ห้องของเ้าใหญ่นับว่ามีขนาดกว้างกว่าบ้านรองเสียอีก เรียกได้ว่าใหญ่เป็สองเท่าของห้องเ้าหกด้วยซ้ำ ทั้งยังสร้างจากอิฐและกระเบื้อง ภายในมีเครื่องเรือนของใช้ครบครัน อีกทั้งโต๊ะยังลงสี และเตียงก็แกะสลักลวดลายสวยงาม
ม่านเตียงเป็สีขาวดุจหิมะ สภาพใหม่เอี่ยมไม่มีรอยปะชุนเลยแม้แต่รอยเดียว ตะขอสำหรับเกี่ยวม่านทำจากทองเหลือง โค้งขึ้นจนมีลักษณะคล้ายหรูอี้[1] ผ้าห่มเป็สีชมพูปักรูปดอกไม้ แลดูงดงามอย่างยิ่ง
ภาพนั้นช่างแตกต่างจากสภาพภายในบ้านรองอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่สีของตู้ที่ลอกออก ขาของโต๊ะไม่เท่ากัน ประตูทำจากแผ่นไม้เก่าๆ ส่วนที่นอนยิ่งแล้วใหญ่ เพียงแค่นำหญ้าแห้งมาปูต่างที่นอนเท่านั้น
ครั้นหยวนเหล่าเอ้อร์เข้ามาในห้องก็ยืนพิงกำแพงอย่างเกียจคร้าน ในขณะที่จ้าวซื่อมองข้าวของทุกอย่างภายในห้องด้วยแววตาอิจฉา เ้าหกที่ถูกจ้าวซื่อจูงให้ไปยืนด้านข้างหยวนเหล่าเอ้อร์ชะโงกหน้าไปดูบนเตียง พี่ใหญ่นอนอยู่บนนั้น ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ ตรงบริเวณาแยังคงมีเืซึมออกมา ใบหน้าของนางขาวซีด ดวงตาปิดลงแค่ครึ่งเดียว ท่าทางน่าสงสารประหนึ่งเพิ่งจะสูญเสียบิดามารดาไป
มารดาของเ้าใหญ่นั่งอยู่ข้างเตียง ใช้ม่านเตียงซับน้ำตาปรอยๆ ด้วยสีหน้าโศกเศร้า พอเห็นคนของบ้านรองเดินเข้ามาในห้องก็หันไปมองด้วยความคับแค้นใจ ราวกับเพิ่งถูกคนตรงหน้ารังแกมาอย่างไรอย่างนั้น
ผู้เฒ่าหยวนกับหยวนไท่ไท่[2] นั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือผู้เฒ่าหยวนถือแท่งยาสูบซึ่งยังไม่ได้ใส่ยาเส้นลงไป คิ้วขมวดเป็ปมแน่น ถอนหายใจก่อนจะกล่าวว่า “เ้ารอง ข้ากับแม่เ้าปรึกษากันแล้ว ด้วยสภาพของเ้าใหญ่ในเวลานี้คงไม่อาจแต่งเข้าสกุลกู้ได้ เช่นนั้นคงต้องให้เ้าหกแต่งแทน ส่วนเื่การหมั้นหมายกับสกุลหลิ่วก็ให้เปลี่ยนเป็เ้าใหญ่แทน ทำเช่นนี้จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย” กล่าวจบผู้เฒ่าหยวนวางแท่งยาสูบในมือลง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครา
หากถามถึงเื่การหมั้นหมายของเ้าหกว่ามีที่มาอย่างไร คงต้องเท้าความไปถึงตอนที่หลิ่วซิ่วไฉอายุได้สิบสองปี ยามนั้นเขาถูกลมเพลมพัดเข้า ทั้งวันหากไม่พูดจาฟั่นเฟือนก็นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง หญิงม่ายสกุลหลิ่วเชิญท่านหมอมารักษาแต่ก็ไม่เป็ผล ครั้นเห็นบุตรชายใกล้จะไม่รอด ไม่รู้ว่าหญิงม่ายหลิ่วไปหาผู้วิเศษท่านหนึ่งมาจากที่ใด ผู้วิเศษท่านนั้นแนะนำให้ตามหาเด็กหญิงที่อายุไม่ครบหนึ่งขวบมาหมั้นหมายกับหลิ่วซิ่วไฉเพื่อขจัดอัปมงคล
เวลานั้นภายในหมู่บ้านมีเด็กหญิงที่อายุไม่ครบหนึ่งขวบแค่เพียงคนเดียวนั่นก็คือเ้าหก หญิงม่ายหลิ่วเร่งรุดไปยังบ้านสกุลหยวนเพื่อตกลงเื่การหมั้นหมาย ถึงกับให้สินสอดตั้งยี่สิบตำลึง การหมั้นหมายนี้จึงได้เป็อันตกลง
