“ไม่นะ...!”
ตอนนี้สติของแองเจล่าเพิ่งคืนกลับมา นางมีปฏิกิริยาเชื่องช้าเล็กน้อย กรีดร้องออกมาอย่างใ เห็นได้ชัดว่าไม่อาจห้ามได้ทัน
“ขาดันชาอีก แย่จริง!”
ซุนเฟยใจเต้นระรัว หลับตาแน่นแล้วใช้หมวกในมือป้องกันไว้
ตูม!
เศษลูกไฟกระเด็น ชั่วพริบตาหมวกเหล็กก็แดงจนร้อนฉ่าจากความร้อน ไม่นานก็เริ่มละลายและอ่อนตัวลง
เสียงชี่ๆ ดังขึ้นมาเบาๆ อยู่พักหนึ่ง กลิ่นเหมือนเนื้อที่ย่างจนเกรียมลอยมา
ซุนเฟยร้องเสียงหลง รีบโยนหมวกที่ร้อนเหมือนเตารีดทิ้งแทบไม่ทัน เมื่อก้มหน้ามอง เฮ้ย แม้ว่าการตอบสนองจะเร็วพอ แต่ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาก็ถูกลวกจนเป็แผลไหม้เกรียมขนาดใหญ่
แต่ลูกบอลไฟขนาดเท่ากำปั้นลูกนี้ ในที่สุดก็กระจายหายไป
ฟู่ว ดีนะที่ไหวตัวทัน
แต่ซุนเฟยยังไม่ทันได้ดีใจ ก็เห็นว่าเ้าอ้วนตรงหน้ากำลังแสยะยิ้มที่ดูเหมือนผู้ป่วยต่อมลูกหมากกำลังอั้นฉี่อยู่ มันกำลังอดกลั้นจนลำคอและใบหน้าแดงก่ำเพื่อสร้างบอลไฟอีกลูก บอลไฟที่มีขนาดเท่ากำปั้นก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว...
ตอนนี้ซุนเฟยก็ไม่มีสิ่งของไว้ป้องกันอีกแล้ว
“เ้าปลิ้นปล้อน ไร้ยางอาย...” ซุนเฟยพลันชี้นิ้วไปที่เ้าหมูอ้วนที่เหมือนกำลัง ‘อั้นฉี่’ อยู่ ซุนเฟยพูดอย่างอัดอั้นตันใจว่า “ถ้าเ้ามีความสามารถพวกเราก็มาประลองฝีมือด้วยมวยปล้ำ! บ้าเอ๊ย...เอ่อ ไม่ เทพผู้ยิ่งใหญ่ได้สอนพวกเราไว้ว่า หากเด็กๆ เล่นกับไฟตอนนอนจะฉี่ราดนะ แล้วยังพวกที่ซ่อนตัวอยู่ไกลๆ แล้วร่ายเวทใส่คนอื่นก็ถือว่าเป็พวกขี้ขลาดน่ารังเกียจ...”
ตูม!
เมื่อสาวงามแองเจล่าและเจ็มม่าได้ยินประโยคนี้ หน้าผากก็พลันเหมือนมีแถบเส้นสีดำพาด เกือบจะสำลักน้ำลายตายเสียด้วยซ้ำ ‘ปลิ้นปล้อน? ไร้ยางอาย? ฉี่ราด? นี่มันหลักการอะไร? เทพผู้ยิ่งใหญ่เคยพูดประโยคนี้ด้วยเหรอ?’
ดูเหมือนว่าอเล็กซานเดอร์จะยังคงเป็เด็กปัญญาอ่อนเหมือนเดิม!
ในตอนนั้นเองทั้งสองสาวก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย
แต่พวกเขาไม่ทันสังเกตว่า ั้แ่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่ซุนเฟยได้แอบหยิบเกราะเหล็กที่อยู่บนหัวเตียงแล้วแอบซ่อนไว้ด้านหลัง พูดไปพลางก็เขยิบไปอยู่ด้านหน้าไอ้หมูกิลที่ยืนยิ้มระรื่นไปพลาง
“มารดาเ้าสิ รอข้าเข้าไปใกล้ๆ ก่อน เห็นมันทำอวดเบ่งแล้วมันน่า...”
ซุนเฟยคำนวณระยะห่างพวกเขาสองคนไปพลาง อีกด้านก็เตรียมจะใช้กลยุทธ์โจมตีมัน เอาให้เ้าอ้วนนี้ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มสักครึ่งเดือน เป็เด็กเป็เล็กแล้วมาเล่นไฟได้อย่างไร
แต่ว่า...
“ฉี่ราดที่นอนมารดาเ้าสิ!”
