“ท่านลุงใหญ่ ท่านไม่ต้องรีบร้อน นี่เป็เพียงการเดาของท่านแม่เท่านั้นขอรับ”
หยวนเป่าน้อยรีบปลอบโยนเขา
มู่เสวียนเย่เองก็รู้สึกว่าเขาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เกินขอบเขตไปหน่อย ดังนั้นเขาจึงกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งและจิบชาแล้วกลืนลงไปอีกคำ ทว่าคิ้วของเขายังคงขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่าเขายังคงหนักอกหนักใจเป็อย่างยิ่ง
เขาถูกคำพูดของหยวนเป่าน้อยทำให้จิตใจว้าวุ่นเล็กน้อย แต่หากรีบเข้าวังตอนนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถเข้าพบท่านพ่อได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา
ราชโองการอภิเสกสมรส เช่นนั้นผู้ใดกันที่เป็คู่สมรสของเขา?
เขารู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่เล็กน้อย ยกเว้นองค์หญิงฉู่รั่วหลานแล้ว เขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
เขาไม่สนใจในตัวองค์หญิงองค์นี้อย่างแท้จริง ตัวเขาเข้ารับราชการในวัง หากพูดตามหลักเหตุผลแล้ว เขาและองค์หญิงถือเป็น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ยิ่งไปกว่านั้นโอกาสที่ได้พบหน้านั้นก็น้อยยิ่งกว่าน้อย แต่องค์หญิงฉู่มักจะหาเื่อ้างเหตุเพื่อปรากฏตัวต่อหน้าเขาเสมอ มิหนำซ้ำชอบกล่าวคำพูดที่ทำให้คนฟังกล่าวสิ่งใดไม่ออก ถึงแม้ว่าเขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่พบหน้า แต่สุดท้ายก็มักจะไม่เป็ผล ช่างเป็เื่ที่เปล่าประโยชน์และทำให้น่าปวดหัวยิ่งนัก
“ท่านลุง ในใจของท่านมีเื่ที่ให้คิดอยู่ใช่หรือไม่? ไม่เป็ไรหากจะกล่าวกับหยวนเป่านะขอรับ”
หยวนเป่าเห็นว่าใบหน้าของมู่เสวียนเย่ยิ่งเ็าและแข็งกระด้าง เขารู้ว่าในขณะนี้จิตใจของท่านลุงคงหนักอึ้งเป็อย่างยิ่ง เด็กน้อยจึงค่อยๆ ตะล่อมเพื่อเข้าสู่หัวข้อหลักทีละน้อย
“ในใจท่านลุงใหญ่หาได้คิดอันใดไม่ หยวนเป่าน้อย เ้ายังเป็เด็กตัวแค่นี้ อย่าคิดอันใดเยอะแยะเลย ทุกวันคิดแค่เื่กินให้ดี นอนให้มากเป็พอ”
มู่เสวียนเย่ลูบผมของเขาอย่างรักใคร่เอ็นดูโดยไม่จำเป็ต้องเอ่ยคำพูดใด
“เฮ้อ บางทีหยวนเป่าอาจมีโชคชะตาที่ต้องมีชีวิตเป็กังวลั้แ่ยังเป็เด็กก็ได้ขอรับ”
หยวนเป่า เ้าเด็กตัวน้อยถอนหายใจราวกับเป็ผู้ใหญ่ตัวโต
เมื่อเห็นท่าทางฉลาดแสนซุกซนของหยวนเป่า มู่เสวียนเย่ก็หยุดเสียงหัวเราะออกมา “หยวนเป่าน้อย ท่านตาและท่านแม่ของเ้ายังกล่าวสิ่งใดอีกหรือไม่? ”
มู่เสวียนเย่ถามขึ้นมา
หยวนเป่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยเปิดปากกล่าว เขามีจิตใจที่ชัดเจนและมีความคิดที่ฉลาดล้ำ น้ำเสียงที่ใช้และลักษณะท่าทางระหว่างการบรรยายราวกับเลียนแบบท่าทางของท่านเทพมาเลยทีเดียว “ท่านลุงใหญ่ ท่านแม่ของข้าบอกว่า ตระกูลมู่ของเราเป็ตระกูลขุนนางที่อยู่ในจุดที่รุ่งโรจน์เป็อย่างยิ่ง แต่ยังต้องจำไว้ว่าต้นไม้ใหญ่มักดึงดูดลม หากท่านลุงกลายเป็ราชบุตรเขย สำหรับพวกเราแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะใช่เื่ที่ดีขอรับ"
