เวินซีพบว่าชีพจรของจ้าวต้านเต้นได้แรงกว่าเดิม อาจเป็เพราะเนี่ยนหานกู่ถูกระงับไว้อยู่หมัด ร่างกายของเขาตอนนี้ดีกว่าตอนที่ตรวจชีพจรให้ครั้งแรกมาก
นางหรี่ตา เมื่อเห็นว่าเขาอมยิ้มจึงผลักมือของเขาออก กล้าหลอกนางอย่างนั้นหรือ
“ข้ามิได้ตั้งใจปกปิดตัวตน ต่อไปนี้ข้าจะไม่โกหกเ้าอีก จะไม่จากไปโดยไม่บอกกล่าว อย่าได้โกรธเลย”
แววตาของจ้าวต้านนั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ เขาสำนึกได้แล้ว ต่อไปจะไม่มีทางทอดทิ้งนาง
“ที่จริงการที่ท่านจากลาไปโดยไม่บอกกล่าวถึงจะดีที่สุดเ้าค่ะ จะได้มิต้องมารบกวนข้าอีก รอให้ท่านหายดีแล้วเราจบกันเถิด มิต้องมีความสัมพันธ์ใดกันอีก”
นางยกเท้าเดินออกไปด้วยความโกรธ แต่ก็ถูกเขาคว้าข้อมือไว้
“ข้าจะไม่จบกับเ้า เ้ายังาเ็อยู่ อย่าได้อารมณ์เสียไปเลยนะ”
เวินซีสะบัดแขนออกไม่ได้จึงใช้อีกมือหนึ่งดึงเข็มเงินออกมา
ขณะนั้นฮูหยินซ่งเห็นว่าท่าทางของทั้งสองดูแปลกไปจึงรีบเข้าไปขัดจังหวะ
“เอาน่า เวินซี เ้าควรกลับไปได้แล้ว หูตาของคนพวกนั้นมีอยู่ทุกที่ เ้าอยู่ในจวนซ่งนาน ข้าเกรงว่าจะทำให้คนพากันสงสัย”
ในที่สุดมือของเวินซีก็หลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขาได้ นางขยับข้อมือไปมา จ้องเขาแวบหนึ่งแล้วมองไปที่ฮูหยินซ่ง
“เื่ในวันนี้ขอบพระคุณฮูหยินซ่งมากเ้าค่ะ ข้าขอตัวลาก่อน”
“ฮูหยินซ่งขอรับ”
ขณะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เงาของคนรับใช้ผู้นั้นทอดอยู่บนกระดาษ ร่างกายที่เหยียดยาวของเขาก้มตัวลงทำความเคารพ
ทั้งสามคนพลันมองหน้ากันด้วยความระแวดระวัง
“มีอันใด?” ฮูหยินซ่งส่งเสียงให้เป็ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
“คุณชายโจวอยู่ที่เรือนหน้าขอรับ เขามาหาคุณหนูเวินซี”
โจวอวี่ชางอยากจะมาพบหรือ? เวินซีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย นางคิดไม่ออกเลยว่าเขามาด้วยเื่อันใด
“ให้เขารอสักครู่ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้” ฮูหยินซ่งกล่าว
“ขอรับ ฮูหยิน”
จนกระทั่งเสียงฝีเท้าของคนรับใช้ค่อยๆ เดินจากไปไกล ฮูหยินซ่งจึงจับมือเวินซีและเตรียมตัวจะออกไปด้วย แต่จ้าวต้านวางใจไม่ลงจึงเดินตาม
“จะตามมาด้วยเหตุใดเ้าคะ?” ฮูหยินซ่งหันกลับไปมองเขา
“ข้าอยากรู้ว่าโจวอวี่ชางจะทำอันใด”
“ท่านจะถูกพบได้”
“ไม่หรอก ข้าจะซ่อนตัวอยู่ที่ห้องข้างๆ”
เมื่อเห็นเขาดึงดันเช่นนั้น นางจึงไม่พูดอันใดอีก
ทั้งสามคนมาถึงโถงด้านหน้า โดยมีจ้าวต้านซ่อนตัวอยู่ที่หลังฉากกั้นของห้องด้านข้าง
โจวอวี่ชางนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาจัดถ้วยชาที่อยู่ในมือเล่นอย่างผ่อนคลาย เมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินเข้ามาก็ลุกขึ้นประสานมือ “ฮูหยินซ่ง”
“พูดเถิดว่าอยากเจอเวินซีด้วยธุระอันใด?”
ฮูหยินซ่งไม่ชอบพูดจาอ้อมค้อม นางนั่งอยู่บนตำแหน่งของเ้าเรือนและเปิดประเด็นถาม
สายตาของโจวอวี่ชางตกกระทบลงที่ร่างของเวินซี มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น เขามีรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
“เวินซีเป็น้องสาวของข้า นางได้รับาเ็ ข้าในฐานะที่เป็พี่ชายย่อมเป็ห่วงสิขอรับ”
“ข้าเกรงว่าจะมิได้เป็อย่างที่ท่านพี่พูดน่ะสิเ้าคะ? ท่านพี่มาเพราะเื่เวินเยียนหรือ?”