กิลโกรธจนหน้ามืด เขาไม่อาจจะเก็บ ‘ความโกรธของนักเวทผู้สูงศักดิ์’ ของตัวเองไว้ได้อีกแล้ว เขาตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นว่าจะสั่งสอนาาที่รนหาที่ตาย ถ้าหากโชคดีมันเกิดตายล่ะก็ นั่นเป็เื่ที่ดีมาก ดังนั้น...
ฟิ้ว...!
ลูกบอลไฟลอยเข้ามา
แองเจล่ามีปฏิกิริยาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว นางกรีดร้องเสียงแหลม ใบหน้างดงามซีดเผือด นางพุ่งเข้าไปโดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง ร่างอรชรถลาเข้าไปบังร่างซุนเฟย
เ้าอ้วนกิลก็ยังต้องใ แต่ลูกบอลไฟเมื่อปล่อยออกไปแล้วก็ไม่มีวิธีที่จะเรียกกลับ น่าเสียดายที่ยังไม่ได้แอ้มสาวงามหยาดเยิ้ม นางก็จะกลายเป็เถ้าธุลีเสียแล้ว...
ซุนเฟยก็ใอย่างมาก
ได้แต่สบถอย่างเงียบๆ ว่า คงต้องตายเป็แน่ แต่ไม่มีเวลาคิดอีกแล้ว ซุนเฟยคว้าไหล่ขาวผ่องเนียนละเอียดของแองเจล่าไว้ แล้วดึงร่างสาวงามนุ่มนิ่มหอมกรุ่นเข้ามาโอบกอดไว้แน่น จากนั้นก็พลิกร่างหันหลังเตรียมใช้แผ่นหลังตัวเองกันบอลไฟที่ร้อนแรงจนสามารถละลายเหล็กได้...
“เวรเอ๊ย นี่ต้องมาถูกไอ้โง่นี่ฆ่าตายจริงๆ เหรอเนี่ย...”
แต่ในตอนนั้นเอง...
ฟู่ว!
ไม่น่าเชื่อว่าจะมือขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมากะทันหัน ช่วยกันเส้นทางการลอยของลูกบอลไฟออกไป
จากนั้นเพียงกำเบาๆ
ด้วยท่วงท่าอ่อนช้อย เหมือนจับกลุ่มอากาศธรรมดา
แต่วินาทีถัดมา ซุนเฟยกลับพบเื่ที่น่าตกตะลึง ลูกบอลไฟน่ากลัวที่สามารถละลายหมวกเหล็กให้กลายเป็เหล็กหลอมได้ กลับกลายเป็เหมือนเสียงผายลมดังขึ้น เพียงชั่วพริบตาลูกบอลไฟก็ถูกบีบแตก หลังจากนั้นก็กระจายอย่างหายไปในอากาศอย่างเงียบๆ
นี่แค่ใช้มือนะ ั้แ่ต้นจนจบแม้แต่ขนสักเส้นยังไม่ถูกเผาเลย
ซุนเฟยได้สติกลับมา ก็รีบปล่อยแองเจล่าที่หน้าแดงคล้ายจะเป็ลม จ้องมองด้านหน้าด้วยดวงตาเป็ประกาย “ชิ ยอดฝีมือชัดๆ”
และในขณะเดียวกัน ใบหน้าเ้าอ้วนกิลที่แสดงอาการเหมือนผู้ได้ชัยชนะก็พลันหายไปทันที เขามองผู้ชายที่ปรากฏในห้องโถงอย่างกะทันหันด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าอวบๆ นั้นเหมือนขนมเปี๊ยะที่ถูกทาแป้งจนซีด ทั่วทั้งร่างของมันเหมือนกับหยุดสั่นไม่ได้
ราวกับหนูเห็นแมว เ้าอ้วนกิลหวาดกลัวจนถึงขั้นเสียงเปลี่ยนทันที “ทะ...ทะ...ท่านแลมพาร์ด ท่าน...ทำไมท่านถึงได้...อยู่ที่นี่ ข้า... ข้า...ข้า...”
หน้าผากของเ้าอ้วนมีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุด
ยอดฝีมือที่มีชื่อว่า ‘ท่านแลมพาร์ด’ คนนี้ เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองเ้าอ้วนกิล เขาหันหลังแล้วโค้งคำนับแสดงความเคารพต่อแองเจล่าก่อน หลังจากนั้นก็กวาดสายตาขึ้นลงมองซุนเฟยที่ยืนเก๊กท่าบนเตียงด้วยสีหน้าเ็าพลางพูดว่า “องค์าาอเล็กซานเดอร์!”
