“การหมุนจับรางวัลครั้งแรก รางวัลทั้งเก้าอย่างจะปรากฏบนตาราง เพื่อให้เ้าเข้าใจข้อมูลของรางวัลอย่างชัดเจน แต่ก็จะมีให้ดูเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งแต่ละช่องจะมีสีที่แตกต่างกันและระดับขั้นของรางวัลก็จะแตกต่างกันด้วย โดยจะมีสีดำ สีขาว สีฟ้า สีม่วง แล้วก็ยังมีสีทองที่อยู่ในระดับสูงขึ้น แต่นั่นเป็ประเภทของรางวัลขั้นสูง รางวัลขั้นต้นกับขั้นกลางจะไม่มีสีทอง แต่จะมีสีม่วงอย่างแน่นอน เ้าต้องสุ่มเอา หนุ่มน้อย เริ่มเถอะ จงเดินไปบนเส้นทางชีวิตอันสดใสของเ้า!”
‘หมุน!’
เจียงไป๋ะโอยู่ภายในใจอย่างอดไม่ไหว วินาทีต่อมาช่องสี่เหลี่ยมเก้าช่องที่อยู่บนเครื่องสล็อตแมชชีนนั้นก็เริ่มหมุน แต่ละช่องเลื่อนผ่านเข็มที่อยู่ตรงกลางไปอย่างรวดเร็ว สักพักความเร็วก็ค่อยๆ ลดลง แต่ช่องสี่เหลี่ยมสีต่างๆ ยังคงเลื่อนผ่านไปไม่หยุด
“ฉันต้องรวยในชั่วข้ามคืน รวยชั่วข้ามคืน … ”
เจียงไป๋มองช่องสี่เหลี่ยมที่เลื่อนผ่านเข็มสีขาวไปเรื่อยๆ เขาแอบครุ่นคิดอยู่ภายในใจ ทั้งยังพูดพึมพำขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งและจ้องมองช่องสีม่วงจนดวงตาแดงก่ำ
ช่องสีขาวเลื่อนผ่านเข็มไปอย่างช้าๆ “เงินหนึ่งแสนหยวน” “ One Night Stand” “ทักษะมวยสานต่าขั้นสูง” ผ่านไปทีละช่อง จนสุดท้ายดูเหมือนจะเป็ช่องสีดำที่เลื่อนมาตรงเข็มพอดี ทำให้เจียงไป๋หน้ามืดขึ้นมาทันที
“ให้ตายสิ!”
เจียงไป๋กระทืบเท้าอย่างทนไม่ไหว
ไอ้เครื่องบ้านี่ คิดไม่ถึงว่าจะไม่ให้อะไรเลย?
ไม่ให้อะไรเลย?
“เอ๊ะ? ไม่ใช่ … ”
เดิมทีเจียงไป๋เตรียมที่จะกระโจนเข้าใส่ แต่เขากลับพบว่าช่องสี่เหลี่ยมนั้นยังคงไม่หยุดเคลื่อนไหว แต่ความเร็วช้าลงจนแทบจะมองไม่ออก เมื่อครู่ตอนที่เขาโกรธจนเกือบจะด่าออกมา ช่องสีดำนั้นได้เลื่อนผ่านไปแล้ว และช่องสีม่วงที่มีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ได้มาอยู่ตรงกลางแทน
“ยินดีด้วยหนุ่มน้อย เ้าได้รางวัลสีม่วง ความสามารถพิเศษแค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลง!”
เสียงของระบบดังขึ้น น้ำเสียงคล้ายยียวนกวนประสาท และวินาทีต่อมาพลังอย่างหนึ่งก็ได้พุ่งเข้าไปในตัวของเจียงไป๋ จนทำให้เขารู้สึกปวดหัว ต่อมาความทรงจำต่างๆ ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น
เริ่มั้แ่ความทรงจำจากเล็กจนโตของเจียงไป๋ แม้แต่ความทรงจำใน่ทารกก็ล้วนปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน และชัดเจน เหมือนดั่งเพิ่งประสบมาไม่นาน และไม่ใช่แค่ความทรงจำของร่างปัจจุบันนี้ แต่ยังมีความทรงจำที่เขาเคยประสบมาในชาติก่อนอีกด้วย ซึ่งได้ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะความทรงจำเกี่ยวกับแม่ของเขาที่กำลังทำเกี๊ยวให้ในวัยเด็ก รสชาติของความสุขตอนที่ได้กินเกี๊ยวนั้น รวมทั้งเื่เล็กๆ น้อยๆ ในอดีต …
เจียงไป๋น้ำตาไหลพรากอย่างไม่รู้ตัว เพราะเื่ราวบางอย่างก็ย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว และคนบางคนก็มิอาจจะพบเจอได้อีก
เขาเช็ดน้ำตาแล้วคลึงขมับ เพื่อโยนอดีตทิ้งไปข้างหลังให้หมด ตอนแรกเขารู้สึกดีใจที่ได้รางวัลสีม่วงอันแสนลึกลับนี้ “แค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลง” เจียงไป๋เริ่มกลับมาสนใจชีวิตของตนอย่างจริงๆ จังๆ อีกครั้ง อย่างแรกเขาอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องรีบหาที่อยู่ใหม่
ถึงแม้ห้องเช่าราคาถูกๆ ในเขตช่างตงจะมีไม่มากนัก แต่ในเมืองใหญ่เช่นนี้จะหาห้องพักสักห้องไม่ได้เลยหรือ?