เมื่อได้ยินคำพูดของหยวนเป่า ในใจของมู่เสวียนเย่ยังคงสงบนิ่งไม่สั่นคลอน
ความศรัทธาของเขาต่างจากมู่เอ้าเทียน มู่เอ้าเทียนศรัทธาจนยอมแลกชีวิตแต่ศรัทธาของเขาคือการสืบทอดเจตจำนงของบิดา มีจิตใจอันมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเพื่อรับใช้ตระกูลและประเทศชาติอย่างไร้ความละอายใจ
หยวนเป่าส่งต่อคำพูดของฮวาเหยียน มู่เสวียนเย่ใเมื่อคำพูดทะลุเข้าหูของเขา ความรู้สึกของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง น้องสาวของเขายังคงเป็เด็กผู้หญิงที่น่าอัศจรรย์ น่าประทับใจและฉลาดเฉลียวเป็อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี หรือผ่านประสบการณ์อันใดมา ความสามารถอันโดดเด่นของน้องก็ไม่เคยถูกซ่อนเร้นเลย
“เ้าวางใจได้ ลุงจะไม่แต่งงานกับองค์หญิงใหญ่คนนั้นแน่นอน”
มู่เสวียนเย่กล่าว
ในเวลานั้นเองก็ได้ยินหยวนเป่าถามต่อว่า "เช่นนั้นท่านลุงใหญ่อยากแต่งงานกับผู้ใดหรือ? "
หยวนเป่าน้อยกะพริบตาที่ทอประกายสงสัย ดวงตาที่แสนชัดเจนคู่นั้นจ้องมองมายังเขา
ทันทีที่คำถามนี้จบลง มู่เสวียนเย่ก็ตกตะลึงไป ภายในห้วงทะเลแห่งความคิดของเขาปรากฏภาพดวงตาคู่งามที่ทั้งวิจิตร งดงาม อ่อนหวานและบอบบางดั่งดอกเบญจมาศ ตอนที่เอ่ยปากพูดคุยกับเขา ดวงตาคู่นั้นก็ช่างอ่อนโยนหาใดเปรียบ
สตรีนางนั้นคือ...
"ท่านลุงใหญ่? "
หยวนเป่าน้อยเห็นท่านลุงเสวียนเย่สติหลุดลอยไปไกลจึงะโเรียกออกมา ราวกับว่าเขาตกอยู่ในภวังค์ ทันใดนั้นก็รู้สึกตัวพร้อมกับเปิดปากตอบรับ
ิญญาของมู่เสวียนเย่กลับเข้าร่าง เขาได้สติรู้สึกตัวอีกครั้ง เงาในจิตใจของเขาพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย
"อืม"
“ท่านลุง ท่านคิดถึงผู้ใดอยู่หรือ? คิดถึงท่านป้ามู่เฉิงอินอยู่ใช่หรือไม่? ”
หยวนเป่าน้อยกล่าวด้วยท่าทางไร้เดียงสา น่ารักน่าเอ็นดู
มู่เสวียนเย่ประหลาดใจมากที่หยวนเป่าน้อยรู้จักชื่อของมู่เฉิงอิน เพราะว่าเมื่อสักครู่นี้ภายในสายธารความคิดของเขาปรากฏภาพของหญิงสาวผู้นั้นขึ้นมาจริงๆ และตอนนี้ก็โดนหลานชายของเขาหยิบยกขึ้นมาโดยตรง มู่เสวียนเย่รู้สึกเขินอายอยู่ครู่หนึ่ง เป็ผลให้ปลายของหูของท่านผู้บัญชาการมู่คนนี้เปลี่ยนเป็สีแดงโดยไม่รู้ตัว
มู่เสวียนเย่ที่จริงแล้วเป็ชายหนุ่มรูปงามหล่อเหลา เพียงแต่เป็คนที่เงียบขรึมเก็บงำคำพูด บรรยากาศท่าทางเ็า แต่แท้จริงแล้วผิวของเขาขาวมาก แม้จะไม่ใช่สีขาวเช่นข้าวสาลี แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อปลายหูของเขาเปลี่ยนเป็สีแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยวนเป่าน้อยที่สังเกตอย่างละเอียดระมัดระวัง
ไอ้หยา
ท่านลุงรู้สึกอายหรือ?