ซุนเฟยกำลังพิจารณา ‘ยอดฝีมือ’ คนนี้อย่างละเอียด
ยอดฝีมือคนนี้เหมือนคนขาวแบบชาวตะวันตกสูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเิเ รูปร่างสูงเพรียว ใบหน้าดูซื่อตรง ดวงตาเจิดประกาย ลักษณะท่าทางหนักแน่น ผมสีแดงเพลิงของ ‘ยอดฝีมือ’ คนนี้ทำให้ซุนเฟยรู้สึกอิจฉา มันราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้กลางอากาศและยังสะบัดไปตามลม เขาใช้เชือกรวบผมมัดไปด้านหลัง อ่า นี่เป็อาวุธในการจีบสาวอย่างดีเลย
สิ่งที่ดึงดูดสายตาซุนเฟยที่สุดคือ ด้านหลังของ ‘ยอดฝีมือ’ มีดาบสองคมที่สูงประมาณหนึ่งเมตรสี่สิบห้าเิเอยู่หนึ่งด้าม มันดูกว้างและหนักมาก น้ำหนักของมันน่าจะประมาณหนึ่งร้อยกิโลกรัม ใบมีดหยาบๆ ไม่มีความคม แต่สีดำสลับแดงของมันกลับทำให้ดูร้ายกาจมาก
ตอนนี้ซุนเฟยนึกถึงเื่ ‘เอี้ยก้วยเ้าอินทรี’ ยุคหลังจากที่เอี้ยก้วยได้รับอาวุธผันแปรจากต้กโกวคิ้วป้าย...กระบี่เหล็กดำ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ซุนเฟยไม่เข้าใจก็คือ ‘ยอดฝีมือ’ ที่แข็งแกร่งร่างกายไม่ควรที่จะอ่อนแอ แต่ไม่รู้ทำไมใบหน้าของเขากลับซีดเซียว ระหว่างคิ้วของเขาขมวดน้อยๆ เหมือนเขากำลังาเ็
ซุนเฟยรู้สึกแปลกใจ
แม้ว่ายามวิกฤติ ‘พี่ชายยอดฝีมือ’ จะทำลาย ‘ลูกบอลไฟ’ ของเ้าอ้วนเพื่อช่วยตัวเขา แต่ดูเหมือนว่าพี่ท่านจะไม่ค่อยรู้สึกดีกับตัวเขามากเท่าไรนัก ก็เลยรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเมื่อรับรู้ได้ถึง ‘แม้ว่าจะสงสารในความเคราะห์ร้าย แต่ก็...’ แต่ไม่ว่าอย่างไร ซุนเฟยก็ยังไม่แน่ชัดถึงสถานะของ ‘พี่ชายยอดฝีมือ’ ได้แต่เพียงผงกหัวตอบกลับไป
“ท่าน...ท่านแลมพาร์ด ข้า...ไป...ไปได้ไหม?” เ้าอ้วนที่ถูกความใเล่นงานเสียจนสองขาแทบยืนไม่ไหวก็ถามเสียงสั่น
แลมพาร์ดไม่แม้แต่จะมองเขา “ไป? จะไปได้อย่างไร? กิล การที่เ้ากระทำการหยาบคายต่อาาของตัวเองจะไม่มีคำอธิบายอะไรเลยหรือ?”
“อ่า อธิบาย? นี่...ที่จริงแล้ว...ที่จริงแล้วข้าก็แค่เล่นขำๆ กับอเล็กซานเดอร์เท่านั้น...อือ ใช่ๆ ก็แค่เล่นขำๆ...ท่าน...ท่านก็รู้ว่าข้ากับอเล็กซานเดอร์เป็สหายกันมาั้แ่ยังเยาว์ เพียงแต่...เพียงแต่เมื่อครู่ข้าควบคุมพลังเวทไม่ได้...ท่านก็ทราบ ข้าเป็เพียงนักเวทฝึกหัดเล็กๆ ไม่มีคุณสมบัติถึงขั้นเป็จอมเวทเลย...”
เ้าหมูไร้ยางอายรีบหาข้ออ้างให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว
ยิ่งพูดยิ่งไหลลื่น แม้กระทั่งตัวเขาเองก็เกือบเชื่อว่าเื่นี้เป็ความจริง
ขณะที่กำลังเตรียมกุเื่ต่อ เขากลับเห็นแลมพาร์ดจ้องมองมาที่ตัวเองอย่างเยียบเย็น ดวงตาคมกริบ บรรยากาศเย็นะเืที่มองไม่เห็นตีแสกหน้าของเขา ชั่วพริบตาเ้าหมูอ้วนก็ถูกขู่ให้เสียขวัญ เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าหากจะสังหารคนก็ทำได้ง่ายดายราวกับกำลังบี้มด นั่นทำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดต่อได้แต่เพียงยิ้มอย่างประจบประแจง ไม่พูดเื่ไร้สาระอีกต่อไป
ใบหน้าของแลมพาร์ดแสดงความรังเกียจอยู่ชั่ววูบ
มือกำหมัดแน่น แรงกดดันที่มองไม่เห็นก็ะเิออกมา
ซุนเฟยรู้สึกราวกับมีภาพมายา ชั่วพริบตาแรงกดดันที่มองไม่เห็นก็กระจายเต็มทั่วห้องโถง
แต่ไม่นานนัก แลมพาร์ดเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง เขาลังเลอยู่สักพัก หมัดที่กำแน่นก็ค่อยๆ คลายออก แรงกดดันที่มองไม่เห็นนั้นก็สลายหายไป แลมพาร์ดสะบัดมือเหมือนไล่แมลงวันแล้วพูดว่า “ออกไป และจำไว้ว่าจะไม่มีครั้งต่อไป!”
