“ตอนออกไปเ้าตัวเล็กทั้งสองนี่ทำท่าจะร้องไห้งอแง ทว่าตอนข้าพากลับมาก็หยุดร้องแล้ว” ย่าหลี่ถอนใจ “ช่างอดทนยิ่งนัก คงเป็สายเืสกุลหลินกระมัง”
“ท่านย่าหลี่ ท่านย่าของข้าเห็นว่าท่านพ่อไม่เชื่อฟัง รั้นจะแต่งกับท่านแม่ของข้า ยามนี้คงมิได้เห็นว่าพวกเราสามพี่น้องเป็คนสกุลหลินแล้ว” หลินฟู่อินยิ้มขมขื่นถอนหายใจยาว
นางเองก็เป็คนสกุลหลิน แต่ยามที่นางจะถูกเผาทั้งเป็ คนบ้านนั้นกลับไม่แม้แต่จะกะพริบตา
ตอนฉู่ซื่อยังอยู่ นางไม่เคยต้องพึ่งพาคนบ้านนั้น ยามนี้นางมาอยู่ในร่างนี้แล้ว นางย่อมอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนบ้านนั้นเช่นกัน
“ข้าเคยทำข้อตกลงเอาไว้แล้วว่าจะมอบเงินให้ป้าสองของต้ายากับพี่สะใภ้ของป้าสองเพื่อให้ทั้งคู่ช่วยป้อนนมให้น้องๆ ข้า เหตุใดทั้งคู่จึงไม่มาเ้าคะ?”
หลินฟู่อินใส่ใจเื่นี้มากกว่า
ย่าหลี่แค่นเสียงเหอะ “พวกนางคิดว่าเ้าตายแล้ว ต่างก็ไม่กล้ามีเื่กับบ้านเดิมของเ้าฝั่งนั้นจึงมิได้มาป้อนนมน้องๆ ให้เ้า”
หลินฟู่อินพยักหน้าเข้าใจ
พลังทำลายล้างของย่ากับป้าสองบ้านนั้นนับว่าไม่ธรรมดา คนทั่วไปย่อมไม่กล้ามีเื่ด้วย
“แต่ได้ยินจากแม่นางที่ส่งเ้ากลับมาว่าเ้าเก่งเื่ยาหรือ?” ย่าหลี่มองนางด้วยสายตาประเมิน
หลินฟู่อินพยักหน้า “ตอนท่านแม่ยังอยู่ นางสอนข้ามาเล็กน้อยเ้าค่ะ”
หลินฟู่อินมิได้พูดปด ฉู่ซื่อสอนวิชายาให้ร่างเดิมจริง ๆ นอกจากนั้นยังสอนหนังสือให้ การอ่านเขียนจึงไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย
ทั้งฉู่ซื่อยังยอมให้ท่านพ่อหลินสอนวิชาต่อสู้ยิงธนูให้ลูกๆ อีกด้วย
แม้จะร่ำเรียนมาไม่มาก แต่เทียบกับสตรีทั่วไปแล้วนางนับว่ามีฝีมือทีเดียว
“รู้อยู่แล้วว่ามารดาเ้าไม่ธรรมดา ต้องจากไปเร็วถึงเพียงนี้…น่าเสียดายจริงๆ…” ท่านย่าหลี่ได้แต่ทอดถอนใจเช่นนั้นเอง
หลินฟู่อินกะพริบตา “เหตุใดท่านย่าหลี่จึงถามเื่นี้เล่าเ้าคะ?”
