โดยเฉพาะเพื่อนตำรวจนายหนึ่งในนี้เมื่อครู่ที่ผับยังกดซุนหยวนไว้กับพื้น ต่อมาก็ซัดซุนหยวนไปอีก เขายิ่งมีความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา และรู้สึกโลกหมุนขึ้นมาทันที ตำรวจนายหนึ่งทนไม่ไหวจนเป็ลมไปแล้ว
ตอนนี้ตำรวจพวกนี้ก็มีคนเสียใจแล้ว สำหรับเสี่ยวจางที่ก่อนหน้านี้อวดดีเหลือเกิน เพื่อจะเอาอกเอาใจ ผอ.หวง และอวดเก่งอยากจะสั่งสอนพวกเขา ใบหน้ายิ่งขมขื่นราวกับดอกเก๊กฮวย แย่จนไม่อาจจะแย่ได้อีก
“นาย … นายล่ะ?” มีตำรวจอดไม่ได้จึงถามมี่เฟ่ยแล้ว
“เหอะๆ ผมง่ายๆ น่ะ พ่อผมตำแหน่งต่ำกว่าหน่อย มี่ฉิ่งหัว ส่วนทำอะไร ผมคิดว่าพวกคุณก็น่าจะรู้ ผมคิดว่าพวกคุณถามผมกับซุนหยวนสองคนไม่น่าสนใจหรอก สู้ถามคนที่เมื่อครู่พวกคุณด่าไป ไม่แน่ว่าจะตื่นเต้นกว่า”
มี่เฟ่ยพูดอย่างยิ้มแย้ม
แต่คำพูดนี้ของเขาพอที่จะทำให้หัวเราะจนท้องแข็งทันที
ถ้าบอกว่าหัวหน้าสำนักงานเมิงคือคนใหญ่คนโตที่มีตำแหน่งสูงส่งแล้ว และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา อย่างไรก็ห่างไกลพวกเขาเกินไป โดยเฉพาะตอนนี้ถือว่าอยู่ในสถานะถอยไปเก็บตัวครึ่งหนึ่งแล้ว หากการคุกคามยังไม่มาก เช่นนั้นคุณชายคนโตของท่านเลขานุการท่านนี้ หากจะจัดการพวกเขาก็เป็เื่ที่ง่ายดายมาก
ล้อเล่นน่า ชื่อมี่ฉิ่งหัวชื่อนี้ในหลิงเฉวียนก็เป็เหมือนกับฟ้าดิน และเป็ทุกอย่าง เป็เบื้องบนของเบื้องบนพวกเขาอีกที และเป็หมายเลขหนึ่งของทั้งหลิงเฉวียน
คิดๆ ดูแล้วคนพวกนี้ของตนเองจับลูกชายของเขา ก็คือคุณชายสามอย่างมี่เฟ่ยที่เล่าลือกันแล้ว พวกเขาก็มีความรู้สึกที่อยากจะชนกำแพงให้ตายๆ ไป
ใครไม่รู้บ้างเล่าว่าผู้หญิงสองคนของท่านเลขานุการ อายุปูนนี้แล้วเพิ่งจะมีลูกชายแค่คนเดียว และก็รักจนไม่ลืมหูลืมตา
ปกติแล้วในหลิงเฉวียน ใครจะกล้าล่วงเกินคุณชายมี่คนนี้เล่า ตอนนี้ดีแล้ว พวกเขาดันจับมา และเกือบจะตีเขาแล้ว?