บุรุษย่อมต้องออกห่างจากที่ที่อันตราย ที่นี่อยู่ไม่ได้แล้วต้องรีบหาที่อยู่ใหม่ เจียงไป๋จัดสัมภาระของตนอย่างเรียบง่าย และถือคอมพิวเตอร์มือสองเก่าๆ เครื่องหนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องที่ตนอาศัยอยู่มากว่าครึ่งปี โดยพกเงินเก็บหมื่นกว่าหยวนของตนไปด้วย
ในหมู่บ้านระดับกลางๆ สิ่งแวดล้อมไม่เลวนัก ดูสงบปลอดภัย ใกล้ใจกลางเมือง การเดินทางสะดวก โดยรอบมีบรรยากาศคึกคัก ห้องพักเนื้อที่ร้อยกว่าตารางเมตร ก็ไม่จัดว่ากว้างขวางเกินไปนัก แต่ก็ดีกว่าบ้านโกโรโกโสที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
แน่นอนว่าค่าเช่าก็แพงกว่าหลายเท่าเช่นกัน
เมื่อจ่ายค่าเช่าแล้ว เจียงไป๋ก็พบว่ามีเงินเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันก็แค่พันกว่าหยวน ต่อไปหากเกิดอะไรขึ้น ก็คงจะไม่ลำบากเื่ที่อยู่เท่าไร เพราะเขาก็จ่ายค่าเช่าไปแล้วถึงสองเดือน
ไม่ใช่ว่าหาที่พักที่ถูกกว่านี้ไม่ได้ แต่แค่ชาติก่อนเจียงไป๋มีชีวิตที่ไม่เลวเลย มีรถ มีบ้าน มีเงินเก็บ และที่พักก่อนหน้านี้เขารับไม่ได้จริงๆ
“ชีวิตช่างน่าปวดหัว ไม่รู้ว่าไอ้หนูคนนี้มีชีวิตอยู่มาได้อย่างไร อายุตั้งยี่สิบสามแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง ั้แ่เรียนจบชั้น ม.ปลาย มาจนถึงตอนนี้ก็สี่ห้าปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีแค่พอกินพอใช้ งานการก็ยังไม่มั่นคง แถมยังเป็โสดอยู่ตัวคนเดียว คิดดูแล้วช่างน่าช้ำใจจริงๆ !”
เจียงไป๋จัดเก็บของให้เข้าที่ได้สักพักก็ค่ำแล้ว เขาถือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหนึ่งชาม กินเข้าไปและก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิชีวิตในตอนนี้ไปด้วย
ชีวิตที่แม้แต่จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ไม่กล้าเพิ่มไส้กรอกนี่มันแย่จริงๆ
“งาน รปภ.ก็คงทำไม่ได้ชั่วคราว แล้วฉันจะทำงานอะไรดีนะ?” เจียงไป๋อดที่จะพูดไม่ได้
เงินก็มีไม่มากแล้ว ทั้งยังสร้างเื่ไว้อีก งานก็ไม่มีทำ ทางด้านต้าชื่อเจี้ยก็ไปไม่ได้ชั่วคราว เพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็วพวกหลิวปินก็จะต้องไปหาถึงที่แน่นอน
คิดไปคิดมาถึงแม้จะไม่มีเื่นี้ เขายังจะอยากเป็ รปภ.ทำงานอยู่ในสถานที่บ้าๆ นั่นไปตลอดหรือ?
