ในตอนที่ท่านปู่หลินยังหนุ่ม เขาเคยออกท่องยุทธภพ และยังเคยทำงานให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยมาหลายคน
แต่เพราะเขาเลือกนายผิดคน แล้วยังไปมีปัญหากับข้าราชการชั้นผู้น้อยคนอื่นอีก เขาจึงต้องรีบหนีกลับมายังบ้านเกิดโดยปิดอดีตไว้เป็ความลับ เขาใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์จนได้แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลจวง แล้วจึงใช้ชีวิตในฐานะคนของตระกูลจวง ทำงานั้แ่เช้าจรดเย็น…
นี่เองเป็เหตุที่ทำให้หลินฟู่อินรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคนของจวงลู่คนอื่น…
นอกจากนี้ เื่เงินสี่ร้อยตำลึงนี่ สำหรับบ้านที่มีสมาชิกสามคนในแคว้นเว่ยแห่งนี้จะมีค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ราวสิบตำลึงเงิน เช่นนั้นสี่ร้อยตำลึงนี้จะสามารถอยู่ได้นานถึงสี่สิบปี
ต่อให้ขายบ้านสองทิ้งทั้งตระกูลก็ทำได้ไม่ถึงสี่สิบสองตำลึงเงิน ดังนั้นสี่ร้อยตำลึงนี่เลิกฝันไปได้เลย
“ท่านพ่อ อย่าบอกว่าหามาไม่ได้แน่ๆ สิเ้าคะ ทั้งอาเฝิงและอาฝางก็เห็นด้วยแล้ว ให้พวกนางส่งเงินมาทุกเดือน สักยี่สิบปีก็ถึงสี่ร้อยตำลึงแล้วมิใช่หรือ?” จ้าวซื่อกล่าวพลางน้ำลายย้อยพลาง ก่อนจะหันมองหลิฟู่อินแล้วกล่าว “หลินฟู่อินคำนวณมาเองไม่ใช่รึ?”
ท่านผู้เฒ่าหลินฟังคำของสะใภ้ใหญ่เช่นนี้แล้ว คิ้วเขาก็กระตุกขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไร
หลินฟู่อินมิได้สนใจจ้าวซื่อ เพียงมองท่านปู่หลิน “ท่านปู่ นี่ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่อยากให้บ้านสองแบ่งบ้าน พวกนางเพียง้าเงินค่าแบ่งบ้านเท่านั้น ทั้งราคานี้ยังไม่ให้แปลงที่นาด้วย นี่มันเป็การบังคับให้พวกเขาอดตายชัดๆ ”
ท่านปู่หลินหน้าแดงเป็ลูกตำลึง แล้วจึงหันไปกล่าวกับหลินฟู่อินด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฟู่อิน นี่เื่ของผู้ใหญ่ เด็กๆไม่ต้องมายุ่ง!”
“หากท่านป้าสะใภ้ใหญ่มิได้ทุบตีท่านป้าสะใภ้รองจนเกือบตาย จนข้าต้องเข้ามาช่วย ข้าก็คงไม่เข้ามายุ่ง แต่หากท่านป้าสะใภ้รองถึงตายขึ้นมาเล่าเ้าคะ?” หลินฟู่อินจ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาของท่านปู่หลิน “จะส่งท่านป้าสะใภ้ใหญ่ไปเข้าคุกเช่นนั้นหรือ? เป็เช่นนั้นแล้วหน้าตาของตระกูลหลินจะเป็เช่นไรกัน?”
เมื่อยกเื่ที่จ้าวซื่อทุบตีเฝิงซื่อขึ้นมา จ้าวซื่อจึงเงียบไปโดยมิกล้ากล่าวสิ่งใด
ท่านปู่หลินหน้าแดงก่ำ แต่เขารู้ดีว่านางกล่าวได้ถูกต้อง หากนางมิยื่นมือเข้ามาช่วย มิใช่ว่าป่านนี้เฝิงซื่อคงเืออกจนตายไปแล้วหรือ?
