สถานศึกษาหนานอี๋รับเฉิงชิงเข้าศึกษาแล้ว!
เมื่อข่าวนี้แพร่กลับไป เหล่าเพื่อนบ้านที่ตรอกหยางหลิ่วต่างก็ดีใจแทนเฉิงชิง
“เ้าหนุ่มเฉิงชิงร่ำเรียนอย่างยากลำบากขนาดนั้น จะสอบไม่ผ่านได้อย่างไร?”
“เป็คุณชายน้อยผู้นั้นที่ทั้งกตัญญูและทะเยอทะยาน”
เหล่าเพื่อนบ้านแสดงความยินดีกับนางหลิ่ว นางหลิ่วทั้งยินดีทั้งกังวล
สถานศึกษาหนานอี๋รับเ้าลูกชายเข้าศึกษาอย่างแท้จริงแล้ว!
ก่อนหน้านี้แม้นางหลิ่วและเฉิงจือหย่วนจะนำบุตรสาวมาเลี้ยงดูดั่งบุตรชาย แต่สองสามีภรรยาก็ไม่เคยคิดที่จะไปท้าทายกับกฎหมายของราชสำนักด้วยการเรียกให้ ‘เฉิงชิง’ ไปเข้าร่วมการสอบเข้ารับราชการ เฉิงจือหย่วนจึงไม่เคยสอนสี่ตำราห้าคัมภีร์ให้แก่เฉิงชิงเลย
ไหนเลยจะรู้ว่าหลังจากเฉิงชิงกลับมายังหนานอี๋แล้วร่ำเรียนด้วยตนเองเป็เวลาสามเดือนก็สามารถสอบผ่านการสอบของสถานศึกษาหนานอี๋ พร์ด้านการเล่าเรียนนี้ทำให้นางหลิ่วตกตะลึงอย่างมาก
หากเฉิงชิงเป็บุตรชายจริง ไม่รู้ว่าสามีที่อยู่ในปรโลกจะปลาบปลื้มใจถึงเพียงใด!
บุตรสาวคนที่สองและบุตรสาวคนที่สามไม่รู้ความจริง เอาแต่หัวเราะไม่หยุด
“ท่านแม่เ้าคะ น้องชายต้องมีอนาคตที่ดีแน่เ้าค่ะ”
“ใช่เ้าค่ะ ท่านแม่ รอน้องชายสอบได้วุฒิ ผู้อื่นก็ไม่กล้ารังแกพวกเราตามใจชอบแล้ว”
เผชิญเหตุการณ์เลวร้ายกะทันหันจนบ้านตกต่ำลง บุตรสาวตัวน้อยสองคนที่อายุเพิ่งสิบกว่าปีก็ช่วยนางแบกรับภาระ ยามนี้เฉิงชิงสามารถสอบเข้าสถานศึกษาได้ แม้จะไม่สามารถเทียบเท่าได้กับการสอบได้รับวุฒิ แต่ก็ทำให้บุตรสาวคนรองและบุตรสาวคนที่สามยินดีเป็อย่างมาก
นี่แหละคือความหวัง!
เผชิญกับความทุกข์ทรมานมาแล้วครึ่งปี วันนี้ได้เห็นความหวังที่จะได้ออกจากสถานการณ์อันยากลำบาก ผู้ใดบ้างจะไม่ดีใจ?
นางหลิ่วติดเชื้อจากบุตรสาวทั้งสองคน ชั่วขณะนั้นความยินดีก็กดทับความกังวล
เฉิงชิงจ่ายเงินไปหลายอีแปะ[1]ให้คนไปแจ้งข่าว แต่ตนเองกลับไม่ได้กลับไปยังตรอกหยางหลิ่วในทันที แต่กลับพาบุตรสาวคนโตตรงไปยังบ้านห้า นางหลี่ได้ยินว่านางสอบผ่านแล้ว พอเห็นนางมาเยี่ยมก็ดีใจเป็อย่างมาก เฉิงชิงแลกเปลี่ยนคำทักทายอยู่หลายประโยคแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า้าจะพบนายท่านห้าเฉิง
“หากไม่มีความเป็ห่วงของท่านย่าและการดูแลของท่านปู่ ข้าก็คงไม่อาจสอบผ่านได้เป็แน่ ในส่วนของอนาคตนั้นข้าอยากฟังคำชี้แนะของท่านปู่ ไม่ทราบว่าท่านปู่พอจะสะดวกในตอนนี้หรือไม่ขอรับ?”
