เต๋อเฟยถลึงตามองเสียนเฟย ก่อนจะหันไปเอ่ยกับฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ทูลฝ่าา หม่อมฉันมักจะมีความรู้สึกว่าพี่ซูเฟยทรงไม่ชอบแม่นางหนิง ไม่แน่ว่า…”
“พี่สาว ท่านจะใส่ร้ายพี่ซูเฟยเช่นนี้ไม่ได้นะเพคะ พี่ซูเฟยเป็ถึงพระสนม จะวางยาพิษตัวเองเพื่อใส่ร้ายบ่าวคนหนึ่งได้อย่างไร” เสียนเฟยมองเต๋อเฟยอย่างไม่ใคร่พอใจนัก
เต๋อเฟยได้ฟังก็คิดในใจว่า ก็จริง ซูเฟยเป็คนรักตัวกลัวตาย ไม่น่าเอาชีวิตมาล้อเล่นเพื่อใส่ร้ายหนิงมู่ฉือ ทันใดนั้นสีหน้านางเปลี่ยนเป็กระอักกระอ่วน ก่อนจะหันไปจ้องหนิงมู่ฉือเขม็ง
จ้าวซีเหอแอบดูเหตุการณ์อยู่ด้านนอก เขารู้สึกเหงื่อตกแทนหนิงมู่ฉือ เขามองร่างบอบบางของนางที่คุกเข่าอยู่กับพื้น ในใจปวดร้าวจนแทบจะแตกสลายอยู่รอมร่อ
เวลานี้เองมือของซูเฟยมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินที่สังเกตเห็นก่อน เขาหันไปมองพลางเรียกด้วยน้ำเสียงห่วงใย “สนมรัก เ้าฟื้นแล้วหรือ”
ซูเฟยยกมือนวดศีรษะที่ปวดตุบๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปที่ท้อง นางค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง เมื่อเห็นฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน น้ำตาพลันไหลออกมา “ฝ่าา มาแล้วหรือเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินพยุงซูเฟยให้นั่งบนเตียง “ตอนนี้สนมรักรู้สึกอย่างไรบ้าง”
ครั้นซูเฟยหันไปเห็นหนิงมู่ฉือ ะโโวยวายออกมาอย่างโรยแรง “เ้าให้ข้าทานอะไรเข้าไป! เหตุใดข้าถึงได้เป็เช่นนี้!”
จากนั่นหันไปฟ้องฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ทูลฝ่าา เป็เพราะหม่อมฉันทานปิ่งตัดิญญาของนางถึงได้เป็เช่นนี้เพคะ!”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินโบกมือเพื่อให้นำตัวขันทีผู้ทดสอบพิษเข้ามา จากนั้นชี้ไปที่ปิ่งซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ “เ้าลองตรวจสอบดูสิว่าปิ่งนี้มีพิษหรือไม่”
ขันทีผู้นั้นพยักหน้า ก่อนจะเอาเข็มเงินออกมา ตรงไปที่ปิ่งตัดิญญา ขันทีจิ้มเข็มลงไป เมื่อดึงออกมา ปรากฏว่าเข็มเปลี่ยนเป็สีดำ!
ซูเฟยเห็นเช่นนั้นเอามือกุมท้องอย่างเ็ป อาละวาดกวาดกาน้ำชาและถ้วยชาซึ่งวางอยู่บนโต๊ะตกพื้นระเนระนาด ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทางน่าสงสารกับฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ฝ่าา พระองค์ต้องช่วยทวงความยุติธรรมให้หม่อมฉันนะเพคะ พระองค์ต้องช่วยหม่อมฉันนะเพคะ”
หมอหลวงรีบวิ่งเข้ามา ก่อนจะจับซูเฟยดื่มยาหนึ่งขวด
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยว “บังอาจนัก! หนิงมู่ฉือ เ้ากล้าวางยาพิษสนมของเรา! สมควรได้รับโทษ!”
