“อวี่ชาง ไม่สบายตรงไหนหรือ?”
“อวี่ชาง จะให้ข้าเรียกหมอหรือไม่?”
“ท่านพี่ไม่เป็อันใดก็ดีแล้วเ้าค่ะ พวกเราเป็ห่วงท่านมากเลยนะเ้าคะ”
ขณะนั้นทุกคนต่างไปรวมตัวกันที่เตียง
“ทุกคนอย่าได้เข้ามา สภาพข้าเป็เช่นนี้ ข้าไม่อยากจะเจอผู้ใด”
โจวอวี่ชางพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง ทั้งยังกระแอมไออยู่ตลอด
เขาพยายามลุกขึ้นมาแต่ก็ล้มลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว ม่านที่ปิดไม่สนิทนั้นเผยให้เห็นรอยเืเป็วงอยู่ที่พื้น
“ท่านพี่ มิเป็อันใดนะเ้าคะ?”
“อวี่ชาง...”
“...”
น้ำเสียงของคนในตระกูลเวินต่างร้อนรน สีหน้ามีความกังวล
เวินซีคอยสังเกตดูสีหน้า แต่มองไม่ออกว่าผู้ใดคิดจะทำร้ายโจวอวี่ชาง จนกระทั่งในตอนที่นางละสายตา ก็ได้สบตากับหลานเยว่เฉิงที่ยืนเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง
หลานเยว่เฉิงยกมุมปากขึ้น แล้วมองนางอย่างชั่วร้าย
นางมิได้สังเกตเห็นเขาได้เช่นไรกัน
เขามาทำอันใดที่นี่?
เวินซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะมีมือข้างหนึ่งมาปิดอยู่เบื้องหน้า นางเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาที่ไม่สบายใจของจ้าวต้าน ทำให้ต้องละสายตาออกมา
คนตระกูลเวินยังคงร่ำร้องแสดงความห่วงใยและเป็กังวล ส่วนจ้าวต้านก็พานางไปที่มุมห้อง
“หลานเยว่เฉิงเป็คนแปลกๆ เขาชอบสตรีงาม เ้าอย่าได้หลงมองว่าเขาดี”
“ข้ารู้ เื่นี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเขาแน่ ยามนี้โจวอวี่ชางก็ฟื้นแล้ว มีโอกาสค่อยถามเขา”
เวินซีมองไปที่โจวอวี่ชาง จ้าวต้านยืนอยู่ข้างๆ นางพลันเข้าไปใกล้
“อวี่ชาง นี่เป็ยาที่ต้มให้เ้า ในเมื่อเ้าตื่นแล้วข้าจะให้หมอส่งเข้าไปให้”
เวินอวิ๋นโปยังคงจดจ่อที่เื่ยา เขาเร่งให้หมอเดินเข้าไป
“ให้เวินซีเข้ามาเถิดขอรับ อวี่ชางเป็เช่นนี้คงจะทำให้หมอใแย่”
โจวอวี่ชางเอ่ยปากห้ามไว้ ในขณะที่หมอยังอยากจะเดินเข้าไป แต่ก็ถูกเสียงไอที่ดังของเขาทำให้ใจนยืนนิ่งอยู่กับที่
เวินอวิ๋นโปไม่มีทางเลือก จึงนำถ้วยยาไปให้เวินซี
เวินซีรับยามาเงียบๆ แล้วเดินเข้าไปด้านหลังม่านภายใต้สายตาของทุกคน
เมื่อเห็นนางเข้ามา สีหน้าของโจวอวี่ชางก็มีรอยยิ้ม “น้อง...แค่กแค่ก...”
“มีเื่ใดรอให้าแหายดีก่อนเราค่อยคุยกันเ้าค่ะ”
เวินซีนั่งอยู่ข้างเตียง ในมือถือช้อนแล้วคนยาในชาม
มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ซีดเซียวของโจวอวี่ชาง เขามองไปด้านนอกม่านพลันลดเสียงลง “พี่เกรงว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงตอนนั้น แต่ได้เห็นเ้าในวันนี้ข้าก็ดีใจมากแล้ว”
“เกิดอันใดขึ้นกันแน่เ้าคะ? แล้วเหตุใดตอนนั้นเวินอี๋เหนียงจะต้องขอร้องให้ท่านเข้าเมืองหลวงไปแทนนาง?”