และช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน สองสกุลเพิ่งจะแลกเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดเสร็จสิ้น หลิ่วซิ่วไฉก็ฟื้นตื่นขึ้นมา
หยวนเหล่าเอ้อร์ที่ยืนพิงกำแพงพลางใช้นิ้วชี้แคะหู ก่อนจะเอานิ้วมือมาจ่อตรงปากแล้วเป่าออกไป จากนั้นถึงค่อยเอ่ยว่า “ในเมื่อท่านพ่อเป็ผู้เอ่ยปาก ข้าที่เป็ลูกจะไม่ทำตามได้อย่างไร เช่นนั้นก็ให้เ้าหกแต่งงานเพื่อขจัดอัปมงคลแทนเ้าใหญ่ ส่วนสินสอดที่สกุลกู้ให้มา รวมถึงสินเดิมที่พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เตรียมไว้ให้จะต้องยกให้เ้าหกทั้งหมด โดยทั้งพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะต้องให้สินเดิมเพิ่มอีกยี่สิบตำลึง” กล่าวจบก็ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้วพร้อมกับส่ายไปมา
“เ้ารอง นี่เ้าพูดจาเหลวไหลอันใด!” ผู้เฒ่าหยวนตวาดใส่บุตรชายคนรอง “ครอบครัวเดียวกันเหตุใดต้องแยกแยะชัดเจนถึงเพียงนี้!”
“เช่นนั้นข้าก็ไม่ตกลง หากไม่ให้ ข้าก็จะไม่ยินยอมให้บุตรสาวต้องแต่งเข้าสกุลกู้แทนเ้าใหญ่” หยวนเหล่าเอ้อร์มีสีหน้าประหนึ่งหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก[3]
“เ้าลูกอกตัญญู!” ผู้เฒ่าหยวนตวาดเสียงดัง ขณะที่มือชูแท่งยาสูบขึ้นหมายจะฟาดใส่บุตรชายคนรอง
หยวนเหล่าเอ้อร์ไหนเลยจะยอมถูกฟาด ยกมือกุมศีรษะทำท่าจะวิ่งหนีไปข้างนอก ทว่าปากยังไม่หยุดเอ่ยคำ “หากไม่ให้ก็ไม่สลับ ตีข้าให้ตายอย่างไรก็ไม่สลับ!”
“เหตุใดยังมัวนิ่งอยู่อีก ไม่รีบไปขวางเ้ารองเอาไว้เล่า!” ผู้เฒ่าหยวนกระทืบเท้าด้วยความโมโห หยวนเหล่าต้าได้ยินดังนั้นรีบเข้าไปกอดเอวน้องชายเอาไว้ทันที
“ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ข้าจะเอาอย่างพี่สาว เอาศีรษะโขกกำแพงตาย พี่สาวถึงกับบังคับน้องสาวอย่างข้า…”
หยวนเหล่าต้าเพิ่งจะเอาตัวเข้าไปขวางน้องชายไว้ ขณะที่เ้าหกผู้มีไหวพริบว่องไวทำตามผู้หญิงซึ่งมีนิสัยดุร้ายปากร้ายในหมู่บ้าน ะโระคนร่ำไห้ออกมา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านรับปากท่านอารองเถิด” สิ้นเสียงของเ้าหก เ้าใหญ่ลุกขึ้นมานั่งก่อนจะกล่าวอ้อนวอนทุกคน
เหตุผลที่นางเอาศีรษะโขกกำแพงก็เพื่อบีบบังคับบ้านรองให้ยอมทำตามที่นาง้า เพียงแต่ที่นางคิดไม่ถึงคือบ้านรองจะเ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้ คนของบ้านรองไม่เพียงจะไม่เสียชื่อเสียงที่บีบบังคับหลานสาวจนฆ่าตัวตาย กลับเป็นางที่จะเสียชื่อแทนเพราะบีบบังคับน้องสาวจนถึงแก่ชีวิต!
ในเมื่อเ้าใหญ่พูดเช่นนี้แล้ว ต่อให้หยวนเหล่าต้าจะไม่เห็นด้วยก็ต้องยอมรับปากออกไป เฮ้อ ต้องเสียทั้งสินเดิมและเงิน ช่างน่าปวดใจโดยแท้!