“ขอรับๆๆๆ...”
เ้าอ้วนที่กำลังกลัวจนตัวสั่นได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเหมือนนักโทษปะาชีวิตที่สุดท้ายแล้วได้รับอภัยโทษ เขาหอบหายใจเล็กน้อย เขาโค้งคำนับอย่างซาบซึ้ง ไม่แม้จะกล้าผายลมออกมา เขาหมุนร่างแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“รอเดี๋ยว!”
ซุนเฟยพลันเรียกให้เ้าอ้วนหยุด
เ้าหมูหันหลังกลับมามองแลมพาร์ดก่อน ‘พี่ชายยอดฝีมือ’ ไม่พูดอะไร เขาก็ทำได้แค่หยุด กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นกระตุกหงึกๆ มองซุนเฟยอย่างไม่เข้าใจ
ซุนเฟยเดินไปอยู่ด้านหน้าเ้าอ้วนด้วยรอยยิ้ม
เขาตบไหล่เ้าอ้วนพลางยิ้มน้อยๆ เห็นท่าทีที่สงบนิ่งของเขา ทุกคนก็คิดว่าองค์าา้าพูดอะไรบางอย่าง และอาจจะให้พวกเขาออกไป
ทว่า...
ใครจะรู้ว่าเมื่อซุนเฟยเดินไปหยุดตรงหน้าเ้าอ้วน ทันใดนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนไป ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขายกมือขึ้นแล้วตบลงที่ใบหน้าของเ้าอ้วน ตบไปพลาง ปากก็ด่าไปพลางอย่างคับแค้นใจเหมือนเด็กที่ถูกคนแย่งตุ๊กตาไป “เ้าเรียกลูกบอลไฟมายิงข้า เ้าเรียกลูกบอลไฟมายิงข้า...เ้าบังอาจเรียกลูกบอลไฟมายิงข้า!”
เพี๊ยะๆๆๆๆ...!
ในห้องโถงมีเสียงตบดังกังวานไปทั่วห้อง ราวกับเป็ทำนองเพลงของซิมโฟนี
ในตอนนั้นเองแองเจล่าที่เพิ่งคืนสติกลับมา และสาวน้อยเจ็มม่าที่ใบหน้าปูดบวมทั้งสองคนต่างตกอยู่ในสภาวะอาการช็อก
แม้แต่แลมพาร์ดที่เพิ่งปรากฏตัวออกมาด้วย ‘ใบหน้าตายด้าน’ ในดวงตาก็ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงความแปลกใจออกมา
เด็กหนุ่มตรงหน้าที่ทั้งดุร้ายทั้งโเี้จนคล้ายกับคนบ้าคนนี้ เป็อเล็กซานเดอร์ที่โง่เง่าจริงๆ เหรอ?
ส่วนเ้าอ้วนที่น่าสงสารก็ถูกตบ...ตบไปทั่วใบหน้า
เขาไม่กล้ายกมือขึ้นมาปกป้องใบหน้าตัวเองด้วยซ้ำ การปรากฏตัวของแลมพาร์ดได้ขู่ขวัญเขาได้อย่างชะงัก เขาทำได้เพียงปล่อยให้อเล็กซานเดอร์ที่บ้าคลั่งทำร้ายตัวเขาต่อไป
ในใจของเ้าอ้วนรู้สึกเสียใจในภายหลัง ยืนคิดทั้งน้ำตาว่า ‘ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่า หลังจากที่อเล็กซานเดอร์ถูกธนูยิงแล้วจะเปลี่ยนไปเป็คนไร้ยางอายแบบนี้ ฆ่าเขาให้ตายเขาก็ยังดีเสียกว่า นี่เป็เพียงการยื่นหน้าตัวเองให้คนอื่นตบแท้ๆ เลย ถูกตีเป็เื่เล็ก แต่ที่สำคัญที่สุด...ที่สำคัญที่สุดคือมันไม่คุ้มเลยที่ถูกเด็กปัญญาอ่อนที่ความรู้แค่เด็กสามสี่ขวบตีอย่างโหดร้ายเช่นนี้’
การตบตีดำเนินไปได้สักพัก มือของซุนเฟยก็ชา เขาจึงหยุดมือ
เ้าอ้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกทั้งน้ำตา คิดว่าฝันร้ายจบลงแล้ว
ใครจะรู้ว่าซุนเฟยจะถูฝ่ามือเล็กน้อย ก่อนจะสังเกตคนตรงหน้าอย่างละเอียดสักพัก ทันใดนั้นก็ตวัดขาเตะผ่าหมากกิลอย่างรุนแรง ปากก็กล่าวว่า “ใครให้เ้ามาจับผู้หญิงของข้ากัน ใครใช้ให้เ้าเสกลูกไฟยิงใส่ข้า...ใครให้เ้ามาเสกลูกไฟยิงใส่ข้า!”
