บทที่ 13 แหวนคงหลิง
หลังจากพักที่โรงเตี๊ยม ลั่วถูก็ไปซื้อเครื่องมืออย่างดีมาจำนวนหนึ่ง เตรียมเปิดกล่องชั้นสูงใบนั้น
ต้องยอมรับเลยว่า คนที่ออกแบบกล่องใบนี้เ้าเล่ห์เหลี่ยมจัดไม่เบา ด้านนอกเป็กล่องไม้สวยงามแต่ภายในยังมีกล่องเหล็กชั้นสูงซ่อนอยู่อีกชั้น ราวกับไม่คิดจะให้เปิดเลย นอกกล่องทำกลไกได้ประณีตมาก มีรูเล็กๆ เก้ารู เรียงกันเก้ารู ต้องจิ้มพร้อมกันทีเดียวสามรู ถึงจะมีโอกาสเปิดกล่องใบนี้ได้ อีกทั้งในกล่องยังซ่อนเข็มพิษไว้หลายเล่ม ทุกครั้งที่กดผิด เข็มพิษจะถูกยิงออกมา
โชคดีที่ลั่วถูเตรียมพร้อมแล้ว อุตส่าห์ซื้อเกราะพังๆ มาด้วย หลังจากเข็มพิษถูกยิงออกมาสามครั้งก็ไม่มีสิ่งใดถูกยิงออกมาอีก ลั่วถูทำการทดลองไปเรื่อยๆ ถึงขนาดใช้เวลาไปหนึ่งชั่วยามจึงเปิดกล่องไม้ชั้นนอกได้ ที่จริงเขาจะใช้แรงทุบทำลายมันเสียเลยก็ได้ แต่เพราะไม่รู้ว่าของข้างในที่แท้คือสิ่งใด ถ้าเกิดของข้างในเสียหาย นั่นหมายถึงโศกนาฏกรรม ดังนั้น จึงทำได้เพียงลองทีละจุด และเมื่อเห็นว่าข้างในยังมีกล่องเหล็กชั้นสูงที่ไม่มีร่องรอยเปิดด้วยซ้ำ ทำเอาเขาถึงกับกุมขมับ นี่คือกล่องชีเฉี่ยวหลิง
กล่องชีเฉียวหลิงเป็สมบัติ คือหนึ่งในของเล่นสุดประณีตที่ปรมาจารย์หลิงจีจื่อสร้างขึ้น
ในบางตระกูลและบางเผ่าบนโลกชั้นสูงชอบใช้ของแบบกล่องชีเฉียวหลิงใส่สมบัติ เพราะถึงแม้จะถูกแย่งไป ก็ไม่อาจเปิดกล่องได้ง่ายนัก กล่องชีเฉียวหลิงตรงหน้าเขามีขนาดไม่เกินฝ่ามือ แม้จะไม่ใช่ของมีค่ามีราคาอะไรนัก แต่ในโลกชั้นล่างนี้ การได้ของเช่นกล่องชีเฉียวหลิงก็ไม่ใช่เื่ง่ายแล้ว
ก่อนมายังโลกชั้นล่าง ตอนที่เขาอยู่ในตระกูลร่ำเรียนศิลปะต่างๆ เคยมีอาจารย์ใช้กล่องชีเฉียวหลิงมาทดสอบพวกเขาด้วยซ้ำ
กล่องชีเฉียวหลิงทุกใบไม่มีรอยเปิด ดูคล้ายเป็เพียงก้อนโลหะทึบ แต่บนกล่องทุกใบจะมีลวดลายซ่อนอยู่ ลวดลายนี้แท้จริงแล้วคือวิธีเปิดกล่อง หากเรียงลำดับลวดลายได้ถูกต้อง หลังจากนั้นหยดเืสดของมนุษย์ลงบนผิวกล่อง และกล่องจะเปิดออกมาเอง แต่ถ้าเรียงลำดับผิด ทุกครั้งที่ทำผิด ลวดลายจะเปลี่ยนไปหนึ่งครั้งทันที และครั้งต่อไปจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น...
