“อย่าพูดเพ้อเจ้อสิ!”
เหลียงจิ้งเป็กุลสตรีคนหนึ่ง เธอสวมแว่นตากรอบดำขนาดใหญ่ ดูสุภาพเรียบร้อยสมกับที่หม่าซูเยี่ยนพูด รูปร่างไม่เลว และน่าดูพอสมควร เมื่อเธอได้ยินน้ำเสียงงอนของหม่าซูเยี่ยน แต่ก็ทักทายกับเจียงไป๋อย่างใจกว้าง เพราะถือว่ารู้จักกันแล้ว
สำหรับหลิวลี่ที่อยู่ข้างๆ เธอพยักหน้าพลางยิ้มเบาๆ ก็ถือว่ารู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเจียงไป๋อีก มองทุกคนยิ้มเบาๆ พลางพูดว่า “วันนี้แฟนของฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว รถจากบริษัทของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว วันนี้พวกเราไปที่ว่านเหากัน!”
“ว่านเหา! พระเ้า ที่นั่นฉันรู้จัก ระดับห้าดาวแพงหูฉี่ หลิวลี่แฟนของเธอใจกว้างมากจริงๆ! จะต้องมีเงินมากแน่ๆ”
หลิวลี่เพิ่งจะพูด เพื่อนอีกคนของหลินหว่านหรูที่อยู่ข้างๆ คนหนึ่งก็อดอุทานไม่ได้ เธอพูดไปด้วยและตีแฟนหนุ่มของตัวเองไปด้วยพลางพูดอีกว่า “ดูเขาสิ แล้วลองดูนายสิ”
จนทำให้หนุ่มน้อยหน้ามนคนนั้นฝืนยิ้ม
“ก็ไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย แค่ไม่กี่สิบล้านเอง เปิดบริษัทเล็กๆ หากไม่เพราะเขายังพอดีดู กระตือรือร้นกับฉันอย่างนั้น ฉันก็คงไม่สนใจเขาไปนานแล้ว”
หลิวลี่ยิ้มระรื่น พลางพูดอย่างได้ใจ
ถึงแม้น้ำเสียงจะถ่อมตัว แต่ก็แอบเผยความภาคภูมิใจออกมาจนทำให้คนอื่นๆ รู้สึกได้อย่างชัดเจน และเมื่อคู่กับเสื้อที่โป๊ๆ อย่างนั้น ท่าทางอย่างนั้นของเธอจึงดูเหมือนกับนกยูงผงาด ทำให้เจียงไป๋อดที่จะแอบขมวดคิ้วไม่ได้ และความประทับใจที่มีต่อหลิวลี่ก็ไม่ค่อยจะดีนัก
แต่อย่างไรก็เป็เพื่อนของหลินหว่านหรู เจียงไป๋จึงไม่สะดวกใจที่จะพูดมาก
และถึงแม้หลิวลี่จะแต่งตัวไม่เข้าตาเจียงไป๋ แต่พูดตรงๆ แล้วก็สวยมาก มิฉะนั้นก็คงจะไม่มีแฟนรวยอย่างที่เล่าลือกัน
ถึงอย่างไรก็ไม่มีผู้ชายคนไหนเป็คนโง่ โดยเฉพาะผู้ชายที่มีสมบัติไม่น้อย มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนฉลาดเหมือนลิง?
เธอเดินมาถึงจุดนี้ได้ แบบนั้นความคิดความอ่านจะมีนักศึกษาหญิงคนไหนเทียบได้บ้าง หากหลิวลี่ไม่สวย อีกฝ่ายก็คงจะไม่ทุ่มเงินแม้แต่แดงเดียว
“หลิวลี่เธอเก่งจริงๆ!”
เมื่อคำนี้พูดออกมา ก็มีคนเสริมแล้ว
เจียงไป๋เห็นหม่าซูเยี่ยนทำหน้ามุ่ยใส่แต่ไม่ได้พูดอะไร เหลียงจิ้งมองอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เยือกเย็น ส่วนหลินหว่านหรู …
ได้สิ เธอคนนี้นอกจากงงงวยแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
ถึงแม้เธอจะเป็เด็กเรียนที่มีชื่อเสียง ฉลาด แต่เมื่อพูดถึงประสบการณ์ทางสังคม ก็ไม่ต่างอะไรกับกระดาษขาว?
