เวินเยียนมีสีหน้าเศร้าโศกและได้แต่ส่ายศีรษะเบาๆ
“ไป พวกเ้าไปดูบุตรสาวข้าให้หมด บุตรสาวที่น่าสงสารของข้า...บุตรสาวข้า บอกสิว่าเหตุใด์ถึงไร้ความยุติธรรมเช่นนี้...”
ฮูหยินเ้าอำเภอตวาดสั่งหมอที่ยืนนิ่งอยู่รอบๆ ร่างของนางอ่อนยวบลง ก่อนจะล้มลงกับพื้นและร้องไห้อย่างขมขื่น
“ท่านเ้าอำเภอ ชีพ...ชีพจรของคุณหนูซุนไม่เป็จังหวะและอ่อนแอมาก หมด...หมดหนทางรักษาแล้วขอรับ”
หมอที่จับชีพจรพากันคุกเข่าลง ขณะนั้นสถานการณ์ทั้งวุ่นวายและย่ำแย่มาก เมื่อผู้ชมเหตุการณ์ที่อยู่ตรงประตูเห็นดังนั้น ก็ยิ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น
“นี่...นางตายเพราะพิษ หรือว่าคุณหนูเวินทำนางกันแน่?”
“คุณหนูเวินนี่ ข้าก็นึกว่านางจะกำจัดพิษได้จริงๆ ไม่คิดเลยว่านางจะมาทำร้ายผู้อื่น ตระกูลเวินทำเครื่องหอมเลี้ยงชีพ เคยเรียนทักษะการแพทย์เสียที่ใด เหตุใดเวินเยียนอยู่ดีๆ ถึงเข้ามายุ่งกัน?”
“คุณหนูซุนน่าสงสารยิ่งนัก”
“ใต้เท้าซุนเขาเป็คนดีมีศีลธรรม ์ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ”
...
ฝูงชนต่างมีท่าทีกระสับกระส่าย ในขณะที่เวินซีมองดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเ็า
ในเวลานั้นจ้าวต้านขมวดคิ้ว เขาคอยปกป้องนางจากรอบข้างอยู่เงียบๆ มิให้ผู้ใดผลักเข้ามาได้ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ยังเห็นคุณหนูซุนอาเจียนเป็เือยู่ เขาจึงก้มลงมองเวินซี “คุณหนูซุน...”
“ของที่มีพลังหยินและหยางไม่สามารถผสานเข้ากันได้ในขณะที่พลังชีวิตของนางไหลเวียน แค่อาเจียนเป็เืก็ถือว่าดีมากแล้ว”
เวินเยียนไม่รู้อันใดเลย แต่ยังกล้าที่จะทำ เวินซีไม่รู้ว่าควรจะชื่นชมความเย่อหยิ่งหรือความไม่รู้ของอีกฝ่ายดี
“เ้าจะออกโรงเมื่อใด?” จ้าวต้านเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ไม่ต้องรีบร้อน ยังไม่ถึงเวลา” เวินซีเม้มปากแล้วมองออกไปบนถนนที่ว่างเปล่า เื่ยังดำเนินไปไม่ถึงจุดที่สนุกเลย
“ลูก เ้าเป็เช่นไรบ้าง? เ้าอดทนไว้ก่อนนะ พ่อได้ส่งคนไปหาหมอที่เก่งกว่านี้มาแล้ว เ้าต้องอดทนไว้นะ”
“ฮูหยิน ร่างกายของเ้าไม่แข็งแรง อย่าได้ะเือารมณ์ ลูกเรายังมีหวัง”
เ้าอำเภอยังคงดูแลทั้งภรรยาและบุตรสาว เขายุ่งจนหัวหมุน ในขณะที่คุณหนูซุนอาเจียนจนไม่มีเืจะออก รู้สึกเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวและไม่มีเรี่ยวแรง ทำได้เพียงอาศัยการช่วยพยุงของสตรีรับใช้และอาเจียนออกมาแห้งๆ มิได้หยุด
ผิวของนางขาวเนียนอยู่แล้ว เมื่ออยู่บนใบหน้าโทรมๆ ก็ยิ่งทำให้ดูอึมครึมและน่าสะพรึงกลัว