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการออกแบบกล่องนี้เป็ฝีมือของสิ่งเหนือธรรมชาติ ถึงขั้นที่ต้องใช้เืมนุษย์ถึงเปิดได้ ช่างเป็ความยึดติดต่อเผ่าพันธุ์ที่รุนแรงทีเดียว
ถึงเืของชนต่างเผ่าจะเปิดไม่ได้ สร้างความลำบากให้พวกเขาพอสมควร แต่ใช่จะต้องกังวลเื่ไม่มีเืมนุษย์เสียหน่อย เพียงจับมนุษย์มาสักคน พอฆ่าตายแล้ว อยากจะรีดเืมากเท่าไรก็ตามแต่้า
ความรู้สึกยึดติดต่อชนเผ่าที่โง่งม ทำให้พวกต่างเผ่าทุกคนที่มีกล่องชีเฉียวหลิง ต่างเลี้ยงเผ่ามนุษย์ไว้รีดเืโดยเฉพาะ ชื่อเรียกที่ฟังดูดีหน่อยก็คือทาสโลหิต
ทว่าจวบจนถึงบัดนี้ ผู้ออกแบบกล่องชีเฉียวหลิงยังคงยึดการออกแบบตามเดิม ไม่แก้ไขเลยสักนิด
การเปิดกล่องชีเฉียวหลิงเป็เื่ที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวด แต่ยังโชคดี กล่องยิ่งเล็กลวดลายก็ยิ่งเรียบง่าย กล่องตรงหน้าเป็แค่ของจากสำนักจ๋าอี้ในโลกชั้นล่างเท่านั้น
สำหรับลั่วถู ลวดลายชั้นต่ำแบบนี้ไม่นับว่ายากสักเท่าไร แต่เขาที่ยังไม่ได้เปิดิญญา กลับต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ถึงจะมั่นใจว่าลำดับพลังิญญาของลวดลายถูกต้อง จากนั้นกรีดนิ้วตัวเองวาดนิ้วไปตามลวดลายที่ปรากฏหนึ่งรอบ
เมื่อเืของเขาหยดลงบนกล่องเป็วงรูปร่างประหลาดตา ก็ได้ยินเสียงเบาๆ ดัง “คลิก” จากบนกล่องชีเฉียวหลิงและปรากฏรอยสำหรับเปิดขึ้นมารอยหนึ่ง
ลั่วถูอดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้ งานที่ละเอียดยิบย่อยแบบนี้ต้องใช้สมาธิสูงมาก และตอนนี้เขาก็เหนื่อยล้าจนแทบหมดแรง แต่ความอยากรู้กลับไม่ลดน้อยลงสักนิดว่าในกล่องนี้แท้จริงแล้วใส่อะไรไว้กันแน่
“แหวน?” เมื่อเขาเปิดกล่องออก ก็ทำเอามึนงงไปชั่วขณะ เพราะในกล่องโบราณสวยงาม กลับใส่แหวนที่ทำจากทองแดงขึ้นสนิมจนเกรอะวงหนึ่งเท่านั้น
“ไม่จริงน่า...” ลั่วถูเกาศีรษะ แหวนวงนี้ดูแล้วเก่าแก่มากทีเดียว แต่รอยสนิมสีเขียวที่เกาะอยู่บนแหวนทองแดง กลับปรากฏจุดด่างสีทองแดงอยู่บ้างราวกับว่าเป็ร่องรอยของการถูกเช็ดทำความสะอาดอย่างไรอย่างนั้น
กล่องชีเฉียวหลิงระดับต่ำกล่องหนึ่งมีราคามากพอจะแลกกับยาเปิดิญญาได้ถึงสามเม็ด แต่ในกล่องที่ล้ำค่าเช่นนี้กลับใส่แหวนที่ดูธรรมดาใกล้พังวงหนึ่งเสียได้ ทำเอาลั่วถูอยากเอาหัวโขกกำแพงให้มันรู้แล้วรู้รอด
“นี่ล้อข้าเล่นหรือ? เพื่อเ้าข้าถึงได้ทิ้งหูที่แลกได้ตั้งสามร้อยคะแนนเชียว แต่เ้ากลับให้ของเล่นน่าแขยงกับข้าตอบแทนเนี่ยนะ?” ลั่วถูกลิ้งแหวนเล่นไปมาบนฝ่ามือมาครึ่งวันแล้ว ก็ไม่เห็นมีสิ่งใดพิเศษ นอกจากเื่ที่้ามีอักขระแปลกๆ ก็ไม่มีอะไรพิเศษอีกเลย อักขระพิลึกพวกนั้นเขาก็นั่งเดามาครึ่งวันแล้ว มีเพียงตัวอักษรที่เขามั่นใจถึงเจ็ดส่วนว่าเป็อักษร “หลิง” ส่วนอักขระอื่นเขาไม่รู้จักเลยสักตัว
