นักฆ่าที่อยู่บนหลังคาหรี่ตามอง เมื่อเห็นว่าเวินซีพุ่งตัวเข้ามาหาก็พลันยิงธนูใส่ ลูกธนูเฉี่ยวโดนแขนของเวินซีจนเสื้อเป็รอยขาด เผยให้เห็นผิวขาว
ขณะนั้นนักฆ่าก็ดึงคันธนูขึ้นอีกครา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเวินซีจะรวดเร็วมาก ในตอนที่เขากำลังเล็งเป้าหมาย นางก็มาถึงเบื้องหน้าของเขาแล้ว
นักฆ่าไม่กล้าหยุดนิ่งอยู่กับที่ จึงเก็บธนูไว้ที่หลังแล้ววิ่งออกไป ก่อนที่ทั้งสองจะไล่ตามกันอยู่บนหลังคา
ผู้คนประหลาดใจเป็อย่างยิ่ง พวกเขาวิ่งตามทั้งสองคน เ้าอำเภอกับเหล่าเ้าหน้าที่ก็ตามไปติดๆ
“คุณหนูเวินซี ระวังตัวด้วย!”
ท่านเ้าอำเภอะโ สีหน้าของเขาเป็กังวลมาก “พวกเ้ารีบไปที่คุก ไปเรียกคนมาจับคนร้าย!”
เ้าหน้าที่หลายคนไม่กล้ารอช้าจึงรีบวิ่งไปทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้ หากยังวิ่งต่อไปอีกอย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าล่ะ!”
เข็มเงินในมือของเวินซีสะท้อนแสงที่เยือกเย็น แต่การเคลื่อนไหวของนักฆ่าก็มิได้ชะลอลงแต่อย่างใด นางดีดเข็มเงินออกไป นักฆ่ารู้สึกได้จึงเปลี่ยนทิศทางวิ่ง
ต่อมาเข็มเงินสามเล่มถูกดีดออกไปพร้อมกัน แต่นักฆ่ามีไหวพริบดีเลิศจึงหลบเข็มทุกเล่มได้
ถึงแม้จะเป็เช่นนั้น แต่ในแววตาของเวินซีก็เผยความมั่นใจที่จะเอาชนะ นางหยิบกริชที่เอวออกมาและเร่งความเร็ว
เวลานั้นนักฆ่าเริ่มหมดแรง ระยะห่างของทั้งสองจึงใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็ะโลงจากหลังคา ก่อนจะซ่อนตัวอยู่ภายในกลุ่มคน
เวินซีะโตามลงมามองดูถนนที่วุ่นวาย วันนี้เป็วันที่พ่อค้าต่างเมืองเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า เสื้อผ้าของผู้คนดูแตกต่างกันไป นางจึงลดความเร็วลง พลางสังเกตทุกคนบนท้องถนน
ขณะนั้นท่านเ้าอำเภอก็ตามมาถึงแล้วเช่นกัน เขาสั่งให้ทุกคนค้นหาทุกครัวเรือน
“คุณหนูเวินซี ลำบากเ้าแล้ว”
เขาประสานมือแล้วเดินตามนางไป
เวินซีพยักหน้า แต่ยังคงสอดส่ายสายตาหานักฆ่าคนนั้น
“เร่เข้ามา มาดูก่อนได้ ขนจิ้งจอกแดงชั้นดีเลยขอรับ”
“กลองป๋องแป๋ง กลองป๋องแป๋ง มีผู้ใดสนใจหรือไม่เ้าคะ อันละหนึ่งอีแปะเท่านั้นเ้าค่ะ”
“ซาลาเปา ซาลาเปาสดๆ ใหม่ๆ คุณชายคุณหนู จะรับสักชิ้นหรือไม่เ้าคะ?”
...
บนถนนเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ขายที่ะโเรียกลูกค้า ยังไม่มีสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้น
“อ๊า--”
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องดังลั่น ทุกคนต่างใ เวินซีจึงรีบวิ่งตามเสียงนั้นไป
นักฆ่าปรากฏตัวอยู่ที่ซอยตันด้วยร่างที่เต็มไปด้วยเื และกำลังยืนอยู่บนศพของเ้าหน้าที่อำเภอผู้หนึ่ง
เวินซีถือกริชพุ่งเข้าไปเพื่อไม่ให้เขาหนีไปได้ ทั้งสองต่อสู้กัน ขณะนั้นก็มีกลิ่นดอกแก้วโชยออกมา เมื่อนักฆ่าได้กลิ่นสีหน้าก็เปลี่ยนไปและโจมตีเวินซีเพื่อทิ้งระยะห่าง
เขาจึงถอยไปข้างกำแพง ดมกลิ่นเสื้อผ้าของตนก็รู้ว่ามันได้ติดกลิ่นดอกแก้วไปแล้ว
ดอกแก้ว เครื่องหอมที่ใช้ติดตามคนชั้นดี เพียงแค่กลิ่นไปติดเสื้อผ้าก็จะหอมไปเป็เดือน
“ยังจะหนีอีกหรือ?”
