“คุณเก่งมาก แน่นอนว่าพวกเราไม่กล้า แต่บริษัทของพวกเราไม่ใช่ว่าคุณจะแหย่ได้ ให้อภัยกันหน่อยเถอะ วันนี้พวกเรายอมรับโชคชะตาแล้ว ต่อไปพวกเราจะไม่มาหาเื่เดือดร้อนอีกเด็ดขาด เื่นี้ก็ให้พอแค่นี้เถอะ ดีไหม?”
ถึงแม้เ้าหน้าบากจะถูกเจียงไป๋ซัดจนาเ็ไม่เบา และก็มีอาการหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีการประนีประนอมและพูดมาอย่างนี้อีก
“เอ่อ? ทำไมฉันจะแหย่ไม่ได้ล่ะ?”
ครั้งนี้กลับทำให้เจียงไป๋อยากจะหัวเราะแล้ว เขาคิดว่าตอนนี้ในเทียนตูคนที่เขาแหย่ไม่ได้ก็มีไม่มากจริงๆ …
เขาแปลกใจมาก อีกฝ่ายมีสิทธิ์อะไรถึงได้กล้าพูดอย่างนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่เขาลงมือแล้ว ยังกล้าพูดกับเขาอย่างนี้อีก
“พวกเราเป็คนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตี้ตู ในเมื่อคุณเป็ยอดฝีมือ แบบนั้นในเทียนตู ผมคิดว่าคุณก็ต้องเคยได้ยินชื่อเ้าพ่อเจียงใช่ไหม ถึงแม้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ตี้ตูจะก่อตั้งขึ้นได้ไม่นาน แต่นั่นก็เป็ธุรกิจของเ้าพ่อเจียง … คุณจะตีพวกเราก็ไม่เป็ไร เื่นี้พวกเรามีความผิด มีตาหามีแววไม่ดันไปยั่วยุคนที่ไม่ควรจะแหย่ แต่ผมก็อยากจะแนะนำคุณว่าอย่าได้ทำให้เป็เื่ใหญ่เลย เ้าพ่อเจียงคุณแหย่ไม่ได้หรอก”
เ้าหน้าบากลังเลสักหน่อย และมองเจียงไป๋แวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็กัดฟันพูด
“บริษัทอสังหาริมทรัพย์ตี้ตู?”
คราวนี้เจียงไป๋งงงันแล้ว
เ้าพวกนี้เป็คนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตี้ตูหรือ?
ก่อนหน้านี้เ้าหม่าฉางหยางบอกว่า ที่ของเขานอกจากที่ได้มาอย่างสะอาดเ่าั้แล้ว ยังพัวพันกับการรื้อถอนอีกส่วนหนึ่ง หรือว่าจะเป็ที่นี่?
นี่ … นี่ก็เป็การประจันหน้ากับคนกันเองชัดๆ หรือว่าคนพวกนี้ล้วนทำงานให้เขาหรือ?
พูดจริงๆ เมื่อครู่เจียงไป๋ก็โกรธอยู่บ้าง แต่ตอนนี้คิดๆ ดูแล้ว เ้าพวกนี้มีหลายคนกำลังก็มาก ถึงแม้จะปากเสีย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงผู้ชายที่อยู่ลำพังสองต่อสองก็ไม่ได้ลงมือทำเื่ผิดกฎหมาย และก็ไม่ได้ชั่วร้ายอะไรเกินไป ไม่เหมือนกับพวกนักเลงบางคน เขาก็ไม่จำเป็ที่จะไม่ให้อภัย อย่างไรก็ซัดพวกเขาจนเป็อย่างนี้แล้ว
ความคิดของเจียงไป๋ได้เปลี่ยนไปทันที แค่ฉับพลันเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความคิด และรู้สึกว่าเขาทำเกินไปแล้ว
แน่นอนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็คนของใคร เมื่อเจียงไป๋เจอเื่อย่างนี้ก็ยังคงต้องตี จุดนี้ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ตีเสร็จแล้วกลับรู้สึกเสียใจ หากรู้ั้แ่แรกก็จะลงมือเบาหน่อย ก็แค่ทำกับเ้าปากเสียคนนั้นก็พอแล้ว จะซัดทุกคนให้ล้มกับพื้นไปทำไม?
“ไม่ผิด ก็คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตี้ตู คุณรู้จักเ้าพ่อเจียง?”