นางหลี่พยักหน้า “บังเอิญเสียจริง วันนี้ตอนเช้าปู่ของเ้าออกจากบ้านไป บอกว่า้าหาของขวัญให้เ้าสักชิ้น คำนวณเวลาดูก็น่าจะกลับมาแล้ว ข้าจะให้คนพาเ้าไปพบเขา”
นายท่านห้าเฉิงเตรียมของขวัญแสดงความยินดีให้นางเป็พิเศษ?
เฉิงชิงเสแสร้งทำเป็หวาดกลัวและกังวลใจ
ทว่าลึกๆ แล้วนางก็รู้สึกประหลาดใจ ก็แค่สอบเข้าสถานศึกษาผ่าน ในสายตาของนายท่านห้าเฉิงก็ไม่เห็นว่าเป็อันใด เหตุใดถึงยังต้องเตรียมของขวัญเป็พิเศษ
และนางก็ไม่ใช่เมิ่งไหวจิ่นที่เพียงชั่วพริบตาเดียวก็สอบผ่านเป็เจี้ยหยวนทำให้นายท่านห้าดีใจ
เฉิงชิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากพบนายท่านห้าเฉิงแล้วก็ทำการคารวะอย่างตั้งใจ ใต้เท้าผู้นำตระกูลดึงกระดาษสัญญาแผ่นหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อส่งให้นาง
“เ้าลองดูสิว่าพอใจหรือไม่”
เมื่อเฉิงชิงเหลือบตาดู คาดไม่ถึงว่าจะเป็โฉนดที่ดินที่ออกโดยที่ว่าการ
ฝั่งตะวันตกของตำบลอู่ซินในอำเภอหนานอี๋ มีเคหาสน์น้อยหลังหนึ่งเนื้อที่ประมาณหนึ่งร้อยหมู่[2] ที่น่าใคืออยู่ภายใต้ชื่อของเฉิงชิง!
เฉิงชิงไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับไปชั่วขณะ เมื่อวานตอนเย็นยังคิดหาหนทางที่จะหาเงินมาพลิกฟื้นสถานการณ์ทางการเงินภายในครอบครัวอยู่เลย วันนี้ก็มีเงินมาส่งถึงที่แล้ว?
อำเภอหนานอี๋มีทั้งแม่น้ำและูเา แต่พื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกกลับมีอยู่น้อยมาก แม้ไม่รู้ว่าที่ดินหนึ่งร้อยหมู่นี้ดีหรือไม่ดี แต่เมื่อคำนวณโดยอิงจากที่ดินอื่นแล้ว โฉนดแผ่นนี้ที่นายท่านห้าเฉิงมอบให้ก็มีค่าอยู่หลายร้อยตำลึงเงิน ครอบครัวของเฉิงชิงใช่ว่าจะไม่มีเงินหลายร้อยตำลึงเงิน งานเย็บปักของนางหลิ่วและบุตรสาวทั้งสามก็สามารถรวบรวมเงินจำนวนนี้ได้ ถึงจะรวบรวมเงินได้ แต่ก็ไม่มีหนทางซื้อ ที่ดินคือสิ่งที่เป็มรดกตกทอด ที่ดินของอำเภอหนานอี๋เดิมก็มีน้อยอยู่แล้ว ผู้ที่จะขายที่ดินไปอยู่นอกพื้นที่ยิ่งมีน้อยเข้าไปอีก!
ความใจกว้างนายท่านห้าเฉิงทำให้เฉิงชิงตกตะลึง เมื่อได้สติก็ย่อมส่ายหัวปฏิเสธเป็ธรรมดา
“ท่านปู่ขอรับ พอใจก็พอใจอยู่ แต่โฉนดที่ดินนี้เฉิงชิงไม่อาจรับไว้ได้”
อย่าให้นางพูดเลย ปฏิเสธของสิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกปวดใจจริงๆ
แต่นางจะมีวิธีใดได้อีก ผู้ที่เพิ่งตั้งตัวได้ ไม่ใช่ว่าจะทิ้งก็ทิ้งได้เลยนะ!
