เมื่อหลินฟู่อินพาหมอหลี่กับปู่หลินมาถึงบ้านตัวเองก็เป็จังหวะเดียวกับที่ย่าหลี่กลับมาพอดี เมื่อเห็นหมอหลี่กับปู่หลินมาพร้อมกัน นางก็ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะทักทายอีกฝ่ายด้วยสีหน้าปกติ
ถึงแม้ในใจยังคงอยากข่วนหน้าตาเฒ่าหลินผู้นี้อยู่ก็ตามที…
หมอหลี่ยกมือรับคารวะด้วยท่าทีสุภาพ ทว่าปู่หลินกลับพยักหน้าส่งเสียง “อืม” ตอบรับแค่นั้น ชายชรายังคงโมโหย่าหลี่อยู่มาก ทว่าหากเขาพูดอะไรออกไป เกรงว่าหลินฟู่อินคงไม่สนใจจะเข้าข้างจึงได้แต่เงียบ
แน่นอนว่าเมื่อเห็นปู่หลินทำตัวเช่นนี้ หลินฟู่อินก็ไม่พอใจเช่นกัน
ตาแก่นี่หัวแข็งอ้างความาุโทำเหมือนตัวเองยิ่งใหญ่สูงส่ง
เมื่อรินน้ำชาเสร็จ หลินฟู่อินก็ให้ปู่ของตนอยู่รับรองหมอหลี่แทนตัวเอง ส่วนนางอันดับแรกคือไปเอากระดูกออกจากน้ำเย็นมาล้างทำความสะอาด จากนั้นก็ตั้งเตาต้มน้ำ ใส่กระดูกลงไปต้มจนเดือด แล้วนำมาใส่หม้อดินบนเตาถ่าน
พอเรียบร้อยแล้วนางก็เดินไปที่แปลงผักพร้อมกับตะกร้าไม้ไผ่สาน
หมอหลี่เห็นหลินฟู่อินเดินเข้าๆ ออกๆ ด้วยท่าทีคล่องแคล่วก็ยิ้มออกมา “ผู้เฒ่าหลินโชคดีนัก มีหลานสาวฉลาดมากความสามารถเช่นนี้ ความรู้เื่ยาของนางก็เก่งกาจ เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
ชมเด็กสาวชาวบ้านเช่นนี้นับว่าเป็คำชมที่สูงส่งทีเดียว หากเป็คนทั่วไปเมื่อได้ยินหลานสาวตนถูกชมถึงขั้นนี้ก็ล้วนแต่ดีอกดีใจจนวางมือไม่ถูกแล้ว
เด็กสาวในบ้านถูกยกย่อง นับเป็เื่ที่มีเกียรติ
แต่ปู่หลินไม่ใช่คนทั่วไป หลานสาวคนหนึ่งฉลาดแล้วอย่างไร ในสายตาเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี อย่างเก่งก็เพียงได้แต่งเข้าครอบครัวที่ดีขึ้นมาหน่อยเพื่อช่วยพี่ชายเท่านั้น
แต่หลินฟู่อินกับหลินต้าหลางมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ต่อกัน เขาจึงเลิกคาดหวังไปแล้วว่าหลินฟู่อินจะแต่งกับครอบครัวดีๆ มาช่วยหลานชายคนโต
ดวงตาหมอหลี่มีประกายวาบผ่าน เมื่อเห็นปู่หลินไม่ได้มีท่าทียินดีกับคำชมจากใจของตน
เช่นนี้ยิ่งมั่นใจว่าเื่ปู่หลินที่คนของเขาไปขุดคุ้ยมานั้นถูกต้อง คนผู้นี้ไม่ได้ใส่ใจหลานสาวมากความสามารถของบ้านสามแม้แต่น้อย
เขาอดที่จะเห็นใจหลินฟู่อินไม่ได้ หากมีเด็กสาวเช่นนี้คลอดออกมาในสกุลหลี่จะดีสักเพียงใดกันหนอ?
