“ฉึก ฉึก ฉึก!” มีเสียงดังขึ้น หอกของเย่เฟิงทะลวงหน้าอกของสามคนนั้นจนเืไหลทะลัก ทำให้คนชุดดำต่างตะลึงงัน รังสีมีดที่พุ่งมารุนแรงกว่าเดิม
“ฟิ้ว!” พลันมีแสงเยือกเย็นลอบจู่โจมมาทางด้านข้างของเย่เฟิงด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ
ผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำคนนั้นที่ปล่อยรังสีมีดออกมา เขาอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 และ้าฆ่าเย่เฟิงด้วยการโจมตีนี้
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบพร้อมก้าวออกมา ทำให้รังสีมีดของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นผ่านตัวเย่เฟิงไป
การโจมตีแรกไม่ได้ผล แต่เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำคนนั้นปล่อยการโจมตีที่สอง ก็มีรังสีหอกอันเยือกเย็นทะลวงผ่านร่างเขาไป หนึ่งหอกปลิดชีวิตเสี้ยววินาที!
เย่เฟิงย่ำเท้า พลันเคล็ดวิชาหอกเงินประกายโคจรอยู่ภายในร่างของเขาเอง เขาในตอนนี้ราวกับผสานเป็หนึ่งเดียวกับหอกเงินประกาย ตัวเขาเองเปรียบเสมือนความแหลมคมของหอก
หอกของเขาแม่นยำและร้ายกาจ ทั้งยังโจมตีต่อเนื่องสองครั้งติดต่อกัน ว่องไวราวกับฟ้าผ่า เพียงพริบตาร่างผู้ฝึกยุทธ์สองคนตรงหน้าถูกทะลวง เืสาดกระเซ็น
นี่ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำคนอื่น ๆ ที่จะโจมตีเย่เฟิงต่างต้องถอยหลังไป แววตาเผยประกายความหวาดผวา เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ชายหนุ่มคนนี้ก็ฆ่าพวกเขาไปหลายคนแล้ว
สายตาของเย่เฟิงส่องประกายคมกริบ ที่ปลายหอกเงินประกายมีเืไหลไม่หยุด สายตามองไปยังผู้เป็หัวหน้าคนนั้นราวกับมองทะลุได้อย่างไรอย่างนั้น
มีพู่หยกชิ้นหนึ่งแขวนอยู่ที่เอวของอีกฝ่าย มันดูโดดเด่นเป็พิเศษ
“หวังหลง!”
ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย เย่เฟิงจึงเดาตัวตนของเขาได้ พอได้เห็นพู่หยกนี้ก็ยิ่งทำให้การคาดเดาของเย่เฟิงถูกต้อง
“ฮ่า ๆ ๆ สวะอย่างเ้าก็ตาดีนี่ ไม่นึกว่าจะจำข้าได้!” หวังหลงแสยะยิ้ม ในเมื่อเย่เฟิงรู้ตัวตนแล้ว เขาก็ไม่จำเป็ต้องปิดบัง
“คิดไม่ถึงว่าพลังของเ้าจะทำข้ารู้สึกเกินคาดมาก ไม่แปลกใจเลยที่ศิษย์น้องซ่งจะรู้สึกดีกับเ้า! แต่ว่ามันก็ไม่สำคัญแล้ว” หวังหลงกล่าวด้วยสายตาดูแคลน
“โจวมู่ไป๋ให้เ้ามาสินะ?” เย่เฟิงกล่าวถาม เขารู้ว่าหวังหลงถึงจะหยิ่งผยอง แต่ไม่คิดร้ายเช่นนี้ โจวมู่ไป๋ต้องให้หวังหลงมาลอบสังหารเขาแน่นอน
“คนจะตายไม่จำเป็ต้องรู้มากหรอก” หวังหลงแสยะยิ้ม
“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ข้าเย่เฟิงไปล่วงเกินอะไรโจวมู่ไป๋ ถึงกับทำให้เขาอยากกำจัดฆ่าขนาดนี้?” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ศิษย์พี่โจวเป็ใคร แล้วซ่งซินหลิงก็มีสัญญาแต่งงานกับศิษย์พี่โจวข้า แต่เ้ากับซ่งซินหลิงกลับอยู่ด้วยกันหลายสิบวันในเทือกเขาปี้หลิง ศิษย์พี่โจวจะปล่อยให้เ้าอยู่บนโลกนี้ได้เยี่ยงไร?” หวังหลงกล่าวพลางตาเผยประกายแสงเยือกเย็น
“มันก็เป็เพียงเื่ไร้สาระ โจวมู่ไป๋กลับใช้วิธีนี้มาจัดการข้า การกระทำของเขาโจวมู่ไป๋ช่างต่ำทรามยิ่งนัก อัจฉริยะลวงโลกจริงๆ” เย่เฟิงกล่าว โจวมู่ไป๋ใช้จิตใจที่คับแคบของตนคิดร้ายกับคนที่ใจคอกว้างขวาง เพียงเพราะเขากับซ่งซินหลิงร่วมเดินทางด้วยกันในเทือกเขาปี้หลิง มันก็เท่ากับเขารนหาที่ตาย เช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องเกรงใจอีก