พอมีคนที่อยากช่วยก็วิ่งไปหานาง แต่พอถูกช่วยแล้วกลับจะเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล การทำเช่นนั้นมันย่อมไม่ใช่เื่ดี
แต่ท่านปู่หลินก็ยังถือว่าตัวเองเป็ผู้าุโ และไม่คิดว่าตัวเองทำผิด เขาจึงเงียบลงแล้วไม่กล่าวอะไร
“ท่านปู่ ขอแค่พวกข้าแบ่งบ้านได้ พวกข้าก็พร้อมที่จะจ่ายรายเดือนให้พวกท่าน แต่มันต้องไม่มากเท่าที่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ขอไว้ เพราะแบบนั้นแม้แต่ค่ากินพื้นฐานของพวกข้าก็คงไม่เหลือ ต่อให้ต้องกินดินกินใบไม้ก็ยังไม่ไหวเลยเ้าค่ะ!” อาเฝิงปิดท้ายด้วยการรวบรวมความกล้าแล้วจ้องหน้าท่านปู่หลิน
เมื่อท่านปู่หลินได้เห็นหลานบ้านสองที่มักทำตัวว่าง่ายและไม่เคยบ่นกล่าวอันใด กล้าพูดออกมาว่าพวกนางยอมแม้จะต้องจ่ายเงิน เขาก็เข้าใจได้ว่าเื่การแบ่งบ้านสองนี่คงเป็เื่ด่วนแล้วจริงๆ
นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะทำเป็เมินไปเฉยๆ ได้
อีกทั้งปีนี้โฉวเย่อยังต้องเข้าสอบ ดังนั้นพวกเขาจำเป็ต้องมีเงิน
ท่านปู่หลินก้นหน้าลง ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความคิดของเขา
แต่หลินฟู่อินรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังจะตัดสินใจแล้ว เพราะอาฝางและอาเฝิงไปเรียกหลี่เจิ้งมาแล้วครั้งหนึ่ง ต่อให้เขาไม่ยอมมา แต่เื่ที่ว่าบ้านสองของตระกูลหลินกำลังมีปัญหาก็เริ่มเป็ที่รู้กันโดยทั่วแล้ว
ต่อให้ไม่ยอมแบ่งบ้านสอง แต่คนในหมู่บ้านก็จะเดากันได้แล้วว่าพวกบ้านใหญ่ไม่ยอมให้บ้านสองแยกตัวออกไปเพียงเพราะจะเก็บไว้ทำงานต่างวัวต่างควายเท่านั้น
ท่านปู่หลินก็คิดเช่นเดียวกัน
เขาคำนวนในใจอย่างรวดเร็ว นับั้แ่ที่สะใภ้สามตายไปจากการคลอด คนในบ้านหลินก็ได้ทำเื่ที่น่าชิงชังลงไปมากมายเหลือเกิน สะใภ้สองเองก็เกือบจะถูกสะใภ้ใหญ่ทุบจนหัวแตกตาย หากเขาเลือกที่จะขัดขวางการแบ่งบ้านในตอนนี้อีกก็คงไม่สมเหตุสมผลนัก
และด้วยเหตุผลเ่าั้ ท่าทีของเขาจึงราวกับว่าชราลงถึงสิบปีในชั่วครู่เดียว สุดท้ายท่านปู่หลินจึงเงยหน้าขึ้น ั์ตาสูงวัยกวาดมองทุกคนที่อยู่ที่นั่นทีละคนทีละคน แล้วจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “แบ่งก็แบ่ง”
อาเฝิงและอาฝางกอดกันเองทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แต่หลินต้าเหอกลับมองเขาด้วยสีหน้าเหลอหลา
แม้ว่าเขาจะเป็คนซื่อสัตย์ แต่เขาก็มิได้โง่ หากท่านปู่ปฏิเสธมิให้แบ่งบ้านแล้ว เื่ก็จะจบแค่พวกเขาทุกคนต้องอยู่ด้วยกันในบ้านใหญ่ต่อ แต่เมื่อท่านปู่กล่าวออกมาแล้วเช่นนี้ เขาจึงหวาดวิตกขึ้นมา
“ท่านพ่อ…นี่เพราะเื่เงินหรือ?” ใจของหลินต้าเหอเต้นระส่ำ นี่มิใช่ความคิดของจ้าวซื่อหรือ?
คู่สามีภรรยามองท่านปู่หลินด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
“อย่างไรเสียพวกเ้าก็ไม่มีทางหาเงินสี่ร้อยตำลึงนั่นมาได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น หลังแบ่งบ้านออกไปแล้วก็ให้พวกเ้าส่งเงินกลับบ้านเดือนเฉียน เป็จำนวนสองพวงเสีย” ท่านปู่หลินกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก แล้วจึงหันไปมองหลินฟู่อิน “ฟู่อิน บ้านเ้าเองก็ต้องใช้กฏเดียวกับบ้านสอง เพราะฉะนั้นนับแต่เดือนนี้ไปพวกเ้าต้องเปลี่ยนไปจ่ายเป็เงินเฉียนสองพวงด้วย”
หลินฟู่อินหลุดหัวเราะเ็าออกมาทันที ท่านปู่คิดจะลงโทษนางที่เสนอหน้ามากเกินไปด้วยการเรียกเงินเพิ่ม
“ได้เ้าค่ะ” แม้นางจะไม่พอใจนัก แต่นางก็ยังตอบด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
แต่จ้าวซื่อกับอู๋ซื่อกลับไม่พอใจ อู๋ซื่อมองท่านปู่หลินอย่างเดือดดาลแล้วจึงตวาด “ตาเฒ่า เ้าโง่หรือเปล่า? แค่เงินเฉียนสองพวงต่อเดือนมันจะไปพอได้อย่างไร?”
