“แบบนั้นผมก็ขอบคุณมาก! เจียงไป๋คุณคือผู้มีพระคุณของผมหม่าฉางหยางคนนี้ ต่อไปคุณมีเื่อะไรก็ขอให้บอกมา ผมหม่าฉางหยางถึงจะบุกน้ำลุยไฟ ก็จะไม่ขมวดคิ้วใส่เด็ดขาด”
เมื่อหม่าฉางหยางได้ยินคำนี้แล้ว ก็รีบยืนขึ้นพูดอย่างตื่นเต้น
พูดจบก็ถือเหล้ามาหนึ่งขวดเทให้ตนเองเต็มแก้ว แล้วดื่มจนหมดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
พอดื่มหมดแก้วแล้วก็โค้งตัวให้เจียงไป๋ เพื่อแสดงการขอบคุณ
ถึงแม้จะสงสัยในกำลังทรัพย์ของเจียงไป๋ แต่หม่าฉางหยางก็รู้ว่าเจียงไป๋จะไม่เอาตัวเองมาล้อเล่นเด็ดขาด ตำแหน่งของเจียงไป๋ในเทียนตูตอนนี้ก็พูดคำไหนคำนั้น และจะไม่พูดมั่วๆ
ถึงแม้ทรัพย์สินของเขาจะไม่มาก แต่หาก้าเงินก็ไม่ใช่เื่ง่ายหรือ?
หากพูดออกไปว่าเจียงไป๋อยากจะยืมเงิน ทั้งเทียนตูใครจะไม่กล้าให้?
อย่าว่าแต่บีบบังคับเอาเลย แค่ปล่อยข่าวออกไปนิดหน่อย บุคคลอย่างอู๋จง จางฉางเกิงก็ไม่ใช่ว่าจะรีบเอามาส่งให้ทันทีหรือ?
โอกาสเอาอกเอาใจเจียงไป๋อย่างนี้ ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ล้วนมีกันได้ แต่พอมีแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะรีบพุ่งเข้าใส่ราวกับผีเสื้อที่เห็นเกสรดอกไม้แล้วหรือ? เงินจำนวนสองสามร้อยล้านสำหรับคนธรรมดาแล้วก็เป็จำนวนที่นับไม่ถ้วน แต่สำหรับเจียงไป๋แล้วก็ไม่ใช่ปัญหา จุดนี้หม่าฉางหยางล้วนรู้ดีกว่าใครๆ แค่เ้าพ่อเจียงยินยอม ก็เป็เื่ง่าย
“เหอะๆ พอแล้ว ผมก็กำลังกลุ้มว่าจะไม่มีที่ใช้เงินอยู่พอดี ตอนนี้ใช้ออกไปแล้ว จิตใจผมก็ดีขึ้นมาก ยังเหลืออีกหนึ่งร้อยล้าน พวกคุณคิดว่าจะทำอย่างไรดี?” เจียงไป๋พูดและหัวเราะระรื่น ก่อนจะมองโจวเจี๋ย
จริงๆ แล้วความหมายก็ชัดเจนมาก ฉวีเจี๋ยกับพวกหลี่เฉียงจะบริหารสถานบันเทิงเป็หลัก สถานที่อย่างนั้นมีเงินไหลเวียนมากมาย จริงๆ แล้วก็ไม่้าเงินมาก แต่บริษัทขนส่งที่โจวเจี๋ยบริหารอยู่ ถึงจะบอกว่ากำลังทำกำไร แต่หาก้าขยายให้ใหญ่ขึ้น ก็ขาดการสนับสนุนจากเงินไปไม่ได้
“แบบนั้น … ให้ผมเถอะ ตอนนี้บริษัทขนส่งของพวกเรากำลังขยายตัว และแผ่ขยายไปทั้งเทียนตูแล้ว ผมกำลังอยากจะขยายกิจการไปยังเมืองรอบๆ วันนี้หลังจากที่คุณโทรศัพท์มาหาผมแล้ว ผมก็กำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่ เงินหนึ่งร้อยล้านถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็มีผลต่อการที่พวกเราจะขยายตัวแล้ว”
โจวเจี๋ยรู้ว่าเจียงไป๋ก็เอาตามความคิดเขา และก็ยิ้มรับเงินก้อนนี้อย่างไม่ลังเล
สำหรับเื่นี้เจียงไป๋แบ่งเงินก้อนนี้ออกไปหมดแล้ว
เมื่อเื่งานคุยเสร็จแล้ว เหล้าและอาหารก็เสิร์ฟแล้ว เป็ธรรมดาที่จะต้องกินอย่างหนำใจ และก็ทำความเข้าใจกันยิ่งขึ้น
บนโต๊ะจัดเลี้ยงทุกคนกินอาหารกันอย่างมีความสุข
เหยาหลานที่มากับเจียงไป๋ อยู่ที่นี่ก็เหมือนกับปลาได้น้ำ ถูกทุกคนยกยอปอปั้น
ทุกคนเห็นว่าเหยาหลานมีรูปโฉมสะสวยเรือนร่างเซ็กซี่อย่างนี้ ก็ล้วนคิดว่าเป็ผู้หญิงของเจียงไป๋ การเคารพนอบน้อมและชมเชยความงามก็เป็ธรรมดาที่จะมี
แค่ฉับพลันเหยาหลานก็กลายเป็นางเอกแล้ว และเธอยังหยอกล้อเจียงไป๋อยู่ตลอดเวลา จนทำให้ทุกคนหัวเราะกันเสียงดัง
ไม่ทันไรอาหารมื้อหนึ่งก็สิ้นสุดลงแล้ว จู่ๆ เจียงไป๋ก็นึกอะไรออก และถามโจวเจี๋ยว่า “เหลาโจวเื่การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
นายพอเข้าใจบ้างไหม?”
“การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์? อันนี้ผมเข้าใจ คนที่ร่วมมือกับบริษัทขนส่งของพวกเรานี้ส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็พวกเขา ต่างประเทศพัฒนาไปอย่างไม่เลว ในประเทศของพวกเราตอนนี้ก็มีบริษัทเล็กๆ สองสามแห่งกำลังทำอยู่ แต่ตอนนี้ก็ล้วนมีแต่ขาดทุน คุณอยากทำอันนี้หรือ?”
โจวเจี๋ยที่ดื่มจนมึนอยู่บ้างพอได้ยินคำพูดนี้ก็ตะลึงงัน หลังจากนั้นก็รีบตอบ
สำหรับเื่อื่นเขาไม่เข้าใจ แต่เื่นี้เขาถือว่าเป็มืออาชีพ อย่างไรบริษัทนี้ของเขาก็ติดต่อกับคนพวกนี้อยู่แล้ว
“ใช่ ผมตั้งความหวังไว้กับอันนี้มาก!” เจียงไป๋พูดอย่างจริงจัง
เถาเป่ากับจิงตงในชาติก่อนก็ดังถล่มทลาย ทำเงินได้เป็กอบเป็กำ แน่นอนว่าเจียงไป๋ก็รู้ว่าการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของโลกนี้ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นความรู้ใหม่ เป็ธรรมดาที่เจียงไป๋จะไม่ปล่อยไป
“อย่างนี้หรือ ผมก็รู้จักบริษัทเล็กๆ อยู่หนึ่งแห่ง เขาก็ทำอันนี้อยู่ ส่วนใหญ่ก็ล้วนลดแลกแจกแถม ทุกวันล้วน้าการลงทุนของเงินทุน แต่ก็ไม่เห็นความหวังของกำไร พวกเขาเริ่มล้มเลิกแล้ว หากคุณสนใจ ผมก็จะเชื่อมสะพานให้ได้ ซื้อพวกมันไว้ ราคาก็ไม่แพงมาก น่าจะประมาณห้าล้านห้าแสนกว่าก็เอามาได้แล้ว”
“อย่างนี้ก็ซื้อเอามา! อืม และถือโอกาสเปลี่ยนชื่อเป็ตี้ตูออนไลน์ เฮ้ ผมชอบชื่อนี้มาก บริษัทขนส่งก็เปลี่ยนชื่อเป็ตี้ตูขนส่งไปด้วยเลยดีไหม?”
คิดแล้วคิดอีก เจียงไป๋จึงตัดสินใจไป และมอบเื่นี้ให้โจวเจี๋ยจัดการซื้อบริษัทเล็กๆ เหล่านี้มาก่อนแล้วค่อยว่ากัน
สำหรับหลังจากซื้อมาแล้วจะบริหารอย่างไร ถึงเวลานั้นค่อยหาผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพมาก็ไม่สาย พูดจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าฟาดเงินแล้วฟาดเงินอีกหรือ?