และก็ไม่ได้พูดถึงเื่นี้กันต่ออีก คนสองสามคนเริ่มพูดคุยจุกจิกเื่เครื่องสำอางเสื้อผ้าต่างๆ จนทำให้เจียงไป๋หาวติดต่อกัน เขาส่งบุหรี่ให้เด็กผู้ชายอีกสองคนคนละมวนแล้วสูบอย่างสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง
หลังจากสิบนาทีกว่า รถตู้เบนซ์คันหนึ่งมาจอดอยู่ที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเทียนตูแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากรถ และก็เห็นพวกหลิวลี่จากไกลๆ เขารีบวิ่งเข้ามาพูดกับหลิวลี่ว่า “คุณหนูหลิว เถ้าแก่ให้ผมมารับพวกคุณ”
“เขาล่ะ?”
หลิวลี่เห็นว่าคนที่มาเป็คนขับรถ เธอรู้สึกราวกับว่าตนเองไม่ถูกให้ความสำคัญ สีหน้าจึงแปรเปลี่ยน พลางพูดอย่างไม่พอใจ
“เมื่อครู่เถ้าแก่ก็จะมาด้วยตัวเอง แต่พบกับลูกค้ารายใหญ่คนหนึ่งพอดี จึงปลีกตัวมาไม่ได้ เขารออยู่ที่ว่านเหาแล้ว จองห้องไว้แล้วและให้ผมมารับพวกคุณ ใช่แล้ว … เถ้าแก่ยังฝากมาขอโทษด้วยครับ บอกให้คุณอย่าเพิ่งโกรธ อีกสักครู่เขาจะชดเชยให้คุณ”
คนขับรถหนุ่มคนนี้ก็เป็เด็กที่มีไหวพริบคนหนึ่ง เมื่อเห็นหลิวลี่ไม่พอใจ เขาก็รีบอธิบาย
ส่วนจะพูดจริงหรือไม่นั้น เจียงไป๋ก็ไม่แน่ใจ แต่ก็เดาว่าคงครึ่งๆ
“อืม” หลิวลี่ขมวดคิ้ว และมองรถที่อยู่ตรงหน้า พลางปริปากพูดอีกว่า “ทำไมถึงมาแค่คันเดียวล่ะ เพื่อนฉันมีมากขนาดนี้ จะนั่งได้อย่างไร!”
“ฮ่าๆ เื่นี้ … ก่อนผมจะมาก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมจะรีบโทรศัพท์ให้พวกเขามาทันทีครับ บริษัทมีรถอยู่ไม่ไกลจากที่นี่พอดี เดี๋ยวก็ถึงแล้วครับ”
ไอ้เด็กนั่นรีบยิ้มตาม วินาทีต่อมาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาพูดพึมพำ
แค่ไม่กี่นาทีก็มีรถยนต์ระดับกลางขับมาอีกหนึ่งคันแล้ว และนี่ก็ทำให้หลิวลี่พาทุกคนทยอยขึ้นรถไปอย่างพึงพอใจ แล้วตรงไปที่โรงแรมว่านเหาทันที
ในฐานะโรงแรมห้าดาวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเทียนตู สิ่งอำนวยความสะดวกและการตกแต่งที่หรูหราฟู่ฟ่า อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ทั้งยังมีบริการชั้นเยี่ยมและอาหารที่ถูกปาก ทำให้คนแห่มากันเป็ฝูงเหมือนเป็ด
ตรงกันข้ามราคาของโรงแรมว่านเหาก็แพงลิ่ว
คนปกติจะมาใช้จ่ายที่นี่ก็ยากมาก ราคาอาหารแค่มื้อเดียวก็หลายพันหยวนขึ้นไป ทำให้ชาวบ้านนับไม่ถ้วนพอเห็นก็ต้องหยุดชะงัก
เพื่อนคนนั้นของหลิวลี่เลี้ยงข้าวที่นี่ก็จ่ายไปไม่น้อย และก็สะท้อนให้เห็นว่ารวยไม่ธรรมดา
หนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงโรงแรมว่านเหาแล้ว คนขับรถเดินนำตรงไปที่ห้องส่วนตัวของห้องอาหารชั้นสอง
เจียงไป๋มาที่นี่หลายครั้งและก็คุ้นเคยกับที่นี่บ้าง แต่เวลานี้กลับไม่ได้แสดงออกมา
