หยวนเป่าเทน้ำชาใส่ถ้วยบนโต๊ะแล้วส่งให้ฮวาเหยียน การกระทำของหยวนเป่าดึงนางจากห้วงคิดกลับสู่ความเป็จริง
ฮวาเหยียนได้สติกลับมา ใจนางทั้งอ่อนยวบและยุ่งเหยิงเมื่อมองไปที่ลูกชายที่แสนกตัญญูของตน พลางบีบแก้มสีชมพูอันอ่อนโยนของหยวนเป่า
“ท่านแม่ เมื่อคืนท่านนอนหลับไม่ค่อยสบาย ท่านนอนพักสักประเดี๋ยวเถิด ระหว่างนั้นข้าจะแวะออกไปหาเสี่ยวฮวากับเสี่ยวไป๋ขอรับ”
หยวนเป่าวางถ้วยชาพลางเอ่ยขึ้น
ฮวาเหยียนตีหัวตนเอง ใช่แล้ว นางลืมสหายทั้งสองของหยวนเป่าไปเสียสนิท
“แม่ไปด้วย”
“ไม่เป็ไรขอรับ หยวนเป่าอยากไปเอง ยามนี้พวกเราอยู่ที่เรือนของท่านตาแล้ว ไม่มีอันตรายใดหรอกขอรับ หยวนเป่าจะรีบกลับมา”
หยวนเป่าจับมือผู้เป็มารดาด้วยท่าทีมั่นคง ฮวาเหยียนเห็นดังนั้นจึงพยักหน้า ปล่อยให้เขาหันหลังและออกจากห้องไป
ฮวาเหยียนรู้ว่าหยวนเป่าเป็เด็กคิดมาก นางจึงกลัวว่าเขาจะเที่ยวไปถามเื่ที่เกี่ยวข้องกับท่านย่า
เมื่อคิดว่าที่แห่งนี้คือจวนตระกูลมู่ ทั้งความสามารถของหยวนเป่าก็มิได้ด้อยกว่าผู้ใด นางจึงนอนลงอีกครั้งและผล็อยหลับไป ในฝันนางพลันปรากฏแสงเงาที่พันผูกกัน ครู่หนึ่งกลายเป็ภาพั์ตาของมู่อันเหยียนที่อ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง ครู่หนึ่งแปรเปลี่ยนเป็ั์ตาที่โเี้อำมหิตของชายหน้ากากทอง และครู่หนึ่งกลับเป็หยวนเป่าที่ะโเรียกท่านแม่อย่างแ่เบา ในตอนท้ายกลายเป็ภาพที่มู่เอ้าเทียนประคองนางขึ้นม้า กล่าวว่า "ลูกรัก พ่อจะพาเ้ากลับบ้านเอง"
ยามนี้ข่าวที่เกิดขึ้นที่ประตูเมืองก็เหมือนกับนกมีปีก กระจายไปทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองหลวง
มู่อันเหยียนที่หายตัวไปกว่าสี่ปี กลับมาพร้อมบุตรชายของนาง
...
ท้องฟ้าโปร่งโล่งสว่าง ผืนดินเต็มไปด้วยหญ้าสดเขียวขจี ณ สวนที่อยู่หลังจวนไท่จื่อปรากฏชายผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน ที่โต๊ะหินตรงหน้ามีชุดน้ำชาอันงดงามวางอยู่ นิ้วขาวเรียวของเขาถือถ้วยชาสีหยกไว้ในมือ นิ้วแข็งแรงขึ้นข้อชัด มองดูแล้วงดงามราวกับภาพวาด
เบื้องหน้าชายหนุ่มยามนี้มีคนคุกเข่าให้ ซึ่งก็คืออั้นจิ่วผู้เป็ลูกน้องของเขา ส่วนคนที่กำลังดื่มชาคือองค์รัชทายาทหลิงหาน องค์รัชทายาทแห่งต้าโจว
ชายหนุ่มยกข้อมือขึ้น ให้ถ้วยชาจรดริมฝีปากแดง ขนตายาวของเขาปิดลง ปิดซ่อนความหนาวเย็นไว้ใต้เปลือกตา
"เช่นนั้น เ้าถึงใช้เวลาหลายวันก่อนจะพบว่าแม่ลูกที่ขโมยดอกบัวพันปีไปเป็คุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่ที่หายตัวไปกว่าสี่ปีและเป็คู่หมั้นของข้าผู้นี้หรือ?"