ขณะนั้นหมอทุกคนพากันล้อมรอบนาง เอาแต่ทดลองยาให้นางอยู่เรื่อยๆ เ้าอำเภอมองดูอย่างปวดใจแต่ก็เข้าไปแทรกมิได้ เขาคอยมองดูบุตรสาวตลอดเวลา พลางกวาดสายตามองเวินเยียนที่อยู่บนพื้น จากนั้นกัดฟันแน่นพร้อมกับสะบัดแขนเสื้ออย่างเ็า
“เวินอวิ๋นโป หากบุตรสาวข้าเป็อันใดไป ข้าไม่ปล่อยตระกูลเวินไปแน่”
เวินอวิ๋นโปพูดไม่ออกและไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้าใด คำพูดปลอบโยนยังคงติดอยู่ในคอ มีเพียงรอยยิ้มเสแสร้งที่โค้งขึ้นมา ก่อนจะจ้องเขม็งไปที่เวินเยียน
เวินเยียนกำหมัดแน่นอย่างไม่เต็มใจ แต่ไม่กล้าพูดอันใด มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดในตอนนี้
เวลาผ่านไปนาน ในที่สุดอาการของคุณหนูซุนก็ทุเลาลง หมอพากันปาดเหงื่อ พวกเขายืดตัวตรงเคารพ “ท่านเ้าอำเภอ พวกเราทำสุดความสามารถแล้วขอรับ ทำได้เพียงบรรเทาอาการของนางเท่านั้น ไม่อาจทำอย่างอื่นได้แล้ว”
ทั้งห้องโถงเงียบสนิทและเข้าสู่สถานการณ์ตึงเครียดอีกครา เ้าอำเภอเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ
ส่วนคนที่เขาใช้ให้ไปเชิญหมอที่เก่งกว่าก็ยังไม่กลับมา นั่นเป็ความหวังสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียวของเขา
ครึ่งชั่วยามต่อมาก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นบนถนน เมื่อได้ยินดังนั้นความหงุดหงิดของเ้าอำเภอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขาจึงเดินไปที่ประตูใหญ่ บนทางเดินมีกลุ่มคนจำนวนมากแบกเกี้ยวงดงามกำลังเดินตรงมา เสียงร้องไห้มาจากพวกเขา ทั้งยังดังขึ้นเรื่อยๆ
“คนพวกนั้นเป็ผู้ใด?” เ้าอำเภอขมวดคิ้วแน่น
“ใต้เท้าซุน ดูเหมือนว่าจะเป็เกี้ยวของตระกูลซ่งนะขอรับ” คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ ตอบอย่างประจบสอพลอ
ตระกูลซ่ง?
ความขุ่นเคืองในแววตาของเ้าอำเภอมิอาจหายไป เขาหันไปมองดูที่โถงก่อนจะเดินลงไป
เวินซีและจ้าวต้านทำตามคนส่วนใหญ่ที่ถอยออกเป็สองฝ่าย ดวงตาของเวินซีสว่างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่กำลังเดินเข้ามา
ขบวนคนแบกเกี้ยวหยุดลงที่ประตูอำเภอ เกี้ยวคันแรกถูกเปิดออก เป็สตรีนางหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าเต็มยศ
“เ้าอำเภอช่างมีอำนาจใหญ่โตยิ่งนัก ถึงกับเรียกหมอทุกคนในเมืองให้มาอยู่ที่อำเภอ” สตรีนางนั้นตำหนิเขา
เ้าอำเภอยิ้มอย่างละอายใจ จากนั้นไปยืนข้างนางด้วยมือที่กุมเอาไว้ “ฮูหยินซ่งพูดเกินไปขอรับ”
ฮูหยินซ่งพ่นลม นางยกมือขึ้นภายใต้การพยุงของสตรีรับใช้ จากนั้นเกี้ยวด้านหลังก็ถูกเปิดออกทั้งหมด เผยให้เห็นคนที่มีอาการเดียวกันกับคุณหนูซุน
จากนั้นพวกเขาก็ถูกพยุงเข้ามา ไม่นานนักประตูอำเภอก็ปิดลง
“ฮูหยินซ่ง นี่คือ...”
