ดาบเรเปียร์ในมือของชายชุดดำก็พลันหักเป็สองท่อน ด้วยพละกำลังที่น่าเกรงขามของซุนเฟยทำให้เศษดาบกระเด็นปักเข้าร่างของชายชุดดำจนเืพุ่งออกมา
“ถอย”
ชายชุดดำพลันใกลัว
เดิมทีศัตรูที่เขาต้องสู้ด้วยก็ไม่ใช่ ‘มนุษย์เหล็ก’ อยู่แล้ว ััเมื่อกี้ยิ่งทำให้เขาเข้าใจว่าชายที่อยู่ตรงหน้าใช้ทักษะขวานได้ดีมากแค่ไหน แม้กระทั่งพละกำลังยังน่ากลัวกว่าเขาเสียอีก สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีโอกาสชนะเลย
หวือ!
ชายชุดดำโยนตะขอรูปร่างแปลกๆ ไปเกาะที่ขอบกำแพง จากนั้นก็ะโลงไปพยายามที่ออกจากสนามรบให้เร็วที่สุด เพื่อให้สลัดหลุดจากการไล่ฆ่าของซุนเฟย
แต่
“ในเมื่อมาแล้ว อย่าเพิ่งรีบไปสิ เ้ายังต้องอยู่ที่นี่!”
มีหรือที่ซุนเฟยจะยอมให้โอกาสเขาหนีไป ซุนเฟยหัวเราะอย่างเ็า เตะดาบเรเปียร์ที่ปักอยู่ที่พื้นข้างๆ
ชิ้ง!
ดาบพุ่งไปประดุจสายฟ้า
ดาบเรเปียร์หักๆ ทะยานออกไปกลางอากาศ แล้วเสียบทะลุด้านหลังชายชุดดำที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ ร่างของมันถูกปักแน่นอยู่บนกำแพงเมือง
แม้ชายชุดดำจะถีบขาหลบแต่ก็ไม่ทัน ในที่สุดเขาก็ตายไป
“เฮอะ ไอ้สารเลวเอ๊ย คิดจะหนีบิดาไปง่ายๆ ก็ควรหนีแต่ทีแรก เ้าคิดว่าเ้ามายึดเมืองใครกัน ไอ้เวรเอ๊ย...” ซุนเฟยเห็นผู้ชายคนนั้นถูกเสียบตายก็ร้องเฮอะออกมาอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะหันหลังไปไล่ฆ่าเหล่าข้าศึกต่อ
ตอนนี้เอง
วู้ดๆ!!!
เสียงแตรแปลกๆ ดังมาจากค่ายสีดำที่ตั้งอยู่นอกอาณาจักร
ด้านล่าง เหล่าข้าศึกชุดดำที่กำลังล้อมเมืองก็พากันถอยกลับเหมือนน้ำที่กำลังลดลง
“ข้าศึกถอยแล้ว!”
ทหารแซมบอร์ดที่เห็นเหตุการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะโห่ร้องออกมาอย่างยินดี
กลับกัน เหล่าทหารที่บุกโจมตี เมื่อเห็นว่ากองกำลังของตัวเองเลือกจะถอยหนี ชายเกราะดำที่เหลืออยู่บนกำแพงก็เข้าใจว่าตัวเองถูกกองกำลังเสริมทิ้งเสียแล้ว ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็รู้ชะตากรรมของพวกตนแล้ว ไร้ซึ่งเรียวแรงจะต่อต้าน พวกเขาโยนอาวุธลงกับพื้นแล้วคุกเข่ายกมือขึ้นเหนือหัวเพื่อยอมจำนน
เหล่าทหารเมืองแซมบอร์ดก็รีบเข้าไปจับกุม
ทว่าห่างออกไปจากหน้าประตูเมืองอีกสองร้อยกว่าเมตร การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่
ราชองค์รักษ์องค์าา นักรบระดับสามดาว แฟรงก์ แลมพาร์ดกำลังห้ำหั่นกับนักดาบคนหนึ่งที่ชื่อว่าแลนเดส บนร่างของทั้งสองคนปะทุพลังหนึ่งแดงหนึ่งน้ำเงิน ทุกที่ที่พวกเขาผ่านล้วนมีแต่ซากปรักหักพัง ช่างตระการตาดีแท้
ในบริเวณรอบๆ รัศมีสิบเมตรที่พวกเขากำลังปะทะกัน บรรยากาศคุกคามผู้คนราวกับคมมีดที่ทรงอานุภาพ
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้พวกเขา
ซุนเฟยตัดหัวเหล่าชายเกราะดำที่ยังไม่ยอมจำนนแล้วบุกเข้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็พุ่งไปด้านหน้า เขาคำนวณระยะห่างเพราะ้าที่จะไปช่วยแลมพาร์ด เขาเหวี่ยงขวานเพื่อสังหารนักดาบคนนั้น
จากการสังหารก่อนหน้านั้น ทำให้ซุนเฟยรู้สึกเป็ผู้ไร้ผู้ต้านทาน นี่ทำให้เขามั่นใจมากขึ้น
แต่ว่า
ไม่นานซุนเฟยก็ค้นพบการต่อสู้ที่เกินความคาดหมายของตัวเอง
ซุนเฟยเข้าใกล้บริเวณการสู้รบของทั้งสองคนนี้ ก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่พวยพุ่งมาจากด้านหน้า พลังสีแดงน้ำเงินที่พวยพุ่งออกมาคมกริบและทิ้งรอยขีดข่วนที่น่าใไว้บนกำแพงหิน ทำให้ซุนเฟยรู้สึกได้ถึงอันตราย
“ไม่ใช่คู่ต่อสู้!”
