ฮวาเหยียนลุกขึ้นมานั่งตัวตรง ดวงตาเป็ประกายแวววาว “ไอ้หยา ลูกชายสุดที่รักของแม่ เ้าช่างฉลาดนัก! ลูกรักของแม่! จุ๊บ!”
ฮวาเหยียนกอดหยวนเป่า จูบแก้มที่ทั้งขาวและนุ่มของเขาดังจุ๊บ
นางถูกการกระตุ้นนี้ทำให้งุนงงแล้วจริงๆ จนคิดไม่ถึงเลยสักนิด ยังดีที่ได้รับการเตือนจากบุตรชายของนาง
ทว่า...
“ลูกรัก ต่อหน้าหลงจู้อย่าได้เปิดเผยว่าเ้าเป็ผู้ที่ปรุงโอสถเหล่านี้ขึ้นมา หลงจู้คนนั้น้าพบเ้ามาโดยตลอด และไม่รู้ว่าเขามีแผนสมรู้ร่วมคิดหรือกลอุบายอันใด เ้าอย่ามองเพียงว่าเขามีท่าทางเป็คนเกียจคร้าน ทั้งวันสะลึมสะลือไม่รู้จักตื่น แต่แม่จะบอกเ้าไว้ บุรุษผู้นี้เป็จิ้งจอกเ้าเล่ห์อย่างแน่นอน เขาฉลาดเฉลียวยิ่ง”
“ขอรับ ข้าย่อมเชื่อฟังท่านแม่”
หยวนเป่าพยักหน้า ท่าทางเชื่อฟังน่ารัก
สองแม่ลูกเอ่ยเื่ส่วนตัวอีกสองสามประโยคเบาๆ รถม้าก็มาถึงหออู๋ิแล้ว แต่กลับพบว่าไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะมีคนจำนวนมากล้อมรอบสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ปราการด้านนอกสามชั้น ด้านในอีกสามชั้น มากมายมหาศาลนัก ฮวาเหยียนกับหยวนเป่าถอดหมวกงอบลงพลางออกจากรถม้า โบกมือให้คนขับรถม้ากลับไปเสีย ก่อนจะเดินแทรกเข้าไปในฝูงชน
เดิมทีนางคิดว่าเป็ไปตามที่ชายผู้นั้นพูด เพราะการประมูลทำให้เกิดฝูงชนมารวมตัวกัน ทว่าเมื่อไปถึงด้านหน้า กลับพบว่ามีทหารจำนวนมากล้อมรอบหออู๋ิเอาไว้
หัวใจของฮวาเหยียนกระตุกเต้นไม่เป็จังหวะ เกิดเื่อันใดขึ้น?
เป็ไปได้หรือไม่ว่าหออู๋ิจะทำเื่ผิดพลาดใด? ยั่วโทสะเหล่าพระญาติของฮ่องเต้และตอนนี้กำลังจะถูกปิดตัวลง?
์ทรงโปรด เป็เช่นนี้ได้อย่างไร? เงินและทองคำของนางเล่า หากถูกยึดไป เช่นนั้นนางจะรวบรวมเงินสามล้านตำลึงเพื่อมอบให้ตี้หลิงหานได้จากที่ใด นาง...เพิ่งออกมาจากจวนไท่จื่อด้วยท่าทางโอ้อวดอย่างเต็มกำลังเชียวนะ!
คำพูดกดข่มก็พูดออกไปแล้ว เตรียมการอันใดก็พร้อมสรรพแล้ว ยามนี้นางมิอาจพ่ายแพ้ได้
ฮวาเหยียนจูงมือหยวนเป่าก้าวไปข้างหน้า มีบางคนที่ถูกดันจนร่างแบนจึง้าเปิดปากเพื่อด่าสาปแช่ง แต่เมื่อพวกเขาหันศีรษะกลับมาและพบว่าผู้ที่เบียดเข้ามาเป็สตรีสวมหมวกงอบ ทั้งบรรยากาศรอบตัวยังเต็มไปด้วยไอสังหาร สุดท้ายจึงทำได้แค่หุบปากเป็ใบ้ เอนตัวหลบเข้าข้างทาง แหวกเป็ทางเดินให้นางอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากไม่กี่คราก่อนฮวาเหยียนมาด้วยตัวคนเดียว นางสวมหมวกงอบ ขายหญ้าิญญาลึกลับจำนวนมาก ทั้งยังตบตีบุตรชายของท่านโหวหย่งซิน ต่อต้านฉู่รั่วหลาน ชื่อเสียงถูกแพร่กระจายออกไป ทว่าเพราะนางปิดหน้า จึงไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของนาง
ครานี้นางมาพร้อมกับหยวนเป่าน้อย และเปลี่ยนจากหมวกงอบเป็ผ้าโปร่งบาง นางมิได้อุ้มเสี่ยวไป๋ ทว่าจูงมือหยวนเป่าน้อยแทน นอกจากคนในหออู๋ิที่มักคุ้นชินกับนางแล้ว ผู้ที่สัญจรไปมาย่อมจำนางมิได้แน่นอน
ดังนั้นตอนที่นางเบียดไปข้างหน้าพร้อมกับหยวนเป่า ผู้ชมที่อยู่โดยรอบจึงคิดว่านางมาเพื่อรับชมความสนุก
ฮวาเหยียนเห็นประตูหออู๋ิเปิดออก จากนั้นทหารก็ทยอยออกมาทีละคน และในมือของทุกคนล้วนแบกหามกล่องขนาดใหญ่ไปคนละกล่อง
“พวกเขากำลังแบกสิ่งใดอยู่หรือ?”