“ศิษย์พี่โจวก็เป็คนที่เ้าดูถูกได้ด้วยหรือ? เป็แค่สวะจากบ้านนอก แม้แต่สิทธิ์จะเทียบเคียงศิษย์พี่โจวก็ยังไม่มี ฆ่าเ้าก็ง่ายเหมือนขยี้มดแมลง” สายตาของหวังหลงเผยประกายคมกริบแฝงด้วยจิตสังหาร ในสายตาเขาเย่เฟิงไม่ต่างจากมดแมลง ไม่มีสิทธิ์มาเทียบเคียงกับเขา และนับประสาอะไรกับโจวมู่ไป๋ที่มีอำนาจและพลังที่แข็งแกร่ง
“ดูถูกคนอื่น คิดว่าในตระกูลมีอำนาจมากจนไม่เกรงกลัวใครงั้นหรือ? ข้าก็อยากเห็นนักว่าเ้าจะบดขยี้มดแมลงอย่างข้าได้เช่นไร!” เย่เฟิงกล่าวด้วยสายตาเหยียดหยาม หอกัเงินประกายในมือส่งเสียงกู่ร้องไม่หยุด พร้อมกับปลดปล่อยพลังแห่งหอกที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
“ตาย!” หวังหลงแผดเสียงะโ การโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ถาโถมเข้าใส่เย่เฟิงประหนึ่งคลื่นทะเลก็ไม่ปาน
เย่เฟิงสะบัดหอก พลังหอกเงินประกายถูกปลดปล่อย รังสีหอกที่น่าสะพรึงกลัวปะทุอย่างต่อเนื่อง หอกมีทั้งความแม่นยำและความไร้เทียมทาน!
หอกของเย่เฟิงถึงระดับที่รวมเป็หนึ่งกับจิตใจแล้ว เมื่อรังสีหอกถูกปลดปล่อย พลันมีผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำคนหนึ่งล้มตาย เพียงเวลาสั้น ๆ ก็มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 และ 6 ถูกหอกเงินประกายปลิดชีวิตไปหลายคน
หวังหลงไม่เคลื่อนไหว เพียงมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ห่าง ๆ และรู้สึกใกับพลังของเย่เฟิง ต้องทราบก่อนว่าบุคคลที่อ่อนแอสุดที่เขาพามาอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 และมีอีกสองคนที่แกร่งสุดอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้กลับเปราะบางเมื่อเผชิญหน้ากับเย่เฟิง กระทั่งหวังหลงเองยังไม่เชื่อว่าเย่เฟิงอยู่แค่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5
“โฮก!” เสียงสัตว์อสูรดังขึ้นที่ด้านหลังของเย่เฟิง ก่อนจะเห็นผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำคนหนึ่งปลดปล่อยิญญาา นั่นคือหมีเทาร่างกำยำ ในตอนนั้นเองกรงเล็บขนาดใหญ่ของมันได้ตะปบมาที่เย่เฟิง
“ิญญาาหมีเทาขั้นส้ม!” เย่เฟิงตะลึงงัน หลบการโจมตีของิญญาาหมีเทาของอีกฝ่าย จากนั้นแทงหอกไปที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ
“ปลดปล่อยิญญาาแล้วฆ่าเขาซะ!” การกระทำของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นคล้ายเป็การเตือนหวังหลงที่อยู่ไม่ไกลออกไป ทำเขามีสีหน้าไม่สู้ดี ก่อนแผดเสียงะโเช่นนั้น
พลันิญญาาหลากสีสันส่องแสงจ้า ส่วนใหญ่เป็ิญญาาขั้นแดงหรือไม่ก็ขั้นส้ม
ิญญาาถูกปลดปล่อย ทำให้พลังโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำเหล่านี้ยกระดับ
เย่เฟิงปลดปล่อยเคล็ดวิชาหอกเงินประกายอย่างสุดกำลัง หอกของเขาคือหอกสังหารคน พุ่งทะลวงอย่างเรียบง่ายแต่กลับมีประสิทธิภาพสูงสุด
เขาก้าวไปข้างหน้า ทุกก้าวล้วนต้องมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 และ 6 เหล่านี้ล้มตาย ด้วยหอกของเย่เฟิง ราวกับเป็เป้านิ่ง แม้พวกเขาปลดปล่อยิญญาาก็มิอาจชดเชยได้
เมื่อหอกถูกปลดปล่อย เมื่อนั้นเืจะหลั่งไหลเป็สายน้ำ!