จากประสบการณ์จริงที่ได้สั่งสมมาในตอนที่ไล่ฆ่ามอนสเตอร์ในโลก Diablo ทำให้สมองของซุนเฟยคำนวนออกมาในพริบตา ไม่ว่าจะเป็แลมพาร์ดหรือนักดาบคนนั้นจะต้องมีพลังสูงกว่าตัวเองสองเท่าขึ้นไป ตัวเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอย่างแน่นอน
ในขณะที่ซุนเฟยคิด ก็มีเสียงดังขึ้นมา
“ฮ่าๆๆ นายท่านสั่งถอยทัพ วันนี้ข้าจะปล่อยให้เหล่าหนอนที่น่าเวทนาเช่นพวกเ้ามีลมหายใจไปอีกหน่อย รอจนกว่าเมืองจะแตกเสียก่อน เมื่อถึงคราวนั้นจะต้องมีการนองเื แม้แต่ไก่ก็ฆ่าไม่เว้น!”
หลังจากกล่าวทิ้งท้าย นักดาบคนนั้นก็ะเิพลังสีแดงในร่าง
ดูเหมือนเปลวไฟกำลังลุกไหม้ทั่งทั้งร่าง เขาตวัดดาบผลักแลมพาร์ดให้ถอยหลัง จากนั้นก็ฟันทหารแซมบอร์ดที่อยู่รอบๆ ขาดเป็สองท่อน เขาหัวเราะออกมาแล้วะโลอยออกไปนอกเมืองด้วยท่าทางหยิ่งยโส
ซุนเฟยทนมองผ่านไปไม่ได้
“ไอ้ลูกหมา ไม่เพียงฆ่าคนของบิดาแล้วยังทำตัวเก่งกว่าบิดาอีก บัดซบ คิดจะแย่งความเด่นดังจากบิดาไปงั้นหรือ? วอนหาที่ตายแล้วไอ้ลูกหมา!”
เขาใช้มุขเดิม ยืดขาออกไปเตะ
หวือ!
หอกเหล็กพุ่งออกไปราวกับลูกธนูฝ่าอากาศ เสียงแหลมคมพุ่งเข้าไปหานักดาบคนนั้นอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
“รนหาที่ตาย!”
นักดาบแลนเดสที่อยู่กลางอากาศเห็นดังนั้นก็พลันโมโห นอกจากนักรบระดับสามดาวแลมพาร์ดที่เป็คู่ต่อสู้แล้ว มดปลวกกล้าดีอย่างไรถึงได้ลงมือกับตัวเอง
เขาโมโหมาก
ร่างกายที่ลอยอยู่กลางอากาศหมุนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เตะหอกที่ลอยเข้ามา เหมือนนกอินทรีกระพือปีก ปัดหอกให้ลอยกลับมา
“ข้าจะให้เ้าตาย เพลิงสังหาร!”
คลื่นสีแดงราวกับแมกม่าที่ปะทุ นำพากลิ่นอายความตายที่ร้อนระอุพุ่งใส่หน้าของซุนเฟย
“ระวัง!”