คิดๆ ดูแล้ว เื่นี้พวกเขาก็ล้วนรู้สึกว่าตนเองบ้าไปแล้ว
“นี่ ผอ.หวงกับคุณชายหวงไปก่อเื่เดือดร้อนไว้มากแค่ไหนแล้ว ตนเองจะตายก็ไม่ว่า แต่ก็อย่าลากพวกเราไปด้วยสิ”
เวลานี้จิตใจของทุกคนอดร้องคร่ำครวญไม่ได้
คิดดูแล้ว ตำรวจอย่างพวกเขาจับตัวลูกชายของหัวหน้าสำนักงานเมิงและคุณชายของเลขานุการมาแล้ว ยังจะตีพวกเขาอีก …
ตำรวจพวกนี้ก็รู้สึกอยากจะตายไปให้พ้นๆ และก็รู้สึกเกลียด ผอ.คนนั้นของตนเองอย่างไม่รู้ตัวแล้ว
ส่วนคนที่ตรงกันข้ามกับพวกเขา ก็คือเด็กสาวสองสามคนทางนั้น ใบหน้าที่เดิมทีร้องไห้ฟูมฟายเวลานี้เต็มไปด้วยความแปลกใจและดีใจ
โดยเฉพาะเหยียนตาน เวลานี้ั์ตาที่มองมี่เฟ่ยก็เต็มไปด้วยประกายแห่งความคลั่งไคล้แล้ว อย่างหัวหน้าสำนักงานเมิงสำหรับสาวน้อยอย่างพวกเธอแล้ว ก็อาจจะยังไม่รู้ชัดว่าคืออะไร แต่ลูกชายของเลขานุการ พวกเธอก็พอรู้อยู่บ้าง ถึงหลิงเฉวียนจะเป็แค่สถานที่เล็กๆ แต่นั่นก็คือชายโสดฝังเพชรชัดๆ ลูกข้าราชการใหญ่ระดับสูงสุด หากไม่จับไว้ให้แน่น นั่นก็เหมือนเป็คนโง่จริงๆ
คำพูดของมี่เฟ่ย เมื่อตำรวจสองสามคนฟังแล้ว เวลานี้ใบหน้าพวกเขาล้วนจะซีดเป็ไก่ต้ม โดยเฉพาะเสี่ยวจางที่เมื่อครู่จะตีเมิงหวงเฉาก่อนและตำรวจอีกสองคนที่ล็อกตัวเขามา สีหน้าท่าทางจิตใจที่มองเมิงหวงเฉาก็กำลังสั่นเทา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เมิงหวงเฉาก็เป็คนใหญ่คนโตเหมือนกัน คิดๆ ดูแล้วพวกเขาก็อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
“นาย … นาย … นายคือ … ” เสี่ยวจางที่พูดติดอ่างยังอดถามไม่ได้
ถึงจะตาย ก็ต้องตายตาหลับไม่ใช่หรือ
“พ่อผมพวกคุณไม่รู้จักหรอก เป็ข้าราชการอยู่ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ อำนาจก็มี แต่ก็จัดการผมไม่ได้”
เมิงหวงเฉามีใบหน้าที่เ็า และพูดมาแบบนี้ทำให้พวกเสี่ยวจางโล่งใจกันอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรตำแหน่งของอีกฝ่ายก็ไม่ต่ำ แต่ถ้าไม่อยู่ในหลิงเฉวียนก็ดี นั่นก็ไม่จำเป็ต้องกลัวแล้ว และยังดีกว่าสองคนก่อนหน้านี้ใช่ไหม?
ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ … ถึงตำแหน่งจะสูงแค่ไหน ก็คงจะไม่มาที่นี่ทันทีทันใดหรอก
แต่คำพูดต่อมาของเมิงหวงเฉากลับผลักทุกคนลงนรกไปยังขุมที่ลึกที่สุด จากนี้เป็ต้นไปก็รู้สึกว่าชีวิตไม่มีหวังแล้ว
ก็เห็นแค่เมิงหวงเฉาพูดว่า “พ่อของผมคนนี้พูดไปพวกคุณก็ไม่รู้จัก แต่คุณปู่ของผมพวกคุณก็น่าจะรู้จัก คุณปู่ผมแซ่เมิง ชื่อเมิงฉางเจิง”
แค่ประโยคเดียวก็ทำให้ทุกคนสิ้นหวังในที่สุด
เมิงฉางเจิงหรือ! หลักสำคัญของหัวเซี่ย คนใหญ่คนโตที่เป็หนึ่งไม่เป็สองรองใคร สร้างคุณูปการในการก่อตั้งประเทศ!