“คงมิใช่สมบัติหรือเงินทองกระมัง?”
“เกิดอันใดขึ้นกันแน่?”
เหล่าผู้ชมที่เห็นล้วนพากันกระซิบกระซาบอย่างระมัดระวัง
หัวใจของฮวาเหยียนเต้นไม่เป็จังหวะ เป็ไปได้หรือไม่ที่กล่องเหล่านี้จะบรรจุแท่งทองคำที่นางขอให้จีอู๋ซวงเก็บให้?
ย่อมเป็เช่นนั้นแน่!
เหตุใดเงินทองเหล่านี้จึงถูกแบกไปเล่า? พวกเขากำลังจะยกไปที่ใด?
ฮวาเหยียนแทบจะะเิแล้ว นางมีลางสังหรณ์ไม่ดีเป็พิเศษ! สมองของนางส่งเสียง ‘ปิ๊ง’ ต้องเป็ตี้หลิงหานแน่ เ้าคนชั่วช้าน่ารังเกียจไร้ยางอาย!
ก่อนหน้านี้นางไปหาเื่ถึงจวนเขา ทว่าเพียงนางก้าวออกมาบุรุษผู้นี้ก็ส่งคนมาเอาเงินของนางไป เหตุใดตี้หลิงหานจึงทราบว่าเงินของนางถูกเก็บอยู่ที่หออู๋ิเล่า? เพราะเขาอาศัยฐานะองค์รัชทายาทสืบค้นลับหลังนางหรือ? ดูทหารเหล่านี้เถิด แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าพวกเขาคือราชองครักษ์แล้ว!
ฮวาเหยียนโมโหเป็อย่างยิ่ง รีบสาวเท้าก้าวยาวตรงเข้าไปในหออู๋ิ
“มาทำอันใด?”
มีทหารรักษาการณ์อยู่ และเมื่อเขาเห็นสตรีผู้นี้พาเด็กน้อยเข้ามาจึงเลิกคิ้วขึ้นพลางถามด้วยน้ำเสียงเ็าทันที ทั้งยังแฝงน้ำเสียงเตือนอีกด้วย
“ข้า...”
“แม่นางผู้นี้คือสหายของข้า เป็แขกผู้มีเกียรติของหออู๋ิ ท่านราชองครักษ์มิต้องกังวล”
ทันใดนั้นจีอู๋ซวงที่ได้ยินเสียงจากด้านนอกก็เดินออกมาจากหออู๋ิ
“โอ้ ที่แท้คือสหายของหลงจู้จี เช่นนั้นข้าน้อยต้องขอตัว ขอตัวก่อนนะขอรับ”
องครักษ์ผู้นั้นยำเกรงจีอู๋ซวงเป็อย่างยิ่ง เขารีบยกมือประสานคำนับ
“แม่นางเหยียน เหตุใดจึงกลับมาเร็วนัก?”
ยามเผชิญหน้ากับราชองครักษ์ผู้นั้น คิ้วและตาของจีอู๋ซวงดุร้ายยิ่ง ทว่าเมื่อเขาหมุนตัวหันกลับมาหาฮวาเหยียน รอยยิ้มของเขาก็แย้มบานดั่งมวลบุปผา
ฮวาเหยียนโมโหเป็อย่างยิ่ง ใบหน้าของนางหนักอึ้งราวน้ำค้างแข็ง นางนับดูแล้ว เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว กล่องสิบหกกล่องก็ถูกขนออกไปแล้ว
“สิ่งของอันใดอยู่ในกล่องเ่าั้หรือ?”
“ทอง”
อา...
ฮวาเหยียนอ้าปากค้างสูดอากาศเย็นเข้าปอด หัวใจของนางหยุดนิ่งไปชั่วครู่ นางควบคุมตนเองไม่ได้จนเผลอบิดแขนของจีอู๋ซวง
“โอ๊ย เจ็บๆ...์ทรงโปรด แม่นางเหยียน ข้าล่วงเกินเ้าหรืออย่างไร สุภาพบุรุษตกลงกันด้วยวาจา หาใช่ด้วยกำลังไม่”
จีอู๋ซวงถูกบิดจนตัวเบี้ยว เขากรีดร้องโหยหวน
สายตาของเหล่าทหารราชองครักษ์และผู้ชมที่อยู่โดยรอบล้วนมองมาหา เอ๋? มีผู้ใดไม่ทราบว่าในต้าโจวนี้หลงจู้จีมีฐานะสูงส่ง มีตระกูลชนชั้นสูงมากมายที่้าผูกมิตรกับเขา แต่กลับถูกเขาผลักไสออกมาอย่างเ็า
จะเคยเห็นเขาใกล้ชิดสนิทสนมกับสตรีผู้หนึ่งเช่นนี้ได้อย่างไร?