ท่องอยู่เงียบๆ ภายในใจเป็ร้อยรอบว่ามักน้อยถึงจะได้ทรัพย์มาก เฉิงชิงจึงดันโฉนดที่ดินคืนกลับไป
แน่นอนว่าบนใบหน้านางไม่ปรากฏความลังเลแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยความยินดี
นายท่านเฉิงจึงให้ความสำคัญกับเฉิงชิงเพิ่มขึ้นอีกสองส่วน เขาเอ่ยอธิบายอย่างใจเย็น
“เคหาสน์หนึ่งร้อยหมู่นี้อยู่ภายใต้ชื่อของเ้าแล้ว โฉนดที่ดินก็เป็ที่ว่าการออกให้ หากเ้าไม่รับแล้วข้าจะเอาไปให้ผู้ใด เื่ราวไม่ใช่อย่างที่เ้าคิด ที่นานี้เป็ข้าช่วยซื้อมาให้ แต่เงินกลับไม่ใช่ข้าที่ออก… นี่คือเงินส่วนตัวที่ย่าเลี้ยงจูของเ้าควักออกมา ผ่านมือข้าที่เป็คนกลาง บัดนี้เปลี่ยนเป็ที่ดินภายใต้ชื่อเ้า ข้าอธิบายเช่นนี้เ้าเข้าใจหรือไม่?”
ท่านย่าเลี้ยงฮูหยินผู้เฒ่าจูควักเงินซื้อที่นาให้นาง?
นางจูไหนเลยจะใจกว้างถึงเพียงนี้! นอกเสียจากว่า…
เฉิงชิงพลันตระหนักได้
ที่แท้นี่ก็คือ ‘การทวงคืนความยุติธรรม’ ที่นายท่านห้าเฉิงได้กล่าวไว้
นำความอยุติธรรมที่นางถูกใส่ร้ายว่าทุจริตในขณะสอบของสถานศึกษาเปลี่ยนมาเป็เงิน ทำให้นางจูกระอักเืครั้งใหญ่!
สีหน้าของเฉิงชิงแสดงออกถึงความประหลาดใจ
นายท่านห้าเฉิงทำเช่นนี้ ช่างเหนือความคาดหมายของนางมากเสียจริง
นายท่านห้าเฉิงคิดไปว่าเฉิงชิงมีจิตใจและปณิธานของเด็กหนุ่ม ไม่พอใจกับการจัดการเช่นนี้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเฉิงชิงเพิ่มสักหลายประโยค
“บัณฑิตผู้นั้นสารภาพแล้วว่ารับผลประโยชน์จากผู้อื่นแล้วจึงมาใส่ร้ายเ้า แต่ผู้ที่ซื้อตัวเขานั้นชื่ออะไร ตระกูลอะไร อาศัยอยู่ที่ไหนก็ล้วนไม่รู้ เขาใส่ร้ายเ้าไม่สำเร็จกลับตัดอนาคตของตนเอง ข้าคิดว่าเขาได้รับบทลงโทษแล้ว ส่วนผู้ที่อยู่เื้ั ข้าเพียงสืบได้ถึงเพียงว่าเมื่อหลายวันก่อน บ้านรองได้สั่งให้เด็กรับใช้ผู้หนึ่งไปหาอารองของเ้า เฉิงจือซวี่ คนผู้นั้นคือบุตรชายของแม่นมโจวที่คอยจัดการเื่ราวต่างๆ ให้กับย่าเลี้ยงของเ้า”
บุตรชายของแม่นมโจว
ไม่ออกนอกบ้านทั้งเช้าเย็น แต่หลังจากตนถูกใส่ร้ายกลับออกจากหนานอี๋ไปยังต่างถิ่นเสียอย่างนั้น บุตรชายของแม่นมโจวผู้นี้น่าสงสัยอย่างมาก ย่อมต้องเป็ผู้ที่ออกหน้าไปซื้อตัวบัณฑิตตกยากผู้นั้นเป็แน่!