บางทีอักขระพวกนั้นคงเป็ชื่อของแหวนวงนี้กระมัง ลั่วถูคิดจะสวมแหวนพังๆ นี้ลงบนนิ้วของเขา แต่ก็พบว่ามันใหญ่เกินไปหน่อย จึงได้แต่หมุนอย่างหลวมๆ อยู่ที่นิ้วอย่างช่วยไม่ได้ จึงคิดจะหมุนๆ บีบๆ ปรับขนาดให้เล็กลงเสียหน่อย แต่พอหมุนได้เพียงสองรอบ ที่นิ้วกลับรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีราวกับมีเข็มจิ๋วแทงเข้าไปในนิ้วของตน ได้แต่กรีดร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ รีบถอดแหวนออกทันที และพบว่าที่โคนนิ้วมีรูเข็มขนาดเล็กอยู่รูหนึ่ง เืหนึ่งหยดค่อยๆ ซึมออกมา พอมองเห็นว่าเืเป็สีแดงสด ก็หมายความว่าน่าจะไม่ได้ถูกพิษ ทำให้เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ความสงสัยกลับผุดขึ้นมาแทนที่ “เข็มมาจากไหนกัน...?”
ลั่วถูหมุนแหวนพลิกไปพลิกมาเพื่อตรวจสอบอีกรอบหนึ่ง แต่กลับไม่เจอกระทั่งขนสักเส้น ถึงแม้แหวนจะเก่าแก่มาก แต่พื้นผิวกลับเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ
“บ้าเอ๊ย...” ลั่วถูตั้งใจพิจารณารูเล็กจิ๋วบนนิ้วของตน เืหยดนั้นก็ยังอยู่ เขาไม่ได้คิดไปเอง เช่นนั้นแสดงว่าแหวนวงนี้มีปัญหาแน่นอน เพียงแต่ปัญหาอยู่ตรงไหนนี่สิ เขารู้สึกมึนงงเล็กน้อย คิดแล้วคิดอีก ลองเอาแหวนสวมลงบนนิ้วตัวเองอีกรอบอย่างระมัดระวัง ครั้งนี้ ใจของเขาจดจ่ออยู่กับแหวน คิดจะตรวจดูว่าข้างในมีลูกเล่นอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ถึงเจาะนิ้วของตนได้ แต่เมื่อจิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับแหวนทั้งหมด ทันใดนั้นเอง ราวกับจิตใจของเขาถูกดูดเข้ามาในหลุมดำ จากนั้นปรากฏเป็มิติพิเศษแห่งหนึ่ง มีลักษณ์เป็สี่เหลี่ยม เหมือนกับกล่องขนาดั์
“นี่คือที่ไหน? มันเกิดอะไรขึ้น?” ลั่วถูใมาก แหวนประหลาดวงนี้ถึงขนาดดูดจิตใจของเขาเข้ามาในมิติประหลาดที่ดูเหมือนกับกล่องใบหนึ่งได้ แต่ว่าความใของเขาคงอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่เขาใ ก็คิดแต่จะให้จิตหลุดออกจากที่นี่ให้ได้ เพียงครู่เดียวก็กลับเข้าร่างคืน แหวนในมือยังคงเป็แหวนธรรมดาวงหนึ่งเช่นเดิม
“สมบัติมิติ...” อย่างไรเสียชาติกำเนิดของลั่วถูก็เป็ถึงเผ่าระดับสี่ นั่นเป็โลกชั้นสูง ไม่ผิดแน่ ในสมองของเขาปรากฏชื่อเรียกหนึ่งขึ้นทันที ชื่อนั้นคือสมบัติมิติ เขาพยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ตื่นเต้นจนเกิดไป ทำให้จิตของตนไปัักับแหวนวงนี้อีกครั้ง ผลลัพธ์ก็คือเขาได้เห็นมิติที่ดูเหมือนกล่องอีกครั้ง มันมีพื้นที่กว้างนับสิบกว่าจั้ง