ย่าหลี่รู้สึกตัว นางตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่กับหลินฟู่อินและช่วยเหลืออีกฝ่ายแล้ว ทั้งยังเป็ไปเพื่อหาผู้สนับสนุนตนเองในวันข้างหน้าอีกด้วย
ตอนนางยังสาว นางทำงานให้กับตระกูลใหญ่ ถูกฝึกให้มี ‘ดวงตาทองคำ’ มา เมื่อได้พบฉู่ซื่อก็เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาต่างจากชาวบ้านทั่วไป ยามนี้ฉู่ซื่อจากไปแล้วแต่ยังเหลือคนลูก เมื่อหลินฟู่อินขอร้อง นางก็ตัดสินใจทันที ตั้งใจว่าอีกหน่อยจะย้ายมาอยู่กับฟู่อิน
ยามนี้ย่าหลี่ตัดสินใจลงมือแล้ว ย่อมต้องวางแผนเพื่อหลินฟู่อินทั้งใจ
นางมุ่นคิ้วเล็กน้อย เข้าใจความหมายของฟู่อิน “แม้ข้าจะคิดว่ากระดูกแก่ของย่าเ้าสมควรโดนเช่นนั้นเสียบ้าง แต่อย่างไรก็ยังเป็แม่ของพ่อเ้า หลายวันมานี้ปู่ย่าเ้าน้ำหนักลงไม่น้อย ดูไปแล้วประหลาดเสียจริง เ้ารู้วิชาสมุนไพรอยู่บ้าง ลองไปดูเถอะว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลินฟู่อินพยักหน้า นางทราบว่าอยู่ ๆ คนบ้านเดิมก็ล้มป่วย นับว่าประหลาดยิ่ง
กระทั่งย่าหลี่ที่มีสายตาเฉียบคมก็ยังมองว่าเื่นี้ไม่ธรรมดา
สายตาเฉียบคมเช่นย่าหลี่นี้ ใช่ว่าผู้อื่นจะได้กันมาง่ายๆ
หลินฟู่อินจึงตัดสินใจว่าอีกหน่อยหากมีเื่อะไรจะปรึกษาย่าหลี่ก่อน อีกฝ่ายดูไปแล้วไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป
อย่างไรตอนนี้นางก็นับว่าเป็หน้าใหม่ ทั้งยังไม่มีใครที่พอใช้การได้ เช่นนี้จึงตัดสินใจซื้อโลงของย่าหลี่ หาข้ออ้างเพื่อดึงตัวอีกฝ่ายมาอยู่ใกล้ๆ
นางเพียงลองดูเท่านั้น ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับปาก นับว่าเป็โชคของนางจริงๆ
คนในหมู่บ้านนี้รวมไปถึงตัวย่าหลี่เองต่างก็คิดว่าหลินฟู่อินลงมือเช่นนี้เพียง้าให้อีกฝ่ายขายโลงศพให้เท่านั้น ใครจะคิดว่านางมีแผนอื่นอยู่อีกเล่า?
วันต่อมา หลินฟู่อินดีขึ้นมากแล้วจึงได้ฝากน้องๆ ให้ย่าหลี่ดูแล ส่วนตัวนางเองเดินทางไปบ้านเดิมเพียงลำพัง
บุรุษลึกลับคนนั้นช่วยนางจากการถูกเผาทั้งเป็ สตรีที่มาส่งนางกลับหมู่บ้านก็ยังออกปากถึงเพียงนั้นแล้ว นางเชื่อว่าคนในหมู่บ้านย่อมไม่มีใครคิดจะจับนางเผาทั้งเป็โดยง่ายอีกแล้ว
ขณะเดินไปบนถนน ชาวบ้านที่เห็นนางต่างก็รีบก้มหน้าไม่กล้ามองอีก
แน่นอนว่าสายตารังเกียจเ่าั้ไม่อาจพ้นจากสายตาของหลินฟู่อิน
นางได้บุรุษแปลกหน้าช่วยชีวิตแล้วส่งตัวกลับ ย่อมมีแต่ความรังเกียจแล้ว
แต่ครั้งนี้นางไม่ใส่ใจสายตาคนอื่นอีก
ป้าสองเฟิงซื่อชะงักไปเมื่อเห็นหลินฟู่อิน ทว่าก็ยังให้นางเข้าไปในห้อง
จากนั้นคนก็ะโ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ฟู่อินมาเยี่ยมเ้าค่ะ!”
“ทิ้งของเยี่ยมไว้แล้วไล่คนออกไปเสีย ดาวหายนะนี่เข่นฆ่าญาติพี่น้องตนเอง ข้าไม่กล้าพบ…”
ถ้อยคำหยาบคายของอู่ซื่อดังออกมา ใบหน้าเฟิงซื่อพลันขึ้นสี นางมองหลินฟู่อินแล้วรีบก้มหน้า
หลินฟู่อินมามือเปล่า ไม่ได้พกของเยี่ยมมาด้วย
เมื่อได้ยินคำของอีกฝ่ายนางก็หาได้โกรธไม่ ทว่าเสียงเบาของนางกลับลอยเข้าหูอู่ซื่อ
“ข้ารักษาได้ ทว่าหากไม่อยากพบข้าก็ช่างเถอะ ถึงตอนนั้นจะตายอย่างไรก็ไม่ใช่ธุระของข้าแล้ว”
“ไร้สาระ ทั้งปู่เ้าทั้งข้าล้วนไม่ได้ป่วย ล้วนแต่เป็เพราะความดวงซวยของเ้า!” อู่ซื่อสบถด่า แล้วจึงคล้ายจะคิดอะไรได้จึงะโอีกที “ใช่แล้ว เ้าเป็ดาวหายนะ สาปให้พวกข้าเจ็บป่วยล้มตาย ลูกของฉู่ซื่อคนนั้นช่างดียิ่ง!”