อีกแล้ว
ลูกเตะนี้ทั้งรุนแรง ทั้งแม่นยำ ทั้งอำมหิต
ตอนนี้เองเ้าอ้วนก็ตัวงอคล้ายกุ้งกุลาดำที่ถูกโยนเข้าไปในกระทะที่น้ำมันเดือดๆ เขาร้องโหยหวนออกมา ดิ้นรนราวกับหมูที่จะถูกเชือด...
แองเจล่าและเจ็มม่าที่สติกำลังจะกลับมาก็พลันแข็งค้างเป็หินอีกครั้ง
ในที่สุด พี่ยอดฝีมืออย่างแลมพาร์ดก็ไม่อาจคงความเ็าไว้ได้ เขาก็อ้าปากค้างอย่างแปลกใจโดยไม่ทันรู้ตัว เหมือนได้เห็นเทพธิดาแห่งชีวิตเปลือยกายอวดรูปโฉมงดงามอยู่เบื้องหน้า...
สุดท้ายเ้าอ้วนก็ร้องไห้เผ่นออกมาจากห้องโถงขององค์าา
เขาถูกอเล็กซานเดอร์ที่ ‘เป็บ้า’ ทำให้หวาดกลัวไปแล้วจริงๆ เขาหวาดกลัวจนไม่เหลือร่องรอยความขุ่นเคืองอีก เขาไม่แม้จะหันกลับมามอง ตัวสั่นงันงกรีบตะเกียกตะกายหนีไป วิ่งร้องไห้โฮๆ อย่างอัดอั้นตันใจ...
“ถุย! วิ่งหนีหางจุกตูดไปเลย!”
ซุนเฟยยังคงได้เปรียบและยังไม่ให้อภัยง่ายๆ เขาเอามือเท้าเอวข้างหนึ่ง อีกข้างก็ชี้ด่าไล่หลังเ้าหมูอ้วน
นิสัยอันธพาลเล็กๆ ของเขาก็คือเมื่อมีความแค้นก็ต้องชำระ ในตอนที่ตบกิลก็เหมือนกับได้ระบายอารมณ์ไปในตัว การทุบตีคนถือว่าเป็ความบันเทิงมากจริงๆ
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพอใจก่อนจะหันหลังกลับมา...แต่ก็ต้องสะดุ้งใ
แค่เห็นแองเจล่า เจ็มม่าและแลมพาร์ดจ้องมาที่ตัวเองตาค้าง ดวงตานั้นกวาดสายตาขึ้นลงมองเขาอย่างละเอียด ราวกับว่าได้เห็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน...
ในใจซุนเฟยเต้นตึกตัก ‘แย่แล้ว เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าออกอาการมากไปนิดหรอกนะ?’
“อ๊ะๆๆๆๆ...ข้าปวดหัว ปวดม๊ากมาก...ข้าจะเป็ลมแล้ว” เขาเริ่มแกล้งทำเป็คนบ้าสติฟั่นเฟือน แสร้งทำเหมือนร่างกายไร้เรี่ยวแรง ดวงตาสองข้างปิดลงแล้วหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้น
แองเจล่าที่ใบหน้าแดงระเรื่อ และเจ็มม่าที่บนใบหน้ามีรอยประทับฝ่ามือจนมองเห็นได้ชัด สองสาวเห็นซุนเฟยเป็ลมกองกับพื้นก็พากันมองอย่างตื่นตระหนก เพราะคิดว่าอาการาเ็ของอเล็กซานเดอร์กำเริบ จึงรีบประคองเขาขึ้นไปนอนบนเตียง
‘พี่ชายยอดฝีมือแลมพาร์ด’ จ้องมองเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะมองออกถึง ‘เล่ห์เพทุบาย’ ของซุนเฟยแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา และยังถามแองเจล่าสองสามคำเกี่ยวกับต้นสายปลายเหตุของอาการาเ็ของอเล็กซานเดอร์ หลังจากนั้นก็ปลอบโยนเจ็มม่าที่ได้รับาเ็ แม้ในใจจะมีข้อสงสัยมากมายแต่เขาก็หันหลังเดินจากไปแล้ว
“ฝ่าา ศัตรูยังคงล้อมเมืองอยู่ อีกไม่นานทหารของพระองค์คงต้านไว้ไม่ไหวแล้ว!”