“ท่านแม่ เฉียนสองพวงต่อเดือน หนึ่งปีเป็เงินสิบสี่เฉียน พะ…พวกข้ามีไม่พอกินแน่เ้าค่ะ….” เฝิงซื่อร่ำไห้ เดือนละหนึ่งเฉียนยังยาก เดือนละสองเฉียนย่อมไม่ไหวแน่ อู๋ซื่อไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย เื่การแบ่งบ้านนี่เป็ความ้าของพวกเ้าสี่คนจากบ้านสองเองแท้ๆ!
แม้เคยกล่าวไว้ว่าหนึ่งเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายเพียงเฉียนหนึ่งพวง หากต้องใช้ถึงหลายพวงแปลว่าเป็พวกไม่รู้จักพอ
เฝิงซื่อเริ่มคิด หากคิดถึงความเลวร้ายในบ้านหลังใหญ่ของผู้เฒ่าทั้งสอง รวมไปถึงความโลภของเมียของท่านปู่แล้ว บ้านสองของพวกนางก็น่าจะได้เป็ไทจากบ้านหลักแน่ๆ แล้ว
“เงินเฉียนสองพวงต่อเดือนแล้วยังร้องอีกหรือ? บ้านพวกเ้ามีลูกสาวอยู่สองคนไม่ใช่รึ? ส่งไปเป็คนใช้บ้านคนรวบสักที่เสียสิ บางทีอาจจะมีคุณชายสักคนที่เก็บพวกมันไว้เป็เมียน้อยก็ได้ ว่าแล้วก็ส่งพวกมันไปตอนนี้เลยสิ!” จ้าวชื่อทนไม่ไหวกรีดร้องออกมา
นางเข้าใจนิสัยของท่านปู่มาหลายปีแล้ว
หากเขาตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนใจเขาไม่ได้
โชคดีที่เขาสั่งเพิ่มเงินที่บ้านสามต้องจ่ายด้วย นางจึงพอจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
แต่คำพูดเหล่านี้ของจ้าวซื่อได้สร้างโทสะขึ้นในตัวเฝิงซื่อ นางบุกเข้าตีจ้าวซื่อทั้งน้ำตาแม้ร่างกายจะยังอ่อนแอ พลางกู่ร้อง “พี่สะใภ้ กล่าวเช่นนี้แล้วไม่รู้สึกอายบ้างหรือ? ท่านเป็ลูกของสะใภ้ใหญ่แท้ๆ ครอบครัวดีๆ ที่ไหนเขาส่งลูกหลานตัวเองไปเป็เมียน้อยคนรวยกัน? อยากให้ลูกสาวทั้งสองของท่านโดนบ้างไหมเล่า?”
หลินต้าเหอเข้าไปกอดภรรยาของเขาช้าๆ อย่างห้ามปราม เพราะกลัวว่านางจะถูกจ้าวซื่อทุบตีจนตาย แสดงให้เห็นว่าเขายังดูแลภรรยาของเขาอย่างดีอยู่ และนี่ยังเป็หนึ่งในเหตุผลที่หลินฟู่อินยังพอจะมองเขาในแง่ดีอยู่
“พวกเ้า พอได้แล้ว! ห้ามใครพูดเื่ส่งผู้ใดไปเป็เมียน้อยอะไรนี่อีก!” ท่านปู่หลินเคยเห็นบ้านคนมีเงินมาแล้ว เป็เมียน้อยเช่นนั้นมันดีตรงไหนกัน?
เมื่อเจอกับแรงกดดันของผู้มีอำนาจในบ้านแล้ว จึงไม่มีใครกล้ากล่าวอะไรออกมาอีก
เมื่อเห็นว่าหยุดการเบาะแว้งของสะใภ้ทั้งสองได้แล้ว ท่านปู่หลินจึงพอใจเป็อย่างมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้