“ไม่นานก็จัดการได้หรือ? จัดการบ้าอะไร! ฉันว่าพวกนายเข้าไปครั้งนี้ ก็อย่าคิดที่จะออกมาเลย พวกนายเก่งจริงๆ กล้าตีคุณชายหวง? และยังตีจนเป็อย่างนั้น ทั้งยังใช้มีดอีก? เฮ้อ จะบอกนายจริงๆ คนที่ได้รับาเ็ก็มีลูกของผู้นำสองสามคน ครั้งนี้พวกนายจบเห่แน่ อาศัยแค่พวกนายเรียกคนมามากขนาดนี้หรือ โทษฐานที่เป็พวกอิทธิพลมืดพวกนายรับไปเต็มๆ อยากจะออกไปหรือ? ฝันไปเถอะ! หากไม่ถึงสิบปี นายก็อย่าได้คิด”
คำพูดของเจียงไป๋เพิ่งจะพูดออกไป ตำรวจที่อยู่ด้านหลังนายหนึ่งก็ผลักเจียงไป๋อย่างไม่ลังเล และพูดอย่างดูถูก
เมื่อพูดจบก็มองไปที่เด็กสาวสองสามคน สายตาก็อดแปลกใจไม่ได้ “เด็กสาวดีๆ อย่างพวกเธอตามใครไม่ตาม ดันไปตามพวกเขา? พวกเขามีอะไรดี คราวนี้ก็ดีแล้ว พวกเธอก็เดือดร้อนไปด้วย ไปเรียนหรือ? ฉันว่าน่าจะไปเรียนไม่ได้แล้ว ไม่ถูกดำเนินคดีก็ไม่เลวแล้ว”
เมื่อเทียบกับเจียงไป๋และตำรวจนายนั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวสองสามคนนี้ยิ่งจะยอมเชื่อตำรวจนายนั้นมากกว่า ดังนั้น เสียงร้องไห้ก็ยิ่งดังขึ้นแล้ว
“ร้องทำไม เื่แค่นี้ ฉันส่งข้อความไปแล้ว จะช้าหรือเร็วทางนั้นก็ต้องเห็น แค่เห็นเข้า พวกเราก็ไม่เป็ไรแล้ว มากสุดก็อยู่ที่นี่สักพัก เวลานี้ พ่อฉันน่าจะยังไม่นอน! ฉันก็อยากจะคอยดูว่า ใครจะจับพวกเราได้!”
มี่เฟ่ยพูดอย่างทนไม่ไหว หลังจากนั้นก็มองตำรวจพวกนี้อย่างเคียดแค้น
“นายน่ะขึ้นรถไปเถอะ!”
สิ่งที่คิดไม่ถึงคือ ตำรวจที่อยู่ด้านหลังเขาได้ถีบเขาไปหนึ่งที และถีบเขาขึ้นรถไปแล้ว
นี่ก็ทำให้มี่เฟ่ยโมโหมาก
แต่สิ่งที่ทำให้เจียงไป๋ประหลาดใจคือ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่โวยวายขึ้นมาทันที แต่กลับแสดงออกอย่างเงียบสงบ ก็แค่มองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง แต่ไม่พูดอะไร
แต่เจียงไป๋ก็รู้ว่า ยิ่งเป็อย่างนี้ เื่นี้ก็ยิ่งไม่ดีแล้ว
สถานีตำรวจอยู่ใกล้ผับมาก นี่ก็เป็เหตุที่ว่าทำไมอีกฝ่ายจึงมาถึงได้เร็วขนาดนี้
ก็แค่ขับรถสี่ห้านาที พวกเจียงไป๋ก็ถูกคุมตัวมาที่สถานีตำรวจสาขาย่อยของเขตเมืองตงเฉิงแล้ว พอเข้าประตูมาก็ถูกขังไว้ด้วยกัน และถูกสอบสวนกันยกใหญ่ จริงๆ แล้วก็ไม่คิดที่จะแยกพวกเขา
“นาย จะทำอย่างไร? จะรอให้ ผอ.หวงกลับมาจากโรงพยาบาลแล้วค่อยว่ากัน หรือว่าจะลงโทษพวกเขาก่อนสักหน่อย?”