นายท่านห้าเฉิงสามารถตรวจสอบได้ถึงตรงนี้ ไม่ได้ทำอย่างขอไปทีอย่างแท้จริง ้าที่จะทวงคืนความยุติธรรมให้นางจริงๆ
จับตัวบุตรชายของแม่นมโจวไปก็ไร้ประโยชน์ ผู้บงการที่แท้จริงไม่มีทางเป็แม่นมโจว บ่าวไพร่ล้วนเชื่อฟังคำสั่งนาย ผู้ที่้าตัดอนาคตนางก็คือนางจู
แต่หากพึ่งเพียงคำให้การของบัณฑิตตกยากผู้นั้น นายท่านห้าเฉิงก็ไม่อาจเปิดโปงนางจูได้ บัณฑิตผู้นั้นแม้แต่คุณสมบัติที่จะได้พบหน้านางจูยังไม่มี เฉิงชิงไม่อาจไม่รู้ดีชั่ว เพียงพึ่งสิ่งเหล่านี้นายท่านห้าเฉิงก็ทำให้นางจูกระอักเืใหญ่ได้แล้ว ขนาดเป็ของส่วนตัวยังจ่ายขนาดนี้!
เฉิงชิงยังถึงขนาดทายว่า นายท่านห้าเฉิงมีหลักฐานที่เชื่อถือได้จริง เพื่อความสามัคคีภายในตระกูลเฉิง จึงไม่อาจนำเื่นี้มาทำให้เป็เื่ใหญ่โตได้
ก็คงสามารถทำได้เพียงเท่านี้
นางจูยังเป็ผู้ที่นางไม่สามารถจัดการได้
เฉิงชิงข่มความอัดอั้นภายในใจไว้ แต่ก็ยังยืนกรานไม่รับโฉนด
“ท่านปู่คิดเพื่อข้าอย่างแท้จริง เื่ที่ถูกใส่ร้ายข้าย่อมไม่มีทางเอ่ยขึ้นมาอีก ส่วนที่นาหนึ่งร้อยหมู่นี้ ขอให้ท่านปู่เป็ผู้ดูแลแทนเป็การชั่วคราวได้หรือไม่ขอรับ? ท่านปู่ ข้าไม่ได้รู้ดีรู้ชั่วตำหนิท่าน แต่สถานการณ์ภายในบ้านข้าท่านก็รู้ดี จู่ๆ มีเคหาสน์พร้อมที่นาหนึ่งร้อยหมู่ปรากฏมาเกินหลังหนึ่งย่อมเป็ผลเสียต่อคดีของท่านพ่อที่เสียไป”
เงินนี้นางจูควักออกมาเป็ค่าปิดปาก เฉิงชิงย่อมไม่คิดจะโด่งดังแทนนางจู เคหาสน์พร้อมที่นานี้ หากให้เฉิงชิงดูแลเอง ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องมีเสียงซุบซิบนินทา
ก่อนหน้าที่มลทินของเฉิงจือหย่วนยังไม่ได้รับการชำระและตัวนางเองก็ยังสอบไม่ได้คุณวุฒิ ทางที่ดีที่สุดคือครอบครัวนางยังคงต้องรักษาสภาพเข้าตาจนเอาไว้ อย่าเพิ่งคิดเื่ซื้อที่ดินซื้อบ้านพวกนี้ หากถูกคนรู้เข้าย่อมต้องคิดเชื่อมโยงไปถึงเฉิงจือหย่วนยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ!
ให้นายท่านห้าเฉิงดูแลเป็การดีที่สุด เฉิงชิงไม่ต้องพะวงจัดการเคหาสน์พร้อมที่นา บ้านห้าคนเยอะกิจการมาก นายท่านห้าเฉิงคงไม่โลภรายได้จากที่นาเล็กๆ นี้หรอก เฉิงชิงรู้สึกว่าลงมือครั้งเดียวแต่ได้ประโยชน์หลายอย่าง
[1] อีแปะ คือหน่วยเงินในสมัยโบราณของจีน 1,000 อีแปะ มีค่าเท่ากับ 1 ตำลึงเงิน
[2] หมู่ คือหน่วยวัดพื้นที่ของจีน 1 หมู่เท่ากับ 666.67 ตารางเมตรโดยประมาณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้