แน่นอนว่าหากหลินฟู่อินไม่มีเงิน ฝั่งบ้านหลินก็คงไม่นำนางมานับแล้วไปกดดันเอากับบ้านสองแทน
เมื่อท่านปู่หลินเห็นหลินฟู่อินตอบรับแล้วก็ให้รู้สึกเ็ปขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความประหลาดใจ หรือเ้าลูกคนเล็กจะทำเงินได้มากมายตลอดหลายปีมานี้ตามที่พวกชาวบ้านลือกันจริงๆ?
แต่เื่เหล่านี้มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกแล้ว…
หลินต้าเหอรับสัญญาแบ่งบ้านมา แต่สีหน้านั้นมิได้มีความสุขเลย เฝิงซื่อดูกึ่งเศร้ากึ่งดีใจ มีเพียงสองพี่น้องอาเฝิงกับอาฝางเท่านั้นที่ร้องไห้ดีใจ
หลินฟู่อินอยู่ในกลุ่มผู้เยาว์ นางจึงมิได้กล่าวอะไร อีกทั้งนางยังได้เห็นลักษณะนิสัยของหลินคนรองมามากพอแล้ว นางจึงพาพี่น้องอาเฝิงอาฝางกลับไปยังห้อง
ยายหลี่เห็นเช่นนี้แล้ว นางก็หันไปเตรียมห้องไว้ให้สามีภรรยาหลินต้าเหอสำหรับพักในคืนนี้ทันที
หลินฟู่อินคิดว่าคืนนี้นางจะนอนกับอาเฝิงและอาฝาง ดังนั้นอาเฝิงและอาฝางจึงมีโอกาสได้เห็นเตียงไม้ยาวอันหรูหราในห้องของนาง รวมไปถึงมุ้งสีชมพูที่ปกคลุมมันอยู่ด้วย
ในห้องยังมีโต๊ะประทินโฉมที่ทำจากไม้ โดยที่โต๊ะยังมีกระจกทองแดงฝังเอาไว้
ข้างเตียงมีตู้เสื้อผ้าหลายตู้ และข้างๆ ตู้เสื้อผ้าก็มีชั้นวางของลายเรียบง่ายอยู่อีกสองชั้น
พี่น้องทั้งสองต่างก็อึ้งไป
แม้เแต่เสี่ยวเฝิงผู้เป็บุตรีคนเล็กของหัวหน้าหมู่บ้านก็ยังไม่มีห้องที่หรูหราเช่นนี้เลย
เพราะห้องของนางมีเพียงชั้นวางของที่บนชั้นวางนั้นมีเพียงสินสมรสที่แม่ของนางได้รับมาตอนแต่งเข้าตระกูล และตู้เสื้อผ้าที่นางภาคภูมิใจเท่านั้น
“น้องฟู่อิน บ้านของท่านช่างสะอาดนัก อาฝางกับข้าไม่น่าจะเหมาะที่จะอยู่ที่นี่เท่าใดนัก” อาเฝิงหวาดหวั่นแล้วจึงดึงชายเสื้อนางอย่างหวาดกลัวด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
หลินฟู่อินมองนาง แล้วจึงเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดกลางเก่ากลางใหม่สองชุด ยื่นมันให้กับสองพี่น้องแล้วจึงกล่าว “พวกเ้าตัวเท่ากันกับข้า แต่ข้าอ้วนกว่าพวกเ้านิดหน่อย นี่เป็ชุดที่ข้าใส่เมื่อปีที่แล้ว ข้าให้พวกเ้า เดี๋ยวข้าจะไปอาบน้ำก่อน แล้วพวกเ้าค่อยอาบต่อนะ”
นางบอกว่าสองพี่น้องมีขนาดตัวใกล้เคียงกับนางก็จริง แต่ในความเป็จริงแล้ว ทั้งสองนั้นตัวเตี้ยกว่านาง ทั้งยังผอมแห้งกว่าเมื่อเทียบกับนางมาก
