ทันทีที่พนักงานวิ่งออกไปพลันบังเกิดความโกลาหลในหออู๋ิขึ้น มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าหญ้าิญญาลึกลับในมือของสตรีผู้นี้ดีกว่าของที่หออู๋ิเคยซื้อมาก่อน หากหญ้าเหล่านี้ถูกรับซื้อโดยหออู๋ิก็อาจจะทำให้ราคาขายต่อสูงขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าอย่างไรการเริ่มลงมือก่อน ย่อมดีกว่า ดังนั้นเหล่าฝูงชนจึงพากันล้อมวงเข้ามา
“แม่นางน้อย ท่านไปเก็บหญ้าิญญาลึกลับมาจากที่ใดกัน ได้มีมากกว่าหนึ่งร้อยต้น เหตุใดท่านถึงเก่งกาจถึงเพียงนี้? ”
"แม่นาง ขายหญ้าิญญาลึกลับให้ข้าสักหนึ่งต้นเถิด"
“แม่นาง หญ้าิญญาลึกลับหนึ่งต้นหนึ่งหมื่นตำลึง ขายให้ข้าทั้งหมดเลย ท่านเห็นว่าอย่างไร? ”
เป็เวลานั้นเอง บุรุษไว้หนวดเครา ร่างสูงใหญ่กำยำได้ก้าวขึ้นมาข้างหน้า ก่อนจะเปิดปากเอ่ยด้วยดวงตาที่เร่าร้อน
ฮวาเหยียนเหลือบสายตามองเขา บุรุษผู้นี้ดูโเี้ดุร้าย ไม่น่ามอง อีกทั้งทั่วทั้งตัวยังมีกลิ่นสุราเหม็นหึ่งรุนแรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรีบร้อนเร่งรัด
ฮวาเหยียนเพียงแค่มองก็รู้สึกว่านี่คงไม่ใช่เื่ที่ดีเท่าไหร่นัก
“แม่นาง เ้าพูดมาเถิด ตกลงหรือไม่? ”
บุรุษหนวดเองก็มีนิสัยใจร้อนเช่นกัน เมื่อเห็นว่าฮวาเหยียนไม่พูดอะไรอยู่เป็นาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเร่งรัดนาง
ฮวาเหยียนเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่ตกลง”
พูดออกไปเพียงเท่านี้เพราะขี้คร้านเกินกว่าจะพูดมากไปกว่านี้
“เฮ้อ แม่นางน้อยผู้นี้ เหตุใดเ้าถึงได้พูดจาเช่นนี้กัน เ้ามีหญ้าิญญาลึกลับมากมายที่จะขายให้หออู๋ิอยู่แล้ว ตอนนี้เ้าขายให้ข้าก่อนจะเป็ไรไป?”
บุรุษมีหนวดขมวดคิ้ว น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ฮวาเหยียนลูบขนบนตัวของเสี่ยวไป๋ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเ็า “ของของข้า ข้าจะจัดการกับมันอย่างไรก็เป็เื่ของข้า อยากขายให้ผู้ใด ข้าก็จะขายให้คนนั้น พี่ชายท่านนี้มีรูปร่างหน้าตาที่... ไม่ค่อยเข้าตานัก เช่นนั้นก็ถือว่าแล้วต่อกันเถิด”
ฮวาเหยียนหยุดนิ่ง คำว่าไม่ค่อยเข้าตานี้นางพูดได้น่าสับสนนัก แต่คนที่ฉลาดจะเข้าใจได้ในทันทีที่ได้ยิน นี่ไม่ได้หมายความว่าชายร่างใหญ่นี้หน้าตาน่าเกลียดหรอกหรือ?
“พรู๊ด...”
"ฮ่าฮ่า... แม่นางคนนี้นิสัยดุดันจริงเชียว"
“ไม่ค่อยเข้าตา วันนี้ถือว่าข้าได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่”
มีเพียงไม่กี่คนที่หัวเราะกับคำกล่าวของฮวาเหยียน ใบหน้าของชายหนวดก็เริ่มอึมครึม
มู่เฉิงอินอดไม่ได้ที่จะปิดปากตัวเอง นางมองออกทันทีว่าการปฏิบัติตัวต่อคนที่ไม่ชอบนั้น น้องเหยียนคนนี้จะไม่มีการไว้หน้าของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งนิสัยของน้องหญิงเหยียนนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก ท่าทางไม่มีความอดทนแม้แต่น้อย...