สิ่งเหล่านี้สำหรับเจียงไป๋ในตอนนี้แล้วปัญหาไม่ใหญ่ เขามีธุรกิจมากมายขนาดนั้น ทุกวันล้วนมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากมาย และจะไม่ปรากฏสถานการณ์ที่ว่าจะไม่มีทางทำต่อได้ หรือเงินทุนขาดแคลน นี่ก็ถือเป็การบุกเบิกกิจการหนึ่งของเขาใช่ไหม
“ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปจัดการเลย และจะถือโอกาสช่วยคุณมองหาคนมีความสามารถทางด้านนี้”
โจวเจี๋ยตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
สำหรับตี้ตูขนส่งอะไรนั้น เขาไม่ได้ตอบกลับ ทั้งบริษัทล้วนเป็ของเถ้าแก่ หากเถ้าแก่จะเปลี่ยนชื่อก็แค่ประโยคเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าเขาไม่มีความคิดเห็นอื่น
สำหรับเขาแล้วชื่อก็เป็แค่รหัสชื่อ จะชื่ออะไร จริงๆ แล้วอย่างไรก็ได้
“ตี้ตู? ฮ่าๆ เถ้าแก่คุณนี่ทะเยอทะยานไม่เบา นี่มีแผนการจะก่อตั้งธุรกิจใหญ่โตหรือ? ในเมื่อเป็เช่นนี้ก็ถือโอกาสตอนที่หนังยังไม่เข้าฉาย บริษัทภาพยนตร์ของพวกเราก็เปลี่ยนชื่อด้วยเลย ชื่อว่าบริษัทภาพยนตร์ตี้ตูดีไหม? อนาคตหากคุณมีเวลาก็เอาแต่ละบริษัทมารวมเข้าด้วยกัน แล้วให้ชื่อตี้ตูฉี่เย่กรุ๊ปก็ดีนะ”
เหยาหลานหัวเราะคิกคัก และเข้ามากระซิบกระซาบ
“อันนี้ดี บริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็เปลี่ยนชื่อไปด้วยเลยสิ บริษัทนั้นของผมก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดให้ดีว่าจะชื่ออะไร ก็เลยชื่อว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์หม่าชื่อ คิดไปคิดมาก็ไม่ค่อยน่าฟัง ในเมื่อตอนนี้เ้าพ่อเจียงเป็เถ้าแก่แล้ว แบบนั้นก็เปลี่ยนชื่อเป็บริษัทอสังหาริมทรัพย์ตี้ตูก็ดีแล้ว ฮ่าๆ ชื่อนี้สุดยอดมาก”
หม่าฉางหยางก็เข้ามาร่วมด้วย
เจียงไป๋ชอบชื่อนั้นก็แน่นอนว่าต้องเปลี่ยน นี่ก็เป็โอกาสเอาอกเอาใจเจียงไป๋
“แบบนั้นต้าชื่อเจี้ยก็เปลี่ยนชื่อเป็สถานบันเทิงตี้ตูด้วยเลย และเอาบริษัทบันเทิง คาราโอเกะ ไนต์คลับ ศูนย์อาบน้ำ ศูนย์นวดทั้งหมดเปลี่ยนเป็ตี้ตู รวมเป็สถานบันเทิงตี้ตู อย่างนี้ก็จะบริหารงานได้ง่ายแล้ว ฉันว่าเื่ของตี้ตูฉี่เย่กรุ๊ปพรุ่งนี้ก็จัดการได้แล้ว อย่างไรพวกเราก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคุณสมบัติพอ ธุรกิจรวมเข้าด้วยกันแล้วแบบนั้นก็บริหารได้สะดวกพอดี อืม ผมว่าประธานน่ะ ประธานเหยาเหมาะสม เธอเป็ประธาน คุณเป็ซีอีโอ พวกเราสองสามคนแบ่งกันเป็ประธานของบริษัทสาขาย่อย ให้โจวเจี๋ยควบตำแหน่งรองประธานก็ไม่ใช่ว่าดีเลยหรือ!”
เมื่อได้ยินทุกคนพูดอย่างนี้แล้ว ทางฉวีเจี๋ยก็ตบโต๊ะ หัวเราะเสียงดังและพูดมาอย่างนี้
ทุกคนมองหน้ากัน ในที่สุดก็ทยอยกันเห็นด้วย
ธุรกิจทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ชื่อของเจียงไป๋ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก รวมกันเป็ตี้ตู พรุ่งนี้ก็จะไปจัดการก่อตั้งตี้ตูกรุ๊ป เจียงไป๋เป็ซีอีโอ เหยาหลานถูกผลักดันให้เป็ตำแหน่งประธาน ควบตำแหน่งประธานบริษัทภาพยนตร์ตี้ตู โจวเจี๋ยเป็รองประธาน ในขณะเดียวกันก็เป็ประธานบริษัทขนส่งและชื้อกิจการตี้ตูออนไลน์ สำหรับหม่าฉางหยางกับหลี่เฉียงก็แบ่งเป็ผู้จัดการของบริษัทสาขาย่อย ฉวีเจี๋ยถูกให้รับตำแหน่งเป็ประธานของกลุ่มบริษัท บวกกับหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย
กลุ่มบริษัทของกิจการอันน่าทึ่งกลุ่มหนึ่ง ได้ก่อตั้งขึ้นในระหว่างโต๊ะจัดเลี้ยงของคนสองสามคนแล้ว
ใครๆ ก็คิดไม่ถึงว่า ในระหว่างที่คนสองสามคนเมามายก็ได้ปรึกษากันถึงกิจการตี้ตูที่จะก่อตั้งขึ้น และจะพัฒนาไปเป็ั์ใหญ่ที่ทำให้ใครๆ ก็จับตามองแค่ภายในเวลาสั้นๆ แล้ว
ตอนที่พวกเขาได้สติกลับมา ก็ยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้