มิติในสมบัติมิตินี้ใหญ่กว่าที่เขาเคยได้รู้มามาก เขาจำได้ว่าในตระกูลของเขาก็มีสมบัติมิติเช่นกัน อีกทั้งยังมีหลายชิ้น แต่นอกจากผู้นำตระกูลและเหล่าผู้าุโไม่กี่คน คนอื่นไม่มีคุณสมบัติพอจะ แต่สมบัติมิติของพวกเขาก็มีความกว้างแค่ไม่กี่ฉือ เท่าที่รู้มิติของผู้นำตระกูลจะกว้างกว่าของคนอื่น แต่จากการวิเคราะห์ข่าวที่เขาเคยได้ยิน เมื่อลองคำนวณก็มีพื้นที่มิติก็มีแค่สองหรือสามจั้งเท่านั้น แต่สิ่งที่อยู่ในมือเขามีพื้นที่ถึงสิบกว่าจั้ง มูลค่าย่อมไม่ใช่เพียงแค่คูณสิบเท่า แต่เป็หลายร้อยเท่า หรือกระทั่งอาจถึงหลายพันเท่าด้วยซ้ำ
“เก็บ...” เมื่อจิตของลั่วถูขยับ ราวกับแหวนส่งแรงดึงดูดประหลาดออกมา เก็บกล่องชีเฉียวหลิงเข้าไป เมื่อเคลื่อนจิตอีกรอบ ก็เก็บโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ในห้องเข้าไป... ณ เวลานี้ ลั่วถูแทบดีใจจนะโโลดเต้น นี่คือสมบัติมิติของจริง แถมเขายังใช้มันได้ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดิญญาด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาดีใจจนเนื้อเต้นได้อย่างไร เขาเคยได้ยินผู้าุโในตระกูลกล่าวว่าสมบัติมิติเหล่านี้ต้องเปิดิญญาก่อนถึงจะใช้ได้ ต้องใช้พลังิญญาถึงจะใช้งานได้ แต่แหวนในมือเขาอาศัยเพียงความคิดก็เก็บสมบัติเข้าไปในแหวนได้แล้ว นี่มันเหนือกว่าขอบเขตความรู้ที่เขามีไปมากทีเดียว
คราวนี้ลั่วถูไม่ได้สงสัยแล้วว่าทำไมเผ่ามารและเผ่าปีศาจถึงได้ร่วมมือลอบโจมตีป้อมมู่สือ และไม่แปลกใจว่าทำไมใต้เท้าตงจื่อถึงพายอดฝีมือของตนสู้จนตายเพื่อปกป้องไม่ให้ของชิ้นนี้ตกไปอยู่ในมือของเผ่าปีศาจอย่างเด็ดขาด นั่นก็เพราะสมบัติมิติชิ้นนี้คืออาวุธเทพ มันช่างสูงส่งเกินกว่าคำว่าล้ำค่ามากมายนัก
ลั่วถูอดรู้สึกโชคดีอยู่ในใจไม่ได้ โชคดีที่ก่อนเข้าเมืองทิ้งของที่เกี่ยวข้องกับตงจื่อไปทั้งหมด กระทั่งดาบที่ซ่งตงหยิบติดมือก็ทิ้งไปด้วย พกมาแค่ดาบของเผ่ามารสองเล่มเท่านั้น เรียกได้ว่านี่คือสินาของพวกเขานั่นเอง ส่วนเขาก็หยิบเอาหน้าไม้สังหารเผ่ามารไปด้วย ของพวกนี้ย่อมไม่ทำให้คนสงสัย ส่วนของที่เกี่ยวกับตงจื่อก็ทิ้งลงแม่น้ำทั้งหมดเพื่อที่จะได้ไม่มีใครหาเจอ ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้ตายไปก็ไม่เหลือหลักฐาน และไม่มีใครฉุกคิดว่าเป็ฝีมือของเขาแน่นอน
“ไม่ได้การ ต้องรีบออกจากเมืองม่อหลาน” ลั่วถูตัดสินใจกลับไปดูที่ศิลากำเนิดเทพอีกครั้ง จากนั้นหนีออกจากสนามรบฝานเหริน ไปอยู่ที่สำนักจ๋าเสวียและค่อยๆ รวบรวมวัตถุดิบเพื่อประเมินว่าจะเชิญคนมาปรุงยาเปิดิญญาได้หรือไม่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้