปลอดสารพิษล้างน้ำเพียงไม่กี่รอบเพื่อล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกออกเล็กน้อยก็สามารถนำมาเริ่มกวนได้แล้ว
ในบ้านมีกระทะขนาดใหญ่อยู่ เหมาะสำหรับใช้กวนผลไม้พอดี แต่เธอที่ตัวเล็กแบบนี้ก็คงต้องใช้กำลังมากหน่อย
ถังเยี่ยนเริ่มจากการกวน สตอเบอรี่ก่อนเป็อย่างแรก มือเล็กๆ ของเธอจับไม้พายด้วยความพยายาม สตอเบอรี่หนึ่งตะกร้าใหญ่พอกวนผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงจากตอนแรกที่เต็มกระทะจนกวนไม่ไหวตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่งกระทะ ผลไม้หนึ่งตะกร้าเธอใช้น้ำตาลหนึ่งชั่ง และก็ใช้เกลือเสริมรสชาติอีกเล็กน้อย พอลองชิมดูก็พบว่ารสชาติค่อนข้างอร่อยเลยทีเดียว
รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ เป็รสชาติที่ถังเยี่ยนชอบมากๆ กินแล้วก็รู้สึกสดชื่น ในชีวิตก่อนเธอชอบกินผลไม้กวนกับชามาก
หลังจากกวนเสร็จแล้วก็เทลงบนถาดที่มีกระดาษไขรองไว้อยู่ จากนั้นก็เกลี่ยสตอเบอรี่กวนให้ทั่ว หลังจากนั้นเธอก็เอาถาดนั้นไปเก็บไว้ในห้องนอนของเธอ เพื่อรอให้มันแห้งคืนนี้เธอค่อยจัดใส่กล่อง พรุ่งนี้จะได้นำไปขายในเมือง
ผลไม้อีกสองชนิดก็ทำเช่นเดียวกัน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วเธอก็ทำความสะอาดห้องครัว และก็ตั้งใจจะเริ่มทำบะหมี่เนื้อตามคำสั่งของแม่เลี้ยง
ถังเยี่ยนรู้สึกทึ่งกับตัวเองจริงๆ เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอมีความสามารถขนาดนี้ เธอเริ่มทำอาหารั้แ่ยังเด็กและก็สามารถทำอาหารได้ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ หากเธอทำอาหารไม่อร่อยแม่เลี้ยงของเธอคงไม่ยอมให้เด็กอย่างเธอทำอาหารแน่นอน
บะหมี่เนื้อแค่นวดแป้งทำเส้นบะหมี่ แล้วก็ต้มน้ำซุปเนื้อ ใช้เวลาทำไม่นานก็เสร็จ พอทุกคนกลับมาถึงบ้านก็แค่ลวกเส้น แล้วก็ราดด้วยน้ำซุปเนื้อเท่านี้ก็สามารถกินบะหมี่เนื้ออร่อยๆ ได้แล้ว และก็จะมีน้ำมันพริก และมีน้ำส้มสายชูไว้คอยปรุงรสแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
ถังเยี่ยนคิดว่าสมาชิกในบ้านคงใกล้จะกลับมาแล้วเธอจึงจัดการลวกเส้นบะหมี่ แต่ยังไม่ได้ราดน้ำซุปเพราะรอให้ทุกคนในบ้านกลับมาถึงก่อน รอไม่นานประตูบ้านก็ถูกเปิดเข้ามา สมาชิกในบ้านแต่ละคนก็เดินตามๆ กันเข้ามาในบ้าน
ถังเยี่ยนมองดูพี่ชายของเธอที่มีอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานก็รู้สึกสงสารเขายิ่งนัก เด็กอายุแค่นี้แต่กลับทำงานหนักราวกับผู้ใหญ่ แล้วยังไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
“แม่วันนี้เราจะได้กินบะหมี่เนื้อใช่ไหม” ถังลี่จูเมื่อเข้ามาในบ้านก็เอ่ยถามแม่ของตน เธอเป็คนบอกแม่เองว่าอยากกินบะหมี่เนื้อ