เวินซีเอ่ยปากถาม นางลุกขึ้นแล้วหันหลังให้ม่าน เมื่อมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดมองเห็นจึงตักยาเข้าปากตนเอง
“เ้าทำ...” โจวอวี่ชางคิดจะห้ามนาง
“ข้าได้เห็นสูตรยาแล้ว เป็เพียงยาบำรุงเืเ้าค่ะ แต่หากท่านดื่มเข้าไปจะทำให้อาการหนักขึ้น ด้านนอกมีคนเฝ้าอยู่ หากไม่ดื่มให้หมดจะหลอกพวกเขามิได้”
“สมกับเป็บุตรสาวของเวินอี๋เหนียง ฉลาดเสียจริง หากข้ารู้เช่นนี้ ยามนั้นข้าน่าจะพาเ้าไปเมืองหลวงด้วย เ้าจะได้ไม่เป็อย่างทุกวันนี้ แค่ก...แค่กๆ...”
โจวอวี่ชางไอและมีเืกระเซ็นลงบนพื้นอีกครา
เวินซีหยิบเข็มเงินออกมา ปักบนร่างกายของโจวอวี่ชางอีกครั้ง เขามองนางอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เ้ารู้ทักษะการแพทย์ด้วยหรือ?” เขาถาม
“รู้เล็กน้อยเ้าค่ะ”
“พาข้าออกไป” ทันใดนั้นโจวอวี่ชางก็มีความหวังขึ้นมา
“เพราะเหตุใดเ้าคะ?” เวินซีถอดเข็มเงินออก
“เ้าก็เห็นแล้วว่าหากข้าอยู่ที่นี่จะต้องตาย หมอที่คนตระกูลเวินหามาล้วนแต่มีเจตนาร้าย คนของข้าก็ถูกไล่ออกไปทั้งหมด อยู่กับเ้าข้ายังมีความหวังเสียมากกว่า”
เขากล่าวต่อ “พาข้าออกไป เื่ที่เ้าอยากรู้ ข้าจะบอกเ้าทุกอย่าง ไม่ปิดบังแม้แต่อย่างเดียว”
“ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าการพาท่านออกไปนั้นยากเพียงใด?” เวินซีขมวดคิ้ว
ผู้คนข้างนอกพากันจดจ้องมาราวกับเสือที่รอเขมือบ หากพาเขาออกไปก็ไม่ต่างอันใดกับการโยนอาหารให้
“แต่หากเ้าดึงดันเข้าไว้ พวกเขาจะให้เ้าพาข้าออกไป เชื่อข้า” โจวอวี่ชางนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า
“ท่านพี่...”
“เวินซี ป้อนยาเสร็จหรือยัง?” ขณะนั้นเสียงของเวินอวิ๋นโปก็ดังมาจากด้านนอก
นางมองดูยาที่เหลืออยู่ก้นถ้วยก็ทำได้เพียงถอยออกไปก่อน แต่ในใจยังเต็มไปด้วยคำถาม
“อวี่ชางเป็เช่นไรบ้าง?” เวินอวิ๋นโปเดินเข้ามา โผล่หน้าเข้าไปดูบ้างเป็บางคราว
เวินซีก้มหน้า นางส่ายศีรษะแล้ววางถ้วยยาลงบนโต๊ะ “อาการป่วยของท่านพี่หนักมาก ยานี้ใช้มิได้ผล”
“จะเป็ไปได้เช่นไร? นี่เป็หมอที่เก่งกาจที่สุดในเมืองเชียว เหตุใดเขาถึงยังไม่ดีขึ้น?”
เวินอวิ๋นโปมองดูทุกคนพลันถอนหายใจ
“ข้าอยากจะพาท่านพี่ออกไป ข้ารู้จักเซียนหมอผู้หนึ่ง นางน่าจะมีทางรักษา”
“ไร้สาระ ข้ามิเคยได้ยินว่าที่เมืองนี้มีเซียนหมอคนใด เ้ามีเป้าหมายอันใดกันแน่” ฮูหยินใหญ่เวินลุกขึ้น นางเดินออกมาจากเก้าอี้
“ฮูหยินอยู่แต่ในจวน ย่อมเป็เื่ธรรมดาที่จะมิเคยได้ยิน นางเป็หมอที่เดินทางไปทั่วทุกทิศ เพียงแค่ผ่านมาพักชั่วคราวที่เมืองเราก็เท่านั้น ท่านจะรู้จักได้เช่นไร”
“ฮูหยินใหญ่จะร้อนรนเช่นนี้ไปไยกันเ้าคะ? โจวอวี่ชางเป็ท่านพี่ของข้า ข้าไม่มีทางทำร้ายเขาแน่นอนอยู่แล้ว”
เวินซีพูดอย่างมีเหตุผล ทำให้ทุกคนไร้ความสงสัยใดๆ
“ร่างกายของอวี่ชางขยับเขยื้อนได้ยาก เื่นี้เราค่อยว่ากัน หรือไม่เ้าก็ให้หมอมารักษาเขาที่นี่”
