สตรีผู้นั้นโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “พวกเ้าจะบุกรุกบ้านของชาวบ้านได้อย่างไร!”
“ท่านกลัวสิ่งใดหรือ” เวินซีมองนางด้วยดวงตาสีดำเข้ม “กลัวว่าจะค้นเจอเครื่องหอมสองชนิดนั้น หรือกลัวว่าผู้อื่นจะรู้ว่าท่านมิได้มีบุตรสาวนางนี้?”
“ช่างกล้านัก!” เ้าอำเภอให้คนมัดสตรีนางนี้ไว้ แล้วสั่งให้คนไปค้นบ้านของนางว่ามีบุตรสาวหรือไม่
เดิมทีสตรีนางนี้มีบุตรสาวอยู่หนึ่งคนจริงๆ แต่ได้ออกเรือนไปแล้ว เวลานี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ในบ้านของสามีอย่างสุขสบาย
ส่วนเด็กสาวที่ตายไปนั้น แท้จริงแล้วมีคนนำมาให้นาง คนผู้นั้นบอกว่าหากทำตามที่บอกแล้วจะให้เงินสิบตำลึง อีกทั้งจะได้เงินชดเชยจากเวินซีอีกด้วย เื่ที่ทำเงินได้มหาศาลเช่นนี้ สตรีผู้นั้นย่อมตกลงเป็ธรรมดา
เมื่อเื่ราวไม่สามารถดำเนินไปตามแผน ในที่สุดสตรีผู้นั้นก็ทนความกดดันไม่ไหวจึงคิดจะบอกความจริง แต่ในตอนที่นางพูดออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่งก็ ล้มตายลงกับพื้นทันที นางถูกคนลอบสังหารไปต่อหน้าต่อตา
เวินซีขมวดคิ้ว พวกนักการที่จับสตรีผู้นั้นมัดไว้เมื่อสักครู่ก็น่าสงสัย! ต้องโทษที่นางไม่ทันได้ตั้งตัว มิฉะนั้นคงจะจับคนที่ฆ่าปิดปากได้แน่
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อสตรีผู้ที่ร้องโวยวายได้เสียชีวิตกะทันหัน จึงไม่สามารถหาผู้ร้ายตัวจริงได้ สุดท้ายจึงทำได้เพียงปล่อยให้เื่นี้ผ่านไป
ส่วนความสงสัยที่มีในตัวเวินซีนั้น บัดนี้ทุกคนต่างไร้ข้อกังขา เวินซีได้ทานยาต่อหน้าทุกคนในอำเภอ เพื่อพิสูจน์ว่ายาผิวงามที่ร้านของตนขายนั้นไม่มีปัญหาใด จากนั้นบอกว่าให้มาดูผลลัพธ์ที่ร้านในวันรุ่งขึ้น
หลังจากนั้น ตอนที่ออกมาจากอำเภอฟ้าก็มืดเสียแล้ว เวินซีเดินไปข้างหน้าและชนกับจ้าวต้านที่รีบมาหา
“เ้าเป็อย่างไรบ้าง?”
นางบิดี้เี “ข้าหิวจะแย่แล้ว กลับบ้านไปทำอาหารกัน”
จ้าวต้านวิ่งจนเหงื่อตก เขาเพิ่งจะกลับมาจากการล่าสัตว์จึงรู้เื่ที่เวินซีถูกพาตัวไปสอบสวนที่อำเภอ เขาจึงรีบวิ่งตามมา ตนเองรีบร้อนมากเพียงใดก็ยังไม่ทันได้รู้สึก
“ได้สิ” เขาระงับความกระวนกระวายใจพลันกลับมามีท่าทีปกติเหมือนเคย “เหตุใดถึงมีคนตายได้ เกิดเื่อันใดขึ้นกันแน่?”
“เ้ากังวลว่ายาผิวงามของข้าจะมีปัญหาหรือ?”
เวินซีพูดพลางแวะซื้อขนมข้างทางเพื่อนำกลับไปให้พวกยียี
จ้าวต้านเชื่อนางอยู่แล้ว ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ย เวินซีก็พูดต่อ “เื่เล็กน้อยเช่นนี้ข้ารับมือได้น่า ไป กลับบ้านกัน พวกยียีรอกันแย่แล้ว”
กลับบ้าน...