ครั้นเห็นฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินมีท่าทีโมโห ทุกคนรีบคุกเข่าลงกับพื้น หนิงมู่ฉือที่น้ำตานองหน้า กัดฟันพยายามเอ่ยแก้ตัวให้ตัวเองอีกครา “ขอฝ่าาได้โปรดทรงวินิจฉัยด้วย ขอได้โปรดทรงสืบสวนเื่นี้ให้กระจ่าง บ่าวกับพระสนมซูเฟยไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดบ่าวถึงต้องวางยาพิษพระสนมด้วย อีกประการ พระสนมทานปิ่งตัดิญญาเข้าไปหลายชิ้น เหตุใดถึงเพิ่งมามีอาการตอนนี้ และถ้าหากหม่อมฉันอยากให้พระสนมเสียชีวิตจริงๆ จะใช้วิธีการที่เปิดเผยเช่นนี้หรือเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ฟัง องค์หญิงซีเยวี่ยเห็นเช่นนั้นลุกขึ้นยืน ตรงเข้าไปหาหนิงมู่ฉือก่อนจะะโใส่หน้าเสียงดัง “บังอาจ! เ้าโกรธแค้นพี่ซูเฟย เพราะพี่ซูเฟยจับตัวเ้าไปทรมานอยู่ในห้องมืด อยู่ต่อหน้าฝ่าาเช่นนี้เ้ายังจะกล้าพูดจาโกหกอีก ช่างน่าสั่งตัดลิ้นนัก!”
เสียนเฟยมองปิ่งตัดิญญาซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ยิ้มอย่างเย้ยหยันขณะลูบต่างหูหยกเล่น “สมกับชื่อปิ่งตัดิญญา ทานเข้าไปแล้วตัดิญญาสมชื่อ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินมองเหตุการณ์วุ่นวายในห้องอย่างยุ่งยากใจ ก่อนจะเอ่ยคำสั่งลงโทษหนิงมู่ฉือ “นำตัวหนิงมู่ฉือไปขังคุกหลวงเอาไว้ก่อน เพื่อรอวันไต่สวนอีกที”
เอ่ยจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินกลับไปยังตำหนักเจินหลง ซูเฟยมองตามหลังพร้อมกับทำมือถวายความเคารพ จากนั้นก็หมดสติไปอีกรอบ
เสียนเฟยเห็นฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินจากไปแล้วก็คิดว่าที่นี่คงไม่มีเื่สนุกให้ชมอีกแล้ว จึงลุกขึ้นยืน ยิ้มเยาะหนิงมู่ฉือที่ยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้นผาดหนึ่ง ก่อนจะเดินไปตบไหล่เต๋อเฟย แล้วถึงค่อยเดินจากไปอย่างโอหัง ระหว่างที่เดินพูดพร้อมกับยิ้มกับนางกำนัลข้างตัวไปด้วยว่า “ไปเถิด ป่านนี้ลูกสามของข้าคงหิวแล้ว”
เต๋อเฟยกัดฟันด้วยความแค้นใจ ตรงเข้าไปหาหนิงมู่ฉือ บีบคางให้เงยหน้าขึ้นมามองหน้านาง ก่อนจะถลึงตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน ไม่มีอีกแล้วท่าทีอ่อนโยนมีเมตตาดุจมารดาเช่นก่อนหน้านี้ “นังบ่าวสารเลว ข้าประเมินเ้าสูงเกินไปจริงๆ!”
หนิงมู่ฉือยกยิ้มมุมปากอย่างขมขื่น ในใจตอนนี้รู้สึกเ็ปยิ่งนัก นางไร้เดียงสาเกินไป ที่เต๋อเฟยทำดีกับนาง เพราะ้าจะหลอกใช้นาง หากวันนี้พระสนมซูเฟยเสียชีวิต คาดว่าเต๋อเฟยไม่เพียงไม่ช่วยนาง แต่จะยิ่งเหยียบนางให้จมดินเสียด้วยซ้ำ วันนี้ซูเฟยเพียงถูกพิษ เต๋อเฟยที่กลัวจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งยังมีท่าทีโกรธแค้นเสียปานนี้
นางมองทหารองครักษ์ที่มาพานางไปยังคุกหลวงอันมืดทึบ จากนั้นให้นางเปลี่ยนเป็ชุดนักโทษที่สกปรก
นางถูกพาตัวไปยังห้องห้องหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูดังปึง สองตาของนางก็มองเห็นแต่ความมืด และรับรู้ได้ว่ามีหนูหลายตัววิ่งเล่นไปทั่ว ภายในคุกทั้งมืดทึบและเย็นชื้น นางยกมือกอดตัวเองเอาไว้อย่างสิ้นหวังและไร้ความช่วยเหลือ