“ชิ้ง!” พลันมีรังสีดาบพุ่งมาจากด้านข้างเย่เฟิง เป็ดาบปลิดชีวิต ประหนึ่งโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า ทั้งยังมีจังหวะที่พอดี หากเย่เฟิงหลบไม่ทัน เขาต้องตายอย่างแน่นอน
คนที่ลงมือคือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 คนผู้นี้คือนักดาบ มีพลังโจมตีที่น่าหวาดผวา
เมื่อััถึงพลังสังหารที่ใกล้เข้ามา เย่เฟิงหมุนตัวไปอย่างฉับพลัน
“หอกดุจั!”
หอกดุจั หอกราวกับเทพั รังสีดาบอันเจิดจ้าฝ่าทะลวงอากาศไปอย่างรวดเร็ว
“วูบ” รังสีหอกนั่นผ่าทะลวงดาบของอีกฝ่าย ก่อนจะแทงเข้าที่หว่างคิ้วอีกฝ่าย
“ฉึก!” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบสนอง หอกทะลวงศีรษะของเขาจนเืสาดกระเซ็น
นักดาบขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 ถูกหอกของเย่เฟิงฆ่าตายในชั่วพริบตา ทำให้หลาย ๆ คนที่เหลืออยู่ต้องใจเต้นระส่ำ คนผู้นี้คือใคร? แม้เทพมาขวางก็สังหารเทพได้!
“หนี!”
หากเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของเย่เฟิง ดูเหมือนพวกเขามีแต่ต้องตายเท่านั้น ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งทนความหวาดกลัวไม่ได้ จึงอยากหนีไป
“คิดหนีงั้นหรือ สายไปแล้ว!” เย่เฟิงแค่นเสียงเ็า พร้อมก้าวออกไป ประหนึ่งก้าวข้ามอากาศไปเยือนเบื้องหน้าผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นในพริบตา ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นใและ้าที่จะหนี
อย่างไรก็ตาม รังสีหอกได้ทะลวงลำคอของเขา การเคลื่อนไหวของเขาจึงค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น
เย่เฟิงยกมือ นั่นคือการปล่อยหอกสองครั้งอย่างต่อเนื่อง ก่อนชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำสองคนที่อยู่ทางขวาของเขาจะถูกเก็บไป
ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำอีกยี่สิบกว่าคนจึงถูกหอกัเงินประกายฆ่าตายทั้งหมด
กลิ่นอายความตายคละคลุ้งไปทั่วอากาศ หวังหลงตกตะลึงก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างเยือกเย็น
พลังของเย่เฟิงทำเขาใมาก แต่ต่อหน้าเขาหวังหลง เย่เฟิงต้องถูกฆ่าอยู่ดี
“สวะ! เ้าช่างดวงแข็งจริง ๆ ผู้ฝึกยุทธ์ยี่สิบกว่าคนก็ยังฆ่าเ้าไม่ได้ เห็นทีต้องให้ข้าลงมือด้วยตัวเองแล้ว!” สายตาของหวังหลงเผยประกายดุดัน เขาอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 ทั้งยังมีิญญาาอินทรี และพร์ที่แกร่งกล้า
แม้เย่เฟิงจะแสดงพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่จะใช่คู่ต่อสู้ของเขาได้เยี่ยงไร เมื่อิญญาาอินทรีออกโรง เย่เฟิงต้องถูกฆ่าตายในเสี้ยววินาทีแน่นอน
จากนั้นมีเงาอินทรีเปล่งแสงสีทองปรากฏตัวที่ด้านหลังของหวังหลง ดวงตาของมันมีแต่จิตสังหารอันแหลมคม