‘พี่ชายยอดฝีมือ’ ทิ้งท้ายไว้ให้ประโยคหนึ่งและมันทำให้ซุนเฟยรู้สึกหวาดผวา
ผ่านไปได้สักพัก หลังจากที่แองเจล่าและเจ็มม่าได้จัดที่ทางให้ซุนเฟยเรียบร้อย เห็นว่าเขายังคง ‘สลบ’ อยู่จึงเฝ้าอยู่สักพัก จากนั้นแองเจล่าก็ค่อยพาเจ็มม่าไปหาหมอเพื่อรักษาแผลบนหน้า แล้วพวกนางก็ถอยออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
…
รอจนในห้องโถงเหลือตัวเองเพียงคนเดียว ซุนเฟยก็ค่อยเริ่มสงบสติอารมณ์ แล้วพิจารณาต้นสายปลายเหตุของเื่นี้อย่างละเอียด
เห็นได้ชัดเลยว่า ตัวเองได้ทะลุมิติแล้วจริงๆ
นอกจากแองเจล่าและเจ็มม่าแล้ว หลังจากนั้นก็มีนักเวทอย่างเ้าหมูอ้วนกิลปรากฏตัว ต่อมาก็มี ‘พี่ชายยอดฝีมือ’ ผมแดงผู้กล้าหาญปรากฏตัวขึ้นอีก นี่เป็ข้อพิสูจน์ได้ดี
ในโลกก่อนซุนเฟยเป็เพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ตกอับคนหนึ่ง
สิบปีของความยากลำบากนั้น ทำให้เขาสอบได้สาขาวิชาที่ห่วยสุดของมหาวิทยาลัยที่แย่สุด เขาใกล้จบปีสี่แล้ว แม้แต่งานก่อสร้างก็ยังหาไม่ได้เลย ดูท่าจะต้องกลายเป็ภาระของการเติบโต GDP ของประเทศที่ยิ่งใหญ่อย่างน่าอับอาย แม้แต่พวกที่ชอบเกาะพ่อแม่กินก็ไม่มีทางทำแบบเขาได้ เขาเกิดในชนบทเล็กๆ พ่อแม่จากเขาไปเร็วนัก สำหรับเขาแล้ว ญาติๆ มีก็เหมือนไม่มี ถ้าให้พูด การที่เขาทะลุมิติมาก็ไม่ใช่เื่แย่อะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่ทะลุมิติมาเป็องค์าาเลย
ั้แ่วัยเด็ก อุดมคติของซุนเฟยก็ไม่ใช่การที่จะกลายเป็พวกนักวิทยาศาสตร์อะไร แต่หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้กลายเป็ลูกผู้ดีมีเงินที่ไม่ต้องกังวลเื่อาหารการกิน ทุกวันก็จะมีผู้รับใช้คอยติดตาม ได้แทะโลมผู้หญิงสวยๆ ตามถนน พาสุนัขไปเดินเล่น ขับรถไปรับสาวๆ...แต่ก็เห็นได้ชัดว่าที่โลกเช่นนั้น อุดมคติแบบนี้คงอีกนานกว่าจะได้เป็จริง
แต่โลกนี้ อุดมคติของเขาอาจจะสามารถเป็จริงได้
กลายเป็าาที่ยืนอยู่เหนือผู้คน อำนาจอย่างสมบูรณ์ อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากกินอะไรก็ได้ อยากจะลวนลามลูกสาวใครก็สามารถทำได้ อยากขี่ม้าก็ได้ขี่ อยากนั่งรถอะไรก็ได้นั่ง ไม่มีพวกยามรักษาความปลอดภัยออกไปอวดเก่ง บางครั้งอาจจะนั่งอยู่ในห้องโถงคอยตำหนิเหล่าขุนนางใหญ่ที่ทำตัวสูงส่งตามใจชอบ...บ้าเอ๊ย นี่มันชีวิตของผู้ยิ่งใหญ่ชัดๆ!