“ท่านแม่ ท่านไม่ได้ยินหรือ พี่สะใภ้เกือบโดนตัดลิ้นเอาแล้วหากมิได้ฟู่อินช่วยเอาไว้” เฟิงซื่อทนฟังต่อไปไม่ได้อีก “ก็เห็นอยู่ว่าฟู่อินมิใช่ดาวหายนะของญาติๆ…”
“นางจงใจทำเพื่อลบคำครหาเื่ดาวหายนะ!” ยามที่ไม่ได้กำลังโมโห อู่ซื่อก็ออกจะหัวไวอยู่บ้าง จึงเริ่มคิดว่าล้วนแต่เป็แผนของหลินฟู่อินมาโดยตลอด
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินฟู่อินก็พ่นลมหายใจเ็า ดูอีกฝ่ายพูดเข้าเถอะ
“พอแล้วยายเฒ่า! แค่ก ๆ…” ท่านปู่หลินไอโขลก เขาไร้เรี่ยวแรงมากแล้ว พอพูดออกมาหนึ่งประโยคก็กลับต้องไอออกมา
“ท่านพ่อ เป็อย่างไรบ้างเ้าคะ? อย่างไรก็ไม่มีทางอื่นแล้ว สะใภ้เห็นว่าให้ฟู่อินดูท่านเสียหน่อยก็ดีนะเ้าคะ…” เฟิงซื่อแนะนำ
แน่นอนว่านางไม่อยากให้ผู้เฒ่าทั้งสองด่วนจากไป อย่างตอนที่ปู่ทวดจากไปตอนนั้นใช้เงินเยอะมากทีเดียว
แม้นางจะอยู่กับบ้านพ่อแม่สามีมาตลอดหลายปี ทว่าที่จริงชีวิตยังไม่สะดวกสบายเท่าฉู่ซื่อด้วยซ้ำ ฉู่ซื่อกับบ้านพวกนางสามครอบครัวแยกกันต่างหาก แม้สองผู้เฒ่าจะไม่ต้อนรับแต่ก็ยังใช้ชีวิตสะดวกสบายได้อยู่ภายใต้บ้านหลังนั้น
แล้วนางเล่า? หลายปีมานี้สกุลหลินใช้นางราวกับวัวกับม้าทว่าคำพูดดี ๆ สักคำยังหามาพูดด้วยไม่ได้
ผู้เฒ่าผู้แก่ก็เป็เช่นนี้ เปลืองเงินเพิ่มแม้แต่เฟินเดียวก็ราวกับถูกขุดหัวใจ ท้ายสุดก็เป็บ้านสองของนางที่โชคไม่ดี
หลินฟู่อินไม่ได้คิดอะไรมาก ทั้งไม่อยากจะเสียเวลารอคอยให้ผู้เฒ่าทั้งสองตกลง นางยกม่านบังประตูสีเทาเข้าไปเองทันที
กลิ่นเหม็นฉุนลอยมาทำให้นางอยากอาเจียน
“อะไร? เ้าเด็กหน้าเหม็นนี่ทนรอให้พวกข้าตายไม่ไหวแล้วใช่หรือไม่?” เมื่อเห็นสีหน้าแข็งทื่อของฟู่อิน อู่ซื่อก็ไม่พอใจทันที
หลินฟู่อินนิ่วหน้าไม่คิดมองอู่ซื่อ นางเพียงยื่นมือออกไปจับชีพจรของท่านปู่หลินโดยตรง
ชายชราแทบจะไม่ได้พบหลินฟู่อินเลย ทุกปีในวันขึ้นปีใหม่ก็มีเพียงลูกชายคนที่สามมาเพียงลำพัง ฉู่ซื่อกับหลานสาวคนนี้ต่างก็อยู่แต่บ้านหลังนั้น
ที่จริงเขาคิดจะให้ลูกสามเป็คนพาหลานมาพบ แต่ภรรยาเขาก็เป็เสียเช่นนี้ เขาย่อมไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่ม
ยามนี้เห็นนางมีท่าทีผ่าเผย หน้าตางดงามทั้งยังสงบนิ่ง ในใจก็พลันตกตะลึง
เด็กคนนี้ฉู่ซื่อเลี้ยงมาได้ดีจริงๆ ต่างจากเด็กสาวชาวบ้านทั่วไป ไม่แปลกเลยที่สามารถรอดพ้นความยากลำบากมาได้…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้