แต่ถึงกระนั้น นางก็ยังชอบมากอยู่ดีจะทำเช่นไรได้
ฮวาเหยียนเห็นมู่เฉิงอินยิ้มจนดวงตาโค้งมน ดวงตาของนางรื้นน้ำมีหมอกปกคลุมเป็ชั้นๆ เมื่อเห็นคนงามยิ้มแย้ม อารมณ์ย่อมดีตาม
ฮวาเหยียนเชิดคางขึ้นแล้วชี้ไปที่พื้นดินใต้เท้าของตนเอง “พี่ชายท่านนี้ ไม่ใช่ข้าพูดถึงท่าน ข้ายืนอยู่บนอาณาเขตของหออู๋ิ หากเลือกที่จะมองข้ามเ้าของของหออู๋ิแล้วไปเจรจาค้าขายกับท่านก่อน มันจะไม่ถือว่าเป็การไม่ให้เกียรติหรือ?
ถ้าหากถูกหออู๋ิเกลียดชังเข้าแล้ว วันข้างหน้าเกรงว่าข้าคงไม่อาจมาเหยียบประตูใหญ่ของหออู๋ิได้อีก ถึงตอนนั้นข้าจะทำเยี่ยงไร?"
ฮวาเหยียนเหลือบมองชายร่างใหญ่ เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ความโกรธของเขาพลันมลายหายลงไปสามส่วน
ทุกคนต่างพากันคิดตาม ดูเหมือนว่ามันจะมีเหตุผลอยู่มากทีเดียว
แม่นางน้อยผู้นี้วิเคราะห์ได้ถูกต้อง
หออู๋ิมีความมั่งคั่งร่ำรวยและมีภูมิหลังที่ลึกลับ สมาชิกในราชวงศ์ก็ล้วนต้องให้เกียรติ
แม่นางคนนี้จัดการเื่ได้ไม่เลวเลย
ชายร่างกำยำเกาหัว เป็เขาที่รีบร้อนไปเองอย่างนั้นหรือ? แต่การที่จะซื้อหญ้าิญญาลึกลับนี้ก็รอไม่ได้เช่นกัน
ในขณะที่ชายร่างใหญ่กำลังจะเอ่ยเจรจาต่อ ก็พลันเห็นใบหน้าฮวาเหยียนอึมครึม "ข้าน้อยมาที่นี่เพื่อทำการค้าอย่างเงียบๆ โปรดทุกท่านอย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย หรือพวกท่านอยากให้ข้าทำลาย..."
ฮวาเหยียนจงใจหยุดชั่วคราว พาให้ฝูงชนเริ่มเกิดความสงสัย
“อย่างน้อยก็ต้องเหมือนกับพี่สาวท่านนี้ ที่ทำให้ข้าน้อยถูกชะตา”
บุรุษตัวใหญ่ "...! "
เขาหน้าตาอัปลักษณ์ ต้องให้พูดซ้ำอีกกี่รอบกัน?
ใบหน้าของชายร่างใหญ่เปลี่ยนเป็สีดำสนิท เขาหอบหายใจแรงอย่างหนักหน่วง
ตามคำพูดของฮวาเหยียน สายตาของทุกคนจับจ้องไปทางดวงหน้าของมู่เฉิงอิน อืม แม่นางผู้นั้นเป็ผู้รู้หนังสือ รูปร่างหน้าตาสะสวย ดังนั้นผู้คนทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้จึงล้วนจัดอยู่ในประเภทของ 'คนที่ไม่เข้าตา'...
แม่นางเป็ผู้ใช้ความงามควบคุมคนรอบข้าง
แก้มของมู่เฉิงอินแดงเล็กน้อย ั้แ่นางยังเป็เด็ก นางมักถูกยกย่องชมเชยมาไม่น้อย แต่การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ นับว่านี่คือครั้งแรกของนาง ในใจหญิงสาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความสุข นางมองไปที่ฮวาเหยียนและอยากรู้ว่าน้องหญิงเหยียนจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นไร เป็แม่หญิงจากตระกูลใด เหตุใดถึงได้ใจนางถึงเพียงนี้?
ฮวาเหยียนเห็นดวงหน้าที่แดงก่ำราวกับลูกท้อและดวงตาที่แฝงแววขวยเขินของมู่เฉิงอิน ในใจพลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นี่สิถึงจะเป็สตรีผู้สูงศักดิ์จากตระกูลใหญ่ ไม่เหมือนกับนางที่หน้าหนาเหมือนกำแพงเมือง ยามที่ผู้คนยกย่องชื่นชม นางล้วนถือเป็คำชมตามที่ควรจะเป็
เขินอาย?
นั่นคือคำอันใดกัน?
ในตัวของนางนั้น ล้วนไม่มีอยู่จริง
...
"หลงจู้ นางอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ท่านต้องเร่งหน่อย..."