เวินซีเล่นกริชที่อยู่ในมือ ราวกับมิได้เห็นนักฆ่าผู้นั้นอยู่ในสายตาเลย ยามนี้เขามีกลิ่นดอกแก้วติดตัว ไม่มีทางหนีพ้นแน่
“นางชั่ว!”
นักฆ่าด่านางอย่างโกรธแค้น สีหน้าภายใต้หน้ากากนั้นดุดันมาก เขาหยิบดาบออกมาต่อสู้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าตนสู้นางมิได้ เพียงแค่รับมือไม่นานก็หอบเหนื่อย
“ยอมจำนนแต่โดยดี บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตเ้าได้นะ” เวินซีเยาะเย้ย
“ฝันไปเถิด!”
นักฆ่ายกดาบขึ้นอีกครั้ง ฉับพลันนั้นก็แทงเข้าไปที่หัวใจของตนเอง
เวินซีใจนหน้าเสีย นางรีบดีดเข็มเงินเข้าไปรับคมดาบ แต่ดาบก็แทงเข้าที่ร่างแล้ว เขาล้มลงพื้นและแสยะยิ้มราวกับได้ปลดปล่อย
เวินซีย่อตัวลงข้างๆ แล้วมองดูาแนั้นให้ถนัดตา ดาบโดนเข็มเงินสกัดไว้จึงเบนออกเล็กน้อย มิได้โดนจุดสำคัญเช่นหัวใจ
นางถอนหายใจโล่งอก พลันนำเข็มเงินออกมาฝังลงแต่ละจุดบนร่างกายของนักฆ่า
“เ้าทำอันใด หยุดนะ ออกไป อย่าเข้าใกล้ข้า!”
นักฆ่าคิดจะลุกขึ้นแต่ก็กระเทือนไปถึงาแ จึงทำได้เพียงกัดฟันอย่างเ็ป เขานึกว่าตนเองจะตายไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมาตกอยู่ในเงื้อมมือของเวินซี
เขาพลันรู้สึกเย็นวาบเมื่อนางเข้ามาดึงหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าออก ในที่สุดโฉมหน้าก็ถูกเปิดเผยแล้ว
“เ้าอยู่ในมือข้า มีเพียงข้าเท่านั้นที่ตัดสินความเป็ความตายของเ้าได้ เ้ายังมิได้พูดเื่ที่ข้าอยากจะรู้ ฉะนั้นเ้าไม่มีทางได้ตายดีหรอก” เวินซีเอ่ยแล้วลุกขึ้นยืน
ขณะนั้นก็มีเ้าหน้าที่หลายคนวิ่งเข้ามา ช่วยกันพยุงนักฆ่าขึ้นอย่างเบามือ
“เขามิใช่นักฆ่าธรรมดา จะต้องมีคนตามมาฆ่าปิดปากเขาแน่ ท่านเ้าอำเภอซ่อนเขาไว้ด้วยนะเ้าคะ ต้องรบกวนท่านแล้ว” เวินซีแนะนำพลางนึกอีกเื่หนึ่งขึ้นมาได้
“จริงสิ าแพวกนี้จะบีบบังคับให้เขายอมทำตามคำสั่ง เพราะฉะนั้นไม่ต้องให้คนมารักษาหรอกเ้าค่ะ ขอแค่เขายังไม่ตายก็พอ”
เวินซีปัดมือ ทุกคำที่เปล่งออกมานั้นล้วนเอ่ยด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“นางชั่ว ข้าจะฆ่าเ้า!” นักฆ่าเปล่งเสียงด่า และยังคงเอ่ยตามมาอีกเรื่อยๆ
“คนเยี่ยงเ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของเ้านายข้า จะต้องถูกเขาแยกชิ้นส่วนเป็หมื่นๆ ชิ้น”
“เ้ากับข้าจะเป็ศัตรูกันไปตลอด นางสารเลว!”