จ้าวต้านมองดูแผ่นหลังที่สวยงามของเวินซี มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเล็กน้อย
ในวันที่สอง ผู้คนที่อยู่ที่อำเภอเมื่อวานต่างก็รีบร้อนที่จะมาพิสูจน์ผลลัพธ์ของยาผิวงาม พวกเขาจึงมารวมตัวกันที่หน้าประตูร้านั้แ่เช้า
เมื่อวานนี้เวินซีได้ทานขาหมู ทั้งยังดื่มทังไก่ป่าไป ล้วนเป็ของที่จ้าวต้านล่ามาได้ทั้งนั้น อีกทั้งนางยังนอนหลับพักผ่อนอย่างดี เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าจึงมีสีหน้าสดชื่นเป็พิเศษ เมื่อบวกกับผลลัพธ์ของยาผิวงามก็ยิ่งทำให้สีผิวดูเนียนละเอียดและเป็ประกาย
ทันทีที่เปิดประตูออกมา ก็ทำเอาผู้คนที่อยู่ด้านนอกต้องใ นางทานยาผิวงามไปแล้วไม่เป็อันใด ทั้งยังสวยขึ้นมาก นี่เป็ยาวิเศษจริงๆ!
ด้วยเหตุนี้ลูกค้าจึงแน่นขนัดทันทีที่เปิดร้าน ยาผิวงามถูกขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน
เวินเยียนที่ผ่านไปเห็นภาพนี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก นางกลับจวนไปเล่าถึงสถานการณ์ในร้านของเวินซีให้เวินอวิ๋นโปฟัง
“ท่านพ่อ หากเป็เช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานร้านของเราจะต้องถูกนางแย่งลูกค้าไปจนหมดแน่เ้าค่ะ ท่านยังมิได้เห็นว่ากิจการของนางดีเพียงใด”
เวินอวิ๋นโปก็ได้ยินเื่ราวมาแล้วเช่นกัน แต่ตอนนี้เขายังทำอันใดไม่ได้ แม้จะนำชื่อของเวินอี๋เหนียงใส่ในรายชื่อของลำดับวงศ์ตระกูลแล้ว แต่เวินซีก็ยังไม่ยอมเอ่ยปาก
เวินเยียนจึงพูดต่อ “ท่านพ่อ เราจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ มิได้นะเ้าคะ หากคิดจะพลิกสถานการณ์ เราจะต้องคิดสูตรเครื่องหอมที่ยอดเยี่ยมกว่าของนางออกมา เช่นนี้จึงจะนำลูกค้ากลับมาได้”
“เ้าน่ะพูดง่าย” เวินอวิ๋นโปถอนหายใจเบาๆ
มันง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไร สูตรลับที่ยอดเยี่ยมล้วนอยู่ในมือของเวินซี แม้เวินเยียนจะมีความคิดที่ไม่เลว แต่ก็ยังห่างชั้นจากเวินซีอยู่มาก มิฉะนั้นเขาคงไม่ยอมทุ่มเทแรงกาย พาบุตรสาวที่อกตัญญูผู้นี้กลับมาหรอก
แต่การที่เวินเยียนเอ่ยเช่นนั้น ย่อมมีวิธีอยู่ในใจ
“ท่านพ่อ ข้าจะพยายามเ้าค่ะ”
ภายในเวลาไม่ถึงสามวัน ร้านค้าของตระกูลเวินก็มียาทาผิวงามออกมา แต่ราคาต่ำกว่าร้านของเวินซีมาก เวินเยียนยังจ้างสตรีหลายคนให้ป่าวประกาศอย่างใหญ่โต ไม่นานนักก็ดึงดูดลูกค้าจำนวนมากมาได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยาทาผิวงามที่ตระกูลเวินเพิ่งออกขายยังมีประสิทธิภาพดีกว่าด้วย หลังจากที่ใช้แล้ว สตรีแทบทุกคนต่างก็มีผิวขาวขึ้นมากทันทีภายในวันรุ่งขึ้น เมื่อผ่านไปสามวัน พวกนางก็ขาวใสอย่างที่ไม่ต้องผัดแป้งเลย
ด้วยเหตุนี้จึงมีสตรีพากันมาซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ แต่น่าเสียดายที่ยาทาผิวงามของตระกูลเวินมีจำนวนไม่มาก จึงขายให้ลูกค้าแต่ละคนในจำนวนที่ใช้ทาสำหรับสามวันเท่านั้น
เหตุผลคือยาทาผิวงามนั้นใช้เพียงสามวันก็สามารถคงประสิทธิภาพอยู่ได้ตลอดชีวิต ไม่จำเป็ต้องซื้อมากเกินกว่านั้น ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงยิ่งมั่นใจว่ามันคือยาวิเศษ
“ดูความมั่นใจของพวกเขาสิ เพียงแค่สามวันก็เห็นผล ทั้งยังไม่ยอมขายมากกว่านั้นด้วยนะ ข้าว่ายาผิวงามของอีกร้านหนึ่งน่ะเอาไว้หลอกคนเสียมากกว่า”
“ใช่เลย ข้าเองก็รู้สึกว่ายาของร้านนางใช้ได้ไม่ดี ข้าใช้มาตั้งสิบกว่าวันแล้ว ผลลัพธ์ยังไม่ดีเท่าใช้ยาทาผิวงามของตระกูลเวินเพียงแค่วันเดียว”
ในตอนที่จ้าวต้านเดินกลับมาที่ร้านก็ได้ยินเสียงพูดคุยของผู้คนจึงขมวดคิ้ว ในใต้หล้านี้มียาวิเศษที่ทาเพียงวันเดียวแล้วขาวด้วยหรือ? เขาเกิดความสงสัย ขณะที่เดินผ่านร้านตระกูลเวินจึงไปซื้อกลับมาหนึ่งขวด
ตอนที่กลับถึงบ้าน เขาเห็นเวินซีกำลังผลิตเครื่องหอมตัวใหม่อย่างใจจดใจจ่อ นางไม่เสียสมาธิแม้เพียงสักนิด
“กลับมาแล้วหรือ?”
เวินซีเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นยาทาผิวงามในมือของจ้าวต้านจึงยิ้มให้ “อันใดกัน เ้าก็อยากขาวด้วยหรือ?”
“ข้าเพียงแค่สงสัยน่ะ” จ้าวต้านเปิดยาทาผิวงามขึ้นมาดม “หอมดีนะ”
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดต่อมาของเวินซีจะทำให้เขามือสั่น
“เ้าอย่าได้แตะต้องมันเชียวนะ มิฉะนั้นเ้าอยู่ได้ไม่ถึงสามเดือนแน่”
“มันคือสิ่งใดกัน?” จ้าวต้านมีสีหน้าจริงจังขึ้นมา
“พืชที่มีฤทธิ์เย็นมากชนิดหนึ่ง”
จากนั้นเวินซีก็หยิบยาทาผิวงามจากมือของจ้าวต้านไป ใช้นิ้วควักมันขึ้นมาแล้วถูลงบนมือ เมื่อเขาเห็นดังนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาในทันใด “เ้า!”
แต่กลับไม่คิดเลยว่ายาทาผิวงามบนหลังมือของเวินซีจะละลายกลายเป็หยดน้ำ สุดท้ายก็ถูกเช็ดออกไปอย่างง่ายดาย ผิวที่โดนตัวยาส่วนนั้นมิได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เป็เพราะอุณหภูมิร่างกายของนางสูงกว่าคนปกติ พืชที่มีฤทธิ์เย็นนั้นจึงทำอันใดนางมิได้
เมื่อจ้าวต้านเห็นว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นกับนางจึงวางใจ
“ในยาทาผิวงามมีพืชต้องห้ามอยู่ชนิดหนึ่ง มันเรียกว่าหญ้าเนี่ยนตง หญ้าเนี่ยนตงเติบโตบนหน้าผาของหุบเขา มีกลิ่นหอมและมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนผิวให้ขาวได้ดีเยี่ยม แต่พิษของมันก็ร้ายแรงมากเช่นกัน มิใช่ว่าจะไม่มีทางกำจัดพิษหรอกนะ แต่จำเป็ต้องใช้ตัวยาที่หายากและมีราคาสูง”
“ในนี้มีตัวยาที่ใช้ระงับพิษของมันอยู่ แต่ก็เป็ยาราคาต่ำ สามารถระงับพิษของมันได้เพียงแค่บางส่วน หากผู้ใดได้รับยาเกินขนาดจะไม่มีทางรักษาได้”
ใช้เพียงสามวันแล้วจะมีประสิทธิภาพไปตลอดชีวิตอันใดกัน ตระกูลเวินหาทางตายให้ตนเองชัดๆ
“ตอนนี้ผู้คนในเมืองต่างซื้อยานี้ไปมากกว่าครึ่งแล้วนะ” จ้าวต้านมีแววตาที่มืดมนลง
เวินซีจึงลุกขึ้นไปหยิบขวดยาที่อยู่ข้างๆ “นี่คือเครื่องหอมตัวใหม่ที่ข้าเพิ่งคิดค้นได้ หากนำมันผสมกับตัวยาอีกสองสามตัวจะขจัด...”
“ปัง—”
จู่ๆ ประตูไม้ก็พลันถูกเตะออก ขัดจังหวะที่เวินซีกำลังพูด ข้างนอกนั้นเวินอวิ๋นโปกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนรับใช้ ก่อนจะเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่มีความสุข สายตาชำเลืองมองทั้งสองคนแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทีโอหังยิ่งนัก
“เวินซี เราเป็ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ เหตุใดจะต้องสู้กันให้ตายไปข้างด้วย ยามนี้มารดาของเ้าก็มีรายชื่อเข้าร่วมในลำดับวงศ์ตระกูลแล้ว เ้าจะยอมกลับจวนไปกับข้าเมื่อใดกัน?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้