สำหรับเพื่อนๆ ของหลินหว่านหรูก็ตะลึงจนตาค้าง อุทานชมเชยที่นี่กันยกใหญ่
ถึงอย่างไรพวกเธอต่างก็เป็นักเรียนที่ฐานะทางบ้านธรรมดา และแทบจะเป็คนต่างถิ่นทั้งหมด การมาที่ว่านเหาเป็ครั้งแรกจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชม จะมากหรือน้อยแต่ก็มีท่าทางที่ระมัดระวังจนเกินไป
เมื่อเดินเข้าห้องส่วนตัวของโรงแรม สาวๆ ในชุดกี่เพ้าที่สะสวยสองคนก็เปิดประตูต้อนรับ ห้องส่วนตัวที่กว้างร้อยกว่าเมตรห้องหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเจียงไป๋ โทรทัศน์ ตู้เย็น โต๊ะหนังสือ โซฟาล้วนครบครัน โต๊ะกลมขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางตัวหนึ่งพอที่จะนั่งได้ยี่สิบกว่าคนอย่างสบายๆ
“นี่ก็คือหนึ่งในห้องที่ดีที่สุดของว่านเหา ต่ำสุดก็หมื่นหยวนขึ้น ฉันกับแฟนมาที่นี่อยู่บ่อยๆ”
พอเข้าประตูมา หลิวลี่ก็พูดอย่างภาคภูมิใจ จนทำให้ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ สองสามคนกระซิบกระซาบกันด้วยใบหน้าที่อิจฉา
“เชอะ โอ้อวดอะไร ก็ไม่ใช่ว่ามีแฟนรวยหรือ หากฉันยอมแล้วล่ะก็ ฉันก็มีได้เหมือนกัน!”
น้ำเสียงดูถูกของหม่าซูเยี่ยนดังขึ้น ถึงแม้เสียงจะเบามาก แต่เจียงไป๋กลับได้ยินอย่างชัดเจน เขาฉีกยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร สำหรับคนอื่นๆ นั้น ไม่มีใครได้ยิน
“หลิวลี่เธอโชคดีจริงๆ มีแฟนรวยอย่างนี้ และดีกับเธออีก อิจฉาเธอจริงๆ!”
“ใช่ ดูฉันสิ ไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกผู้ชายที่น่าผิดหวังอย่างนี้มาได้ คบกันมาจะเกือบปีแล้ว อย่าพูดถึงว่านเหาเลย แม้แต่โรงแรมราคาสองร้อยขึ้นยังไม่เคยไปเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนทำกรรมอะไรไว้!”
เวลานี้มีนักเรียนหญิงสองคนอดไม่ได้ที่จะปริปากพูด
และหนึ่งในนั้นยังพาแฟนมาด้วย ก็คือคนก่อนหน้านี้ที่หน้ามหาวิทยาลัยที่ไม่พอใจแฟนหนุ่มของตนเอง เจียงไป๋ก็รู้จักชื่อนั่นคือหลี่ผิง ปกติก็ไม่รู้สึกว่าเธอจะแสดงอำนาจสักเท่าไร แต่ตอนนี้กลับมีท่าทางอย่างนี้ น่าจะได้รับการกระตุ้นแล้ว
อย่างไรก็ล้วนเป็เพื่อนหอเดียวกัน รูปร่างของหลี่ผิงก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหลิวลี่มากนัก แต่แฟนของทั้งสองคนกลับต่างกันราวฟ้ากับดิน นี่ก็ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ
ล้วนเป็คนหนุ่ม ยากที่จะหนักแน่น จึงได้รับผลกระทบจากโลกภายนอกได้ง่าย นี่ก็เป็เพราะทำไมหลายปีมานี้นักเรียนหญิงเริ่มต้นก็ดี แต่ก็จะค่อยๆ เดินไปในทางที่ผิดๆ
สำหรับเื่นี้หลิวลี่ฉีกยิ้มเล็กน้อย สายตามีความเ้าเล่ห์ และก็ไม่รู้หมายความว่าอะไร แต่ทำให้เจียงไป๋รู้สึกว่าเื่ราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้