“ให้พวกข้าใส่ได้หรือ?” อาเฝิงมองและััชุดที่หลินฟู่อินยื่นให้นางและน้องสาว ชุดในมือยังดูใหม่อยู่เลย
สายตาของนางฉายประกายความถวิลหา มือยื่นออกไปััผ้าโดยไม่รู้ตัว
วัตถุดิบคุณภาพดี เพียงััก็รู้สึกดีแล้ว สมแล้วที่เป็ผ้าเนื้อดี
ใจของอาเฝิงหม่นหมองลง ชุดของฟู่อินนั้นต่างจากที่สองพี่น้องใส่อยู่ ชุดของทั้งสองเป็เพียงชุดเก่าๆ ของมารดาที่มีรอยปุปะเต็มตัวจากการใช้งาน
เมื่อฟู่อินเห็นเช่นนี้แล้ว นางจึงเม้มปาก สีหน้าดูเศร้าสร้อยลง ก่อนจะกระซิบแ่เบา “ท่านแม่ของข้าเคยทำชุดไว้ให้ข้ามากมายในตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ แต่ข้าอ้วนขึ้นจนใส่ชุดเ่าั้ไม่ได้แล้ว พวกเ้าเอาไปใส่เถิด”
สองพี่น้องที่รู้ดีว่านางเพิ่งสูญเสียมารดาไปก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
อาฝางจึงกล่าวปลอบ “น้องฟู่อิน หากไม่ถือสา จะให้แม่ของพวกข้าเป็แม่ของเ้าด้วยก็ได้นะ…”
ฟู่อินหันกลับไปมองนาง แล้วเมื่อได้เห็นั์ตาดำขลับอันใสกระจ่างแต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจนั้นแล้ว นางจึงอดยิ้มออกมาไม่ได้
“แต่น้องฟู่อิน คืนนี้ให้พวกข้าได้นอนกับท่านแม่เถิด พวกข้าสกปรกเกินกว่าที่จะนอนบนเตียงสะอาดเช่นนี้ได้…”
“พวกเ้าก็สะอาดสะอ้านดีมิใช่หรือ” หลินฟู่อินปฏิเสธคำดูถูกตัวเองของอาเฝิงทันที นางยิ้มให้ “พวกเราเป็พี่น้องบ้านเดียวกัน จะสนเื่สายตาภายนอกเช่นนั้นไปทำไมเล่า”
อาเฝิงก้มหน้าลงอย่างเอียงอาย
หลินฟู่อินไปอาบน้ำ และเมื่อนางกลับออกมา นางจึงบอกให้สองพี่น้องไปอาบต่อ
จากนั้นนางจึงไปหาเสี่ยวเป่าและเสี่ยวเป้ย เ้าตัวน้อยทั้งสองช่างนอนหลับอย่างสงบนัก ด้านข้างมียายหลี่คอยพัดไล่ยุงให้อยู่
เมื่อเห็นนางเดินมา ยายหลี่จึงบอกนางเสียงเบาว่า “เ้าก็ไปนอนเสีย เด็กสาวทั้งสองนั้นไม่รู้จักวิธีดูแลเด็ก ให้คนเฒ่าคนแก่อย่างข้าจัดการไปดีกว่า”
หลินฟู่อินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
นางหมายความตามที่พูดมาจริงๆ
ยายหลี่ว่าเช่นนั้นแล้วจึงดูแลน้องๆ ต่อแทนนาง ทั้งที่การดูแลเด็กเล็กเช่นนี้มันไม่ใช่หน้าที่ของคนเช่นนางแท้ๆ
เมื่อนางเช็ดผมจนแห้งเสร็จ สองพี่น้องเองก็เปลี่ยนเป็ชุดสะอาดเสร็จแล้วกลับออกมาพอดีเช่นกัน
สองพี่น้องสวมชุดสีชมพูและม่วงเข้ม ส่งผลให้พวกนางดูอ่อนเยาว์ลงและดูงดงามขึ้น