“แน่นอนสิลูกรัก ลูกอยากกินอะไรแม่ก็จะหาให้ลูกกินทั้งหมด” สองแม่ลูกพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น
ถังเยี่ยนเห็นแบบนี้ก็อยากจะวางยาเบื่อหนูให้คนในบ้านนี้กินจริงๆ แต่เมื่อคิดว่าหากเธอทำแบบนั้นเธอคงต้องเสียอนาคต และต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกเธอก็ทิ้งความคิดนั้นไป
เพราะเธอเชื่อว่าชีวิตของเธอนั้นมีค่า์อุตส่าห์ให้เธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอก็ต้องใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ชีวิตของเธอคนเดียวแต่ต้องเป็ชีวิตของพี่ชายของเธอด้วย
ถังเยี่ยนนำบะหมี่ที่ทำเสร็จไปเตรียมไว้ที่โต๊ะ เธอรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีสองถ้วยที่มีเนื้อมากกว่าคนอื่น เพราสองถ้วยนั้นจะเป็ของถังลี่จูกับถังลู่ชิง ส่วนเธอกับพี่ชายได้กินแค่เส้นกับน้ำซุปแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
เช้าวันต่อมา
เมื่อทุกคนออกไปทำงานกันหมดแล้ว ถังเยี่ยนที่ลุกขึ้นมาทำงานั้แ่เช้าเหมือนเดิม เมื่องานในบ้านทุกอย่างเสร็จหมดแล้วเธอก็พร้อมจะไปขายของในเมืองแล้ว
ตอนนี้เป็เวลาประมาณเจ็ดโมงเช้าหากเธอใช้เวลาเดินประมาณสามสิบนาทีก็คงถึงตัวเมืองพอดี เธอจะต้องขายของให้หมดก่อนสิบเอ็ดโมงและยังต้องเผื่อเวลาสามสิบนาทีเพื่อเดินกลับด้วย เพราะเธอจะต้องรีบกลับมาทำอาหารมื้อเที่ยง แต่เธอก็เตรียมอาหารเอาไว้แล้วเพียงแค่อุ่นก็สามารถกินได้เลย
ถังเยี่ยนนำกล่องผลไม้กวนทั้งสามชนิด แบ่งออกเป็อย่างละสาม กล่องรวมกันเป็เก้ากล่อง เธอจัดใส่ตะกร้าจากนั้นก็แบกใส่หลังเพื่อเตรียมเดินเข้าเมือง
สถานที่ที่เธอเลือกไปขายคือสถานีรถไฟ สถานีรถไฟมีคนจำนวนมากไปรวมตัวอยู่ที่นั่น
ในปี1980 เป็ยุคที่เรียกได้ว่าทองคำมีอยู่ทุกที่ เพียงแค่ตั้งแผงขายอาหารเช้าก็สามารถเป็ครัวเรือนหมื่นหยวนได้แล้ว ถึงแม้ผลไม้กวนของเธอมันจะดูง่ายๆ ไม่มีอะไรแต่เธอก็มั่นใจว่ามันสามารถขายได้ แต่จะต้องเลือกกลุ่มลูกค้าที่เป็กลุ่มเฉพาะหน่อยเพราะผลไม้กวนของเธอค่อนข้างมีราคาแพง เธอตั้งราคาไว้ถึงกล่องละหนึ่งหยวน ราคาหนึ่งหยวนไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปจะซื้อได้
เพราะเงินหนึ่งหยวนในยุคนี้หากตั้งใจใช้จริงๆ ก็สามารถใช้ซื้ออาหารได้อีกหลายวัน
แต่เธอเองก็ลงทุนไปมาก ผลไม้กวนต้องใช้น้ำตาลที่มีราคาสูง ถึงแม้ผลไม้จะสามารถเก็บได้บนเขาโดยไม่ต้องเสียเงินแต่ก็ต้องเสียกำลังเธออยู่ดี ยิ่งกวนผลไม้ยิ่งต้องเสียกำลังเยอะกว่าการเก็บผลไม้เสียอีก
ถังเยี่ยนตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าสถานีรถไฟแล้ว สถานีรถไฟที่มีคนพลุกพล่านเดินไปมา เป็สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับขายของที่ดีมาก และก็เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าที่เห็นช่องทางโอกาสเริ่มขายอาหาร เท่าที่เธอเห็นก็มีไข่ต้มใบชา มีซาลาเปาหมั่นโถว และก็มีแป้งทอดไส้ผักกับไส้เนื้อ