“อย่าคิดว่าฆ่าเหล่าผู้คุ้มกันแล้วจะทำตัวโอหังต่อหน้าข้าได้ จากนี้ข้าจะทำให้เ้าได้เห็นถึงความห่างชั้นระหว่างเ้ากับข้า!” หวังหลงกล่าวเสียงเย็นและมองเย่เฟิงด้วยสายตาหยิ่งผยอง
อินทรีส่งเสียงร้อง พลันพลังอินทรีเหินเวหาถูกปลดปล่อย ิญญาาอินทรีโฉบลงไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ สายลมโหมกระหน่ำต่อเนื่อง
เย่เฟิงยืนตระหง่าน มุมปากเหยียดยิ้มอย่างเยือกเย็น ในรอยยิ้มนั้นแฝงด้วยความดูถูก เขาไม่เข้าใจหวังหลง แค่ปลุกิญญาาขั้นเหลืองได้ ทำไมถึงยโสโอหังถึงเพียงนี้
เห็นมือเย่เฟิงสั่นเทา ก่อนจะปาหอกัเงินประกายออกไป รังสีหอกพลันถูกปลดปล่อย
“ปัง” เสียงปะทะดังขึ้น รังสีหอกนั่นขับไล่ิญญาาอินทรีของหวังหลงไป
“เ้าคิดว่าเ้ามีิญญาาคนเดียวงั้นหรือ?” เย่เฟิงแสยะยิ้มขณะมองิญญาาอินทรีของหวังหลง ปราณัปะทุออกจากร่างเขา พลันมีพลังัรายล้อมร่าง จากนั้นมีเงาัั์ปรากฏ
ต่อหน้าิญญาาเทพั ทำิญญาาอินทรีของหวังหลงเล็กลงถนัดตา
เย่เฟิงไม่ชอบให้ใครมาทำตัวโอหังต่อหน้า ทว่าหวังหลงคนนี้ไม่เพียงแต่พูดจาเหยียดหยามเย่เฟิง แต่ยังนำผู้ฝึกยุทธ์มากมายมาปิดล้อมเขาหมายสังหาร ทำผิดจนอภัยให้ไม่ได้ และเย่เฟิงไม่้าเห็นหน้าคนผู้นี้แม้เสี้ยววินาที
“โฮก!” เทพัแผดเสียงคำราม ิญญาาอินทรีถูกพลังทำลายล้างกำจัดจนสิ้นซาก ทำหวังหลงตื่นใ แววตาดูถูกเหยียดหยามเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาไม่คาดคิดเลยว่าิญญาาของเย่เฟิงจะน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ พลังที่ิญญาาเทพัสำแดงฤทธิ์ก็ไม่ใช่สิ่งที่หวังหลงจะทนรับได้ ซ้ำยังแกร่งกว่าิญญาาต้าเฟิงที่โจวมู่ไป๋ปลุกขึ้น
หวังหลงตัวสั่นเทาก้าวถอยหลัง ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยพลังโจมตีออกไปเพราะ้าเขมือบิญญาาเทพั
อย่างไรก็ตามพลังที่ิญญาาเทพัสำแดงฤทธิ์ช่างน่ากลัวเกินจะต้านทาน ทำให้พลังโจมตีของหวังหลงถูกทำลายในเสี้ยวพริบตา
“ตูม” เสียงะเิดังสนั่น หวังหลงถูกิญญาาเทพัของเย่เฟิงซัดกระเด็นปลิวจนกระอักเื
ด้วยพลังอันกล้าแกร่งของิญญาาเทพั จุดตันเถียนของหวังหลงถูกทำลาย จุดชี่ไห่แตกซ่านส่งผลให้กลายเป็คนไร้ค่า
หวังหลงลุกขึ้นยืนอย่างโซเซ แล้วมองเย่เฟิงด้วยสายตาหวาดผวา
เขาอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 ทั้งยังมีการสนับสนุนจากิญญาาอินทรีขั้นเหลือง พลังย่อมกล้าแกร่ง แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับเปราะบางเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฟิงที่อยู่เพียงขั้นบ่มเพาะกายาที่ 5 หวังหลงนั้นไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้จะมีคนที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้