อาฝางและอาเฝิงมีท่าทีระแวงยายหลี่อยู่เล็กน้อย
ยายหลี่นั้นสวมชุดสีขิงเหลืองอ่อน ดูเรียบร้อย แต่สีหน้านั้นดูจริงจังอยู่เสมอ อีกทั้งยังค่อนไปทางน่าเกรงขาม เด็กๆทั่วไปจึงค่อนข้างกลัวนาง
จะว่าไปแล้ว หลินฟู่อินก็คงเป็เด็กคนแรกในหมู่บ้านหูลูที่ไม่กลัวนาง
“ป้าสะใภ้สองคิดว่าป้าสะใภ้ใหญ่เป็คนไร้หัวคิดเกินไป และในไม่ช้าคงสร้างปัญหาให้บ้านสองเป็แน่ นางจึงตั้งใจที่จะแยกบ้านให้ได้” หลินฟู่อินกล่าวให้สองพี่น้องฟัง
ยายหลี่พยักหน้าก่อนเอ่ยว่า “มันควรจะต้องแบ่งบ้านมานานแล้ว มิเช่นนั้นแล้วพวกเ้าพี่น้องก็จะต้องกลับไปลำบากที่นั่นอีก”
หลินฟู่อินคิดในใจ ยายหลี่ผู้นี้ช่างเข้าใจอะไรง่ายเสียจริง
อาเฝิงและอาฝางต่างก็เป็เด็กขยัน คอยช่วยหลินฟู่อินทำความสะอาดบ้านไม่ขาด ทั้งยังคอยช่วยดูเด็กๆให้ด้วย แบ่งเบาภาระของหลินฟู่อินและยายหลี่ไปได้มากนัก
และเพราะบ้านตระกูลหลินยังไม่สงบ หลินฟู่อินจึงทำอาหารเย็นทิ้งไว้ให้พี่น้องทั้งสอง เป็แป้งข้าวที่เหลืออยู่ โดยนางให้ยายหลี่นำไปนวดแล้วทำเป็เจียนปิ่งต้นหอม [1] พี่น้องทั้งสองต่างก็ลงมือทานอย่างตะกละทันที หลินฟู่อินเห็นแล้วก็คิดฝึกให้ทานให้เรียบร้อยกว่านี้หน่อยจะไม่ดีหรือไม่นะ?
หลินฟู่อินเห็นประกายตาของทั้งสองที่กำลังเพ่งความคิดทั้งหมดไปกับการจัดการอาหารตรงหน้า
อย่างไรเสียพวกนางก็เป็ผู้ร่วมสายเืของเ้าของเดิมของร่างนี้ และลุงป้าบ้านสองก็ค่อนข้างดีกับบ้านของนาง
นางจึงตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขา
แต่ไม่ทันที่พวกนางจะทานอาหารจนหมด หลินต้าเหอก็วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาหอบมาพลางะโด้วยเสียงแตกพร่าที่เจือไปด้วยความไม่สบายใจ “ฟู่อิน…ฟู่อินช่วยป้าสะใภ้ของเ้าที!”
หลินฟู่อินวางอาหารในมือแล้ววิ่งออกไปทันที
ที่เกิดเหตุนั้น นางได้พบหลินต้าเหอที่กำลังอุ้มเฝิงซื่อที่ดูแขนขาไร้เรี่ยวแรง อีกทั้งยังมีรอยทุบตรงหน้าผากราวกับถูกของแข็งทุบมา โลหิตเอ่อล้นไหลทั่วใบหน้า
“ท่านแม่!” อาเฝิงและอาฝางกรีดร้องแล้วรีบวิ่งเข้าไปหานาง
“รีบพาท่านป้าสองไปนอนที่เตียงของแม่ข้าเร็ว!” หลินฟู่อินที่กำลังตื่นตะลึงรีบไปหยุดอาเฝิงและอ้าฝาง ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “อาเฝิง เ้าไปหาเหล้าขาวมาจากในครัวเสีย หากไม่มีก็จงไปหายืมจากคนในหมู่บ้าน เร็วเข้า!” จากนั้นจึงหันไปมองอ้าฝาง “อ้าฝาง ไปต้มน้ำร้อนเดี๋ยวนี้!”