พวกเจียงไป๋ถูกขังไว้รวมกันในห้องหนึ่ง สำหรับคนที่เมิงหวงเฉาเรียกมาก็ถูกขังไว้อีกที่หนึ่ง แค่ฉับพลันสถานีตำรวจเขตเมืองตงเฉิงที่เดิมทีไม่ถือว่ากว้างขวางก็เต็มไปด้วยคนแล้ว ตำรวจหนุ่มนายหนึ่งพูดอย่างนี้
“ยังจะต้องถามอีกหรือ? ซุนจาง นายเพิ่งจะทำงาน วันนี้ลุงหวางก็จะสอนนายสักหน่อย นายว่าคนอยู่ใต้บังคับบัญชา ก็จะต้องคำนึงถึงผู้นำ ต้องคิดเหมือนที่ผู้นำคิด และทำอย่างที่ผู้นำ้า นายจึงจะประสบความสำเร็จได้ รู้ไหม? คนพวกนี้ตีคุณชายหวงแล้ว ผอ.หวงจะให้อภัยพวกเขาหรือ? พวกเราจะนำตัวพวกเขามาปล่อยไว้อย่างนี้หรือ ผอ.หวงเห็นลูกชายของตนเองอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งยังโดนตีอย่างนั้น และกลับมาเห็นพวกเขาที่ไม่ได้รับาเ็แม้แต่น้อย ผอ.หวงจะดีใจหรือ? ถึงเวลานั้นจะให้ความดีความชอบพวกเราหรือ? แต่ถ้าพวกเขาก็เหมือนๆ กับคุณชายหวง ผอ.จะดีใจสักหน่อยไหม?”
ตำรวจาุโที่นั่งดื่มชาอยู่ตรงนั้นพูดชี้แนะตำรวจหนุ่มอย่างนี้
“ผมเข้าใจแล้ว ลุงหวาง มิน่าล่ะคนอื่นๆ ถึงพูดว่าลุงรู้ทุกเื่ ฟังลุงก็ไม่ผิด สหายทำงาน ไปซัดเ้าพวกนี้กัน!” เมื่อเสี่ยวจางที่ยังหนุ่มฟังคำนี้แล้ว ก็ตาลุกเป็ประกาย หลังจากนั้นก็พูดกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ ตนเอง
นี่ก็เป็โอกาสดีที่จะแสดงความสามารถ ไม่แน่ว่าครั้งนี้ตนเองจัดการได้สวย ก็จะได้รับรางวัลจาก ผอ.หวง ถึงเวลานั้นก็จะได้เลื่อนตำแหน่งทันที
ตำรวจสองสามนายถือกระบองไฟฟ้า กระบองหนัง หนังสือ ค้อน และเครื่องมือทรมานอื่นๆ ที่ใช้เป็ประจำเดินเข้ามาเสียอย่างนี้แล้ว
“พวกนาย้าจะทำอะไร? อยากตายหรือ?”
พวกเมิงหวงเฉาก็ได้ยินคำพูดของพวกเขาั้แ่แรก และมองพวกเขาเดินเข้ามา สีหน้าเมิงหวงเฉาก็เปลี่ยนไปทันที เขาพูดอย่างเยือกเย็น
“ไอ้หนู นายช่างกำเริบเสิบสานจริงๆ มาถึงที่นี่แล้ว ยังจะกล้าดีอีก? ฉันว่านายคงอยากตายแล้ว มา สหายเริ่มจากเ้านี่ ให้เขาได้สบายสักหน่อย!”
เสี่ยวจางยิ้มอย่างเยือกเย็น และพูดกับคนข้างๆ ด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย ระหว่างที่พูด ตำรวจอีกสองสามนายก็จับตัวเมิงหวงเฉาไว้ และเตรียมที่จะใช้เครื่องทรมาน
“ฉันจะบอกความจริงกับพวกนาย พวกเรากล้าตีคุณชายหวงอะไรของพวกนาย แม้แต่ ผอ.หวงของพวกนายก็ล้วนไม่เห็นอยู่ในสายตา หรือว่าพวกนายคิดว่าพวกเรากำเริบจนไม่รู้อะไรเลยหรือ? ใช้สมองของพวกนายคิดสักหน่อย เป็ไปได้หรือ? ในเมื่อมาที่สถานีตำรวจแล้ว ก็ไปดูบันทึกได้ ไปดูสักหน่อยว่าพวกเราทำอะไรกัน จะตีหรือไม่ก็ไม่สาย อย่างไร ผอ.หวงของพวกนายก็ไปโรงพยาบาลแล้ว และก็ไม่ได้กลับมาเร็วอะไรขนาดนั้น”
ซุนหยวนตอบกลับไปอย่างเยือกเย็น
เมื่อเทียบกับเมิงหวงเฉาแล้ว เขายังคงสงบนิ่งมาก โดยเฉพาะการแสดงออกของเขาก็สอดคล้องกับภายนอกที่เยือกเย็นของเขาจริงๆ ทำให้ผู้คนต้องมองเขาใหม่
สำหรับเจียงไป๋ก็นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้นตลอด และก็ไม่พูดอะไร เขามองทุกอย่างตรงหน้าอย่างยิ้มแย้ม
“ได้ จะให้โอกาสพวกนาย และถามพวกนายสักหน่อย!”
คำพูดนี้ทำให้ตำรวจสองสามนายลังเลบ้างแล้ว คิดๆ ดูแล้วก็เป็ตามนี้ หลังจากนั้นเสี่ยวจางก็หยิบบันทึกสอบปากคำที่อยู่ข้างๆ มาและพูดอย่างเยือกเย็น
“นายก่อน” เสี่ยวจางชี้ซุนหยวน
“ชื่อแซ่?”