เสียงเ็าดังขึ้น อั้นจิ่วรีบก้มศีรษะโดยเร็ว “ฝ่าาโปรดอภัยให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ทว่าในใจของอั้นจิ่วกลับรู้สึกตื่นตระหนกยิ่ง คุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่ผู้นี้เป็ถึงชายาองค์รัชทายาทซึ่งได้รับราชโองการอภิเษกสมรสจากฮ่องเต้ ทว่าพวกเขาทั้งสองได้ถอนหมั้นไปแล้ว เหตุใดองค์รัชทายาทจึงยังเรียกขโมยตัวน้อยแห่งตระกูลมู่ว่าเป็คู่หมั้นของพระองค์อีกเล่า!
"หึ"
ตี้หลิงหานพ่นลมหายใจเย็นะเืพลางลุกขึ้น บนหน้าผากของอั้นจิ่วผุดเหงื่อกาฬเย็นเยียบขึ้นมา ครั้งนี้เป็เขาไร้ความสามารถ ใครจะรู้ว่าแม่กับลูกชายคู่นี้ช่างลึกลับนัก ทั้งไม่ทิ้งร่องรอยใดให้ตามหา กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ประตูเมืองเขาถึงได้รู้ตัวตนของอีกฝ่าย ไม่นึกเลยว่านางจะเป็คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยโด่งดังในเมืองหลวง จึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท แน่นอนว่าเื่เหล่านี้ไม่สามารถพูดได้ ขอเพียงทำตัวดีสำนึกความผิด องค์รัชทายาทก็อาจลงโทษสถานเบา
"พาคนไปที่ลานมืด"
ตี้หลิงหานกล่าวอย่างเ็า
อั้นจิ่วตื่นตระหนก ลานมืดหรือ? สายตาเขาพลันมองเห็นไม่ชัดเจน ในใจพลันรู้สึกเหงื่อตกแทนคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่ ได้เพียงตอบกลับเพื่อแสดงถึงการรับรู้และหันหลังจากไปเท่านั้น
...
จวนตระกูลมู่
ฮวาเหยียนหลับตาพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบว่ามีสาวใช้เคาะประตูและบอกว่านำของว่างมาให้
ฮวาเหยียนลุกขึ้น นางส่ายหัวเพราะยังรู้สึกง่วงนอน หลังมองโดยรอบและไม่เห็นหยวนเป่า ในใจจึงถามตนเองว่าลูกออกไปสืบสาวราวเื่ตั้งนานแล้วเหตุใดป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก?
เมื่อประตูเปิดออก สาวใช้ก็ถือถาดที่มีเม็ดถั่วอบสดใหม่กับขนมไข่แดงเข้ามาทันที นางตักเข้าปาก ช่างเป็รสชาติที่ละมุนลิ้นนัก
“คุณหนูใหญ่ เมื่อครู่มีคนขอให้ข้าน้อยส่งจดหมายนี้ให้ท่านเ้าค่ะ”
สาวใช้พูดจบก็ยื่นจดหมายในมือส่งให้ ท่าทางได้รับการอบรมมารยาทมาเป็อย่างดี
"ขอบใจ"
ฮวาเหยียนพยักหน้า นึกสงสัยว่าใครเป็คนส่งจดหมายฉบับนี้ให้นาง นางเพิ่งกลับมาเป็มู่อันเหยียน อยู่จวนได้ไม่นานก็มีคนมาหานางถึงที่เสียแล้ว?
ใจนางสงสัย แต่มือยังคงทำงานต่อไม่หยุด นางฉีกซองเปิดจดหมายในมือ ในนั้นมีเพียงข้อความเดียว "หากอยากช่วยบุตรชาย จงไปที่ประตูหลังคนเดียว"
ฮวาเหยียนหรี่ตาลงทันใด รอบตัวเต็มไปด้วยรังสีสังหาร นางเอ่ยถามในพริบตาเดียว
“ใครเป็คนส่งจดหมายให้เ้า?”
น้ำเสียงนางดุดัน มีเจตนาฆ่าอยู่เต็มดวงตา
สาวใช้ตรงหน้าใเสียจนทำถาดในมือหล่นลงพื้นอย่างแรง นางรีบคุกเข่าลง “คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตบ่าวด้วย คุณหนูใหญ่ได้โปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วยเถิดเ้าค่ะ”
สาวใช้ตั่วสั่นไม่หยุด ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความใ
“ข้าถามว่าคนที่ส่งจดหมายนี้ให้เ้าอยู่ที่ใด?”
ฮวาเหยียนถามอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของสาวใช้ซีดเผือด ทั้งร้องไห้อย่างน่าสงสาร "ปะ... เป็ต้าจ้วงซึ่งเป็คนเฝ้าประตูมอบให้บ่าวเ้าค่ะ เขาบอกว่ามีคนส่งมาและให้นำไปมอบให้คุณหนูใหญ่ ตอนที่ต้าจ้วงกำลังจะมาแจ้งท่าน บังเอิญเห็นบ่าวเดินเอาของว่างมาให้คุณหนูใหญ่พอดี จึงฝากบ่าวนำจดหมายนี้มาส่งให้ท่านเ้าค่ะ"
ฮวาเหยียนมีสีหน้าครุ่นคิด หลังฟังคำของสาวใช้จบนางก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเื่กับหยวนเป่าแล้ว และผู้ที่มาก็มิได้เกรงกลัวสิ่งใด แต่เพราะนางเพิ่งเข้ามาอาศัยในจวนตระกูลมู่จึงไม่อาจรู้ได้ว่าเป็ฝีมือใคร การลงมือครั้งนี้รวดเร็วนัก นางไม่รู้แม้กระทั่งความ้าของอีกฝ่าย ซ้ำนางยังไม่คุ้นเคยกับทุกสิ่งที่นี่
“ลุกขึ้นเถิด และอย่าได้นำเื่นี้ไปพูดกับผู้อื่น”
สิ้นคำ ฮวาเหยียนก็ลุกขึ้นและจากไปอย่างรีบร้อน นางไม่ได้บอกให้ใครรู้ ด้วยอยากดูว่าความ้าของคนผู้นั้นคือสิ่งใด
...
ตามเนื้อความในจดหมาย ฮวาเหยียนจึงรีบตรงไปที่ประตูหลังของจวน เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นกุยใหญ่ เขาสวมชุดสีดำั้แ่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นฮวาเหยียนเข้ามาใกล้ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า “คุณหนูใหญ่ นายของข้าเชิญท่านขอรับ"
ฮวาเหยียนเหลือบมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเ็า
“ผู้ใดเป็นายของเ้า?”
“เมื่อไปถึงท่านก็จะรู้เอง”
คนผู้นี้คืออั้นจิ่ว เขามองใบหน้าเรียบเฉยของฮวาเหยียน รู้สึกว่าคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่มีรูปลักษณ์งดงามยิ่ง ทั้งใบหน้าก็นิ่งสงบ
ฮวาเหยียนพยักหน้า แววตานางเต็มไปด้วยโทสะ ทว่าใบหน้ากลับไม่แสดงออกมากนัก นางพยักหน้าและพูดว่า "ไปกันเถิด"
อั้นจิ่วแอบใ เหลือบมองฮวาเหยียนที่ไม่แสดงความรู้สึกใดเลยสักนิด ก่อนคิดในใจว่าคุณหนูมู่ที่หายตัวไปกว่าสี่ปีผู้นี้ช่างสงบนิ่งเสียจริง
ขณะเดียวกันฮวาเหยียนก็มองไปที่อั้นจิ่ว พลางคิดว่าเขาคือผู้ใต้บังคับบัญชาของใครกัน?
อาจเป็เื่วุ่นวายที่เกิดจากมู่อันเหยียนคนก่อนใช่หรือไม่? นางกลับมาครานี้จึงมาหาเื่ตนแทน?
“เ้าจับบุตรชายของข้าไปหรือ?”
ฮวาเหยียนถาม
“ข้าไม่มีทางเลือกอื่น คุณหนูมู่โปรดอภัยด้วย”
อั้นจิ่วเอ่ยปาก พลางคิดกับตนเองว่าที่คุณหนูมู่ถามตอนนี้คงเพราะนางสามารถระงับอารมณ์ด้วยความสงบได้แล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของอั้นจิ่ว ฮวาเหยียนก็พยักหน้า ไม่มีทางเลือกอื่นเช่นนั้นหรือ นางเชิดคางขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพ่นลมหายใจดัง เฮอะ ใส่อั้นจิ่ว' อั้นจิ่วหันหน้ากลับมาโดยไม่รู้ตัว เห็นเพียงฮวาเหยียนลอยตัวขึ้นเหาะเหิน ก่อนจะใช้เท้าเล็งตรงมาที่ไหล่ของเขา
นางเตะอย่างรุนแรงจนอั้นจิ่วที่ถูกเตะเข้าตรงๆ ถึงกับถอยหลังไปสามก้าว
ฮวาเหยียนเตะออกไปแล้วยืนก็กลับมายืนบนพื้นอย่างมั่นคง นางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย แววตาเ็าและหยิ่งทะนงขณะพูดกับอั้นจิ่วว่า “คราวหน้าถ้ามีเื่ใดจะพูดกับข้า ก็มาพบและเรียกข้า หากมาจับลูกข้าไปเพื่อขู่ข้าแบบนี้อีก ข้าจะทำให้เ้าไม่อาจมีลูกได้เลยชั่วชีวิต"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้