แม้ว่าทั้งสองพี่น้องจะกำลังร้องไห้อยู่ แต่เมื่อพวกนางเห็นสายตาแน่วแน่ของหลินฟู่อินแล้ว พวกนางก็รีบวิ่งออกไปทำตามคำสั่งทันที
หลินต้าเหอเริ่มเห็นความหวังขึ้นมา เขาจึงเริ่มสงบใจลงได้อีกครั้ง
“แผลบนหัวของท่านป้าสะใภ้สองนี่มีที่มาอย่างไรเ้าคะ?” หลินฟู่อินเข้าไปเปิดเปลือกตาของเฝิงซื่อ ดูอาการอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ปะ…ป้าสองของเ้าถูกนังบ้าจ้าวซื่อทุบมา!” สายตาของหลินต้าเหอแดงก่ำ ฟันกัดแน่น ไม่แม้แต่จะเรียกพี่สะใภ้ว่าพี่สะใภ้อีกต่อไป ในใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความชิงชัง
หลินฟู่อินรีบหยิบผ้าผืนเล็กออกมา พับเป็สามเหลี่ยม แล้วนำไปพันไว้ที่แผลของเฝิงซื่อทันที เืที่ไหลอยู่ไหลช้าลง จากนั้นนางจึงยื่นมือไปตรวจจุดกลางร่างของเฝิงซื่อก่อนถามต่อ “ป้าสะใภ้ใหญ่ใช้อะไรทุบป้าสองหรือ?”
“มันใช้จอบ!” หลินต้าเหอตอบแล้วจึงมองหลินฟู่อินอยู่ครู่หนึ่ง “ฟู่อิน ป้าสองของเ้าจะปลอดภัยใช่หรือไม่?”
หลินฟู่อินเห็นแล้วว่าเฝิงซื่อยังไม่ตื่น คิ้วนางขมวดเป็ปม ปากเอ่ยถามต่อ “หลังจากที่ท่านป้าสองถูกทุบที่หัวแล้ว นางได้อาเจียนออกมาบ้างไหมเ้าคะ?”
หลินต้าเหอรีบส่ายหน้าทันที แต่ก็คิดต่อแล้วจึงกล่าว “นังจ้าวซื่อนั่นใช้มุมจอบทุบนาง!”
หลินฟู่อินพยักหน้า แผลถูกจอบทุบนี้เป็แผลภายนอก ต่อให้โดนมุมจอบก็ไม่น่าสลบไม่ฟื้นเช่นนี้
เมื่อมองดูแล้ว เฝิงซื่อช่างผอมแห้งยิ่งนัก ทั้งเปลือกตายังซีดเผือด หลินฟู่อินจึงคิดถึงความเป็ไปได้หนึ่ง แล้วสีหน้าของนางจึงจริงจังขึ้นมา “ท่านป้าสองได้ทานอาหารอย่างพอเพียงหรือไม่เ้าคะ?”
“พี่ฟู่อิน ท่านแม่ชอบเก็บอาหารไว้ให้ข้ากับน้อง!” อาเฝิงยกหม้อทองแดงใส่น้ำเดือดเข้ามา เมื่อหลินฟู่อินหันไปมองแล้วจึงได้เห็นว่าเด็กน้อยมีหยาดน้ำตาเต็มหน้า
ภายในใจของหลินฟู่อินลอบถอนหายใจ
“พี่ฟู่อิน ท่านต้องช่วยท่านแม่ของข้านะ! ข้าขอร้อง!” อ้าฝางยกน้ำมาวางแล้วจึงก้มลงขอร้องหลินฟู่อินทันที
หลินฟู่อินตื่นตะลึง คิ้วนางขมวดแน่น นางเข้าไปดึงอ้าฝางให้ลุกขึ้นทันที “พี่อาฝาง เ้าจะทำแบบนั้นไปทำไม? ท่านป้าสองปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วง!”