อาหารกลางวันวันนี้เป็ฝีมือของหลินฟู่อิน แม้นางจะกล่าวว่าย่าหลี่ทำอาหารอร่อย แต่ย่าหลี่ก็ยังให้นางรับหน้าที่หลักในการทำอาหาร โดยที่คอยช่วยให้นางได้แสดงฝีมือ
ในใจย่าหลี่แอบเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง หมอหลี่คนนี้ไม่ใช่หมอธรรมดา เื้ัเป็ถึงตระกูลแพทย์หลวงเชียว
หากอาหารของหลินฟู่อินได้รับคำชมจากหมอหลี่ อีกหน่อยยิ่งดีต่อชื่อเสียงของหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินไม่รู้ว่าในใจย่าหลี่คิดคำนวณไปหลายรอบแล้ว คิดว่านางคงเหนื่อยจากการเดินทางพาน้องๆ ไปดื่มนม พอย่าหลี่ให้นางเป็คนหลักในการทำอาหารจึงไม่ได้ปฏิเสธ
ปู่หลินเองก็พอจะรู้เื่หมอหลี่เล็กน้อย เพื่ออนาคตของหลานชายคนโต แน่นอนว่าต้องอยากทำความรู้จักสนิทสนมกับหมอหลี่เอาไว้
ในตอนที่ปู่หลินยกเื่การสอบบัณฑิตและปัญหาอื่นๆ ขึ้นมา หมอหลี่จะตอบแทบนับคำได้ หรือบางครั้งก็ส่ายหน้าทำท่าว่าไม่ทราบ จากนั้นก็เริ่มคุยเื่การเก็บเกี่ยว เื่ความเป็อยู่ทั่วไปแทน
ดูคล้ายจะเป็การสนทนาที่ลื่นไหล แต่ในความเป็จริงต่างฝ่ายต่างก็มีความคิดของตัวเอง
หลินฟู่อินคลุมผ้าเหนือหม้อที่กำลังหุงข้าวอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นจึงล้างผัก นำเนื้อครึ่งจินมาสับละเอียดผสมแป้งมันแล้วปั้นเป็ลูกชิ้น
นางยังหั่นเนื้อหมูป่าที่ตากแห้งเอาไว้ออกมาล้างแล้วนำไปผัดกับถั่วฝักยาว
นอกจากนั้นยังทำมะเขือยาวตุ๋น ฟักทองผัด รวมไปถึงน้ำแกงไข่ใส่ผักกาด
สุดท้ายก็นำไข่ดอกสนออกมาหกฟอง นำไปจี่ให้ร้อน
เมื่อทำอาหารเรียบร้อยแล้วยกขึ้นโต๊ะ กระทั่งปู่หลินยังนิ่งอึ้ง
เขาไม่เคยเห็นครอบครัวชาวไร่ชาวนาทำอาหารออกมาเต็มไปด้วยสีสันทั้งยังครบครันเช่นนี้มาก่อน
เมื่อหมอหลี่เห็นอาหารบนโต๊ะก็รู้ได้ทันทีว่าแต่ละอย่างล้วนทำอย่างใส่ใจ
ลูกชิ้นกลมๆ ดูเนื้อแน่น หมูหมักกับถั่วฝักยาวก็มีกลิ่นหอมเย้ายวนกระตุ้นให้อยากอาหาร
มะเขือยาวตุ๋น ฟักทองผัด น้ำแกงไข่ใส่ผักกาดดูละลานตา
สุดท้ายย่าหลี่ก็ยกน้ำแกงตุ๋นกระดูกขึ้นโต๊ะ ขณะที่หลินฟู่อินวางจานยำไข่ดอกสนที่นางเป็คนทำ
ดวงตาหมอหลี่ทอประกายเมื่อเห็นไข่ดอกสนฝีมือหลินฟู่อิน ที่แท้ไข่นี่ก็กินเช่นนี้ได้ด้วย คงต้องขอคำแนะนำจากนางในภายหลัง
ย่าหลี่หายไปในห้องเก็บของแล้วออกมาพร้อมไหเหล้า ในตอนที่หลินหยวนยังอยู่เขาชอบดื่มเหล้าเก่าเช่นนี้ ฉู่ซื่อจึงได้ซื้อมาเก็บไว้ในบ้านมากมาย
เมื่อหมอหลี่เห็นเหล้า รอยยิ้มก็ยิ่งกว้างกว่าเดิม
ตอนนี้เอง อาเฟินอาฟางและหลินซานหลางก็กลับมาพร้ะกร้าสมุนไพรบนแผ่นหลัง
หลินฟู่อินให้ย่าหลี่อยู่รับรองแขกที่โต๊ะ ส่วนนางเดินไปอีกห้อง หยิบเนื้อหนึ่งจินออกมาแล้วไปรับทั้งสามคน
นางบอกทั้งสามว่าตอนนี้มีแขกอยู่ในบ้าน จากนั้นจึงยิ้มให้อาเฟินแล้วส่งเนื้อให้ “พี่อาเฟิน วันนี้ข้าแวะซื้อเนื้อหมู พี่เอาไปให้ท่านป้าสองก่อนเถอะ แล้วค่อยมากินข้าวที่บ้านข้า”
อาเฟินอาฟางตาแดงก่ำขึ้นมาด้วยความซาบซึ้งใจจนหลินฟู่อินต้องกล่าวซ้ำ “เื่สำคัญนะเ้าคะ รีบไปแล้วรีบกลับมากินข้าวกัน วันนี้ข้าทำอาหารอร่อยๆ ไว้เยอะแยะเลย!”