“คนที่มาขอความช่วยเหลือจากข้า รวมถึงคนจากจวนข้าด้วย ในเมื่อหมออยู่ที่นี่กันหมด เช่นนั้นก็มารักษากันที่นี่ เข้าไปเถิด” ฮูหยินซ่งเดินผ่านเ้าอำเภอไป
คนป่วยทั้งหมดถูกหามเข้าไปในห้องโถง ไม่นานนักข้างในก็แน่นขนัดจนเดินมิได้ เ้าอำเภอไม่กล้าชักช้า เขาตามนางไปติดๆ
“เ้ารู้หรือว่าฮูหยินซ่งจะมา?” จ้าวต้านประหลาดใจเล็กน้อย
“ฮูหยินซ่งนางรักสวยรักงาม มีหรือที่จะไม่ซื้อยาทาผิวงาม อีกทั้งหมอก็อยู่ที่นี่กันหมด นางต้องมาแน่” เวินซีเม้มริมฝีปาก
คนตระกูลซ่งเป็ขุนนางคนสำคัญของราชสำนัก มีสถานะสูงส่งและมีอำนาจมากในเมืองนี้ แต่ตระกูลซ่งใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่ค่อยผูกมิตรกับผู้ใดนัก หากตระกูลซ่งติดค้างบุญคุณของเวินซี นั่นจะเป็ประโยชน์ต่อนางมหาศาล
จ้าวต้านเม้มริมฝีปาก มองดูนางที่มุ่งมั่นจะเอาชนะ หัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่หยุด
กล้าหาญ มีไหวพริบ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่านางล้ำค่า
ภายในห้องโถงมีเสียงเอะอะโวยวาย ขณะนั้นฮูหยินซ่งนั่งอยู่ด้านหน้าโดยมีหมอตรวจร่างกายให้ แต่หมอก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งใดได้เลย สุดท้ายจึงถูกคนรับใช้ของฮูหยินลากออกไปที่ประตูใหญ่
เวลาผ่านไปนาน หมอที่อยู่ในห้องโถงต่างก็ถูกไล่ออกไปทีละคนจนหมด เมื่อเห็นดังนั้นสีหน้าของทุกคนจึงดูหวาดกลัว
ถึงเวลาแล้ว เวินซีก้าวเข้าไปในห้องโถงโดยมีจ้าวต้านเดินตามหลัง
“ข้ารักษาได้” ริมฝีปากบางของนางเผยอออก ขณะนั้นนางมายืนอยู่ตรงกลางห้องโถง
สายตาของฮูหยินซ่งมองมาที่นาง เช่นเดียวกับทุกคนที่หันไปมอง สายตาของพวกเขามีทั้งความสงสัยและความดูถูก
เมื่อเห็นว่าเป็นาง เวินอวิ๋นโปที่อยู่ข้างๆ ก็ตัวสั่นด้วยความใ แล้วถือโอกาสในตอนที่ฮูหยินซ่งยังมิได้เอ่ยคำใด รีบออกตัวขึ้นมาก่อน
“เวินซี เ้าอย่ายุ่ง” เขาตวาด พลันหันไปทำความเคารพฮูหยินด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง “ฮูหยินซ่ง บุตรสาวข้ามิรู้ความ อย่าได้ถือสานางเลยขอรับ”
“เช่นนั้นก็กลับไปเสีย” ฮูหยินซ่งค่อยๆ ละสายตาจากเวินซี
เวินอวิ๋นโปจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เวลานี้เขาคิดเพียงแต่จะออกไปจากที่นี่ ทั้งหมดเป็เพราะเวินเยียนเข้ามายุ่งกับเื่บ้านี่แท้ๆ
“ฮูหยินซ่ง ข้าขอลองหน่อยนะเ้าคะ?” เวินซีพูดอย่างสง่าผ่าเผย นางยิ้มให้เล็กน้อยโดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลย
“เวินซี เ้าจะทำลายตระกูลเวินให้พังให้ได้เลยหรือ?” เวินอวิ๋นโปพูดอย่างเ็า เขาอยากจะดึงเวินซีออกมา แต่ก็ถูกจ้าวต้านขัดขวาง เขาเหลือบมองฮูหยินซ่ง เมื่อเห็นว่านางมิได้ห้ามจึงยิ่งร้อนรน
เวลานี้เวินซีคิดจะลงมือกับสตรีที่อยู่ข้างๆ ส่วนเวินอวิ๋นโปมีเพียงความร้อนใจ กัดฟันและคุกเข่าลง “ฮูหยินซ่ง สิ่งที่เวินซีทำในวันนี้ไม่เกี่ยวอันใดกับตระกูลเวินของข้านะขอรับ อย่าได้ลากตระกูลเวินไปเกี่ยว”
ฮูหยินซ่งเห็นเื่เหล่านี้มามากแล้ว นางไม่สนใจเขา แต่สายตาจับจ้องไปที่เวินซี “เ้ารู้ผลของการรักษาผิดพลาดหรือไม่?”
“รู้เ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ลองดู” ฮูหยินซ่งวางมือบนศีรษะ
ขณะนั้นหมอทุกคนกำลังสับสนและทำอันใดไม่ถูก อีกทั้งคนจากเมืองหลวงที่ให้ไปตามก็ยังมาไม่ถึง หรือบางทีที่นี่อาจจะมีผู้มีความสามารถก็เป็ได้?
เวินซีจับชีพจรของสตรีผู้นั้น และเป็อย่างที่คิด ผิวของนางเย็นเฉียบ ชีพจรก็อ่อนแรง แต่นางเตรียมการมาแล้วจึงหยิบเครื่องหอมกลิ่นใหม่ออกมา ใช้มือควักมันขึ้นเล็กน้อยแล้วถูไปที่แขนของสตรีผู้นั้น เมื่อัักับผิวของนาง เครื่องหอมกลิ่นใหม่ก็ละลายอย่างรวดเร็ว และมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายในอากาศ
“เวินซี เ้าจะทำอันใด? ที่นี่เป็ที่ค้าขายเครื่องหอมของเ้าหรือ?”
ทันใดนั้นก็มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา ในตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกตเห็นหรือตอบโต้ มือที่ยื่นออกมานั้นก็ปัดเครื่องหอมตกไปจนขวดโหลดินเผาตกพื้นแตกกระจาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้