เวินซีตอกกลับ นางไม่เชื่อว่าลูกพี่ลูกน้องผู้นี้จะเป็ห่วงนางจริงๆ เืที่อยู่ในตัวเขานั้นเป็เืตระกูลเวิน ย่อมเป็คนประเภทเดียวกัน
“เช่นนั้นพี่จะไม่ปิดบังล่ะนะ” เมื่อถูกนางเดาออก โจวอวี่ชางจึงเลือกที่จะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา “เวินเยียนกับเ้าเติบโตมาด้วยกันั้แ่เล็ก แม้ว่านางจะมีความทะเยอทะยาน แต่เนื้อแท้ของนางมิใช่คนเลว เื่นี้ต้องเป็เื่เข้าใจผิดแน่”
เขากล่าวต่อว่า “ข้าได้ยินมาแล้ว ที่นางเข้าคุกไปวันนี้ หากไม่ตายก็ต้องถูกถลกหนัง ในฐานะพี่ชายข้าจะนั่งนิ่งไม่สนใจนางได้เช่นไรกัน?”
ผู้ที่ถูกขังอยู่ในคุกล้วนเป็อาชญากรที่โเี้ชั่วร้ายกันทั้งสิ้น สำหรับเวินเยียนที่เป็คุณหนูจากตระกูลผู้ดีจะทนบทลงโทษได้เช่นไรกัน?
โจวอวี่ชางกลัวว่าท้ายที่สุดเวินเยียนจะยอมรับผิดทั้งที่มิได้ทำอันใดผิด เพราะทนการลงโทษไม่ไหว
เวินซีจ้องหน้าเขา นางบอกมิได้ว่าชายผู้นี้พูดจริงหรือเท็จมากน้อยเพียงใด
“ท่านพี่กลับไปเถิดเ้าค่ะ เื่นี้ท่านเ้าอำเภอเป็คนรับผิดชอบ มิใช่เื่ที่ข้าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้”
“หากเวินเยียนมิได้ทำผิดจริงๆ ที่คุกก็จะเป็เพียงห้องขังธรรมดาสำหรับนาง” เขาพยายามอธิบาย “ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าก็จะไม่พูดมากจนทำให้เ้าไม่พอใจ ข้าจากบ้านไปหนึ่งปี ไม่รู้สาเหตุที่เ้าออกจากตระกูลเวินไปเป็ศัตรูกับเรา แต่ในใจของข้า เ้าเป็น้องสาวคนหนึ่งเสมอ”
จากนั้นเขาก็เตรียมหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา “นี่เป็ของขวัญที่ข้านำมาให้เ้าจากเมืองหลวง มิเคยได้มีโอกาสให้เ้าเลย วันนี้ข้าขอมอบให้เ้าก็แล้วกัน”
โจวอวี่ชางหยิบสีปัดแก้มออกมาจากในแขนเสื้อแล้วมอบให้เวินซี
“ข้าซื้อมาเพราะคิดว่าเ้ากำลังอยู่ในวัยที่รักสวยรักงาม ไม่ทราบเช่นกันว่าเ้าจะชอบหรือไม่”
“ท่านพี่มอบให้ ข้าย่อมชอบสิเ้าคะ” เวินซีเอ่ยออกไป แต่สีหน้ามิได้เปลี่ยนแปลงใดๆ
“เช่นนั้นพี่จะมาหาเ้าใหม่วันหลังนะ”
โจวอวี่ชางบอกลาแล้วจากไป ในตอนนั้นเองจ้าวต้านที่อยู่หลังฉากกั้นก็เดินออกมา สายตาของเขามองไปที่สีปัดแก้ม ก่อนจะเอ่ยถาม
“อยากได้หรือ?” เวินซีเห็นเช่นนั้นก็โยนมันออกไป เขาเอื้อมมือไปรับไว้
“พี่ชายเ้าให้ เหตุใดถึงได้นำมาให้ข้ากัน?” เขานึกสงสัย
“ของของตระกูลเวิน หากใช้ไปแล้วจะตายเช่นไรก็มิรู้”
เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น จ้าวต้านก็อดมิได้ที่จะยิ้ม ที่นางพูดมาก็มีเหตุผล
“เวินเยียนกับคนพวกนั้นร่วมมือกัน หากนางเข้าคุกไป พวกเขาต้องหาวิธีช่วยนางออกมาแน่ ข้าไปก่อนล่ะ ยังต้องคิดวิธีรับมือ”
เวินซีขอตัวออกมาจากจวนของฮูหยินซ่ง ในระหว่างทางกลับมีคนแอบตามนางมาตลอดทาง แต่มิได้ลงมือใดๆ
หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน เวินซีได้เปลี่ยนยาทาเป็ยารักษาแผลชั้นดี ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับสนิททั้งคืน
ที่จวนซ่ง
ตะเกียงหนึ่งดวงส่องสว่างไปทั้งห้อง จ้าวต้านนั่งอยู่บนเก้าอี้ ฟังทหารลับรายงานเื่ที่เวินซีได้รับาเ็ในวันนี้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มือของเขาก็บีบถ้วยมรกตแกะสลักจนแตก บาดเข้าไปในเนื้อ
เขาจากนางมาเพราะไม่้าให้นางมาเกี่ยวข้องกับเื่นี้ ไม่คิดเลยว่าจะยังทำให้นางเข้ามาพัวพันจนได้ เกรงว่าคนพวกนั้นจะเห็นเวินซีเป็เป้าหมายที่ต้องฆ่าอีกคนแน่
“นายท่าน ่นี้มีคนแอบเข้าไปในตระกูลเวินไม่น้อยเลยขอรับ เกรงว่าพวกเขาจะพูดคุยกันเื่แผนการ นายท่านต้องเตรียมพร้อมไว้ั้แ่เนิ่นนะขอรับ เราสูญเสียคนไปมากแล้ว หากถูกโจมตีอีก เกรงว่าจะ...”