คิดถึงตรงนี้ ซุนเฟยก็อดไม่ได้ที่จะเืเดือดพล่าน
แรงจูงใจที่สวยงามอยู่เบื้องหน้า ความคิดถึงและความอาลัยอาวรณ์ต่อโลกก่อนก็สลายหายไปทันที ซุนเฟยไม่เสียเวลามากนักสำหรับการโน้มน้าวตัวเองให้ยอมรับสถานะในปัจจุบัน
แต่อย่างไรก็ตามซุนเฟยเป็พวกที่ชอบอยากรู้อยากเห็น
เขาเริ่มวิเคราะห์สาเหตุที่ทะลุมิติมา
เห็นได้ชัดว่า ตอนที่กลับหอพักวันนั้น ตัวเองถูกบางอย่างที่คล้ายกับแผ่นซีดีส่องประกายจากฟากฟ้าชนเข้าอย่างจัง หลังจากนั้นคาดว่าน่าจะตายคาที่ ต่อจากนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมิญญาถึงได้หลุดมาโลกนี้ และยังเข้าสิงร่างาาหนุ่มที่ชื่อว่าอเล็กซานเดอร์คนนี้
และจากเื่ราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นก็พอสรุปได้ว่า าาหนุ่มคนนี้จะเป็คนโง่เง่าขี้ขลาด ก็ไม่รู้ว่าาาองค์ก่อนกินยาอะไรผิดสำแดงหรือเปล่าถึงได้ส่งมอบบัลลังก์ให้กับเขา เห็นได้ชัดว่า ข้าราชบริพารในประเทศนี้ดูเหมือนจะไม่ได้มองาาหนุ่มในแง่ดีเลยสักนิดเดียว...
ซุนเฟยนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่ตัวเองเพิ่งตื่นขึ้นก็ถูกคนยิงธนูใส่หมวก
คาดว่าตอนนั้นเป็ครั้งแรกที่ิญญาตัวเองสิงร่างสำเร็จ ส่วนาาอเล็กซานเดอร์คนก่อนก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว อย่างไรก็ตามั้แ่ตอนนั้น ซุนเฟยก็มาแทนที่เขาและกลายเป็าาแห่งแซมบอร์ดแล้ว
เพียงแต่ าาที่ชื่ออเล็กซานเดอร์นี้ ดูเหมือนว่าชีวิตก่อนหน้าจะปัญญาอ่อนจริงๆ
ซุนเฟยร่างกายของเขาและดูเหมือนจะได้รับความทรงจำของเขาทั้งหมด แต่ก็ได้รับเพียงข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น เช่น ภาษาที่คนในโลกนี้ใช้และชีวิตประจำวันธรรมดาที่คุ้นเคย นอกเหนือจากนั้นซุนเฟยก็ยังไม่รู้แน่ชัด อย่าพูดถึงพวกกฎหมายหรือพวกองค์ประกอบหรือระบบของต่างโลกนี้เลย แม้แต่คู่หมั้นแสนสวยที่ชื่อแองเจล่าเขาก็เพิ่งรู้หลังจากที่เพิ่งตื่น แม้กระทั่งเ้าหมูอ้วนกิลและพี่ชายยอดฝีมือ ตอนนี้ซุนเฟยก็ยังคงนึกเหตุการณ์เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับพวกเขาสองคนไม่ออกเสียด้วยซ้ำ
“โชคดีที่เ้านี่ปัญญาอ่อน แบบนี้เวลาที่ข้าสวมรอยแทน แม้ว่าข้าจะแสดงท่าทางอะไรแปลกๆ ก็ไม่มีคนมองออก...”
ซุนเฟยลูบคางตัวเองแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ สิ่งนี้ถือว่าเป็ประโยชน์ต่อตัวเอง
แต่ไม่นานซุนเฟยก็นึกถึงอีกเื่ขึ้นมา...
ตอนที่พี่ชายยอดฝีมือจะเดินออกไป ได้ทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง เหมือนจะพูดว่าข้าศึกอะไรสักอย่างกำลังล้อมเมือง และอีกไม่นานทหารก็จะต้านไม่ไหวแล้ว...
“แย่ล่ะ เป็ไปไม่ได้หรอกมั้ง?”
คิดถึงตรงนี้ ซุนเฟยแทบจะะโลุกออกจากเตียง ‘บิดาเพิ่งจะได้นั่งบัลลังก์ ก้นยังไม่ทันจะร้อน ข้าศึกก็อยากจะบุกเข้ามาหรือ? บิดาจะได้กลายเป็าาของอาณาจักรล่มสลายอย่างนั้นหรือ? หลังจากนี้ไม่ต้องพูดถึงความบันเทิงที่หรูหราอย่างสาวสวยหรือรถหรูเลย เกรงว่าจะถูกข้าศึกที่โหดร้ายจับไปฆ่า หลังจากนั้นก็ฆ่า แล้วก็ฆ่าอีกครั้งใช่ไหม?’
ความกดดันของความอยู่รอดที่โเี้ถาโถมเข้ามา ทำให้ซุนเฟยกลัวจนตัวสั่น
“เก็บข้าวของแล้วแอบหนีไปดีกว่าไหม? แล้วจะหนีอย่างไรกัน เมืองก็มีข้าศึกล้อมไว้อยู่นี่? ให้พี่ชายยอดฝีมือไปกำจัดข้าศึกที่กล้ารุกรานาาที่น่าเกรงขามอย่างข้า? คนคนนั้นแม้ว่าฝีมือร้ายกาจ แต่ว่าคนคนเดียวคงไม่อาจสู้คนทั้งกองทัพได้ แล้วถ้าฝ่ายตรงข้ามมียอดฝีมือล่ะ? ถ้าเป็แบบนั้นเราควรจะทำอย่างไรดี?”