เมื่อเ้าหน้าบากเห็นปฏิกิริยาของเจียงไป๋แล้ว ก็โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นก็พูดต่อ
เขา้าผ่านความลำบากตรงหน้านี้ไป สำหรับเื่หลังจากนี้ ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะตัดสินใจได้แล้ว กลับไปก็ค่อยรายงานเบื้องบน ให้พวกเขาจัดการ
การรื้อถอนนี้ยังไม่ได้เริ่ม ก็พบกับคนที่แข็งแกร่งเข้าแล้ว งานนี้ไม่ง่ายเลย
“นายรู้ไหมว่าฉันเป็ใคร?” เจียงไป๋พูดด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด
“คุณคือ?” เ้าหน้าบากถามอย่างสับสน ไม่เข้าใจที่เจียงไป๋ทำให้ใ ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามอย่างนี้
“เจียงไป๋!”
“เ้าพ่อเจียง!”
คราวนี้สีหน้าของเ้าหน้าบากแปรเปลี่ยน และขาวซีดเป็ไก่ต้มทันที
เขาไม่คิดว่าเจียงไป๋กำลังพูดโกหก ดูจากอายุของอีกฝ่ายแล้ว ยี่สิบสองยี่สิบสาม ฝีมือไม่ธรรมดา คนเดียวจัดการกับคนหลายคนใช้เวลาไม่เกินสองนาที และยังมีอาการเฉยๆ อย่างนี้
เทียนตูนี้นอกจากเจียงไป๋แล้ว ยังจะมีคนหนุ่มที่ไหนที่เก่งกาจอย่างนี้อีก?
พูดอีกอย่าง เทียนตูในตอนนี้ใครจะกล้าแอบอ้างตัวเป็เ้าพ่อเจียง?
ในเมื่อคนตรงหน้าคือเ้าพ่อเจียง แบบนั้นเด็กสาวคนเมื่อครู่ … ก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเ้าพ่อเจียงหรือ?
พอคิดว่าลูกน้องของตนเองหยอกเย้าผู้หญิงของเ้าพ่อเจียงแล้ว แถมยังพูดหยาบคายอย่างนั้น เ้าหน้าบากก็มีความคิดที่อยากจะลุกขึ้นแล้วพุ่งออกไปซัดนักเลงพวกนั้นให้แหลกเป็ชิ้นๆ ทันที
หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ว่าเมื่อก่อนทุกคนล้วนโตมาในซอยเดียวกัน เ้านั่นนอกจากปากเสียแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร และได้ขอร้องไว้ เขาก็เลยพามาหาเงินด้วย แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เ้านี่จะหาเื่เดือดร้อนให้อย่างนี้
คิดอีกว่าเมื่อครู่เขายังเอาผู้หญิงของเ้าพ่อเจียงมาข่มขู่อีก?
สีหน้าของเ้าหน้าบากขาวซีดเป็ไก่ต้ม และสั่นไปทั้งตัว เขาใช้เสียงสะอึกสะอื้นพูดกับเจียงไป๋อย่างเศร้าเสียใจว่า “เ้าพ่อเจียง ผม … ”
“พอแล้ว ในเมื่อเป็การประจันหน้ากับคนกันเอง แบบนั้นเื่นี้ก็พอแค่นี้เถอะ ฉันไม่ติดใจหรอก กลับไปก็รักษาตัวให้ดี ฉันลงมือไม่ได้หนักมากนัก แต่พวกนายก็คงต้องนอนโรงพยาบาลสักระยะ ค่ารักษาพยาบาลไปเบิกกับหม่าฉางหยางได้”
เจียงไป๋โบกมือขัดคำพูดของอีกฝ่ายแล้วพูดอย่างนี้
ของอย่างการบุกเบิกอสังหาริมทรัพย์ การรื้อถอนก็เลี่ยงไม่ได้ บางครั้งก็ต้องใช้คนที่ไม่ควรจะใช้ ไม่ใช่เพื่อข่มขู่ใคร และก็ไม่ใช่เพื่อใช้อำนาจรังแกคนไปทั่ว กับคนที่ยากจะจัดการได้บางคนก็ไม่ใช้ลูกไม้อย่างนี้ไม่ได้จริงๆ แน่นอนว่าก็แค่ส่วนน้อย
เจียงไป๋เข้าใจถึงการกระทำของหม่าฉางหยาง ทุกอย่างนี้ก็เพื่อผลประโยชน์และก็ไม่ผิดอะไร
แต่คนตรงหน้ากลุ่มนี้ได้เตือนเจียงไป๋แล้ว ถึงเขากับหม่าฉางหยางอาจจะไม่มีเจตนาอย่างอื่น ตอนนี้ลูกน้องพวกนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง แต่คนกลุ่มนี้ก็ใช้ชื่อเขาอย่างไม่คำนึง ตอนนี้ไม่นอกลู่นอกทาง ต่อไปก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำ
“ดูแล้วต่อไปจะต้องพูดกับเหลาหม่าและฉวีเจี๋ย ให้ควบคุมสักหน่อย” เจียงไป๋อดคิดอยู่ในใจไม่ได้
“ขอบคุณ … ขอบคุณเ้าพ่อเจียง … ”
เมื่อเ้าหน้าบากได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ซาบซึ้งจนแทบจะร้องไห้
ดูแล้วเ้าพ่อเจียงคนนี้ใจกว้างมาก คนกลุ่มเล็กๆ อย่างเขาไม่ประสีประสาจนไปยั่วยุเ้าพ่อเจียง และดันไปกระตุกหางเสือเข้าแล้ว แต่เ้าพ่อเจียงไม่โกรธไม่พอ ยังใจกว้างให้อภัยพวกเขา?