“ซุนหยวน!”
“งาน?”
“ว่างงาน”
“ว่างงานนายยังจะกำเริบเสิบสานอะไรอีก!”
เมื่อฟังคำนี้แล้ว เสี่ยวจางก็อยากจะโมโหใส่ทันที เขาโยนของทิ้งไปและจะเข้าไปลงมือ
แต่ก็ถูกคนข้างๆ หยุดไว้ บอกว่าในเมื่อถามแล้วก็ถามให้สุด จึงทำให้เสี่ยวจางคลายความโกรธลงบ้าง และก็กลั้นอารมณ์ถามต่อ
“พ่อแม่ล่ะ พูดมาก่อนว่าพ่อแม่ชื่ออะไร”
“ซุนเจิ้ง!”
“ทำงานอะไร?”
“ไม่มีอะไร สำนักงานเมิง หัวหน้าสำนักงานเมิง เมื่อก่อนทำงานอยู่ส่วนกลาง ตอนนี้ก็เก็บตัวอยู่ที่หลิงเฉวียนกับท่านที่อยู่ที่ชิงชาน ก็ไม่ถือว่าเป็ข้าราชการอะไร”
“อ้อ คิดไม่ถึงว่ายังเป็ข้าราชการ มิน่าล่ะนายถึงได้กำเริบอย่างนี้ อ้อ ส่วนกลาง … ”
ตอนแรกที่เสี่ยวจางได้ยินคำนี้แล้ว ก็ไม่รู้สึกอะไร และก็เขียนตามไปอย่างนี้ พอเขียนไปเขียนมา ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที และมองซุนหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว
ตำรวจสองสามคนที่อยู่ด้านข้างก็ตะลึงจนค้าง และมองซุนหยวนด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว แทบจะใช้เสียงที่สั่นเทา ทั้งยังพูดพล่ามว่า “นาย … นายพูดอีกที?”
“ก็บอกไปแล้ว ซุนเจิ้ง เมื่อก่อนเคยเป็รองหัวหน้าของสำนักงานส่วนกลาง ก็ถือว่ามีตำแหน่งอยู่นิดหน่อย คุณก็ลองไปหาดูได้ อ้อ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เขาจะทำงานอยู่ที่สำนักงานเมิง ตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานเมิง สำหรับคุณแม่ของผม พูดไปพวกคุณก็ไม่รู้ เป็ข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ ทำงานอยู่ในสหพันธ์สตรี พวกคุณคงไม่สนใจหรอก”
ซุนหยวนพูดด้วยใบหน้าที่เฉยเมย
แค่ประโยคเดียว ก็แทบจะทำให้ทุกคนเป็ลมล้มไป
รองหัวหน้าของสำนักงานส่วนกลาง?
แค่ตำแหน่งนี้ ก็พอที่จะทำให้พวกเขาทุกคนคุกเข่าลงได้แล้ว
สำหรับตำรวจของหลิงเฉวียนแล้ว ก็มีความรู้สึกไวกว่าแถบใกล้ๆ ตี้ตูและคนธรรมดาทั่วไป
ตำแหน่งอย่างนี้ ก็พอที่จะทำให้พวกเขาคุกเข่าลงได้แล้ว แน่นอนว่านั่นก็คือเมื่อก่อนแล้ว หากถูกปลด หรือว่าสละตำแหน่งแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวขนาดนี้
แต่ที่สำคัญคือท่านนี้ไม่ใช่ ไม่ได้ยินหรือว่า ก็แค่ตามท่านที่อยู่ชิงชานท่านนั้นมาเก็บตัว …
ปัญหานี้ก็ไม่ใหญ่
หัวหน้าสำนักงานเมิง?
คนธรรมดาทั่วไปก็ไม่เข้าใจ แต่คนในหลิงเฉวียนมีใครบ้างไม่รู้จัก?
ท่านที่อยู่ที่ชิงชานท่านนั้น คนใหญ่คนโตที่พอมีอำนาจในประเทศคือใคร?
สำนักงานเมิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็ธรรมดาที่ผู้คนจะคุ้นเคย
หัวหน้าสำนักงานเมิง นั่นก็คือเมิงฉางเจิงที่เป็หลักของประเทศท่านนั้น ฐานะอย่างนี้ก็ยิ่งมีอิทธิพลกว่าระดับท้องถิ่นธรรมดา ลองคิดดูสักหน่อย ผอ.หวงคนนั้นของพวกเขาก็แหย่คุณชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ได้แน่นอน
เวลานี้ตำรวจพวกนี้ก็มีความรู้สึกที่ใจนแทบจะฉี่ราด และน้ำตาก็แทบจะไหลออกมาแล้ว
นี่จะต้องเคราะห์ร้ายมากแค่ไหน ถึงได้เจอเื่ที่มหัศจรรย์อย่างนี้ได้ และยังจับลูกข้าราชการที่ใหญ่โตท่านนี้มาได้อีก?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้