พวกเขาจะไม่รู้หรือว่าเมิงฉางเจิงคือใคร นั่นก็ไม่ต้องอยู่แล้ว ท่านนั้นก็มีคุณูปการในการปฏิวัติที่เริ่มเผยแพร่จากหนังสือเรียนระดับประถมศึกษา และเป็บุคคลที่ภาพยนตร์ ละครล้วนถ่ายทำมาหมดแล้ว คือผู้าุโที่ยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้หากพูดถึงในประเทศ อาจพูดได้ว่าไม่รู้ว่าหมายเลขหนึ่งคือใคร แต่ก็ล้วนเป็ไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าเมิงฉางเจิงคือใคร ท่านผู้าุโมีชื่อเสียงเรียงนาม แค่เห็นก็รู้
เวลานี้ทุกคนก็นึกออกแล้วว่าคนตรงหน้านี้คือใครกันแน่
ก็ไม่ใช่ว่าเป็หลานชายที่ล้างผลาญครอบครัวของท่านผู้าุโเมิงคนนั้นหรือ เมิงหวงเฉาลูกผู้ดีอันดับหนึ่งที่เล่าลือกันในตี้ตู?
เล่ากันว่าเป็คนใหญ่คนโตที่ก่อนหน้านี้ได้ไปก่อเื่ในตี้ตู และถูกลากตัวกลับมากักตัวแล้ว
คิดๆ ดูแล้ว … พวกเขาก็รู้สึกว่าตอนนี้ตนเองไปชนกำแพงตาย อาจจะดีกว่าหน่อย
มิน่าล่ะอีกฝ่ายถึงได้กำเริบเสิบสานอย่างนี้ และคนสองสามคนนี้ยังไม่ทันทำอะไรก็ใช้มีดแล้ว ทั้งยังแทงคุณชายหวงไปโดยตรง มิน่าล่ะคนสองสามคนนี้ล้วนไม่เห็น ผอ.หวงอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ก็เพราะมีฐานะถึงขั้นนี้นี่เอง!
ผอ.หวง … หาก ผอ.หวงเทียบกับพวกเขาก็เทียบไม่ได้ แค่ตำรวจท้องที่คนหนึ่ง อีกฝ่ายก็สามารถฆ่าให้ตายได้อย่างง่ายดาย
“เร็ว เร็วหน่อย! เมื่อครู่ทางสำนักเทศมนตรีสายตรงมาให้พวกเราปล่อยคน เร็ว เร็วหน่อย … ”
จู่ๆ ในเวลานี้ ประตูของห้องสอบสวนก็ถูกคนเปิดออกแล้ว ตำรวจคนหนึ่งพุ่งเข้ามา และพูดด้วยอาการเหงื่อท่วมตัว
ระหว่างที่พูด ก็เห็นคนเต็มห้อง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปและดุว่า “หวางหวง นายบอกกับฉันมา พวกนายลงมือแล้วหรือยัง?”
“พวกเราจะกล้ากันที่ไหนครับ … ”
เมื่อตำรวจหวางคนนั้นได้ยินคำนี้แล้ว ก็พูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่นและไม่ได้รับความเป็ธรรม
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็คิดจะลงมือจริงๆ และอยากจะประจบ ผอ.หวง แต่พอได้ยินถึงฐานะของคนคนนี้แล้ว ต่อให้พวกเขากล้าแค่ไหนก็ไม่กล้าลงมือหรอก นั่นก็รนหาที่ตายชัดๆ
“ฮู้ … แบบนั้นก็ดี”
ตำรวจนายนั้นถอนหายใจยาว
เมื่อครู่รองนายกเทศมนตรีของสำนักเทศมนตรีโทรศัพท์มาเอง และวิจารณ์พวกเขาอย่างรุนแรง ให้พวกเขารีบปล่อยคน น้ำเสียงก็รุนแรงอย่างเป็ประวัติการณ์ ทำให้ตำรวจเวรอย่างพวกเขาเหล่านี้ใจนแทบจะะโหนี