ทันใดนั้นจ้าวต้านก็เอ่ยว่า “ก่อนที่พวกเขาจะลงมือ เราอย่าได้เคลื่อนไหวไป ให้ทหารรักษาตัวกันให้ดี อีกอย่าง ในไม่ช้าเวินเยียนจะต้องถูกปล่อยตัวออกมาอย่างไร้ความผิดแน่ จงส่งจดหมายลับออกไปให้คนภายในคุกซักถามนางทั้งคืน”
เขามิได้หวังจะได้คำตอบจากนางหรอก เพียงแค่อยากจะสั่งสอน ไม่ให้นางกล้าทำอะไรเวินซีอีก
ทหารลับรับคำสั่งพลันออกไป จ้าวต้านจึงดับตะเกียง บรรยากาศพลันเงียบสงบลง
ในตอนเช้าวันที่สอง
“เร็วเข้า ล้อมรอบไว้”
“เคลื่อนตัวไวๆ หน่อย”
“พวกเ้า มองทางนี้ให้ดี ทางนั้นด้วย”
ด้วยเสียงฝีเท้าที่เคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกับเสียงเสื้อเกราะที่เสียดสีกันเสียงดังทำให้เวินซีขมวดคิ้วลุกขึ้นนั่งด้วยความไม่พอใจ อีกทั้งเสียงพูดคุยด้านนอกประตูก็ดังมาก
นางนำเข็มเงินที่ซ่อนไว้ใต้หมอนค่อยๆ ซ่อนเข้าไปในแขนเสื้อ คลุมเสื้อนอกแล้วเดินออกไป
แต่ในตอนที่นางอยู่ห่างประตูเพียงสามก้าวก็มีคนถีบมันออก เ้าหน้าที่อำเภอเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ล้อมรอบนางไว้และชี้ดาบใส่
ท่านเ้าอำเภอยืนอยู่ที่หน้าประตูและประสานมือ “คุณหนูเวินซี เราเจอกันอีกแล้วนะ เกรงว่าครานี้จะต้องรบกวนเ้าไปกับพวกเราหน่อย”
“นี่มันเื่อันใดเ้าคะท่านเ้าอำเภอ? มิทราบว่าข้าทำความผิดร้ายแรงอันใดถึงทำให้ท่านเคลื่อนไหวอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้?”
เวินซีสบตาเขา
“คุณหนูเวินซี หากมิใช่ว่าเ้ามีบุญคุณกับข้า เกรงว่าครานี้เ้าจะต้องเป็คนคุกไปแล้ว อย่าได้ทำให้ข้าลำบากใจเลยนะ”
“ครานี้เ้าก็คิดเสียว่าไปเป็แขกของที่อำเภอ ก่อนที่เื่จะคลี่คลายเราจะปฏิบัติต่อเ้าเป็อย่างดี”
ท่านเ้าอำเภอส่งสายตา เ้าหน้าที่หลายคนจึงเข้ามาใกล้นาง
เวินซีกวาดตามองพวกเขาอย่างเ็า พวกเขาต่างก็ลำบากใจเป็อย่างยิ่ง เอาแต่เงยหน้ามองท่านเ้าอำเภอ
“คุณหนูเวินซี ยอมไปกับเราดีๆ สักครั้งเถิด” ท่านเ้าอำเภอมีสีหน้าไม่ดีนัก
“ท่านเ้าอำเภอ ข้าขอทราบเหตุผลได้หรือไม่เ้าคะ?” เวินซีเอ่ยถามเสียงนิ่ง
“เมื่อคืนมีครอบครัวหนึ่งในเมืองถูกฆ่ายกครัว เด็กคนหนึ่งที่รอดมาได้เอาแต่เรียกชื่อของเ้า”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้