สองพี่น้องพยักหน้าแล้วรีบถือเนื้อวิ่งกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว
หลินซานหลางโคลงหัวไปมา มองหลินฟู่อินด้วยสายตาจริงจัง ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าการติดตามน้องสาวคนนี้ถือว่าถูกต้องแล้ว
หลินฟู่อินช่วยพี่ๆ ล้างสมุนไพรในสวนแล้วนำไปตาก จากนั้นจึงพาพวกเขาเข้าไปในตัวบ้าน
เมื่อปู่หลินเห็นหลินซานหลางที่กลางวันไม่เคยอยู่บ้าน กลับมาก็ค่ำมืดเดินตามหลินฟู่อินเข้ามา สีหน้าก็ครึ้มลง
เขาวางตะเกียบลงคิดจะตำหนิอีกฝ่าย ทว่าหมอหลี่กลับยกแก้วเหล้าขึ้นก่อน “ผู้เฒ่าหลินอย่าได้โมโหไป ป้าหลี่ทำอาหารอร่อยๆ เช่นนี้อย่าให้เสียเปล่าไปเลย!”
ย่าหลี่หันไปเห็นหลินซานหลางกับอาฟางก็รีบกวักมือเรียก “เด็กดี รีบมากินข้าวเร็ว วันนี้ฟู่อินตั้งใจหุงข้าวเอาไว้เยอะเป็พิเศษ พวกเ้าก็กินกันให้เต็มที่”
ได้ยินหมอหลี่พูดว่านางเป็คนทำอาหาร ย่าหลี่ก็ยิ้มอธิบาย “ท่านหมอหลี่ไม่รู้อะไร ข้าแก่แล้ว มือเท้าไม่คล่องแคล่วเหมือนตอนสาวๆ อาหารบนโต๊ะนี้ล้วนเป็ฟู่อินทำทั้งหมด ข้าแค่ช่วยหั่นหอมปอกกระเทียมเท่านั้นเอง”
หมอหลี่ตกตะลึงอีกครั้ง อ้าปากกว้างแล้วหันไปมองปู่หลิน “ผู้เฒ่าหลินช่างโชคดีจริงๆ!”
น้ำเสียงหมอหลี่เต็มไปด้วยความอิจฉา ที่จริงเื่นี้ไม่ต้องพูดก็ได้ แต่หากพูดออกไปแล้วปู่หลินใส่ใจเด็กสาวขึ้นสักหน่อยก็นับว่าเป็เื่ดี
ในบ้านมีเด็กฉลาด มองการณ์ไกล และมากความสามารถเช่นนี้ ขอเพียงการแต่งงานไม่แย่จนเกินไป อนาคตย่อมดีอย่างแน่นอน
หากบ้านเดิมพึ่งพาได้ เด็กคนนี้อยากช่วยพี่ชายจากบ้านเดิม มิใช่เป็เื่ดีหรอกหรือ?
แต่ปู่หลินกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เขากลับรู้สึกว่ายิ่งผู้อื่นชื่นชมหลินฟู่อินมากเท่าไร คนที่ดูถูกหลานชายคนโตก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องแต่งออกไปให้ผู้อื่นจะมาเทียบหลานชายคนโตที่ศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็บัณฑิตได้อย่างไร?
มิใช่จะกลายเป็เื่ขบขันให้ผู้อื่นหรอกหรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้