โดยเฉพาะ … ยังให้ค่ารักษาพยาบาล?
คิดๆ ดูแล้ว เ้าหน้าบากก็รู้สึกซาบซึ้งเป็อย่างยิ่ง ทั้งยังชื่นชมว่าการได้ทำงานให้เ้าพ่อเจียงเป็โชคดีที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของเขาจริงๆ
“ไปเถอะ ไปเถอะ”
เจียงไป๋โบกมือให้พวกเขาออกไป เขาไม่อยากจะพูดอะไรมากจริงๆ ทางนั้นยังมีจู้ซินซินรอให้เขาไปปลอบอยู่
“จบแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว พวกเธอก็ต้องเตรียมย้ายบ้านแล้ว เมื่อครู่ฉันพูดแล้วจะให้บ้านเธอสักหลังก่อนดีไหม? ฉันมีบ้านเดี่ยวอยู่หนึ่งหลังพอดี คนอื่นให้น่ะ ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่”
ให้คนพวกนี้ประคองกันออกไป เจียงไป๋เดินมาที่ตรงหน้าจู้ซินซินแล้วพูดอย่างนี้
“บ้านเดี่ยวหรือ? พวกเราไม่กล้าอยู่หรอก! ทำไมถึงต้องย้ายบ้าน? รื้อถอนหรือ? ไม่ใช่ว่ายังมีเวลาอีก่หนึ่งหรือ?”
จู้ซินซินรีบส่ายหน้า หลังจากนั้นมองเจียงไป๋ด้วยใบหน้าที่แปลกใจ
“เื่นั้น คนพวกนี้เป็คนของบริษัทฉัน ฉันมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และจะรื้อถอนแถบนี้อยู่พอดี อืม บ้านของเธอก็อยู่ในขอบเขตนี้ด้วย ดังนั้นจึงชดเชยบ้านให้พวกเธอหนึ่งหลังก่อน ถือว่าเป็การชดเชยจากการรื้อถอน ไม่ต้องมีภาระ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนติดต่อพวกเธอ ไม่เอาบ้านเดี่ยว แต่ห้องสามห้องนอนสักห้องก็น่าจะได้ใช่ไหม”
จู้ซินซินถามอย่างนี้ เจียงไป๋อึดอัดอยู่บ้าง หลังจากนั้นคิดๆ ดูแล้วจึงให้ข้อเสนออย่างนี้ออกไป
แน่นอนว่าก็แค่สำหรับจู้ซินซินเท่านั้น หากเขาชดเชยให้ทุกๆ คนอย่างนี้ บริษัทนี้ก็ไม่ต้องทำแล้ว และปิดกิจการไปซะ
“จริงหรือ? แบบนั้นก็เยี่ยมไปเลย!” จู้ซินซินพูดอย่างดีอกดีใจ
บ้านของเธอก็แออัดเกินไปจริงๆ หากเปลี่ยนบ้านได้แน่นอนว่าก็เป็เื่ดี และตอนนี้ก็มีเหตุผลเพียงพอ
ถึงแม้รู้ว่านี่คือการดูแลของเจียงไป๋ แต่จู้ซินซินก็รู้สึกสบายใจ
จากมุมมองของเธอ นี่คือสวัสดิการในฐานะ “กิ๊ก” ของเจียงไป๋ ในเมื่อเป็สวัสดิการ ทำไมต้องปฏิเสธ ต่อไปก็ดีกับเจียงไป๋หน่อยก็ได้แล้ว
“ไปเถอะ”
เจียงไป๋ฉีกยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่พูด เขาโบกมือให้จู้ซินซินออกไป
มองรอยยิ้มบนหน้าของอีกฝ่าย แล้วก็ะโโลดเต้นกลับบ้านไป บนใบหน้าของเจียงไป๋เผยรอยยิ้มที่สมดั่งใจออกมาแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้