ซุนเฟยคิดไปคิดมาก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว
ก่อนที่ตัวเขาเองจะทะลุมิติมา เขาก็แค่คนโง่ที่วันๆ เอาแต่เอ้อระเหยลอยชาย ไม่มีกองกำลังติดอาวุธหรือพร์ทางด้านการทหารที่ทำให้ผู้คนตื่นตะลึง อย่างดีก็แค่รับมือกับพวกอันธพาลกระจอกๆ ถ้าให้เขาเป็ผู้นำพวกทหารทำา เกรงว่าแม้แต่แรงจะสวมชุดเกราะก็ยังไม่มีปัญญาทำได้เลย
ดังนั้นซุนเฟยจึงเปลี่ยนสีหน้าโดยพลัน
“เวรเอ๊ย ไอ้สารเลวคนไหนส่งบิดามาต่างโลกนะ มันดีแน่เหรอที่บิดาจะอยู่โลกนี้?” คนโง่ๆ ก็ไม่คิดจะอยู่หรอก แต่เมื่อกี้ใครกันนะที่ยังจินตนาการถึงชีวิตอันสวยงามของาาเอาไว้
ตอนนั้นเอง...
“รวบรวมข้อมูลผู้เล่น…20%…50%…88%…100%…เริ่มติดตั้งระบบเกม…สแกนความจุของสมอง…ตรงตามเงื่อนไข…ติดตั้ง…”
เสียงเ็าลึกลับดังกังวานขึ้น
ทันทีที่ซุนเฟยได้ยินก็ใขวัญหนีดีฝ่อ
เพราะว่าเสียงนี้ มันดังขึ้นมาในสมองของเขาโดยตรง
“บ้าเอ๊ย ใครน่ะ? คนหรือผี?”
ไม่มีใครตอบเขา
เสียงดังติ๊ดๆ อยู่พักหนึ่งราวกับว่าในสมองของซุนเฟยติดตั้งะเิเวลาถอยหลัง ในสิบวินาทีต่อมา เสียงนั่นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง...
“เกมได้ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว อีกสามวินาทีจะเข้าสู่โลกของเกม Diablo…สาม…สอง…หนึ่ง…เข้าร่วมเกม!”
ซุนเฟยรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้ามืดลงชั่วขณะ มันดูเหมือนละครอเมริกาเื่ 'สตาร์เกท ทะลุคนทะลุจักรวาล' ที่นักผจญภัยสามารถเดินทางทะลุอวกาศได้ ในตอนนั้นก็รู้สึกถึงความลึกลับแปลกๆ ที่กำลังปกคลุมไปทั่วร่างกาย
…
…
ณ ค่ายโร้ก
ซุนเฟยเหมือนคนโง่ที่ยืนอยู่ในค่ายโร้กของเกม Diablo ซึ่งเป็สถานที่สำหรับพวกมือใหม่ปรากฏตัว ในใจของซุนเฟยรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เขายืนอยู่ที่นี่ได้สี่ห้านาทีแล้ว
สี่ห้านาทีก่อน หลังจากที่จู่ๆ ก็มีเสียงปรากฏอยู่ในสมองของซุนเฟยว่าจะดำเนินการเข้าเกมในสามวินาที เบื้องหน้าซุนเฟยพร่ามัวสักพัก จากนั้นก็มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่แล้ว
นี่เป็โลกของ Diablo อย่างแท้จริง
โลกที่สมบูรณ์แบบและสมจริง
ใน่เวลาสี่ถึงห้านาทีที่ซุนเฟยเข้ามาในเกมก็พอจะได้ข้อสรุปแล้ว
ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกพรำๆ บนพื้นดินที่ลื่นมีพืชมอสสีเขียวเข้มที่ไม่รู้จักเติบโตอยู่ พื้นผิวโล่งๆ เป็ดินสีดำอยู่ไกลๆ ทั้งค่ายว่างเปล่า มีแม่ไก่หาอาหารอยู่ไม่กี่ตัวที่ถูกน้ำฝนจนตัวเปียกโชก ร้องตั๊กๆ วิ่งไปหลบฝนอยู่ในเต็นท์ผ้าลินินที่ทำขึ้นมาหยาบๆ ด้านซ้ายมือของซุนเฟย
ลมเย็นพัดโชยมา ซุนเฟยสะดุ้งด้วยความหนาวเย็น
ความรู้สึกเหมือนจริงแพร่กระจายไปทุกปลายเส้นประสาททุกส่วนของร่างกาย ย้ำเตือนซุนเฟยว่าทั้งหมดที่เห็นล้วนเป็ความจริง ที่นี่เป็โลกจริงและไม่ใช่โลก 2D ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์
-------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้