เหตุที่ผู้เฒ่าหยวน หยวนไท่ไท่ รวมถึงบ้านใหญ่รักและเอ็นดูเ้าใหญ่ถึงเพียงนี้ นั่นเพราะในวันที่เ้าใหญ่เกิดได้มีนักพรตผู้หนึ่งมาขอน้ำดื่มที่บ้าน และได้บอกกล่าวกับคนในบ้านว่า สกุลหยวนกำลังจะมีบุตรสาวที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มาเกิด หากทำดีกับบุตรสาวผู้นี้กาลข้างหน้าจะได้ดิบได้ดี
ปรากฏว่าเพียงนักพรตผู้นี้เพิ่งจะก้าวเท้าออกจากบ้าน เจียงซื่อก็ปวดท้องคลอดบุตรสาวออกมาคนหนึ่ง และนับั้แ่เ้าใหญ่คลอดออกมาก็ได้รับความรักความเอ็นดูจากคนในบ้านอย่างมาก เรียกได้ว่าแทบจะประคองนางไว้กลางฝ่ามือเลยก็ว่าได้ เด็กสาวจึงถูกเลี้ยงดูอย่างดีประหนึ่งคุณหนูในสกุลใหญ่ก็ไม่ปาน
เวลาต่อมาครอบครัวของกู้ซิ่วไฉมาลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านแห่งนี้ กู้อวี้บุตรชายคนโตมีหน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังเรียนหนังสือเก่ง ฐานะทางบ้านหรือก็ไม่ธรรมดา ผู้เฒ่าหยวน หยวนไท่ไท่ รวมถึงบิดามารดาของเ้าใหญ่จึงอยากได้เขามาเป็บุตรเขย จึงพยายามคิดหาวิธีให้เ้าใหญ่ได้แต่งกับกู้อวี้มาโดยตลอด แต่ใครจะไปคาดคิดว่ากู้อวี้จะโชคร้าย เกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็เ้าชายนิทราไปเสียได้
กลับเป็บุตรชายของหญิงม่ายหลิ่วหรือก็คือ หลิ่วเหวินไฉ ที่สอบได้ซิ่วไฉ ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดการณ์ผิด ทว่ายามนี้แน่นอนว่าจะไม่ทำผิดเช่นครั้งก่อนอีกแล้ว!
บ้านใหญ่คิดสิ่งใดอยู่เ้าหกไม่รู้และไม่สนใจแม้แต่น้อย นางรู้เพียงว่า ยามนี้นางได้สิ่งที่้ามาอยู่ในมือแล้ว เลยแย้มยิ้มพลางหันไปเอ่ยกับบิดา “ท่านพ่อ พวกเราไปที่บ้านสกุลกู้กันเถิด”
“ดีเหมือนกัน เื่แต่งงานจะชักช้ามิได้ พวกเรารีบไปบ้านสกุลกู้กันตอนนี้เลย” หยวนเหล่าเอ้อร์ตอบรับอย่างรวดเร็ว เวลาต่อมาเขาหารถเข็นมาคันหนึ่ง ก่อนจะขนสินเดิมใส่ไว้ในรถ จากนั้นถึงค่อยอุ้มบุตรสาวขึ้นไปนั่ง ครั้นเห็นจ้าวซื่อทำท่าจะเดินกลับไปที่บ้านเพื่อนำชุดของเ้าหกมาให้ก็เอ่ยว่า “มิต้องไปหรอก เ้าคิดว่าเ้าหกเหมือนเ้าใหญ่หรืออย่างไร เสื้อผ้าของนางมีตัวไหนที่สวยงามเทียบกับของเ้าใหญ่ได้บ้าง เอาไปมีแต่จะขายขี้หน้าสกุลกู้ พอไปถึงสกุลกู้ สกุลกู้ต้องตัดชุดใหม่ให้เ้าหกเป็แน่”
กล่าวจบก็ยิ้มอย่างชื่นมื่น นึกกระหยิ่มในใจว่าเขากำลังจะได้เป็เศรษฐีในอีกไม่ช้านี้แล้ว!
-----------------------------
[1] หรูอี้ สัญลักษณ์แห่งสิริมงคลอย่างหนึ่งของจีน เดิมเป็เครื่องใช้ในศาสนาพุทธ ซึ่งใช้ในระหว่างที่พระสงฆ์สวมมนต์ท่องคาถา ท่องคัมภีร์และทำพิธีกรรม ต่อมาเมื่อแพร่หลายสู่ภายนอกได้ถูกดัดแปลงให้มีลักษณะคล้ายไม้เท้าขนาดเล็ก หัวงอโค้งเป็วง และตอนหลังได้ถูกดัดแปลงให้ข้างบนเป็รูปเห็ดหรือก้อนเมฆ
[2] ไท่ไท่ คำเรียกสตรีที่แต่งงานแล้วอย่างยกย่อง
[3] หมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก เป็สำนวน หมายถึงคนที่ไม่สะดุ้งะเืต่ออะไรทั้งสิ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้