เขารีบวิ่งเข้าไป และกลัวว่าคนทางนี้ของพวกเขาจะลงมือ ตอนนี้ดูแล้ว พวกเขาก็ไม่ถือว่าโง่จนเกินไป
ไม่ได้ลงมือก็ดี … ไม่ได้ลงมือก็ดี
“ปล่อยคนซะ!” สารวัตรคนนี้รีบพูด
แต่น่าเสียดาย เขาเพิ่งจะพูดออกไป เสียงโมโหที่อยู่ด้านนอกก็ดังมาทันที “ปล่อยคน? โจวจวิ้น ใครสั่งให้นายกล้าอย่างนี้ นายว่าปล่อยก็ปล่อยหรือ? หรือว่านายไม่อยากจะทำงานแล้ว! ฉันจะบอกนายให้ วันนี้พวกอิทธิพลมืดพวกนี้หากไม่ดำเนินคดีก็ปล่อยไปไม่ได้ ฉันไม่สนว่าใครจะโทรศัพท์มาหานาย ฉันจะบอกนายให้ ถึงเทพเ้าลงมาก็ไม่มีประโยชน์”
คำพูดเพิ่งจะพูดออกไป ผอ.หวงที่เพิ่งจะกลับมาจากโรงพยาบาลคนนั้นก็ยืนอยู่หน้าประตูอย่างโมโห
เขาเพิ่งจะไปดูลูกชายของตนเองมา ซึ่งก็ถูกตีจนอนาถอะไรอย่างนั้น หมอก็บอกแล้วว่า เนื้อตัวส่วนใหญ่ได้รับาเ็ บวกกับกระดูกหัก ยังมีหัวถูกกระทบกระเทือนเล็กน้อย จมูกมีเืไหลและอาการอื่นๆ อย่างน้อยก็ต้องนอนรักษาตัวสองสามเดือน
นี่ก็ทำให้ ผอ.หวงเป็ห่วงจนแทบจะร้องไห้ เขาก็มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่คนเดียว ั้แ่เล็กจนโตตนเองก็ทำใจไม่ลงที่จะแตะแม้แต่ปลายนิ้ว ตอนนี้กลับถูกคนตีจนเป็แบบนี้ จะยอมเลิกราได้อย่างไรกัน?
ยิ่งไปกว่านั้นแม่เสือที่บ้านของตนเอง เมื่อครู่ก่อนที่เขาจะมาก็ได้พูดแล้วว่า ถ้าไม่ทำให้คนที่ตีลูกชายของตนเองพวกนี้พิการ ต่อไปเขาก็อย่าคิดที่จะกลับมาบ้านอีก
ตอนนี้ได้ยินว่าจะปล่อยคนพวกนี้ เขาจะตกลงได้อย่างไรกัน?
“ท่าน ผอ. … ” สารวัตรโจวปริปาก และ้าจะพูด
เสียดายที่เพิ่งจะปริปาก ก็ถูก ผอ.หวงขัดไว้แล้ว “โจวจวิ้น ยังจะให้ฉันพูดอีกครั้งหรือ? นายเป็ ผอ.หรือว่าฉันเป็ ผอ.กันแน่? ฉันไม่สนว่าใครจะโทรศัพท์มาหานาย แต่ครั้งนี้หลักฐานชัดแจ้ง ใครๆ ก็อย่าคิดที่จะเอาตัวพวกผู้ร้ายพวกนี้ออกไป ฉันจะดำเนินคดีพวกเขา … ”
มองตำรวจที่อยู่ในห้องพลางพูดเสียงสูงว่า “ยังจะมึนงงอะไร ยังไม่ให้พวกเขาได้เห็นดีอีก? ให้พวกเขายอมรับสารภาพซะ!”
หากเป็เมื่อก่อน ตำรวจพวกนี้ก็จะเชื่อฟัง และดำเนินการทันที โดยไม่สนใจผิดถูก
ผอ.ก็ล้วนพูดแล้ว แบบนั้นจะมีผิดได้หรือ? ฟังคำของ ผอ.ก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้ …
พวกเขาจะกล้าที่ไหนกัน!
เมื่อครู่คุณชายทั้งสองสามคนก็แนะนำตัวแล้ว พวกเราก็แทบจะบูชาพวกเขาขึ้นหิ้งแล้ว และยังจะกล้าทรมานให้รับสารภาพได้ที่ไหนกัน?
นั่นก็ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้