นี่มันมีเื่แล้วนี่นา
“หยวนเป่าน้อยเอ๋ย เมื่อกี้ท่านลุงไม่ได้คิดถึงผู้ใดเลย”
มู่เสวียนเย่อุ้มหยวนเป่าน้อยมาวางไว้บนตัก ก่อนจะเปิดปากพูดขึ้น
แต่กลับเห็นหยวนเป่าน้อยส่ายหัวพูดว่า "ท่านลุงใหญ่ ท่านไม่ควรจะหลอกเด็กนะขอรับ"
มู่เสวียนเย่ "...! "
“ท่านลุง ข้าได้ยินชื่อท่านป้ามู่เฉิงอินมาจากหลายๆ คนใน่สองวันที่ผ่านมา ไม่ทราบว่านางเป็คนเช่นไรหรือขอรับ? ”
หยวนเป่าสำรวจท่าทางของท่านลุงใหญ่ เด็กคนนี้ฉลาดเฉลียว เขารู้จักนิสัยของท่านลุงใหญ่ของตัวเองดี ท่านลุงพูดไม่มาก สำรวมกิริยา พวกอารมณ์อ่อนไหวอ่อนแอจะเปิดเผยให้กับคนในครอบครัวเท่านั้น เด็กน้อยจึงสำรวจเขาต่อหน้าตนเอง
ในเวลานั้นหยวนเป่าน้อยสามารถมั่นใจได้ว่าท่านลุงใหญ่แห่งตระกูลมู่มีคนที่อยู่ในใจแล้ว แปดส่วนคาดว่าเป็ท่านป้ามู่ แต่นี่ก็ยังเป็เพียงแค่การคาดเดาของเขาเท่านั้น ยังจำเป็ต้องให้ท่านลุงพูดออกมาเอง ดังนั้นเขาจึงถามคำถามขึ้นมาอีก
จริงๆ แล้วมู่เสวียนเย่ไม่้าตอบคำถามนี้
การพูดถึงสตรีในห้องส่วนตัวอย่างลับๆ ไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ
ดวงตาของหยวนเป่าเบิกกว้าง เจิดจ้าเป็ประกายใสแจ๋วชัดเจน ราวกับว่ากำลังประหลาดใจเป็อย่างยิ่ง แล้วก็ราวกับว่ากำลังสงสัยใคร่รู้มากเช่นกัน ดวงตาราวกับเทพเ้าที่ทำให้ผู้คนมิอาจปฏิเสธได้ หยวนเป่าจึงได้ยินท่านลุงใหญ่ของเขาพูดว่า “เป็สตรีที่ดีงามผู้หนึ่ง”
"แล้วอย่างไรต่อขอรับ? "
หยวนเป่ากะพริบตาปริบๆ
มู่เสวียนเย่พยักหน้า “ไม่มีอย่างไรต่อแล้ว”
“เช่นนั้นดีเพียงใดขอรับ? ”
หยวนเป่าถามขึ้นมาอีกครั้ง
"ก็แค่ดียิ่ง"
หยวนเป่า "..."