ถังเยี่ยนมีกลยุทธ์การขายเป็ของตนเองเธอไม่ได้คิดจะไปเร่ขายเหมือนคนอื่นๆ ของที่เธอขายนั้นค่อนข้างมีราคาแพงเธอจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปหาลูกค้าด้วยตัวเอง และเสนอขายสินค้าให้พวกเขา ในกลุ่มที่เธอเลือกจะขายให้จะต้องเป็คนที่แต่งตัวดีดูมีเงิน และถ้ามีเด็กเล็กมาด้วยยิ่งดีเพราะผลไม้กวนของเธอเด็กๆ คงจะชอบ
“พี่สาวคุณสนใจซื้อผลไม้กวนขึ้นไปกินบนรถไฟไหมคะ” ถังเยี่ยนเลือกเดินเข้าไปขายให้ชายหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้วยกันเธอคิดว่าทั้งสองคงจะเป็สามีภรรยากัน
“อะไรกันหนูน้อย อะไรคือผลไม้กวนล่ะฉันไม่รู้จักหรอกนะ” ผู้หญิงเอ่ยพูดกับเธอพร้อมกับมองมาที่เธอเพื่อสำรวจและยิ่งเห็นสภาพเธอที่เป็แบบนี้ยิ่งมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
ถังเยี่ยนไม่ได้สนใจสายตาที่มองมาเธอหยิบผลไม้กวนกล่องนึงออกมา กล่องนี้เป็ผลไม้กวนที่เหลืออยู่เธอตั้งใจจะนำมาเป็ตัวอย่างให้ลองชิม เธอยื่นกล่องผลไม้กวนให้ผู้หญิงตรงหน้าพร้อมกับยิ้มโชว์ฟันขาวให้
ผู้หญิงตรงหน้าที่เห็นถังเยี่ยนยื่นกล่องผลไม้กวนให้เธอ เธอก็ไม่อยากให้เด็กน้อยตรงหน้าเสียใจ เธอจึงได้ยื่นมือไปรับผลไม้กวนหนึ่งชิ้นเล็กมาลองชิมดู เมื่อได้ลองชิมเธอก็ถึงกับเบิกตากว้าง เพราะมันรสชาติอร่อยเกินคาด
“อร่อยมากเลยนี่คืออะไรหรอ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่ถังเยี่ยนด้วยสายตาคาดหวัง
“พี่สาว รสชาติที่พี่ชิมไปเมื่อกี้คือบลูเบอร์รี่กวนค่ะ ผลไม้กวนของหนูมีทั้งหมดสามรสชาติ นี้เป็บลูเบอร์รี่กวนส่วนอันนี้เป็ราสเบอรี่กวนส่วนอันนี้เป็สตอเบอรี่กวนค่ะ พี่สาวลองชิมดูทั้งสามอย่างก็ได้นะคะ แล้วค่อยเลือกดูว่าชอบอันไหน” ถังเยี่ยนให้ชิมโดยไม่เสียดายของเลยแม้แต่น้อย
ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ลองชิมผลไม้กวนทั้งสามรสชาติและก็ยังเอาให้สามีเธอลองชิมด้วย เมื่อได้ลองชิมทั้งสามรสชาติแล้วก็รู้สึกว่าผลไม้กวนทั้งสามรสชาตินั้นอร่อยทั้งหมดจนเธอเลือกไม่ได้
“ภรรยาถ้าคุณเลือกไม่ได้ก็ซื้อมันทั้งสามรสชาติเลย สาวน้อยเธอขายกล่องเท่าไหร่” คนเป็สามีที่เห็นว่าภรรยาเลือกไม่ได้ก็คิดจะซื้อให้ภรรยาทั้งสามรสชาติ และก็อยากซื้อกลับไปเป็ของฝากให้ครอบครัวด้วย
“พี่ชายผลไม้กวนของฉันราคาค่อนข้างราคาแพงหน่อยนะคะฉันขายกล่องละหนึ่งหยวนค่ะ” ถังเยี่ยน พูดพร้อมกับหยิบกล่องผลไม้กวนขึ้นมาให้ผู้ชายกับผู้หญิงตรงหน้าดู
ทั้งสองเมื่อได้ยินราคาผลไม้กวนราคาหนึ่งหยวนก็รู้สึกใ เพราะไม่คิดว่าแค่ผลไม้กวนแค่นี้ทำไมถึงราคาแพงขนาดนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้