สตรีนางนี้คือผู้ใด? เป็ฟูเหรินของหลงจู้จีหรือ? เช่นนั้นเด็กน้อยคนนั้นเล่า? เป็บุตรชายของเขาหรือ?
ตัวตนของหลงจู้จีลึกลับเป็อย่างยิ่ง พลังยุทธ์ของเขาก็ลึกลับเช่นกัน ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ด้วย ก่อนนี้มีคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์มาขอซื้อสมบัติถึงหน้าประตู และยั่วยุเขาแต่กลับถูกตีจนเกือบตาย แม้ครั้งนั้นหลงจู้จีเหมือนจะไม่เกิดเื่อันใด ทว่าเหล่าผู้ชมที่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น ภายหลังจึงพบว่าคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ผู้นั้นไม่อยู่ในเมืองหลวงแล้ว ดังนั้นเหล่าผู้ชมจึงทราบโดยทั่วกันว่าหลงจู้จีมิใช่คนที่สามารถหาเื่ได้
ทว่าตอนนี้พวกเขาเห็นสิ่งใดหรือ?
หลงจู้จีถูกบิดแขนจนเป็เกลียว?
ไอ้หยา...
สมองของทุกคนแต่งเื่ได้อย่างเก่งกาจ พวกเขาคิดเพียงว่าฮวาเหยียนกับหยวนเป่าเป็เถ้าแก่เนี้ยและคุณชายน้อยแห่งหออู๋ิ
ภายหลังข่าวที่ว่าหลงจู้แห่งหออู๋ิมีภรรยาและบุตรชายแล้วจึงถูกแพร่กระจายออกไปเช่นนี้
“แม่นางเหยียน มีอันใดก็กล่าวกันดีๆ ได้หรือไม่ แขนของข้าจะถูกดึงออกมาแล้ว เ้าดูเถิด ข้ามิต้องรักษาหน้าเอาไว้หรือ? ทุกคนล้วนมองมาที่พวกเราหมดแล้ว”
จีอู๋ซวงกรีดร้อง เขารู้สึกถึงโทสะของคุณหนูมู่เข้าแล้วจริงๆ มิต้องกล่าวคำใด แปดส่วนย่อมต้องเป็เพราะอาหานที่ยั่วยุผู้อื่น ตัวเขาจึงโดนหางเลขถูกโมโหไปด้วย แต่เขาต้องให้ความเคารพต่อสตรีที่อยู่ตรงหน้าราวกับกูหน่ายนาย [1] มิได้เน้นย้ำที่ฐานะสูงส่ง แต่เป็เพราะนางมีนักปรุงยาผู้มีพร์อยู่เื้ั เป็คนที่เขา้าผูกมิตรด้วย...
“จีอู๋ซวง ข้าขอถามท่าน ทองเหล่านี้เป็ของข้าใช่หรือไม่?”
ฮวาเหยียนกัดฟันถาม ดวงตาของนางแดงก่ำ ดวงตาแมวคู่นั้นที่มองเห็นผ่านผ้าโปร่งบางเปี่ยมด้วยประกายโทสะ
“มิใช่ของเ้า เ้าไปรู้ข่าวมาจากที่ใด นี่คือเงินที่คนในราชวงศ์เรียกใช้จากหออู๋ิของข้า ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเงินสามล้านตำลึงของเ้า”
จีอู๋ซวงกรีดร้องและรีบอธิบาย
หา?
ว่าอย่างไรนะ?
เข้าใจผิดแล้ว?
ไอ้หยา ทำให้นางใแทบตาย
ฟู่ นางถอนหายใจ นางถูกด้านมืดของตี้หลิงหานกระทบเข้าแล้วจริงๆ
“ที่แท้ก็เป็เช่นนี้ ทำเอาข้าใแทบตาย”
ฮวาเหยียนบ่นพึมพำพลางปล่อยมือของนางออก
ใบหน้าของจีอู๋ซวงเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจและไม่ได้รับความเป็ธรรม เขายกแขนเสื้อขึ้น เพราะผิวของเขาขาวเป็อย่างยิ่ง เมื่อถูกฮวาเหยียนบีบ เวลานี้บริเวณนั้นจึงปรากฏรอยม่วงช้ำอย่างชัดเจน
“ดูเอาเถิด สตรีใจพิษ ข้ามิได้ยั่วโมโหเ้าสักหน่อย แต่เ้ากลับบิดแขนข้าจนเป็เช่นนี้ บอกข้าทีว่าเ้าจะชดใช้อย่างไร?”
เชิงอรรถ
[1] กูหน่ายนาย 姑奶奶 (gū nǎi nai) หมายถึง น้องสาวของสามี และยังใช้เรียกสตรีในครอบครัวที่ออกเรือนแล้วได้อีกด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้