ท่านลุง ท่านพูดคำพูดหวานๆ ไม่เป็หรือ? แค่ลับหลัง ท่านยังไม่รู้แม้แต่วิธีโอ้อวดด้วยซ้ำ ข้าเกรงว่าพอเจอกันต่อหน้าก็จะยิ่งพูดไม่ออก ในเวลานี้หยวนเป่ากังวลว่าสถานการณ์ฝั่งท่านแม่ของเขาจะเป็เช่นไร จะถูกสำรวจอย่างไร อารมณ์เ็าและปากแข็งของท่านลุง หากเวลาที่ต้องเจอท่านป้ามู่แล้วไม่ยอมพูดออกมาเป็นาน ท่านป้ามู่จะพึงใจในตัวท่านลุงได้อย่างไร? เหล่าสตรีมิได้ล้วนชมชอบการชื่นชมหรอกหรือ?
อย่างเช่นท่านแม่ของข้า โปรดปรานการได้รับคำชมมากที่สุด
เขาเคยอยู่ในหุบเขามาก่อน และเพราะว่าไม่มีบุคคลภายนอกมาคอยยกย่องชื่นชมท่านแม่ เขาจึงต้องยกยอปอปั้นท่านแม่ด้วยวิธีการใหม่ๆ ทุกวัน
เช่น หญิงงามล่มบ้านล่มเมือง ความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ นางเซียนจาก์ชั้นเก้า มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง [1] พันหมื่นความงาม ฯลฯ แค่อ้าปากเขาก็สามารถพูดได้แล้ว
ในตอนนั้น หยวนเป่าน้อยถอนหายใจ ทราบแล้วว่าท่านแม่ของเขาใช้ใจในการผ่าฟันเื่ยากลำบาก
ท่านแม่ฝึกฝนเขามาั้แ่เด็ก เพราะกลัวว่าหากเขาโตมาแล้วเจอหญิงที่ต้องใจจะงุ่มง่ามเหมือนท่านลุง ดังนั้นก็เลยให้ฝึกั้แ่เด็ก
ท่านแม่ของข้าดีที่สุด ข้าคิดถึงท่านแม่เหลือเกิน
“ท่านลุง ท่านคิดว่าองค์หญิงองค์นั้นเป็เช่นไรขอรับ? ”
หยวนเป่าน้อยถามขึ้นมาอีกครั้ง
มู่เสวียนเย่ขมวดคิ้ว นี่คือปฏิกิริยาของจิตใต้สำนึกของเขาเมื่อต้องพูดถึงคนที่เขาไม่ได้พึงใจ
เขาเคาะหัวของหยวนเป่า "เด็กคนนี้ถามคำถามนี้ไปเพื่ออันใด? เราไม่สามารถพูดจาลับหลังองค์หญิงมั่วซั่วได้"
“โอ้ เช่นนั้นท่านลุงก็พูดจาดีๆ สิขอรับ”
หยวนเป่าน้อยทำตัวน่ารัก ที่แม้แต่มู่เสวียนเย่เองก็ไม่สามารถรับได้
นี่คือเด็กน้อยที่อายุน้อยที่สุดในตระกูล เป็บุตรชายของน้องสาวที่เขารักมากที่สุด อีกทั้งในร่างยังถูกพิษอย่างรุนแรง ไม่สามารถพูดได้ว่าจะสูญเสียเขาไปในวันใด พอคิดถึงตรงนี้ ใจของมู่เสวียนเย่ก็เ็ปรวดร้าว เขาคิดว่า หยวนเป่าน้อยที่ถามคำถามนี้ขึ้นมา มากกว่าครึ่งคือความประหลาดใจ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า "ท่านลุงไม่พึงใจ"
มีเพียงห้าคำเท่านั้นก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความคิดของเขาได้ สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำย่อมเป็การทำตามความคิดของตน ไม่ว่าคนอื่นจะบอกว่ามันถูกหรือผิดก็ตาม
เชิงอรรถ
[1] มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง 沉鱼落雁,闭月羞花 沉鱼落雁,闭月羞花 Chényúluòyàn, bì yuè xiū huā เป็คำเรียกสตรีสี่คนที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในประวัติศาสตร์จีนโบราณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้