เมื่อหลินฟู่อินกล่าวจบ นางจึงหันไปบอกกับยายหลี่ที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ว่า “ยายหลี่ รบกวนท่านไปหาน้ำตาลทรายในบ้าน แล้วทำน้ำผสมน้ำตาลหม้อใหญ่มาให้ข้าทีเ้าค่ะ”
ยายหลี่รับคำแล้วจึงเดินออกไป
หลินฟู่อินออกไปหาผ้าสะอาดมา จุ่มน้ำร้อน รอให้มันเย็น บิดมันจนหมาด แล้วจึงนำไปเช็ดเืจากใบหน้าของเฝิงซื่อ
หลังจากนั้นพักหนึ่ง อ้าฝางจึงกลับมาพร้อมกับเหล้าขาวเหยือกเล็ก และเมื่อมาถึงตอนนี้เืจากแผลบนศีรษะของเฝิงซื่อก็หยุดไหลแล้ว หลินฟู่อินจึงคลายผ้าที่พันรอบศีรษะของนางไว้ออก
เมื่อทำความสะอาดแผลด้วยผ้าชุบน้ำร้อนแล้ว จึงทำความสะอาดแผลซ้ำอีกครั้งด้วยเหล้าขาว
ถือว่าโชคยังดีที่แผลมิได้ลึกมาก จึงไม่จำเป็ต้องเย็บ
แต่หลินต้าเหอและเหล่าบุตรีมิเคยเห็นการรักษาเช่นนี้มาก่อน พวกเขาจึงยิ่งเชื่อมั่นในวิชาแพทย์ของหลินฟู่อินมากขึ้น
“ฟู่อิน ทำไมเฝิงซื่อจึงสลบรึ?” หลินต้าเหอสงบใจลงได้มากแล้ว และเมื่อเห็นหลินฟู่อินได้ทำการรักษาให้เป็อย่างดีแล้ว จึงอดถามออกมามิได้
หลินฟู่อินหันมามองเขา แล้วจึงเผลอตอบเชิงประชด “มิใช่ว่ามันเกิดเพราะท่านป้าสองต้องทนหิวโหยมาเป็เวลานานหรอกหรือเ้าคะ?”
ในใจของนางนึกไปถึงเปลือกตาอันซีดเซียวของเฝิงซื่อ เล็บนิวจมลงเล็กน้อยตรงจุดกลาง ทั้งยังมีอาการของภาวะโลหิตจาง แต่ต่อให้พูดเื่เหล่านี้ไปก็ใช่ว่าพวกเขาจะเข้าใจ นางจึงต้องเริ่มจากเื่อาหารการกินก่อน
ได้ยินเช่นนี้แล้ว หลินต้าเหอจึงทรุดตัวลงนั่งบนพื้น สองมือกุมศีรษะ ปากก็กรีดร้อง “ข้ามันช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!”
“น้ำผสมน้ำตาลทรายอยู่นี่แล้ว!” ยายหลี่ยกน้ำผสมน้ำตาลเข้ามา เมื่อนางเห็นสภาพหลินต้าเหอแล้วจึงเรียกให้เขารีบเข้าไปทำแทน “ต้าเหอ ป้อนน้ำนี่ให้ภรรยาของเ้าเสีย เด็กๆ ออกไปข้างนอกกัน”
หลินต้าเหอกล่าวตกลง “ได้” แล้วจึงปาดน้ำตาก่อนลุกยืนขึ้น
หลินฟู่อินถอยห่างออกมาเล็กน้อย
นางมองอาเฝิงที่ถือเหยือกเหล้าขาวกลับมาอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นปากเรียวเล็กของนางเม้มแน่นเช่นนั้นแล้ว ั์ตาทรงผลชิ่งทั้งสองก็มีเปลวเพลิงทอประกายขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าจิตใจกลับเย็นเยียบ
“ลุงสอง เ้าคนไร้ประโยชน์ เมียเ้ายังไม่ตายอีกรึ!”
จ้าวซื่อบุกเข้ามาในบ้านหลินฟู่อิน เมื่อเห็นหลินฟู่อินอยู่ที่โต๊ะกลางห้องแล้ว นางจึงใช้สองแขนเท้าเอวแล้วตะคอกใส่หลินฟู่อินทันที “เฝิงซื่อบอกว่าเ้าไม่ใช่ดาวหายนะ แล้วแผลบนหัวของนางตอนนี้มันคืออะไร? หากนางตายขึ้นมา นี่ก็จะเป็ความผิดของเ้า!”
เชิงอรรถ
[1] เจียนปิ่งต้นหอม คือ แพนเค้กจีน รสชาติเค็ม ลูกผสมระหว่างขนมเบื้องญวนกับพิซซ่า เจียนปิ่งคือการเอาแป้งคล้ายๆแป้งแพนเค้ก ไปทอดในกะทะ ใส่ไข่ ใส่ผัก ใส่แป้งทอดกรอบ หมูหยอง/ไส้กรอก/เนื้อ และซอส
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้