เวินอวิ๋นโปเสนอแนะด้วยสีหน้าที่ดำมืด
“นางเป็ถึงเซียนหมอ ไม่จำเป็ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใด ฉะนั้นนางไม่มาช่วยเหลือผู้ใดถึงเรือนหรอกเ้าค่ะ ผู้ที่้าให้นางรักษาต่างก็ต้องไปคุกเข่าขอร้องนางข้างนอก”
เวินซีแย้มริมฝีปากขึ้น
คำพูดของนางทำให้เวินอวิ๋นโปลังเลมาก
“นายท่าน คราวก่อนเวินซีทำร้ายบุตรสาวของเราจนต้องเข้าคุกไป คำพูดของนางเชื่อมิได้นะเ้าคะ”
ฮูหยินใหญ่เวินเห็นว่าเื่ราวไม่ปกติจึงรีบเดินเข้ามา แล้วคว้าแขนของเวินอวิ๋นโปไว้
“เวินเยียนทำผิดก็ต้องรับผิด อีกอย่าง ท่านพี่อาการหนักเช่นนี้ หากปล่อยไว้ถึงอย่างไรก็ต้องตาย เช่นนั้นเหตุใดข้าจะต้องทำร้ายเขาอีก?” เวินซีตอกย้ำถึงเหตุผล
“เ้า...ปากดีนักนะ” ฮูหยินใหญ่เวินกัดฟัน
“ขอบพระคุณสำหรับคำชมเ้าค่ะ ข้าจะพาท่านพี่ออกไปได้หรือยังเ้าคะ?”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์แย่ลง เวินเยียนก็วิ่งไปข้างกายหลานเยว่เฉิง ลดเสียงลงเอ่ยว่า “คุณชายซูจะทำเช่นไรดีเ้าคะ? หากท่านพี่ไม่ตาย เื่พวกนั้นจะปิดไม่อยู่นะเ้าคะ”
“วางใจเถิด พิษนั้นไม่มียารักษาหรอก ข้าได้ส่งคนออกไปดูแล้ว โจวอวี่ชางมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวัน หากนางอยากจะพาเขาไปก็ให้พาไปเถิด”
หากเขาและเวินเยียนยังคงดึงดัน จะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยเสียมากกว่า
เมื่อได้ยินหลานเยว่เฉิงเอ่ยเช่นนี้ เวินเยียนจึงทำได้เพียงถอยออกมา มิได้เข้าไปขัดขวาง
“ท่านลุง ให้เวินซีลองเถิดขอรับ” โจวอวี่ชางเอ่ยปาก
แม้เวินอวิ๋นโปจะลำบากใจ แต่ก็ทำได้เพียงยอมให้เวินซีพาเขาไป
คนรับใช้ของตระกูลเวินช่วยกันพยุงโจวอวี่ชางไปยังรถม้าของเวินซี
“เวินซี อวี่ชางเป็ลูกพี่ลูกน้องของเ้า เขาดีกับเ้ามาก ถึงเ้าจะโกรธแค้นตระกูลเวินเช่นไรแต่ก็ต้องจำบุญคุณตอนเด็กๆ ไว้ อย่าได้ทำร้ายเขา”
เวินอวิ๋นโปเอ่ยกำชับก่อนที่เวินซีจะขึ้นรถม้า
แต่เวินซีไม่สนใจเขา นางพาจ้าวต้านขึ้นรถไปทันที
รถม้าวิ่งออกไป ห่างจากตระกูลเวินออกไปเรื่อยๆ
โจวอวี่ชางที่วิตกกังวลก็ได้ผ่อนคลายลง ก่อนจะหลับไปอีกครา
เวินซีมองดูปัญหาใหญ่คนนี้ พลันมองไปยังปัญหาใหญ่อีกคนที่นั่งอยู่ในรถ นางถอนหายใจยาว
ยามนี้นางไม่มีทางหลีกหนีจากเื่นี้ได้แล้ว
“วางใจเถิด ข้าจะปกป้องเ้าเอง” จ้าวต้านเอ่ยปาก เพราะรู้ว่าในใจนางคิดอันใด
เวินซีเม้มริมฝีปากแล้วพยักหน้า
ที่ประตูใหญ่ของตระกูลเวิน หลานเยว่เฉิงมองดูรถม้าขับออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ เขายิ้มเล็กน้อย โอบเอวเวินเยียนต่อหน้าผู้คนแล้วกลับเข้าไปในเรือน
“เื่ของเวินซี เ้าต้องเล่าให้ข้าฟังแล้วล่ะ” เขาบอกเวินเยียน
“เื่ที่คุณชายซูอยากรู้ เวินเยียนย่อมไม่ปิดบังเ้าค่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้