แฟรงก์ แลมพาร์ด ร้องเตือนอย่างใ
เขาอยากจะช่วยมนุษย์เหล็กที่ปรากฏตัวออกมาช่วยฝ่ายตนเองต้านข้าศึก ใครจะคิดว่าเพียงเขาขยับตัวโคจรพลังจะมีผลกระทบกับาแที่เขาได้รับจากการต่อสู้เมื่อสิบปีก่อน ทำให้เขากระอักเืออกมาและไม่สามารถขยับร่างกายได้
แลมพาร์ดใจนหน้าถอดสี
อีกด้าน
“มาได้ก็ดี!”
แม้ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของศัตรูที่มีพลังมากกว่าตัวเองถึงสองเท่า แต่ซุนเฟยกลับรู้สึกตื่นเต้น ความหยิ่งผยองของคนเถื่อนส่งผลกระทบต่อนิสัยของเขา ทำให้เขาไม่คิดจะล่าถอย กลับกันมันทำให้เขาหัวเราะออกมาดังๆ ซุนเฟยไม่ยอมถอย ขวานั์สีดำในมือของซุนเฟยก็ค่อยๆถูกควงเป็วงกลมจนเกิดเสียงแหลมขับเคลื่อนพลังที่น่าเกรงขามประจันหน้ากับคลื่นพลังสีแดงที่ลอยเข้ามา
ตูม!
เสียงดังกึกก้อง เปลวไฟกระจายไปทั่วทุกสารทิศ
ซุนเฟยถอยหลังไปหลายสิบก้าวถึงจะตั้งตัวได้
แค่ก...
ซุนเฟยกระอักเืออกมา ย้อมหมวกชุดอัศวินเกราะหนักจนเป็สีแดง ร่างกายสั่นระริก
ทหารรอบข้างต่างพากันอุทานออกมาพร้อมกัน การโจมตีนี้ตัดสินแล้วว่าใครเหนือกว่า
นักรบมนุษย์เหล็กที่ไร้เทียมทานตรงหน้าของตัวเอง เขา...พ่ายแพ้แล้ว!
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าภายใต้ชุดอัศวินเกราะหนักคนนั้นจะมีหน้าตาแบบไหน แต่การต่อสู้ก่อนหน้านี้ของคนๆ นี้ได้รับความเคารพจากเหล่าทหารแซมบอร์ดทั้งหมด บรู๊คและเหล่าทหารรักษาพระองค์ที่กล้าหาญเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี ก็พากันกระโจนเข้ามาพร้อมจะสละชีวิตตัวเองปกป้องวีรบุรุษที่ช่วยแซมบอร์ดผู้นี้!
อีกด้าน
นักรบสามดาวแลมพาร์ดที่รู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้ตัวเขาเองไม่ได้เปรียบอะไรมากนัก ในการปะทะกับคู่ต่อสู้ที่มีพลังมหาศาลน่ากลัวราวกับั ที่พร้อมจะปะทุพลังออกมาได้ทุกเมื่อ ทำให้เขารู้สึกอ่อนล้า ร่างลอยอยู่กลางอากาศไร้ที่ยึดเหนี่ยว ถูกแรงกระแทกปลิวออกไป
“ตายซะ!”
แลนเดสไม่ยอมแพ้ มือขวาของเขาปล่อยตะขอรูปร่างแปลกตาไปเกาะที่กำแพงเมือง ออกแรงดึงร่างของเขาให้ลอยกลับมาตกที่กำแพงเมือง คลื่นพลังบนร่างก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
ภายใต้พลังอำนาจที่แสนกดดันนี้ บรู๊คและเหล่าทหารพยายามเข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ ทว่าก็ไม่อาจจะก้าวมาด้านหน้าได้ ในมือแลนเดสมีดาบยาวและมีเปลวไฟปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง คลื่นพลังที่ลุกไหม้แทงไปทางหัวของซุนเฟย เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องปลิดชีพไอ้คนที่ไม่รู้จักที่ตายคนนี้ มันกล้าดีอย่างไรถึงท้าทายอำนาจนักรบสามดาว เขาจะสั่งสอนมันด้วยความตาย
ทหารรอบข้างทุกคนใจนหน้าถอดสี
ใครๆก็คิดว่าซุนเฟยยากจะรอดพ้นจากการโจมตีนี้ได้
ทว่า
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ลูกพันธุ์ผสม เ้ามีความสามารถแค่นี้หรือ?”
ซุนเฟยเซเล็กน้อย เขาไม่หลบการโจมตีนี้หรือเพราะว่าเขาจะใกลัวจนกลายเป็ตัวโง่งมไปแล้ว ฉวยจังหวะที่ดาบยาวของแลนเดสแทงเข้ามาที่ไหล่ของตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในจังหวะที่เขาหัวเราะอย่างลำพอง ก็พลันคำรามออกมา
โฮก!
