เมื่อพยักหน้าทักทายกันแล้ว เจียงไป๋ก็เดินเข้าไป และประตูก็ถูกปิดลง
ห้องเดี่ยวตามมาตรฐานไม่ใหญ่มากนัก เตียงใหญ่สีชมพูคู่กับแสงไฟสลัวๆ นั้น ทำให้บรรยากาศคลุมเครือมาก
“เอ่อ คุณอาบน้ำก่อนได้ไหม?” หญิงสาวสูดลมหายใจลึก และอดไม่ได้ที่จะพูดเบาๆ น้ำเสียงราวกับยุง เมื่อพูดจบก็ก้มหน้าอย่างเก็บอาการไม่อยู่ หน้าแดงเหมือนลูกแอปเปิ้ลที่สุกงอม
“อ้อ ได้ … ” เจียงไป๋เกาหัว เขาเองก็รู้สึกเขินอายมากเหมือนกัน
เื่อย่างนี้ก็เป็ครั้งแรกของเขาจริงๆ แต่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้กำลังเขินอายมาก หรือว่าเขาควรจะไม่อาย?
“หรือว่า … คุณจะอาบก่อน?” เจียงไป๋กำลังจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ แต่จู่ๆ ก็คิดอะไรออก จึงถามกลับไป
“ฉัน … ฉันอาบแล้วค่ะ” เสียงที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยินนั้นดังขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงไพเราะจริงๆ เหมือนกับเสียงของนกลาร์คที่ใสแจ๋ว
เจียงไป๋พยักหน้าพลางสูดหายใจลึก
ในเมื่อมาถึงแล้วก็ทำให้เต็มที่ เขาถอดเสื้อนอกออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแปดก้อนที่ทำให้ประหลาดใจ เจียงไป๋เดินเข้าไปในห้องอาบน้ำสิบกว่านาทีล้างหน้าบ้วนปากจนสะอาด สวมกางเกง และเปลือยท่อนบนเดินออกมา
เมื่อออกมาแล้วก็พบว่าชุดกระโปรงสีขาวร่วงอยู่ที่พื้นอย่างน่าประหลาดใจ สาวงามผมยาวนอนอยู่บนเตียง ใช้ผ้าห่มสีขาวห่อตัวเองไว้อย่างแ่า เมื่อเห็นเจียงไป๋เดินออกมา อาการตึงเครียดที่เดิมทีมีอยู่แล้วก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งตัวยังสั่นเทาอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
เจียงไป๋เข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ก่อนจะยื่นมือออกไปเตรียมที่จะลูบคลำผมยาวสลวยนั้น เสียงของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นมาก่อนว่า “พูด … พูดแล้วนะ … ก็ … ก็แค่ครั้งเดียว”
เมื่อเธอพูดประโยคนี้จบสีหน้าก็ยิ่งแดง ไม่มีความหลงระเริงและมีเสน่ห์เหมือนตอนที่สนทนากันก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เจียงไป๋รู้สึกว่านี่ … เหมือนกับเป็คนละคนโดยสิ้นเชิง
“คุณไม่เหมือนอย่างที่ผมคิดเลย ก่อนหน้านี้คุณเหมือนจะไม่ใช่แบบนี้” เจียงไป๋ขมวดคิ้ว และอดถามไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเวลาอย่างนี้คำพูดเช่นนี้ไม่ควรจะถามเลย
“ฉัน ฉันตื่นเต้น” เสียงสั่นดังขึ้นอีกครั้ง
“ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน หรือไม่ … ก็หยุดเถอะ” เจียงไป๋ที่พิงอยู่ที่ขอบเตียงและรักษาระยะห่างจากอีกฝ่ายประมาณยี่สิบเิเยิ้มอย่างอึดอัด และมองสาวงามที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่งพลางพูด
“ไม่ … ”
แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าคำตอบของอีกฝ่ายกลับเด็ดเดี่ยว ราวกับกลัวว่าเจียงไป๋จะหนีไป เธอหันกลับมาและใช้แขนที่ขาวผ่องรัดรอบคอของเจียงไป๋เอาไว้ ริมฝีปากที่บางเรียวงามจูบลงมา แต่ในขณะเดียวกันร่างกายของเธอกลับสั่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจียงไป๋ตะลึงจนตาค้าง
มือทั้งคู่ลูบคลำร่างกายอันนุ่มนวลของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เมื่อลูบคลำไปยังเอวเรียวบาง วินาทีต่อมาก็พลิกตัว แล้วกดอีกฝ่ายไว้ด้านล่าง …
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว หลังจากอารมณ์พลุ่งพล่านผ่านไป สาวงามก็พิงอยู่ในอ้อมอกของเจียงไป๋อย่างแนบชิด ทั้งสองคนตัวติดกัน ปลอบประโลมซึ่งกันและกัน แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว ราวกับว่าทั้งคู่กำลังมีความสุขกับ่เวลาที่อบอุ่นและสงบเงียบแบบนี้ จึงไม่อยากจะพูดอะไรให้มาทำลายบรรยากาศเช่นนี้
“ซูเหมย … ผมขอถามคุณสักหน่อย … ”
เจียงไป๋ปริปาก เขาก็รู้ว่าไม่ควรจะถามอะไรมาก
เื่อย่างนี้ก่อนมาก็คุยกันเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ครั้งเดียว และก็ไม่ติดค้างกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรคนตรงหน้านี้ก็คือผู้หญิงคนแรกของเขา และเขาเองก็เหมือนจะเป็ผู้ชายคนแรกของเธอด้วย ในฐานะคนที่มีความเป็เ้าข้าวเ้าของมากที่สุด เจียงไป๋ก็อดที่จะถามไม่ได้
สำหรับเื่ชื่อนั้น เมื่อครู่ในระหว่างที่อารมณ์พลุ่งพล่าน เจียงไป๋รู้ก็เมื่อตอนที่อีกฝ่ายสติเลอะเลือน
ไม่ชัดเจนเสียอย่างนี้ เขาก็รู้สึกแย่พอสมควร
“ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ถาม”
เธอเงยหน้าขึ้น มองเจียงไป๋ที่อยู่ตรงหน้าอย่างแปลกใจแวบหนึ่ง ตอนที่ลุกขึ้นก็เผยเรือนร่างเปลือยอันงดงามนั้นต่อหน้าเจียงไป๋ เธอรีบดึงผ้าห่มมาคลุมก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองเจียงไป๋อย่างจริงจัง พลางถามอย่างลังเล
ถึงแม้ในน้ำเสียงจะมีการปฏิเสธไปแล้ว
เจียงไป๋ยักไหล่ เธอไม่ให้ถามเขาก็ไม่ควรจะถาม เจียงไป๋ทำท่าทางว่าเข้าใจ ทุกคนก็ล้วนมีความลับของตัวเองทั้งนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้