หัวหน้าคุกหลวงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างดูถูก “คนที่เข้ามาในนี้ก็เหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง แม่นาง เ้าอยู่สำนึกผิดในนี้เถิด”
นางรู้สึกว่าตอนนี้ตัวนางช่างน่าหัวร่อเหลือเกิน นางจึงยิ้มเยาะตัวเองอยู่ในความมืด ชีวิตของนางมีแต่เื่เศร้า นางรู้สึกผิดต่อท่านพ่อท่านแม่ที่อยู่บน์เหลือเกิน นางยังไม่ทันได้ทวงความยุติธรรมคืนให้สกุลหนิงก็ต้องเข้ามาอยู่ในคุกหลวงที่ราวกับขุมนรกนี้แล้ว
อีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน จ้าวซีเหอสำรวจไปทั่วตำหนักิฉืออย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นหมอหลวงเดินออกมาจากภายในตำหนักราวกับคนที่เกรงกลัวความผิด เขาจึงเดินตามไป ครั้นเห็นว่าแถวนี้ไม่มีใครอยู่ จึงพุ่งเข้าไปหาหมอหลวงจากทางด้านหลัง แล้วเอามือปิดปากอีกฝ่ายเอาไว้
หมอหลวงใจนทำล่วมยาตกลงบนพื้น สองมือชูขึ้น เขาจ่อมีดสั้นไปที่คอของหมอหลวง ก่อนจะลากไปยังที่ลับตาคน
เมื่อหมอหลวงเห็นว่าเป็จ้าวซีเหอให้ตระหนกใจนเกือบิญญาจะออกจากร่าง ตัวสั่นเทา ใบหน้าใกลัวอย่างเห็นได้ชัด “ซื่อ…ซื่อจื่อ…”
จ้าวซีเหอเอ่ยข้างหูหมอหลวงด้วยน้ำเสียงเ็า “บอกมาว่าพระสนมซูเฟยถูกพิษใดเข้าไป!”
ได้ยินคำถาม ตัวของหมอหลวงสั่นเทายิ่งกว่าเดิม พร้อมทั้งคุกเข่าลงไปกับพื้น “ข้าน้อย…ข้าน้อยไม่ทราบขอรับ!”
“ยังจะกล้าโกหกข้าอีก!” เขาขมวดคิ้ว ชักเท้าถีบหมอหลวงทีหนึ่งด้วยความโกรธจัด หมอหลวงกลัวจนแทบจะฉี่ราดออกมา ก่อนจะถูกกระชากตัวให้ลุกขึ้นยืน
อีกด้านหนึ่ง ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินเดินอย่างกริ้วจัดกลับมายังตำหนักเจินหลง เมื่อเห็นท่านอ๋องมารอเข้าเฝ้า ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มขณะเดินตรงเข้าไปหา “ท่านอา”
ท่านอ๋องหมุนตัวหันไปทางเสียง เมื่อเห็นฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินก็เอ่อด้วยน้ำเสียงร้อนใจออกมา “ฝ่าา นางหนูหนิงทำความผิดใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินให้ความสำคัญกับเื่นี้มาก เมื่อได้ยินคำถามนี้ คิ้วขมวดเป็ปมแน่น ขณะสั่งให้ขันทีนำเก้าอี้มาให้ท่านอ๋อง “ท่านอา หลักฐานในตอนนี้ เรา…”
ท่านอ๋องมีหรือจะไม่รู้ถึงความลำบากของฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ฝ่าา ไม่ว่าพระองค์อยากจะทรงตรัสคำใด กระหม่อมก็เข้าใจดีพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าาให้เวลากระหม่อมสักหน่อยได้หรือไม่ นิสัยของนางหนูหนิงเป็อย่างไรกระหม่อมรู้ดี นางไม่มีทางทำเื่แบบนี้ได้แน่ บางทีนี่อาจจะเป็เื่เข้าใจผิดกัน ทรงรอให้กระหม่อมสืบเื่นี้ให้แน่ชัดก่อนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เอ่ยจบ ท่านอ๋องไอออกมาหลายครั้งติดต่อกัน ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินจึงรู้ทันทีว่าท่านอ๋องสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงนัก จึงรีบสั่งให้ขันทีไปนำน้ำชามาให้ “ท่านอาวางใจเถิด เราสั่งให้ขังหนิงมู่ฉือไว้ในคุกหลวงก่อน ถ้ายังสืบไม่รู้ความจริง เราจะยังไม่สั่งลงโทษนางแน่นอน”
ท่านอ๋องได้ยินเช่นนั้นก็วางใจ ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้