ที่นี่ยังมีคนอยู่มากมาย เวินซีเกรงว่าหากเขายังพูดไม่หยุดเช่นนี้จะไม่ปลอดภัย จึงนำหน้ากากที่ดึงออกมาเมื่อครู่ยัดเข้าไปในปากของเขาเพื่อให้ไม่มีเสียงออกมาในระหว่างที่คนพาตัวไป
เขาจ้องตาเขม็ง แต่ก็ต่อต้านนางมิได้
“เอาตามที่คุณหนูเวินซีว่าแล้วกัน ขอบคุณคุณหนูมากนะ ข้ากลับก่อนล่ะ”
ท่านเ้าอำเภอโบกมือ ส่วนนักฆ่าก็ถูกนำตัวใส่เข้าไปในรถม้า
สถานการณ์กลับมาเป็ปกติอีกครั้ง เวินซีนึกย้อนกลับไป จู่ๆ ก็มีเงาของคนคนหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว นางจึงเปลี่ยนจุดหมายและเดินไปที่คุก
คุกตั้งอยู่ที่ชานเมือง บรรยากาศโดยรอบนั้นอึมครึมและเยือกเย็น มีผู้คนเข้าออกน้อย แม้จะเป็ตอนกลางวันแต่ก็จำเป็ต้องจุดตะเกียงเพื่อให้มองเห็นข้างในได้ถนัด
เวินซีรายงานตัว ทหารที่เฝ้าประตูอยู่ได้รับรายงานมาก่อนหน้านี้แล้วจึงให้นางผ่านเข้าไปได้
ทันทีที่เข้าไป ด้านในก็มีเสียงร้องโหยหวนราวกับมาจากนรก
ทหารทำเป็ไม่ได้ยิน เขานำทางไปยังห้องขังของเวินเยียน
ร่างของเวินเยียนอยู่บนกองหญ้าและเต็มไปด้วยเื ผมเผ้ารุงรัง สายตาของนางดุดันขึ้นทันใดเมื่อได้เห็นเวินซี แต่ก็ขยับตัวมิได้
เครื่องทรมานในห้องขังยังมีรอยเืที่ไม่แห้งติดอยู่ เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งจะถูกทรมานไป
“อยู่ในคุกรู้สึกเช่นไรบ้าง?” เวินซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูถูกเล็กน้อย
เวินเยียนกำมือแน่น ไม่เอ่ยคำใด ความเกลียดชังที่มีต่อเวินซีนั้นมากขึ้นกว่าเดิม
นางกำลังรอ รอให้คนพวกนั้นมาช่วย ตราบใดที่นางสามารถออกไปได้ เวินซีก็จะผยองได้อีกไม่นาน
“คนของเ้าเก่งนะ เขาฆ่าปิดปากยกครัวเลย” เวินซีเอ่ยชม “แต่ก็นะ เขาทำเช่นนั้นย่อมทิ้งร่องรอยไว้แน่ อยู่ที่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ข้าไม่คิดจะคาดโทษเ้าตอนนี้หรอก ให้เ้าได้ทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ไปก่อนก็ไม่เลว”
“เ้า..” เวินเยียนจ้องกลับด้วยแววตานิ่ง
“คุณหนูเวินซี มีคนมาแล้วขอรับ!” ในเวลานั้นทหารที่เฝ้าอยู่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกก็เอ่ยขึ้น
เวินซีเงยหน้าและเผยรอยยิ้มที่กว้างยิ่งกว่าเดิม
“คนที่จะช่วยเ้ามาแล้ว”
นางยกเท้ากำลังจะเดินออกไป จึงได้เห็นว่าตรงสุดทางโจวอวี่ชางพาคนเข้ามาอย่างเร่งรีบ
เมื่อเห็นร่างของเวินเยียนโชกไปด้วยเืก็รีบนำจดหมายออกมาจากแขนเสื้อ
“ช่วยเปิดประตูด้วย เื่นี้ไม่เกี่ยวกับนาง พวกเ้าจับผิดคนแล้ว”
แท่งเงินอยู่บนมือของเขา เมื่อทหารรับมาก็เปิดประตูให้อย่างรวดเร็ว
โจวอวี่ชางรีบเข้าไปในห้องขังพลันถอดเสื้อคลุมออก คลุมบนร่างของเวินเยียนและอุ้มนางขึ้นมา
“เ้าเจ็บอยู่หรือไม่? ไม่เป็อันใดนะ ข้าจะพาเ้าออกไป”
“ท่านพี่!” แววตาของเวินเยียนดูกระตือรือร้นขึ้นมา
“ไม่เป็ไรแล้ว เป็พี่ที่มาช้าเองจนทำให้เ้าต้องทนทุกข์ทรมาน”
ทั้งสองเดินผ่านเวินซีโดยมิได้ชายตามองเลยสักนิด แต่เวินซีมิได้ใส่ใจ เมื่อพวกเขาจากไปแล้ว นางถึงได้เดินออกมา
ด้วยความเหนื่อยล้ามาสองวันติดกัน ในที่สุดเื่ราวต่างๆ ก็จบลงเพียงแค่ชั่วคราว
เมื่อกลับมาถึงร้านเครื่องหอม เวินซีคิดไม่ถึงเลยว่าจะเห็นจ้าวต้านนั่งรออยู่ในร้าน นางจึงมองเขาและขมวดคิ้วแน่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้