สองคนนี้มีวัตถุดิบที่ดีจริงๆ ตอนนี้เท่ากับนางมีสาวงามตัวน้อยอีกสองคนแล้ว
เมื่อทุกคนล้มตัวลงบนเตียงแล้ว หลินฟู่อินจึงถามพวกนาง “ก่อนสิ้นเดือนก็เหลืออีกเพียงสิบวัน พวกเ้ามีแผนอย่างไรบ้างสำหรับเงินสองตำลึงนั่น”
อาฝางถอนหายใจแล้วกล่าวเบาๆ “คิดว่าข้ากับท่านแม่คงจะไปขอยืมเงินจากบ้านเก่ามาก่อนเ้าค่ะ”
หลินฟู่อินคิดในใจทันที บ้านของเฝิงซื่อนั้นเป็คนซื่อสัตย์ แต่มิได้ร่ำรวยนัก อีกทั้งยังมีปากท้องที่ต้องเลี้ยงหลายปาก จะให้ไปยืมเงินถึงสองตำลึงจากทางนั้นคงเป็ไปได้ยาก
อาเฝิงเองก็ดูจะอัดอั้นอะไรไว้เยอะ หลังพูดจบแล้วนางก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรมาอีก
ที่จริงแล้วหลินฟู่อินได้เตรียมแผนรองรับเอาไว้ให้เหล่าเด็กสาวแล้ว แต่เมื่อเห็นพวกนางกล่าวถึงการยืมเงินเช่นนั้น นางจึงกล่าวออกไป “ไม่ว่าเ้าจะไปยืมใครมา สุดท้ายแล้วก็ต้องคืน ถ้าเ้ายืมเดือนแรก แล้วเดือนที่สอง ที่สามจะทำอย่างไร? จะยืมต่อไปเรื่อยๆ หรือ?”
“น้องฟู่อิน พวกข้ายังไม่ได้ไปยืมเลย แต่พวกข้าก็คิดว่าพวกท่านยายก็ไม่น่าจะให้ยืมได้ไหวเพราะแค่ค่าครองชีพส่วนตัวยังยากจากการที่มีปากท้องให้เลี้ยงเยอะเกินไปเลย…” อาฝางร้องไห้ น้ำเสียงอ่อนแรงแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง
แล้วอาเฝิงจึงกล่าว “ก็ยังดีกว่าต้องหาทางเอาตัวรอดในบ้านเก่านั่น ที่ท่านย่า ท่านป้าสะใภ้ตั้งท่าจะเอาเ้ากับข้าไปขายอยู่ตลอดเวลานะ!”
“ขายพวกข้าหรือ?”
กลายเป็ว่าอาเฝิงรู้เื่นี้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้บอกอาฝางเพราะเกิดเื่แยกบ้านกันก่อน
ในที่สุดหลินฟู่อินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอาเฝิงถึงได้จริงจังกับเื่การแบ่งบ้านนัก
ด้วยความกล้าที่นางมีในการขัดขืนเหล่าคนแก่นิสัยไม่ดีนี้แล้ว ใยจึงต้องกลัวว่าจะไม่ได้มีชีวิตที่ดีอีก?
“ตอนนี้เอาเป็ว่า ที่นาสองที่นั้น ยกให้พ่อกับแม่ของพวกเ้าจัดการไป ส่วนพวกเ้าสองคน ข้าจะให้มาช่วยงานข้า แล้วข้าจะให้ค่าจ้างเดือนละหนึ่งตำลึง” หลี่ฟู่อินชี้ทางรอดให้พวกนาง
“ตกลง!” สองพี่น้องตอบรับด้วยรอยยิ้ม เสียงประสานกันโดยมิได้ตั้งใจ
หลินฟู่อินจึงคลี่รอยยิ้มออกมาในความมืด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้