ทักษะคนเถื่อน 'คำราม'
พลังลึกลับและแปลกประหลาดก่อนหน้านั้นที่มาพร้อมเสียงคำราม ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แลนเดสตกตะลึง
ชั่วพริบตา เขารู้สึกว่าในใจของเขาก็พลันพรั่งพรูความหวาดกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้คลื่นพลังในร่างกายของเขาชะงัก
แลนเดสมองทะลุหมวกเหล็กอัศวินของศัตรู เขามองเห็นถึงแววตาที่บ้าคลั่งคู่นั้น
แววตาที่คมกริบประดุจมีด
“เ้าโง่ ตายไปซะ!”
ซุนเฟยฉวยโอกาสชกออกไปหมัดหนึ่ง พลังทั่วทั้งร่างกายต่างรวบรวมไว้ที่หมัดแล้วปล่อยออกไปในการโจมตีครั้งนี้
ถูกทักษะ 'คำราม' ก่อกวนทำให้จิตใจของแลนเดสมึนงงไปชั่วขณะ ทำให้เขาไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ เขาถูกชกเข้าที่หน้าอกอย่างโเี้ พลังมหาศาลทำให้เขาตอบโต้ไม่ทัน เพียงชั่วพริบตาเขาพ่นเืออกมาพร้อมกับร่างที่ลอยละลิ่วไปด้านหลัง....
ตูม!
ร่างแลนเดสชนเข้ากับกำแพงเมืองก่อนจะร่วงลงมา และดาบของเขายังคงปักคาอยู่บนไหล่ของซุนเฟย มันไม่ได้ถูกดึงออกไป
เขาได้รับาเ็หนัก ถึงแม้ว่านักรบระดับสามดาวจะมีคลื่นพลังปกป้องกาย แต่สำหรับแลนเดสเองก็ได้รับาเ็ไม่น้อยเลยทีเดียว เขายังคงอาเจียนออกมาเป็เื ในดวงตาเต็มไปด้วยความใและไม่อยากจะเชื่อ ในตอนที่เขาร่วงลงมาบนพื้น ต้องใช้ตะขอเกี่ยวกำแพงไว้ลดแรงต้านทานให้ร่วงลงพื้นอย่างช้าๆ
ด้วยอาการาเ็แบบนี้และความสูงขนาดนี้ แม้ว่าจะมีพลังอำนาจแต่ก็คงไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้แน่
ด้านล่างของกำแพง สีหน้าของแลนเดสมองไป้ากำแพงเมืองด้วยแววตาซับซ้อน เขาลังเลอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจหมุนกายหลบหนีจากไป
เื่ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขารู้สึกถึงยมทูตเรียกหาความตายอย่างชัดเจน ชายที่สวมชุดเกราะหนักคนนั้น แม้พลังจะไม่เทียบเท่าตัวเอง แต่ความบ้าคลั่งและจิติญญาการต่อสู้กลับทำให้เขาสูญเสียความกล้าที่จะกลับไปต่อสู้อีกเป็ครั้งที่สอง
บนกำแพงเมือง
เหล่าทหารมองไปที่ซุนเฟยที่ยืนอย่างผ่าเผยแม้ว่าจะมีดาบเสียบอยู่ที่ไหล่ แววตาของพวกเขาทั้งหมดนั้นมีทั้ง...
ชื่นชม ไม่อยากจะเชื่อ บ้าคลั่ง เร่าร้อน และบูชา...
ดวงตาสุกไสว เหมือนมองเห็นพระเ้าลงมาจุติบนโลกมนุษย์
แม้กระทั่งแฟรงก์ แลมพาร์ดที่เป็นักรบสามดาวยังระงับความเ็ปในร่างกายตัวเอง เขาจ้องมองมาที่ซุนเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและเคร่งขรึม
คู่ต่อสู้เมื่อกี้มีพลังที่น่าหวาดกลัวแค่ไหน มีเพียงเขาที่เห็นอย่างแน่ชัด ดังนั้นแลมพาร์ดเข้าใจอย่างชัดเจน ชายหนุ่มที่สวมชุดเกราะหนักตรงหน้า เป็ใครกันแน่!
และในตอนนั้นเอง ทุกคนก็อยากจะรู้ว่า
เขาเป็ใคร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้