ในเวลานี้ เสียงของพนักงานที่ไปเรียกหลงจู้พลันดังขึ้น
สายตาของทุกคนหันไปทางประตูหลัง ประตูนั้นถูกพนักงานหนุ่มเปิดเอาไว้ มีคนผู้หนึ่งรีบรุดออกไป
คนผู้นั้นสวมชุดอาภรณ์สีแดง มีเสน่ห์เย้ายวนดุจเพลิง แต่ผู้ที่สวมใส่กลับเหมือนไร้กระดูก แลดูเกียจคร้าน ถึงขนาดคอเสื้อเปิดออกอยู่ครึ่งหนึ่ง เมื่อมองไปที่เ้าตัวอีกครั้ง ใบหน้านั้นอ่อนเยาว์นั่นดูมีเสน่ห์ อีกทั้งยังหล่อเหลาและน่าดึงดูด ดวงตาโฉบเฉี่ยวดั่งนกเฟิงหวง ช่างเป็ชายที่เย้ายวนเหมือนหมาป่าเสียจริง
ในขณะนี้ราวกับว่าเขายังไม่ตื่นนอนดี ดวงตาคู่นั้นหรี่มอง ก่อนจะหาวออกมา
ใบหน้าของเขามีสีดอกท้อ บริเวณคอที่เปิดโล่งของเขามีรอยที่น่าสงสัยอยู่เล็กน้อย ไม่รู้ว่าตอนอยู่ในห้องเขาได้ทำเื่ละมุนละไมอันใดเอาไว้
ชายหนุ่มผู้นี้เป็หลงจู้ของหออู๋ิหรือไม่?
หลงจู้ส่วนมากจะอยู่ใน่อายุสี่สิบถึงห้าสิบปีไม่ใช่หรือ?
ชายคนนี้อายุมากสุดก็เพียงแค่ยี่สิบห้ายี่สิบหกเท่านั้น
ฮวาเหยียนสะดุดตาเป็อย่างยิ่ง หนุ่มหล่อ มีผู้ใดไม่ชอบมองบ้าง
โดยเฉพาะบุรุษที่ท่าทางเสเพลเช่นนี้ ยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดนัก
ฮวาเหยียนหันศีรษะด้วยความสนใจและคิดที่จะสอบถามเื่ของคนคนนี้จากพี่สะใภ้ตระกูลมู่ แต่เห็นเพียงมู่เฉิงอินเอียงศีรษะ หลุบสายตาลง ท่าทางราวกับลิงปิดตาอย่างไรอย่างนั้น
เอาล่ะ ผู้ชายหล่อไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนล้วนเต็มใจอยากจะเห็น
เดิมที่ฮวาเหยียนพยายามอดใจที่อยากจะผิวปากเสียงดัง นางไม่อาจทิ้งความไม่ประทับใจให้กับพี่สะใภ้ในอนาคตได้
...
“หลงจู้ ท่านลืมตาขึ้นเถิด พวกเขากำลังรอท่านอยู่นะขอรับ? ”
พนักงานอดไม่ได้ที่จะกระตุ้นถาม
ด้วยเสียงที่ดังขึ้นนี้ ถึงจะสามารถดึงสติของเขากลับมาได้
"เช้าตรู่วันนี้เอะอะโวยวายเสียงดังอันใด ให้ข้านอนหลับสบายๆ ไม่ได้หรือ”
ชายคนนั้นหาว หรี่ตามองกลับเข้าไปในห้องโถง เขามองมาที่ฮวาเหยียน ก่อนจะเดินเข้าไปตรงหน้านาง หมุนมองรอบๆ ใบหน้าที่สวมหมวกงอบไว้และค่อยๆ หันกลับมามองเสี่ยวไป๋ที่นางอุ้มอยู่แนบอก ดวงตาคู่นั้นที่มองั้แ่ต้นจนจบล้วนหรี่ปรือเพียงครึ่งตา ท่าทีี้เีเป็อย่างยิ่ง
“ของเ้า? ”
เมื่อเขาเปิดปาก หางเสียงแฝงไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด
ชายหนวดร่างใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เขาตัวสั่น ดวงตาของเขาดูตื่นตระหนก ท่าทางงี่เง่า
ไม่น่าแปลกใจที่แม่หญิงตัวน้อยจะบอกว่าเขาน่าเกลียด ในขณะนี้เขารู้สึกว่าเขาน่าเกลียดเล็กน้อยและไม่กล้าพบปะผู้คน
ระหว่างคนกับคนด้วยกันจะเกิดความแตกต่างขนาดนี้ได้อย่างไร?
"อืมฮึ"
ฮวาเหยียนพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม นางชอบคบค้ากับคนที่ดูดี
“ทั้งหมดนี้ขายหรือ? ”
เขาถามอีกครั้ง
"อืม"
ฮวาเหยียนพยักหน้าอีกครั้ง
ในเวลานี้ ในที่สุดชายคนนั้นก็ลืมตาแล้วยื่นมือออกไปหยิบหญ้าิญญาลึกลับขึ้นมาเพื่อมองดูอย่างละเอียด ฮวาเหยียนไม่เห็นแววตาของเขา แต่เห็นเขาวางหญ้าิญญาลึกลับลง จากนั้นก็กล่าวว่า "หนึ่งต้นหนึ่งหมื่นตำลึง รับซื้อทั้งหมด"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้