นี่ไม่ใช่ว่าดูถูกตนเองเกินไปหน่อยหรอกหรือ
“อ้อ? มีแล้ว … ”
ทันใดนั้นเจียงไป๋ก็คิดออก และรีบเปิดคอมพิวเตอร์ค้นหาอย่างรวดเร็ว สักพักก็ตบโต๊ะแล้วยืนขึ้นพลางหัวเราะเสียงดัง
เจียงไป๋พบว่าโลกที่ตนเข้ามาอยู่นี้ไม่เหมือนกับดาวโลกจริงๆ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะคล้ายกัน แต่รายละเอียดบางอย่างก็ยังคงแตกต่างกันอยู่ดี
เช่น ในด้านวรรณกรรมที่มีเพียงน้อยนิด ผลงานวรรณกรรมที่ได้รับความนิยมบนดาวโลกมีมากมาย แต่ในดาวดวงนี้กลับไม่เคยปรากฏอยู่
ซึ่งนี่ก็ทำให้เจียงไป๋ตาลุกวาวเหมือนได้ค้นพบขุมทรัพย์ทองคำมหาศาล เขามั่นใจว่าหากหยิบผลงานวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงบนโลกมาเขียนใหม่ที่ดาวดวงนี้ จะต้องโด่งดังอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นก็จะหาเงินได้มากมาย เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้วเจียงไป๋ก็อดกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้ ถึงแม้อุดมการณ์ของเขาจะมีมากมาย แต่ในความเป็จริงนั้นมันกลับเหือดแห้งมาก!
ตอนที่เจียงไป๋ตัดสินใจขโมยวรรณกรรม และกำลังคัดลอกอย่างดุเดือด เหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะจะได้ทั้งชื่อเสียงและกำไรมหาศาล แต่ในเวลาต่อมาเขาก็พบว่าชาติก่อนนั้นตนเองไม่มีวิชาความรู้อะไรเลยจริงๆ
มีเพียงความสามารถที่แค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลง เจียงไป๋จึงจดจำความทรงจำในชาติก่อนได้อย่างชัดเจน และเขาพบว่าชาติก่อนเขามัวแต่หาเงินจนลืมการอ่านหนังสือไปเลย
สี่ยอดวรรณกรรม?
พอเถอะ โลกใบนี้ก็มี!
โดยเฉพาะ … เจียงไป๋ไม่เคยอ่านเลย
แฮร์รี่ พอตเตอร์? นั่นมันเื่อะไร? หนังสือเด็กชัดๆ ใครจะอ่านล่ะ! ัหยก แปดเทพอสูรัฟ้า? ผลงานของอาจารย์จิน หรืออาจารย์กู่?
พอเถอะ นอกจากละครแล้ว ของอย่างนั้นเขาไม่เคยอ่านเลย ชาติก่อนก็มีพื้นฐานความรู้แค่ระดับ ม.ต้น หากดูหนังดูละครก็ยังพอทำได้ แต่จะให้อ่านหนังสือ? โดยเฉพาะหนังสืออย่างนี้ แบบนั้นก็พอเถอะ
และถึงจะเป็นิยายออนไลน์ที่โด่งดังมากเ่าั้ก็ตาม เจียงไป๋ก็ค้นพบอย่างเศร้าใจว่า วรรณกรรมที่ตนเคยอ่านมานั้นก็มีไม่น้อย แต่เื่ที่อ่านจนจบกลับมีแค่ไม่กี่เื่ โดยเฉพาะเื่ที่ดังๆ … เหมือนกับว่าจะไม่มีเลย
“นี่มันโศกนาฏกรรมของฉันชัดๆ !”
เจียงไป๋ตบหัวตนเองอย่างทนไม่ไหว เขาเสียใจกับการตัดสินใจในตอนแรก “พอแล้ว งานขโมยวรรณกรรมแบบนี้ พูดจริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้อยากทำนักหรอก คงต้องลองคิดหาทางอื่นดูสักหน่อย แต่เดี๋ยวนะ? ไม่ใช่ว่าฉันยังจำได้อยู่สองสามเื่หรือ หากจะใช้หาเงินก็ไม่น่าจะใช่เื่ยากอะไร!”
เจียงไป๋จัดลำดับความคิดของตนสักพัก เขาตัดสินใจล้มเลิกงานที่ดูเหมือนจะมีอนาคตมากที่สุดในตอนนี้ และลองคิดหาทางอื่น แต่ใน่วินาทีสุดท้ายเขากลับคิดออกอย่างรวดเร็วว่า ยังมีหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เขาอ่านจนจบแล้วจริงๆ … นั่นก็คือ กระบี่เทพสังหาร!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้